ท่องเที่ยวไปเที่ยวรัสเซียช่วงไหนดี มาดูข้อดีข้อเสียแต่ละช่วงกัน!

ไปเที่ยวรัสเซียช่วงไหนดี มาดูข้อดีข้อเสียแต่ละช่วงกัน!

ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก รัสเซียมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติ อย่างเมืองหลวงเก่าอย่างเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก และทะเลสาบอันเงียบสงบอย่าง ทะเลสาบไบคาล

หลายท่านอาจสงสัยว่าถ้าจะไปเที่ยวรัสเซียช่วงไหนดี ในส่วนนี้ก็แล้วแต่ประสบการณ์ที่ท่านอยากจะได้รับ ในโพสนี้ผมจะมาชี้ข้อดีข้อเสียให้ท่านทราบครับ

ฤดูร้อน

พระราชวัง Peterhof ในฤดูร้อน By Victorgrigas – Own work, CC BY-SA 3.0,

ฤดูร้อน (มิถุนายนถึงสิงหาคม) เป็น High Season ของการท่องเที่ยวรัสเซีย นักท่องเที่ยวนับล้านแห่มาเที่ยวเมืองหลักๆ อย่างเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กและมอสโกทุกปี

ข้อดี

อากาศไม่หนาวหรืออาจจะถึงขั้นร้อน: ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เซนต์ปีเตอร์สเปิร์กและมอสโกสามารถมีอุณหภูมิได้มากถึง 35 องศา (เพราะ Heat Wave) ทำให้อากาศไม่ต่างจากประเทศไทยมากนัก มันจึงเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับท่านที่กลัวความหนาว

มีเวลาเที่ยวนานในแต่ละวัน: ในฤดูร้อนของรัสเซีย ท้องฟ้าสว่างแทบจะทั้งวันทั้งคืน อย่างในช่วงเดือนกรกฎาคม เราสามารถดูดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงคืนได้ พิพิธภัณฑ์ มหาวิหารและพระราชวังต่างๆ หลายแห่งในมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กจะเปิดตั้งแต่เช้าไปจนถึงสามสี่ทุ่ม ทำให้เราสามารถเที่ยวสถานที่เหล่านี้ได้ยาวๆ เลยทีเดียว

การแสดงและกิจกรรมบางอย่างเปิดเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น: การแสดงบางอย่างเช่นน้ำพุที่พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof) หรือล่องเรือที่แม่น้ำเนวาในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กจะเปิดในเฉพาะฤดูร้อน ถ้าเราไปฤดูหนาวก็จะไม่ได้ดูเป็นต้น

ข้อเสีย

แดดแรงมาก: ผมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแดดในรัสเซียช่วงฤดูร้อนแรงมาก เพราะอยู่ตอนบนสุดของโลก ในช่วงฤดูร้อนที่ซีกโลกเหนือหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์จึงรับแดดไปเต็มๆ แดดนี้แรงจนถึงขนาดทำให้ผิวไหม้ได้เลย การพกพาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งครับ

ค่าใช้จ่ายสูง: เนื่องจากเป็นช่วง high season ไม่ต้องสงสัยว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ จะสูงกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็น ตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักหรือค่าเข้าชมสถานที่บางแห่ง อย่างเช่นบัตร St.Petersburg Card ที่ผมเคยซื้อจะไม่รวมค่าเข้าพระราชวังแคทเทอรีนในฤดูร้อน แต่จะรวมในฤดูหนาว ทำให้ผมต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นในการเข้าชมสถานที่เหล่านี้

คิวยาวสุดๆ: ด้วยความที่นักท่องเที่ยวแห่กันมามากในช่วงนี้ ทำให้การเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต้องใช้เวลานานมาก อย่างพิพิธภัณฑ์ Hermitage อาจจะต้องใช้เวลานานถึง 3 ชั่วโมง ในขณะที่พระราชวัง Catherine อาจจะปาเข้าไปถึง 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งการรอคิวเหล่านี้แทบทุกครั้งเราจะต้องรอคิวกลางแดด! ผมรอมาแล้วด้วยตนเอง ขอบอกเลยว่าเหนื่อยสุดๆ

อย่างไรก็ตามมีสถานที่หลายแห่งในเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กเช่นกันที่สวยงาม และไม่ต้องรอคิว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ฤดูหนาว

พิพิธภัณฑ์ Hermitage และแม่น้ำที่แข็งเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว By Monoklon – Own work, CC BY-SA 4.0,

ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) เป็น Low Season ของการท่องเที่ยวรัสเซีย ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม เพราะรัสเซียมีฤดูหนาวที่หฤโหดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกนั่นเอง

ข้อดี

ค่าใช้จ่ายต่ำ: ด้วยความที่เป็นช่วง Low Season ทำให้ค่าใช้จ่ายทุกอย่างต่ำลง ไม่ว่าจะเป็น ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก หรือค่าเข้าชม การเที่ยวรัสเซียแบบถูกเหลือเชื่อจึงสามารถทำได้ในช่วงนี้

แทบไม่มีคิว: ในช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวมีจำนวนน้อย ทำให้การเข้าคิวไม่ต้องใช้เวลานานมากนัก ดังนั้นเราสามารถเที่ยวได้แบบสบายๆ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลายืนรอจนเมื่อยเหมือนฤดูร้อน

การท่องเที่ยวและกิจกรรมบางอย่างทำได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น: การท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับ “หิมะ” และ “น้ำแข็ง” อย่างการเล่นสกี ขี่สโนว์โมบิล หรือท่องทะเลสาบไบคาลที่แข็งเป็นน้ำแข็งทั้งหมดสามารถกระทำได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น และถ้ามาช่วงปีใหม่ ชาวรัสเซียยังมีการเฉลิมฉลองที่อลังการไม่แพ้ที่ไหนอีกด้วย

นอกจากนี้ไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างหนึ่งคือ แสงเหนือ (Northern Lights, Aurora Borealis) ในรัสเซีย สามารถพบเห็นเฉพาะตอนเหนือของประเทศในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ที่ไปดูกันบ่อยๆ เห็นจะเป็นเมือง Murmansk

เซนต์ปีเตอร์สเปิร์กสวยงามในฤดูหนาว: ฤดูหนาวเป็น signature ของรัสเซีย เมื่อหิมะตกโปรยปรายในเซนต์ปีเตอร์สเปิร์ก ทำให้ตัวเมืองสวยงามมาก ราวกับว่าเป็นเมืองแห่งเทพนิยายหิมะเลยทีเดียว

ข้อเสีย

หนาวสุดๆ: เรื่องหนาวสำหรับรัสเซียไม่ใช่หนาวชิวๆ เหมือนกับในยุโรปอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส หรือ ยุโรปตะวันออก แต่หนาวของรัสเซียคือหนาวจริงๆ อุณหภูมิอาจจะลดต่ำได้ถึง -20 องศา หรืออาจจะถึง -50 องศาโน่นเลย การจะออกไปไหนต้องแต่งตัวให้พร้อมตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อปกป้องร่างกายจากความหนาว

เวลาเที่ยวในแต่ละวันสั้น: ด้วยความที่กลางวันสั้นมาก ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งปิดเร็วกว่าปกติ (17.00-18.00 ก็ปิดแล้ว) ทำให้บ่อยครั้งเรามีเวลาเที่ยวในสถานที่ต่างๆ น้อยมาก

มีโอกาสสูงที่อากาศจะแย่: ในฤดูหนาวอากาศของรัสเซียจะแปรปรวน ทำให้มีโอกาสพายุหิมะ ทำให้การเดินทางล่าช้าได้ โอกาสที่แผนการท่องเที่ยวจะพังจึงมีสูงกว่าในฤดูร้อนมาก

มอสโก By A.Savin (Wikimedia Commons · WikiPhotoSpace) – Own work, CC BY-SA 3.0,

ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิของรัสเซียเริ่มต้นในเดือนมีนาคม และสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงที่อุณหภูมิของรัสเซียเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กล่าวคืออากาศยังคงหนาวอยู่ แต่จะอุ่นขึ้นตามลำดับ

ในช่วงเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน หิมะอาจจะยังคงตกอยู่ และอากาศหนาวเย็นเหมือนฤดูหนาว ในขณะที่ช่วงเดือนพฤษภาคม อากาศจะร้อนขึ้นมากและใกล้เคียงกับฤดูร้อน

