ถ้าเอ่ยถึงประเทศฝรั่งเศส ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะนึกถึงกรุงปารีส หอไอเฟล พระราชวังแวร์ซายส์ พิพิธภัณฑ์ลูฟส์ หรือมหาวิหาร Notre-dame ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมระดับโลก
แต่คุณทราบหรือไม่ ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีดีมากกว่านั้น เพราะมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงามมากอีกนับสิบแห่ง แต่ละแห่งยังมีเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่แตกต่างกันอีกด้วย
เรามาดูกันดีกว่าครับว่ามีที่ไหนบ้าง
ไปเที่ยวอุทยานเหล่านี้อย่างไร
จากที่สำรวจมา ผมพบว่าทัวร์ฝรั่งเศสของบริษัททัวร์ไทยไม่ค่อยพาไปอุทยานเหล่านี้เท่าไรนัก ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร เพราะตัวอุทยานอยู่นอกเส้นทางหลักของนักท่องเที่ยวไปพอสมควรเลย และต้องใช้เวลาเที่ยวค่อนข้างนานด้วย
ดังนั้นเมื่อไม่มีทัวร์พาไป เราก็ต้องไปเองครับ วิธีที่ดีที่สุดน่าจะเป็นการเช่ารถในฝรั่งเศส ซึ่งก็ไม่ยากอะไรนัก ถ้าคุณอายุมากกว่า 21 ปี และมีใบขับขี่มาแล้วมากกว่า 1 ปี คุณสามารถขอเช่ารถกับบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Auto Europe, Europcar หรือ Avis ได้แล้วครับ
เนื่องจากอุทยานเหล่านี้อยู่ในฝรั่งเศสทางตอนใต้ทั้งหมด และอยู่ห่างไม่ไกลจากกันนัก คุณสามารถเดินทางไปเที่ยวได้หลายแห่งในทริปเดียว (ถ้าคุณมีเวลา) โดยเริ่มต้นทริปจากเมืองหลักๆ อย่างเช่น Marseille, Lyon หรือ Nice ก็ได้ครับ สายการบินที่ให้บริการหลักๆ ก็คือ Air France, Lufthansa หรือ KLM ครับ
แต่ถ้าไม่อยากขับรถ คุณสามารถเดินทางไปได้ด้วยรถบัสหรือขนส่งสาธารณะอื่นๆ แต่ทำใจไว้ได้เลยว่าจะต้องนั่งรถหลายต่อครับ
1. Parc national des Calanques
Parc national des Calanques หรือ Calanques National Park เป็นอุทยานที่อยู่ห่างจากเมืองใหญ่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสอย่าง Marseille เพียงประมาณ 20 กิโลเมตร วิธีการเดินทางไปสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่
อุทยานแห่งนี้ถือว่าเป็นหน้าใหม่ เพราะเพิ่งได้รับสถานะเป็นอุทยานแห่งชาติโดยรัฐบาลฝรั่งเศสในปี ค.ศ.2012 นี่เองครับ
อุทยานแห่งนี้เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสายน้ำสีเขียวอมน้ำเงินของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเทือกเขาที่สูงชันและขรุขระที่เรียกว่า Massif des Calanques เพราะฉะนั้นวิวที่นี่จึงสวยงดงามมากจริงๆ จุดชมวิวที่สวยๆ ยังมีเป็นสิบๆ จุดเลยครับ
ภายในอุทยานมีกิจกรรมมากมายให้คุณทำไม่ว่าจะเป็นเล่นน้ำ ว่ายน้ำ พายเรือ ล่องเรือในทะเลที่ใสแจ๋ว หรือแม้กระทั่งปีนเขา เดินป่า ตั้งแคมป์ ฯลฯ
2. Parc national de la Vanoise
Parc national de la Vanoise หรือ Vanoise National Park เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขา Tarentaise และ Maurienne ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ และใกล้กับประเทศอิตาลี อุทยานแห่งนี้เป็นอุทยานแห่งแรกในประเทศฝรั่งเศสด้วยครับ
