7 อุทยานน่าตื่นตาแห่งประเทศเปรู (Peru) ที่คุณควรไปเยือนสักครั้ง

ถ้าเอ่ยถึงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเปรูแล้ว ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่คงจะนึกถึงมาชู ปิกชู (Machu Picchu) และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรอินคา อดีตอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองในแถบนี้ก่อนที่จะถูกพวกสเปนเข้ามารุกราน

หากแต่ว่าอันที่จริงแล้ว ประเทศที่ตั้งอยู่ตามแนวเทือกเขาแอนดีสอย่างเปรู (Peru) นั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติด้วยเช่นกัน แต่ละแห่งสวยและน่าไปเยี่ยมเยือนไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในประเทศเลยแม้แต่น้อย

เราไปดูกันดีกว่าครับว่ามีที่ไหนบ้าง?

1. Parque Nacional Huascarán

Parque Nacional Huascarán หรือ Huascaran National Park เป็นที่ตั้งของแนวเขาอันสวยงามที่เรียกว่า Cordillera Blanca ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอนดีส ที่นี่เต็มไปด้วยภูเขาหิมะอันสวยงามนับสิบลูกเรียงรายต่อกันไป ซึ่งรวมไปถึงยอดที่สูงที่สุดในเปรูอย่าง Huascaran ที่มีความสูงถึง 6,768 เมตรด้วยครับ

นอกจากภูเขาหิมะแล้ว ภายในอุทยานยังมีธารน้ำแข็งอีกหลายร้อยแห่งและทะเลสาบอีกมากมาย ทำให้ที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักปีนเขา และนักท่องเที่ยวทั่วไป คุณสามารถทำกิจกรรมได้มากมายไม่ว่าจะเป็นเล่นสกี ปีนเขา ตกปลา ชมวิวทิวทัศน์ พายเรือ ฯลฯ ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วความสวยงามไม่แพ้ที่ Patagonia เลยครับ

2. Titicaca National Reserve

Titicaca National Reserve เป็นอุทยานอันเป็นสถานที่ตั้งของทะเลสาบ Titicaca หนึ่งในทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลที่สุดในโลก และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ด้วยครับ

ด้านหลังทะเลสาบมีเทือกเขาแอนดีสอันยิ่งใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์ของใครก็ตามที่รักในการถ่ายรูป อย่างไรก็ดีที่นี่ยังมีความน่าสนใจทางวัฒนธรรมด้วย เพราะมีเกาะกลางทะเลสาบที่สร้างขึ้นโดยชาวพื้นเมืองเมื่อหลายร้อยปีก่อนจากพืชจำพวกต้นกกครับ

ในปัจจุบันเกาะดังกล่าวยังได้รับการซ่อมแซมและดูแลรักษาจากชาวพื้นเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ ถ้ามีโอกาสก็อย่าพลาดไปลองสัมผัสวัฒนธรรมของพวกเขาดูครับ

3. Parque Nacional del Manú

Parque Nacional del Manú หรือ Manu National Park เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่ได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุดในเปรู ตัวอุทยานมีความหลากหลายทางภูมิประเทศสูงมาก ตั้งแต่บริเวณภูเขาสูงของเทือกเขาแอนดีส ป่าฝนบนที่ราบ และป่าแอมาซอน โดยพื้นที่บริเวณป่าฝนมีขนาดใหญ่ถึง 17,000 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียวครับ

ภายในอุทยานมีสัตว์และพืชจำนวนมากมายมหาศาล เรียกได้ว่าไม่แพ้ที่บราซิลเลยก็ว่าได้ คุณสามารถเริ่มต้นการสำรวจอุทยานได้ที่ Manu Wildlife Center ไกด์ทัวร์จะนำคุณเข้าชมอุทยานโดยปราศจากอันตรายครับ

สำหรับใครก็ตามที่อยากสัมผัสบรรยากาศแบบใกล้ชิดสุดๆ คุณสามารถเข้าไปพักในบ้านพักใจกลางอุทยานได้ครับ รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลกเลยทีเดียว

4. Reserva Nacional Pacaya-Samiria

Reserva Nacional Pacaya-Samiria หรือ Pacaya-Samiria National Reserve เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ใหญ่ที่สุดในเปรู โดยมีพื้นที่มากถึง 20,800 ตารางกิโลเมตร และกินพื้นที่ทางตอนเหนือของป่าแอมาซอนของเปรู

