ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นหนึ่งในสี่เกาะใหญ่ของญี่ปุ่น และเป็นเกาะที่มีธรรมชาติที่สวยงามมาก คนไทยจึงนิยมเดินทางไปพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่สกีรีสอร์ตต่างๆ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอันสุดแสนจะโรแมนติกแล้ว ฮอกไกโดยังมีดีเรื่องอาหารเช่นเดียวกัน อาหารของฮอกไกโดนั้นเลื่องชื่อไม่แพ้ที่ใดในประเทศญี่ปุ่น
ในโพสนี้ เราไปดูกันดีกว่าครับ ฮอกไกโดมีเมนูไหนที่คุณห้ามพลาดบ้าง
1. Ramen
Ramen หรือราเมงเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นที่คนไทยนิยมรับประทานกันอยู่แล้ว ราเมงของฮอกไกโดมีชื่อเสียงเลื่องลือโดยเฉพาะราเมงสูตรซัปโปโร (Sapporo Ramen) ราเมงสไตล์มิโซะซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดีฮอกไกโดยังมีราเมงสูตรอื่นด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Asahikawa Ramen หรือ Hakodate Ramen ที่เลื่องชื่อไม่แพ้สูตรซัปโปโร ซึ่งแต่ละสูตรจะมีรสชาติความอร่อยที่ต่างกันออกไปครับ
สำหรับใครที่อยากชิมราเมงหลายๆ แบบ ลองไปที่ Ganso Sapporo Ramen Yokocho ที่เมืองซัปโปโร หรือว่า Asahikawa Ramen Village ที่เมือง Asahikawa ทั้งสองแห่งมีร้านราเมงหลากสไตล์ให้คุณได้ลองชิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ใครก็ตามที่หลงใหลในเส้นนุ่มๆ ของราเมงเลยครับ
2. Japanese Curry
Japanese Curry หรือแกงกะหรี่ญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่เกาะฮอกไกโดมีชื่อเสียงไม่แพ้ราเมง โดยทั่วไปแล้วแกงกะหรี่สูตรของฮอกไกโดจะเป็นแบบ Soup Curry หมายความว่าจะไม่ข้นคลั่กเหมือนกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นทั่วไป แต่มีรสสัมผัสที่คล้ายกับซุปแทนครับ
นอกจาก Soup Curry แล้วฮอกไกโดยังมีแกงกะหรี่สูตรลับด้วย นั่นก็คือ Hokkaido Sika Deer Curry แกงกะหรี่สูตรนี้จะใส่เนื้อกวาง Sika ลงไปเป็นวัตถุดิบหลัก ดังนั้นมันจะมีรสชาติที่ต่างไปจากแกงกะหรี่เนื้อหมูหรือเนื้อวัวทั่วไปอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นใครเป็นสายกิน ถ้าไปเที่ยวฮอกไกโดแล้วอย่าลืมไปลองสักครั้งครับ
3. Jingisukan
ถ้าเอ่ยถึง Jingisukan คนไทยส่วนใหญ่น่าจะไม่เคยได้ยิน แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น “เนื้อย่างเจงกิสข่าน” ผมเชื่อว่าคนที่มีอายุหน่อยสักประมาณ 30-40 ปีน่าจะร้องอ๋ออย่างแน่นอน เพราะเนื้อย่างสไตล์นี้เคยเป็นที่นิยมในประเทศไทยเมื่อ 30-40 ปีก่อน จริงๆ แล้วคำว่า Jingusukan ก็แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “Genghis Khan” หรือ เจงกิสข่านครับ
Jingisukan ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจงกิสข่าน หรือจักรวรรดิมองโกลแต่อย่างใด เมนูนี้เป็นเนื้อย่างในเตาทรงกลม (แบบบาร์บีคิวพลาซ่าเป๊ะๆ) ที่ถือกำเนิดในญี่ปุ่น เราไม่ทราบแน่ชัดว่าเมืองไหน แต่ที่แน่ๆ ชาวฮอกไกโดชอบกินอาหารชนิดนี้มากที่สุด ทำให้มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของฮอกไกโดไปแล้ว
ตามสูตรดั้งเดิมแล้ว เนื้อที่ใช้จะเป็นเนื้อแกะครับ วิธีการกินคนไทยก็คุ้นเคยอยู่แล้ว เพราะเหมือนกับบาร์บีคิวพลาซ่านั่นเอง
4. Hokkaido Crab
