เท็กซัส (Texas, TX) เป็นรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศสหรัฐอเมริกา คนไทยหลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของรัฐนี้มาบ้างแล้วจากซีรีส์และภาพยนตร์อเมริกันหลายๆ เรื่อง หรือไม่ก็จากเท็กซัสชิกเก้น (Texas Chicken) แบรนด์ไก่ทอดในไทยที่มีที่มาจากรัฐเท็กซัสนี้เอง
ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยวแล้ว หลายคนคงไม่ค่อยคิดถึงเท็กซัสกันเท่าไร แต่จริงๆแล้วเท็กซัสเป็นรัฐที่มีภูมิประเทศหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นทะเลทราย ป่าชื้น ชายฝั่งทะเล ทุ่งหญ้า ภูเขาสูง ฯลฯ ทำให้เป็นรัฐที่น่าเดินทางไปเที่ยวรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะถ้าคุณชื่นชอบการชมธรรมชาติแบบสงบเงียบที่ไม่ค่อยจะมีนักท่องเที่ยวมากนัก
เราไปดูกันดีกว่ารัฐเท็กซัสมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ไหนที่คุณน่าไปเยือนบ้าง
1. Big Bend National Park
Big Bend National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา (มีพื้นที่มากถึง 3,242.19 ตารางกิโลเมตร) และตั้งอยู่ใกล้กับชายแดนเม็กซิโก
ตัวอุทยานประกอบด้วยทะเลทรายอันแห้งแล้ง ภูเขาที่ตั้งตระหง่านมากมาย และยังมีโตรกผาขนาดใหญ่ที่มีแม่น้ำ Rio Grande ไหลผ่านให้คุณได้สัมผัสอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ภายในอุทยานยังมีพืชสัตว์หายากมากมายให้คุณได้ชม เช่นเดียวกับซากฟอสซิลที่พบอยู่ในบริเวณนี้จำนวนไม่น้อย นักท่องเที่ยวจึงมักเดินทางมาเดินดูสัตว์ ขี่จักรยานเสือภูเขา ปีนเขา เทรคกิ้ง พายเรือ และอีกมากมายเลยครับ
ด้วยความที่ตัวอุทยานตั้งอยู่ที่ชายแดน ถ้ามองจากที่สูง คุณสามารถมองเห็นประเทศเม็กซิโกได้ด้วยครับ
เนื่องจากอุทยานแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก การจะเที่ยวที่นี่ให้ครบภายในวันเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวอยู่ที่ 3-7 วันครับ
2. Padre Island National Seashore
Padre Island National Seashore หรือ Padre Island เป็นเกาะทรงยาวที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งห่างออกมาจากแผ่นดินใหญ่ของเท็กซัสเล็กน้อยครับ ความยาวของเกาะนี้มากถึง 182 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทำให้มันเป็นเกาะ barrier ที่ยาวที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ถ้าสงสัยว่ารูปร่างเป็นอย่างไร โปรดดูตามรูปด้านล่าง
ด้วยความที่เกาะมีรูปร่างยาวเช่นนี้ ทำให้ Padre Island มีชายหาดสีขาวอมเหลืองริมมหาสมุทรแอตแลนติกมากกว่า 100 กิโลเมตรด้วยกันครับ บริเวณหาดอันสุดลูกหูลูกตาแห่งนี้เป็นสถานที่อนุบาลชั้นเยี่ยมของเต่าทะเลจำนวนมาก รวมไปถึงนกอีกหลายร้อยชนิดด้วยครับ
ที่นี่จัดว่าเป็นหนึ่งในบริเวณที่กันดารมากที่สุดในประเทศ แต่นั่นทำให้ที่นี่มีเสน่ห์ เพราะนักท่องเที่ยวจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ชาวอเมริกันนิยมเดินทางพักผ่อนที่นี่ในช่วงวันหยุดฤดูใบไม้ผลิ หรือว่าช่วง spring break ครับ กิจกรรมที่นิยมสุดๆ คือการเล่น windsurf นั่นเองครับ
