อาหารชา 6 ชนิดของ "อินเดีย" ที่ดื่มแล้วคุณจะติดใจจนหยุดไม่ได้

ชา 6 ชนิดของ “อินเดีย” ที่ดื่มแล้วคุณจะติดใจจนหยุดไม่ได้

ชา (tea) เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงที่สุดของอินเดีย และเป็นเครื่องดื่มที่ใครๆ ลองแล้วก็จะติดใจ ชาวอินเดียชื่นชอบการกินชามาก อุตสาหกรรมชาของอินเดียมีขนาดใหญ่มาก เพราะอินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตชาอันดับสองของโลก ในแต่ละปีแล้วนั้น อินเดียผลิตชาได้มากถึง 1 พันล้านกิโลกรัม!

แม้อินเดียจะผลิตชาได้มากขนาดนี้ แต่อินเดียส่งออกเพียงแค่ 24% ของที่ผลิตได้เท่านั้น ทำให้อันดับการส่งออกตกมาเป็นอันดับ 4 ทั้งนี้ก็เพราะผลผลิตส่วนใหญ่ถูกบริโภคในประเทศนั่นเอง

การปลูกชาของอินเดียมีหลายรัฐตั้งแต่รัฐอัสสัมทางตอนเหนือไปจนถึงรัฐทมิฬนาฑูทางตอนใต้ ทำให้พันธุ์ของชามีหลากหลายมาก ชาของแต่ละรัฐจะมีลักษณะ กลิ่น และรสชาติที่แตกต่างกันออกไป

ในโพสนี้เราจะมาดูกันครับ ชาของอินเดียที่อร่อยๆ มีรูปแบบไหนบ้าง

Chai Image by umehanayuuki from Pixabay

1. Darjeeling Tea

Darjeeling Tea เป็นหนึ่งในชาที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของอินเดีย และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ ชาชนิดนี้ถูกปลูกขึ้นในหุบเขาชาขนาดใหญ่ที่เมืองดาร์จีลิ่ง (Darjeeling) ในรัฐเบงกอลตะวันตก

Darjeeling Tea By Kanko*, Flickr, CC By 2.0

ชาดาร์จีลิ่งจริงๆ แล้วมีหลายแบบตั้งแต่ชาเขียว ชาขาว ชาอู่หลง แต่ที่โด่งดังและได้รับความนิยมสูงสุดคือ ชาดำ (Black Tea) ครับ ชาดำของดาร์จีลิ่งจะมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัวที่เหมือนกับดอกไม้หรือผลไม้ ทำให้ตัวชาอร่อยอยู่แล้วโดยไม่ต้องเติมนมและน้ำตาลใดๆ อย่างไรก็ดีถ้าคุณเจอแจ็กพอต คุณอาจจะเจอใบชาที่ให้รสขมและเผ็ดได้เหมือนกันครับ

ถ้าคุณชอบกินชานม ลองใส่นมลงไปในชาดาร์จีลิ่งดูสิครับ รับรองว่าอร่อยจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าคุณดื่มมันกับคุกกี้หรือบิสกิตครับ

2. Assam Tea

Assam Tea เป็นชาที่มีถิ่นกำเนิดมาจากรัฐอัสสัม รัฐที่ปลูกชามากที่สุดในโลก ชาที่ดื่มๆกันในร้านอาหารตะวันตกก็เป็นชาประเภทนี้เอง

Assam Tea By Akuppa John Wigham, Flickr, CC By 2.0

ชาอัสสัมแทบทั้งหมดเป็นชาดำ ตัวชาจะถูกปลูกที่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำพรหมบุตร ภูมิอากาศและภูมิประเทศของที่นี่เอี้อให้ชาอัสสัมมีคุณภาพสูงมาก บางคนมองว่าชาอัสสัมจะมีรสและกลิ่นของมอลต์ (malt) แบบอ่อนๆ ครับ

อย่างไรก็ดีจุดเด่นของชาดำจากอัสสัมคือมีความเข้มข้นเหนือกว่าชาใดๆ ไม่ว่าคุณจะเติมอะไรลงไปก็อยากที่จะกลบรสชาติของชาได้ ดังนั้นชาวอินเดียจึงนิยมนำชาดำของอัสสัมเป็นวัตถุดิบในการทำชานมอันเลื่องชื่ออย่าง Masala Chai ครับ