Hokkaido Crab หรือปูฮอกไกโดเป็นอีกหนึ่งอาหารเลื่องชื่อของเกาะแห่งนี้ บางคนถึงกับขนานนามฮอกไกโดว่าเป็นเมืองหลวงแห่งปูของญี่ปุ่นเลยทีเดียว จริงๆ แล้วปูฮอกไกโดมีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน และแต่ละสายพันธุ์จะมีรสชาติและความอร่อยที่แตกต่างกันออกไป ชนิดของปูฮอกไกโดมีดังต่อไปนี้
- Kegani (Horsehair Crab) หรือปูขนม้า เป็นปูที่พบมากที่สุดในฮอกไกโด
- Zuwaigani (Snow Crab) หรือปูหิมะ นิยมกินเป็นซาชิมิ เพราะเนื้อหวานและชุ่มชื้น
- Tarabagani (King Crab) หรือปูทาราบะ ปูที่แพงที่สุดในบรรดาปูทั้งหมด
- Hanasakigani (Hanasaki Crab) หรือปูฮานาซากิ ปูที่แพงและหายาก นิยมทำเป็นซุป
- Aburagani (Blue King Crab) หรือปูอาบูระ ลักษณะคล้ายกับปูทาราบะทุกอย่าง แต่รสชาติจะอ่อนกว่า และราคาถูกกว่าครับ
ปูเหล่านี้สามารถทำอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นซุป เป็นซาชิมิ นำมาย่าง ทอด นึ่ง ฯลฯ
สำหรับใครที่อยากลองปูฮอกไกโดหลายๆ แบบ สามารถไปที่ตลาดปลานิโจ (Nijo Market) หรือ ตลาดโจไง (Jogai market) ที่เมืองซัปโปโร ที่นั่นมีปูทุกชนิดให้คุณได้ลองเลยครับ
5. Kaisendon/Donburi
เนื่องจากฮอกไกโดมีซีฟู้ดแสนอร่อยจำนวนมาก หลายคนน่าจะอยากกินหลายอย่างแต่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย การสั่ง Kaisendon หรือข้าวหน้าซีฟู้ดดิบหลากชนิดจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณสามารถลองชิมปลาดิบ อุนิ กุ้ง ปู และซีฟู้ดๆ อื่นๆ ไปได้ในคราวเดียวครับ
นอกจากข้าวหน้าซีฟู้ดแล้ว ข้าวหน้าทั่วไปหรือ Donburi (ดงบุริ) ของฮอกไกโดก็อร่อยเช่นเดียวกันครับ
6. Ishikari Nabe
Ishikari Nabe เป็นนาเบะที่มีต้นกำเนิดจากเมืองเล็กๆ ในเกาะฮอกไกโดชื่อ Ishikari นาเบะของที่นี่จะใส่ผักสดนานาชนิดลงไปพร้อมกับมิโซะ เต้าหู้ เห็ด มันฝรั่ง สาเก และปิดท้ายด้วยเนื้อปลาแซลมอนและซีฟู้ดสดๆ จากท้องทะเล ความร้อนของนาเบะจะช่วยผ่อนคลายความหนาวไปได้มากเลยครับ
7. Soft Serve Ice Cream
Soft Serve Ice Cream หรือไอศกรีมแบบ Soft Serve ที่ทำมาจากนมสดชั้นเยี่ยมจากฮอกไกโด หลายคนน่าจะเคยเห็นหรือลองชิมมาก่อน เพราะมีร้านขายไอศกรีมแบบนี้ในไทยมาหลายปีแล้ว
อย่างไรก็ดี ถ้าคุณไปเที่ยวฮอกไกโด คุณควรจะลองไอศกรีมของต้นตำหรับสักครั้งหนึ่งครับ เพราะว่าของต้นตำหรับอร่อยจริงๆ ไม่ได้มีแค่รสชาติเดียว แต่มีรสชาติแปลกๆ ให้ลองด้วยไม่ว่าจะเป็นรสลาเวนเดอร์ รสข้าวโพด รสฟักทอง รสเมลอน ฯลฯ
8. Yubari King Melon
Yubari King Melon เป็นผลไม้อันโด่งดังของฮอกไกโด และบ่อยครั้งถูกขนานนามว่าเป็นผลไม้ที่แพงที่สุดในโลก ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเคยมีการประมูลเมลอนลูกหนึ่งไปด้วยเงินถึง 3 ล้านเยนเลยทีเดียว
เมลอนชนิดนี้รสชาติยอดเยี่ยม เพราะมีความหวาน และนุ่ม คุณสามารถหาซื้อได้ที่ตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อเป็นลูกนะครับ คุณสามารถซื้อเป็นซีกมาลองชิมได้เช่นกัน
อาหารน่าลองอื่นๆ
นอกเหนือจากอาหาร 8 ชนิดด้านบนแล้ว ฮอกไกโดยังมีของอร่อยอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะขนมต่างๆ อาทิเช่น
- Letao – ชีสเค้กที่หลายคนหลงใหล
- Kitakaro – ครีมพัฟแสนอร่อยแห่ง Otaru
สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ Sapporo Beer หรือเบียร์ซัปโปโรครับ คุณสามารถหาลองชิมได้แทบทุกแห่ง แต่ถ้าอยากชิมหลายสูตร ผมแนะนำให้ไปที่ Sapporo Beer Museum เพราะว่าคุณจะได้ชิมหลายแบบอย่างที่ต้องการครับ