3. Hamilton Pool Nature Preserve
Hamilton Pool Nature Preserve เป็นสถานที่เที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง Austin เท่าไรนัก สระน้ำสีเขียวแห่งนี้เกิดขึ้นจากการที่พื้นดินเหนือแม่น้ำใต้ดินบริเวณโตรกผาพังทลายลงมาครับ
ที่นี่ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาว่ายน้ำ พักผ่อนหย่อนใจ และเดินชมวิว โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน (พฤษภาคม-กันยายน) ที่คุณต้องจองคิวกับเว็บของทางการก่อนถึงจะเข้าไปชมได้ครับ
4. Caddo Lake
Caddo Lake เป็นทะเลสาบตามธรรมชาติหนึ่งเดียวที่รัฐเท็กซัสมีอยู่ ตัวทะเลสาบตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างรัฐเท็กซัสและหลุยเซียนา ลักษณะของทะเลสาบแห่งนี้จะต่างไปจากทะเลสาบอื่นๆ เพราะจะเป็นแบบป่าชายเลน หรือที่ชื้นแฉะ (Marshland) เสียมากกว่า
กล่าวคือตัวทะเลสาบจะไม่ลึกเสียเท่าไรนัก และมีต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างต้น Cypress ปกคลุมโดยรอบ เหนือน้ำจะมีมอสปกคลุมเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยภูมิประเทศแบบนี้แหละครับทำให้มันเป็นสถานที่อันยอดเยี่ยมสำหรับการพายเรือคายัคหรือแคนู เพราะเส้นทางมันคดเคี้ยวน่าค้นหามากๆ
นอกจากนี้ปลาในทะเลสาบยังมีเป็นจำนวนมากด้วย ชาวอเมริกันจึงนิยมเดินทางมาตกปลากันครับ
5. Palo Duro Canyon
Palo Duro Canyon อาจจะเปรียบได้ว่าเป็น Grand Canyon ของเท็กซัส ซึ่งถ้าว่ากันตามขนาดแล้ว ขนาดของมันใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศรองจาก Grand Canyon เพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยความยาวของแคนยอนอยู่ที่ 190 กิโลเมตร และความกว้างเฉลี่ยอยู่ที่ 9.7 กิโลเมตร
นักท่องเที่ยวนิยมเดินเทรคกิ้งตามเส้นทางที่จัดไว้ให้เพื่อชมโตรกผาอันยิ่งใหญ่และสวยงาม หรือจะขี่จักรยานก็ได้ครับ วิวที่นี่สวยและอลังการไม่แพ้แกรนด์แคนยอน แต่มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่ามากๆ เลยทีเดียว
6. Guadalupe Mountains National Park
Guadalupe Mountains National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่พิเศษมากๆ ในทางธรณีวิทยา เนื่องจากที่นี่มีชั้นหินอายุกว่า 250 ล้านปี และเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเท็กซัสเคยตั้งอยู่ใต้ทะเลมาก่อนครับ
ปัจจุบันที่นี่มีภูเขาสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ Guadalupe Peak ภูเขาที่สูงที่สุดในรัฐเท็กซัส นักท่องเที่ยวเป็นสายลุยมักจะมาปีนเขา เดินเทรคกิ้ง หรือขี่ม้ากันที่อุทยานแห่งนี้ครับ
7. Enchanted Rock State Natural Area
Enchanted Rock State Natural Area เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Llano ตอนกลางของรัฐเท็กซัส ที่นี่มีหินแกรนิตสีชมพูขนาดยักษ์สูง 425 ฟุตตั้งอยู่ ชาวอเมริกันพื้นเมืองเชื่อว่าหินก้อนนี้ศักดิ์สิทธิ์ และมีพลังวิเศษครับ
นักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของหินก้อนนี้โดยไม่ยากอะไรนัก เพราะมีทางเดินที่ค่อนข้างสะดวกสบาย แต่ก็มีจุดที่ต้องปีนขึ้นไปอยู่บ้าง ถ้าคุณขึ้นไปถึงด้านบนสุด คุณจะเห็นวิวสวยๆ โดยรอบเลยครับ
8. Natural Bridge Caverns
เท็กซัสเป็นที่ตั้งของถ้ำใต้ดินหลายแห่ง แต่ถ้าพูดถึงขนาดแล้ว Natural Bridge Caverns เป็นพ่อของถ้ำใต้ดินทั้งปวงในรัฐแห่งนี้ ตัวถ้ำเพิ่งจะถูกค้นพบในปี ค.ศ.1960 โดยเด็กมหาวิทยาลัยชาวอเมริกัน 4 คนที่มาเที่ยวเล่นครับ
ถ้ำเป็นถ้ำหินปูนที่อายุประมาณ 1.5 ล้านปี และอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก ที่นี่มีกิจกรรมให้คุณทำหลายรูปแบบด้วยกัน ตั้งแต่แบบง่ายสุดๆ อย่างเดินชมถ้ำตามทางเดินปกติ หรือว่าแบบปีนป่ายและโรยตัวลงมาจากถ้ำให้ร่างกายของคุณได้หลั่งอะดรีนาลีนเสียบ้าง
9. Big Thicket National Preserve
Big Thicket National Preserve เป็นอุทยานที่รักษาพื้นที่ป่าของเท็กซัสไว้มากถึง 404 ตารางกิโลเมตร
ภูมิประเทศของที่นี่มีความหลากหลายมาก อาทิเช่นป่าชื้นแฉะที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างต้น Cypress โผล่ขึ้นมาจากแหล่งน้ำ ทุ่งหญ้าสะวันนา หรือป่าที่ตั้งอยู่บนชั้นทรายที่ค่อนข้างแห้งแล้งเป็นต้น นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสัตว์อีกมากมายที่คุณสามารถชมได้ด้วยครับ
กิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือการตั้งแคมป์ครับ บรรยากาศของที่นี่เหมาะสำหรับการจับกลุ่มล้อมวงและทำอาหารกินกันสุดๆ ไม้แห้งสำหรับก่อไฟก็ยังมีมากเหลือเฟืออีกด้วย
10. สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในรัฐเท็กซัส (Texas)
- Dinosaur Valley State Park – อุทยานที่มีรอยเท้าไดโนเสาร์ในลำธารโบราณ
- Colorado Bend State Park – อุทยานที่มีน้ำตกที่สวยงามอย่าง Gorman Falls
- Rio Grande River – แม่น้ำที่ไหลผ่านโตรกผาอันยิ่งใหญ่และสวยงามมากมาย
เที่ยวอุทยานในเท็กซัสอย่างไรดี?
วิธีการเที่ยวอุทยานเหล่านี้เท็กซัสที่ดีที่สุดคือ การเช่ารถและขับไปเที่ยวด้วยตัวเองครับ เพราะคุณจะมีอิสระในการเลือกสถานที่เที่ยวได้ และมีเวลาสัมผัสกับบรรยากาศของอุทยานอเมริกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นทริปของคุณได้จากเมืองใหญ่ๆ ของเท็กซัสใดๆ ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น Austin, Dallas หรือ Houston ครับ
ถ้าคุณสนใจที่ขับรถเที่ยวเอง ผมแนะนำให้คุณใช้เว็บไซต์/แอพ Roadtrippers ครับ เพราะใช้วางแผน Trip ทุกอย่างง่ายมากๆ ชนิดที่ว่าแทบไม่ต้องหาข้อมูลเลยก็ว่าได้ คุณสามารถใช้แพลนทริปยาวๆ ได้อย่างไม่มีสะดุดเลยทีเดียว
สำหรับเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินไปอเมริกา สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความแยกครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]