3. Nilgiri Tea

Nilgiri Tea น่าจะเป็นชาที่คนไทยคุ้นเคยน้อยกว่าชาสองแบบแรก ชาชนิดนี้ถูกปลูกที่บริเวณภูเขาในรัฐทมิฬนาฑู รัฐใต้สุดของอินเดีย ชา Nilgiri จะเป็นชาดำที่มีกลิ่นอันหอมหวลเป็นลักษณะเฉพาะตัว แต่รสชาติจะอ่อนกว่าชาอัสสัมและดาร์จีลิ่ง ชาวอินเดียจึงนิยมนำชาชนิดนี้มาผสมกับชาชนิดอื่นครับ

4. Kahwa

Kahwa เป็นชาเขียวของแคชเมียร์ ดินแดนในอ้อมกอดของเทือกเขาหิมาลัย ใบชาเขียวจะถูกนำมาผสมกับเครื่องเทศอินเดียนานาชนิดและอัลมอนต์ต่างๆ ทำให้มีรสหวานกำลังดี และมีกลิ่นอายหอมๆ ของเครื่องเทศอยู่ด้วย

ชาวแคชเมียร์โปรดปรานชาชนิดนี้มาก พวกเขามักจะดื่มมันในช่วงฤดูหนาวกับอาหารและขนมอื่นๆ ของแคชเมียร์ครับ

5. Chai

Chai เป็นกรรมวิธีการปรุงชาของอินเดีย ซึ่งในปัจจุบันมีชื่อเสียงไปทั่วโลก กล่าวคือชาดำจากอัสสัมจะถูกนำมาผสมกับเครื่องเทศ สมุนไพรอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติ สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งในการปรุง Chai คือ การใส่น้ำเชื่อม น้ำตาล และนมลงไปในชาด้วย ทั้งนี้ตามสูตรดั้งเดิมแล้ว นมที่ใช้ใส่ลงไปคือนมกระบือครับ

ชาแบบ Chai ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ Masala Chai ชานมที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศอย่าง masala อย่างเต็มเปี่ยม ชาวตะวันตกได้นำการทำชาแบบนี้กลับไปดัดแปลงจนเกิดเป็นเมนูชื่อ “Chai Latte” ที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างครับ

Masala Chai by T.Tseng, Flickr, CC By 2.0

นอกเหนือจาก Masala Chai แล้ว ชาวอินเดียก็นิยมใส่เครื่องเทศแบบอื่นลงไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกระวาน (Elaichi Chai), อบเชย (Dalchini Ki Chai) หรือแม้กระทั่งพริกไทยดำ (Kali Mirch Ki Chai) แต่ไม่มีชนิดไหนได้รับความนิยมเท่ากับ Masala Chai ครับ

อย่างไรก็ดีถ้าคุณเดินทางไปเที่ยวแคชเมียร์ Chai ที่คุณพลาดไม่ได้คือชาที่เรียกว่า Sheer Chai หรือ Noon Chai ชาชนิดนี้จะมีสีชมพูเป็นเอกลักษณ์เพราะผ่านการต้มกับเบกกิ้งโซดาและกระวานในขั้นตอนการทำ ตัวชาจะมีกลิ่นหอมและรสหวานอ่อนๆ แต่ชาวแคชเมียร์บางคนมักจะเติมเกลือลงไปเพื่อเพิ่มรสเค็มครับ

Noon Chai By Kandukuru Nagarjun, Flickr, CC By 2.0

การได้ดื่มชาชนิดนี้ในอากาศที่หนาวเย็นไม่ต่างอะไรกับการขึ้นสวรรค์แท้ๆ เลยครับ ร้านขาย Chai ในอินเดียนั้นมีทั่วทุกหนทุกแห่ง บางแห่งจะเสิร์ฟในถ้วยดินเหนียวที่เรียกว่า Kulhar ครับ

6. Gur Gur Chai

Gur Gur Chai เป็นชาแบบ Chai ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะในการต้มชาจะใส่เนยที่ได้จากจามรีลงไปด้วย ทำให้มีรสสัมผัสที่หนักและรสชาติเข้มกว่าชาชนิดอื่นๆ อย่างชัดเจน

ชาชนิดนี้นิยมบริโภคในแทบเทือกเขาหิมาลัยอย่างเช่น ลาดัก สิกขิม ฯลฯ ถ้าคุณไปเที่ยวลาดักที่เป็นเทือกเขาสูง และมีอากาศที่หนาวเย็น Gur Gur Chai จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีที่สุดที่คุณจะหาได้เลยครับ

หาชาอินเดียดื่มที่ไหนดี

คุณสามารถหาชาอินเดียดื่มได้ทั่วไปที่ร้านอาหารอินเดียต่างๆ ในกรุงเทพ แต่ละแห่งจะมีสูตรการชงชาที่ต่างกันออกไป โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบชาของร้าน Royal India ร้านอาหารอินเดียแถบพาหุรัดครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!