Vanoise เต็มไปด้วยภูเขาหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน ทะเลสาบอันที่สวยงาม ตลอดจนธารน้ำแข็งและหุบเขาที่น่าหลงใหล โดยเฉพาะที่หมู่บ้าน Bonneval-sur-Arc ที่บ่อยครั้งถูกจัดอันดับว่าเป็นหมู่บ้านที่น่าหลงใหลที่สุดในฝรั่งเศส ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวฝรั่งเศสและต่างชาติต่างหลั่งไหลมาที่นี่เป็นจำนวนมากเลยครับ
นักท่องเที่ยวมักมาเดินเทรคกิ้งและขี่จักรยานในช่วงฤดูร้อน และมาเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะการเล่นสกีที่เป็นที่นิยมมากเลยครับ ที่นี่เลยมีสกีรีสอร์ทขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว
เนื่องจากตัวอุทยานค่อนข้างใหญ่ และการเดินทางไปค่อนข้างยาก วิธีไปที่ง่ายที่สุดคือเช่ารถจาก Geneva (ในสวิส) หรือ Lyon ในฝรั่งเศส และขับไปเที่ยว Vanoise ครับ
Vanoise สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู แล้วแต่ว่าคุณต้องการจะได้วิวและกิจกรรมแบบไหน ถ้าอยากเล่นสกีก็ต้องเป็นช่วงฤดูหนาวอย่างธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ แต่ถ้าเดินเทรคกิ้งก็ต้องเป็นช่วงฤดูร้อน หรือมิถุนายนถึงสิงหาคมครับ
3. Parc national du Mercantour
Parc national du Mercantour หรือ Mercantour National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส
จุดเด่นของการท่องเที่ยวที่นี่คือการเดินเทรคกิ้งครับ เส้นทางเทรคกิ้งในอุทยานแห่งนี้รวมกันแล้วยาวถึง 600 กิโลเมตร โดยผ่านหุบเขาแบบอัลไพน์ถึงเจ็ดแห่ง หมู่บ้านจำนวนมากอันเว้งว้างและกันดารแต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีภูเขาและทะเลสาบที่สวยงามอีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลท์ของอุทยานแห่งนี้คือ Vallee des Merveilles ซึ่งมีงานแกะสลักยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีมากถึง 36,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปสัตว์ อาวุธ หรือมนุษย์ยุคนั้นครับ
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางไปเที่ยวที่อุทยานแห่งนี้คือช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนครับ หรือจริงๆ จะไปช่วงฤดูหนาวก็ได้ แต่คุณอาจจะไม่สามารถบางจุดในอุทยานได้ครับ
วิธีการไปที่ง่ายที่สุดคือบินไปลงเมือง Nice และเช่ารถขับไปตัวอุทยาน วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดแล้วในการเที่ยวอุทยานแห่งนี้ครับ
4. Parc national des Écrins
Parc national des Écrins หรือ Ecrins National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส และตั้งอยู่ในบริเวณ Dauphiné Alps ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ครับ
ด้วยพื้นที่มากถึง 918 ตารางกิโลเมตร ด้านในอุทยานมี ภูเขาหิมะมากกว่าหนึ่งร้อยลูก ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบอีกถึงหกสิบกว่าแห่งที่ใสมาก ที่นี่จึงเป็นแดนสวรรค์ของการเทรคกิ้งและปีนเขา รวมแล้วมีเส้นทางมากถึง 700 กิโลเมตรที่คุณสามารถเดินชมวิวได้ ณ ที่แห่งนี้
ภายในอุทยานยังมีสัตว์มากมายด้วย โดยเฉพาะเหยี่ยวและอินทรีที่ออกล่าสัตว์ ถ้าคุณชอบดูนก คุณจะชอบอุทยานแห่งนี้มากๆ เลยครับ
นอกจากนี้ไม่ไกลจากอุทยานยังมีหมู่บ้านและเมืองเล็กๆ ที่น่ารักและโรแมนติกที่ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาด้วย บางหมู่บ้านอย่างเช่น หมู่บ้าน La Grave ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศสด้วยครับ