ช่วงที่ไม่แนะนำให้เดินทางไปคือช่วงเดือนมีนาคมและ 2 สัปดาห์แรกของเดือนเมษายน เพราะว่าเป็นช่วงที่ชาวรัสเซียเรียกว่า Rasputitsa (распутица) ในช่วงนี้หิมะจะละลายทำให้ถนนหนทางต่างๆ กลายเป็นโคลน โดยเฉพาะเส้นทางที่มีคุณภาพต่ำ การสัญจรไปมาจึงทำได้ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือใช้รถก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่น่าสนใจที่สุดในการเที่ยวรัสเซีย เพราะอากาศเย็นสบายไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป มีเทศกาลจำนวนมาก นักท่องเที่ยวก็ยังไม่มากนัก ในขณะที่สถานที่ท่องเที่ยวกลับมาเปิดนานขึ้น เพราะกลางวันยาวมากขึ้น

นอกจากนี้กิจกรรมของฤดูร้อนหลายอย่างเริ่มกลับมาให้บริการ ค่าใช้จ่ายยังไม่แพงเท่าฤดูร้อนด้วย เรียกได้ว่ารวมข้อดีของฤดูร้อนและฤดูหนาวเข้าไว้ด้วยกันเลยก็ว่าได้

ฤดูใบไม้ร่วง

สวนในพระราชวัง Peterhof ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง By Pavel Kirillov from St.Petersburg, Russia – Fall in Peterhof, CC BY-SA 2.0,

ฤดูใบไม้ร่วงของรัสเซียกินเวลาตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน ในฤดูใบไม้ร่วงนี้อากาศจะหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็วและมีฝนตกด้วย ว่ากันตามตรงช่วงปลายเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนมันคือฤดูหนาวดีๆนี่เอง

อย่างไรก็ตามอากาศในฤดูใบไม้ร่วงของรัสเซียคาดเดาได้ยาก และเอาแน่เอานอนอะไรกับมันไม่ได้มากนัก อากาศอาจจะแย่เหมือนฤดูหนาวก็เป็นได้ ความเสี่ยงของการเที่ยวในช่วงนี้อยู่ที่อากาศที่พร้อมจะแย่ได้ในทุกนาที

ในช่วงนี้ เดือนที่น่าสนใจในการเดินทางไปรัสเซียคือช่วงเดือนกันยายน เพราะอากาศเย็นสบาย ไม่หนาวไม่ร้อน น้ำพุที่ Peterhof ยังเปิดให้ชมได้ เวลาในกลางวันและกลางคืนใกล้เคียงกัน (กลางวันไม่นานเท่าฤดูร้อน กลางคืนไม่นานเท่าฤดูหนาว) ทำให้เรามีเวลาที่จะชมความงามของเมืองในทั้งสองช่วงเวลาได้อย่างสบายๆ

จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเดือนกันยายนไม่มากเท่ากับช่วงฤดูร้อน การเข้าคิวจึงไม่ทรมานเกินไป ดังนั้นในช่วงนี้จึงเหมือนกับช่วงพฤษภาคม นั่นคือรวมข้อดีของฤดูร้อนและฤดูหนาวไว้ด้วยกัน

แต่เดือนกันยายนยังมีข้อดีพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือ เป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี ดังนั้นเหล่าต้นไม้ในสวนสวยๆ อย่างที่พระราชวัง Peterhof, Gatchina และพระราชวังอื่นๆจะเปลี่ยนสีทั้งหมด ทำให้งดงามมาก เหมาะแก่การถ่ายรูป

อย่างไรก็ตามฤดูใบไม้ร่วงมีช่วงที่เป็นโคลนหรือ rasputitsa ได้เหมือนกัน (ช่วงปลายตุลาคมและพฤศจิกายน) เพราะฝนที่ตกลงมา แต่ปัญหาไม่เท่าช่วงฤดูใบไม้ผลิที่เป็นการละลายของหิมะ

สรุป

สรุปแล้ว ไปเที่ยวรัสเซียช่วงไหนดีขึ้นอยู่กับว่าท่านต้องการทริปแบบไหน

  • อยากเที่ยวนานๆ ในแต่ละวัน อยากดูพระอาทิตย์เที่ยงคืน และกลัวหนาว ———-> ฤดูร้อน (มิ.ย ถึง ส.ค)
  • ชอบหนาว เบื่อรอคิว อยากประหยัดค่าใช้จ่าย อยากดูแสงเหนือและทะเลสาบน้ำแข็ง ———-> ฤดูหนาว (ธ.ค ถึง ก.พ)
  • อยากเที่ยวแบบฤดูร้อน แต่อากาศเย็นกว่า ค่าใช้จ่ายถูกกว่า คนน้อยกว่า ———-> พฤษภาคม หรือ กันยายน แต่กันยายนอาจจะสวยกว่าเพราะมีใบไม้เปลี่ยนสี

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!