ลักษณะของภูมิประเทศของที่นี่เป็นป่าที่ถูกน้ำท่วมตลอดเวลา ทำให้การท่องเที่ยวจะต้องใช้เรือล่องไปตามลำธาร จากบนเรือคุณจะเห็นสัตว์นานาชนิดจากสองฝั่ง และในลำธาร คุณมีโอกาสเห็นโลมาสีชมพูที่หาชมได้ยากด้วยครับ

5. Reserva Nacional de Paracas

Reserva Nacional de Paracas หรือ Paracas National Reserve เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศเปรู หรือคาบสมุทร Paracas

สัตว์ที่อาศัยอยู่ภายในอุทยานนั้นมีหลากหลายมาก ตั้งแต่นกเพนกวิน สิงโตทะเล นกฟลามิงโกชิลี และนกย้ายถิ่นอีกหลายร้อยชนิด นอกจากนี้ยังมีสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในท้องทะเลสีเขียวเข้มอีกมากมายด้วยครับ

สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกอย่างหนึ่งคือ ในอุทยานมีโบราณสถานตั้งอยู่ด้วย กล่าวคือที่นี่เคยมีชาว Paracas อาศัยอยู่เมื่อ 8,000 ปีก่อน ด้วยอายุที่เก่าแก่ขนาดนี้ทำให้โบราณวัตถุที่พบเจอจัดว่าเก่าแก่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือและใต้เลยครับ

6. Parque Nacional de Cutervo

Parque Nacional de Cutervo หรือ Cutervo National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดของเปรู โดยตั้งแต่ตอนเหนือของประเทศ ที่นี่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากมายให้คุณได้สัมผัส โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่างแมวน้ำ neotropical otter หรือว่าตัว Mountain Tapir ครับ

อย่างไรก็ดีไฮไลท์ของที่นี่คือถ้ำที่มีชื่อว่า Guacharos Cave ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของนกที่เรียกว่า oilbird หรือ guacharo ในภาษาสเปน นกเหล่านี้จะอาศัยอยู่ในถ้ำและออกหากินในเวลากลางคืนครับ ไม่เพียงเท่านั้นภายในถ้ำเองก็เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่สวยงามอีกเป็นจำนวนมากด้วย

นอกจากชมสัตว์แล้ว นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาปีนเขาและตั้งแคมป์กันที่นี่ โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมครับ

7. Reserva Nacional Tambopata

Reserva Nacional Tambopata หรือ Tambopata National Reserve เป็นอุทยานแห่งชาติที่ดูแลรักษาป่าฝนอันกว้างใหญ่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเปรู

ที่นี่เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีความหนาแน่นทางชีววิทยาสูงมาก หรือเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยพืชและสัตว์เลยทีเดียว แต่ไฮไลท์ของอุทยานคือนกแก้ว (macaw) โดยเฉพาะเจ้า scarlet macaw ที่มีลำตัวสีแดงสวยงาม และหางของมันมีสีสันฉูดฉาด

ทั้งนี้พวกมันมักจะมาหาอาหารและแร่ธาตุตามจุดที่เรียกว่า “mineral lick” เปิดโอกาสให้คุณได้ชมและถ่ายรูปพวกมันอย่างสบายๆ ดังนั้นที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักนก หรือใครที่ชอบถ่ายรูปนกเลยครับ

ไปเที่ยวอุทยานเหล่านี้อย่างไรดี?

บริษัททัวร์ไทยที่นำคุณไปเที่ยวสถานที่เหล่านี้แทบไม่มี ดังนั้นคุณน่าจะต้องเดินทางไปด้วยตนเอง แล้วซื้อทัวร์ที่ประเทศเปรูครับ สายการบินที่นำคุณไปยังเปรูมีหลายการบิน อย่างเช่น British Airways, Air Canada หรือ Cathay Pacific เป็นต้นครับ ซึ่งจะใช้เวลาอย่างเร็วที่สุดประมาณ 30 ชั่วโมง

อย่างไรก็ดีคุณอาจจะต้องนั่งรถ หรือบินในประเทศจากลิมา เมืองหลวงของประเทศเปรูเพื่อเดินทางไปยังอุทยานเหล่านี้ครับ