ช่วงพีคของอุทยานแห่งนี้คือช่วงฤดูร้อน (มิถุนายนถึงสิงหาคม) และวิธีการเดินทางที่ง่ายและถูกที่สุดคือการเช่ารถขับจาก Lyon หรือ Nice ครับ
5. Parc national des Pyrénées
Parc national des Pyrénées หรือ Pyrenees National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ที่พรมแดนระหว่างฝรั่งเศสและสเปน และมีเทือกเขา Pyrenees เป็นส่วนประกอบนั่นเองครับ
ที่นี่มีความหลากหลายของธรรมชาติสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นแนวภูเขาหิมะที่ดูเกรียงไกร น้ำตกหลายแห่งที่สวยงาม และป่าที่อุดมสมบูรณ์ลาดไปตามแนวเขา นอกจากนี้ยังมีนกและสัตว์อีกมากมายถึง 4,500 สปีชีส์ให้คุณชมอีกด้วย
จุดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในบริเวณอุทยานคือ Cirque de Garvenie ซึ่งเป็นหุบเขาที่ลาดตัวเหมือนกับสนามกีฬากลางแจ้ง นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสอย่าง Victor Hugo เคยยกย่องจุดนี้ว่าเป็น “The Colosseum of Nature” มาแล้ว บริเวณตรงกลางของหุบเขาจะมีหมู่บ้านเล็กๆ ตั้งอยู่ครับ
นักท่องเที่ยวมักจะเดินทางมาเดินเทรคกิ้งและปีนเขาในช่วงฤดูร้อน และเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว ดังนั้นคุณสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูครับ ส่วนวิธีไปที่ง่ายที่สุดคือ นั่งรถไฟ TGV ลงสถานี Lourdes และนั่งรถบัสหรือเช่ารถขับไปยังอุทยานครับ
6. Parc Régional du Verdon
Parc Régional du Verdon หรือ Verdon Natural Regional Park เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ทางใต้ของฝรั่งเศส และไม่ห่างไกลจากเมือง Nice เท่าไรนัก แม้ว่าจะไม่ใช่อุทยานแห่งชาติเหมือนกับที่อื่น แต่ความสวยของ Verdon Natural Regional Park ทัดเทียมกับที่อื่นอย่างไม่ต้องสงสัย
ไฮไลท์ของที่นี่คือ Verdon Gorge หรือโตรกผาที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป ตัวโตรกผายาวถึง 25 กิโลเมตร และลึกถึง 700 เมตรด้วยกัน ล่างสุดของโตรกผาคือแม่น้ำ Verdon แม่น้ำสี Turquoise ที่ไหลลงสู่ทะเลสาบชื่อ The Lake of Sainte Croix ซึ่งมีสี Turquoise อันงดงามเช่นกัน
เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่เกิดเพราะการสร้างเขื่อนของรัฐบาลฝรั่งเศส หมู่บ้านที่เคยตั้งอยู่แถวนี้ก็ถูกย้ายไปอีกที่หนึ่ง เพราะที่ตั้งเก่าจมน้ำไปหมดแล้วครับ
กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมากนอกเหนือจากเทรคกิ้ง ปีนเขา และชมวิวคือ การพายเรือคายัคครับ บริเวณจุดที่แม่น้ำไหลลงทะเลสาบจะเป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว เพราะธรรมชาติน่าหลงใหลอย่างมากครับ
ไม่ไกลกับ Verdon Gorge คือ Valensole plateau (Plateau de Valensole) ที่ราบสูงที่มีทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสุดลูกหูลูกตา และมีภูเขาหิมะเป็นฉากหลัง ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดแน่นอนว่าเป็นช่วงฤดูร้อน เพราะคุณสามารถทำกิจกรรมได้ทุกรูปแบบ และเป็นช่วงที่ดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งที่บริเวณทุ่งใน Valensole plateau ด้วยครับ
วิธีการเดินทางไปที่ง่ายที่สุดคือ การขับรถไปเองเช่นเดิม ตัวเลือกการเดินทางสาธารณะค่อนข้างยุ่งยากเพราะต้องต่อรถหรือรถไฟหลายต่อ โดยรวมแล้วจะใช้เวลามากกว่าการขับรถไปเองมากครับ
