“วาฬ” (ขออนุญาตไม่เรียกว่าปลาวาฬ เพราะจะผิดหลักอนุกรมวิธาน) เป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความที่มันมีขนาดใหญ่และมีรูปร่างที่น่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้หลายๆคนน่าจะอยากจะเห็นวาฬแบบใกล้ชิดสักครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะวาฬอย่าง วาฬสเปิร์ม วาฬเพชฌฆาต วาฬสีน้ำเงินเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าท้องทะเลทุกแห่งจะมีวาฬ เรามาดูกันดีกว่า ถ้าอยากดูวาฬ ควรจะไปที่ใดบ้าง ถึงจะมีโอกาสเจอวาฬง่ายที่สุด และเห็นได้ชัดๆ
1. Husavik, Iceland
ไอซ์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่เหนือสุดของโลก บริเวณมหาสมุทรแถบนี้มีแหล่งอาหารชั้นดีให้กับวาฬ ทำให้มีวาฬมีอาศัยอยู่จำนวนมากไม่ว่าจะเป็น วาฬสเปิร์ม วาฬหลังค่อม วาฬมิงค์ หรือแม้กระทั่งวาฬที่เจอตัวยากมากๆ อย่างวาฬสีน้ำเงิน สัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นพิภพด้วย
บริษัททัวร์หลายแห่งใน Reykjavík เมืองหลวงของไอซ์แลนด์ขายทัวร์ดูวาฬให้กับนักท่องเที่ยว แต่ที่เป็นศูนย์กลางจริงๆ อยู่ที่เมือง Husavik ช่วงเวลาที่เหมาะกับการดูวาฬที่สุดคือช่วงฤดูร้อน (พฤษภาคม-กันยายน) โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เพราะนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสพระอาทิตย์เที่ยงคืนไปพร้อมๆกับการดูวาฬ
ทั้งนี้วาฬมีเป็นจำนวนมากในแถบนี้ ทำให้สวนสัตว์หลายแห่งในโลก “ซื้อ” วาฬไปแสดงจากที่นี่นั่นเอง
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
2. Tromsø , Norway
เขต Troms ของประเทศนอร์เวย์เป็นเขตที่ตั้งอยู่เหนือ Arctic Circle และประกอบด้วยฟยอร์ดมากมาย ฟยอร์ดเหล่านี้เป็นแหล่งที่ปลาแฮร์ริ่งซึ่งเป็นอาหารกับวาฬหลายพันธุ์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีวาฬมากมายอยู่ที่ในบริเวณนี้ตามไปด้วย เพราะใกล้กับแหล่งอาหารนั่นเอง
ที่เมือง Tromsø ในเขต Troms จึงมีทัวร์ให้นักท่องเที่ยวได้ดูวาฬเกือบจะตลอดปี วาฬที่มีโอกาสเห็นได้คือ วาฬสเปิร์ม วาฬเพชฌฆาต และวาฬหลักค่อม ซึ่งการออกไปดูก็ไม่ต้องออกไปไกลมากนัก เพราะวาฬเข้ามาใกล้ฝั่งมากจริงๆ
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
3. Hermanus, South Africa
Hermanus เป็นอีกหนึ่งสถานที่ระดับสุดยอดสำหรับการดูวาฬ ตัวเมืองตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Cape Town เมืองสำคัญของประเทศแอฟริกาใต้ ในเมืองแห่งนี้จะมีคนประกาศให้ทราบโดยทั่วไปว่าวาฬเข้ามาใกล้หาดแล้ว
จุดเด่นของที่นี่คือวาฬจะเข้ามาใกล้ชายหาดมาก โดยเฉพาะวาฬไรท์ ทำให้เราสามารถดูวาฬได้จากห้องของโรงแรมได้เลยทีเดียว แต่ถ้าต้องการที่จะใกล้ชิดกว่านั้นก็ต้องนั่งเรือออกไปเหมือนกับที่อื่นๆ
นอกจากวาฬแล้ว แถวเมือง Hermanus ยังมีอะไรที่น่าดูอย่าง ฉลามขาว ฉลามกินเนื้อแห่งท้องทะเลและโลมาหลายหลายสายพันธุ์ด้วย ทำให้เมืองนี้น่าสนใจมากสำหรับท่านที่ชื่นชอบในการชมสัตว์ทะเล อย่างไรตามช่วงที่วาฬหนาแน่นจริงๆ อยู่ที่ช่วงครึ่งหลังของปี (มิถุนายน-ธันวาคม)
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
4. Maui, Hawaii
Maui เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะฮาวายของประเทศสหรัฐอเมริกา สถานที่แห่งนี้เป็นสวรรค์ของการดูวาฬในช่วงฤดูหนาว เพราะว่าสถานที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง ทำให้วาฬจำนวนมาก โดยเฉพาะวาฬหลังค่อมนับพันตัวหนีหนาวจากอลาสกามาอาศัยอยู่ในบริเวณนี้
ด้วยความที่น้ำทะเลที่ Maui นี้ใสมาก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเห็นวาฬได้อย่างชัดเจน และไม่ต้องเพ่งว่า “อยู่ที่ไหนวะ” เหมือนกับที่อื่นๆ เรายังสามารถดูวาฬได้จากชายหาดโดยไม่ต้องนั่งเรือออกไป แต่ถ้าอยากใกล้ชิดก็ต้องเสียตัง (เช่นเดิม) เวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการดูวาฬคือ ช่วงเดือนมกราคม-เมษายน แต่เดือนมกราคมและกุมภาพันธ์จะมีวาฬมากที่สุด และมีโอกาสเห็นมากที่สุดด้วย
ที่นี่มีความพิเศษอย่างหนึ่งคือมีกิจกรรมดูวาฬแบบลุยๆ เช่นพายเรือคายัค แคนู และอื่นๆ อีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกด้วย
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
5. Azores, Portugal
Azores คือหมู่เกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกที่อยู่ในการปกครองของประเทศโปรตุเกส ตัวหมู่เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรเลยก็เป็นได้ ทำให้ท้องทะเลแถบนั้นมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก วาฬทุกสายพันธุ์หลักแทบจะสามารถเห็นได้ทั้งหมดที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นวาฬสีน้ำเงิน วาฬสเปิร์ม วาฬหลังค่อม วาฬเพชฌฆาต วาฬฟิน และอื่นๆ อีกมากมาย
หนึ่งในวิธีการดูวาฬของที่นี่คือ การขึ้นไปดูเป็นหอคอยที่เรียกว่า Vigias หรืออยากจะล่องเรือออกไปชมวาฬดังเช่นที่อื่นๆก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ช่วงที่ดีที่สุดในการชมวาฬที่ Azores คือช่วงเมษายนถึงตุลาคม แต่ถ้าอยากดูวาฬสายพันธุ์ขนาดใหญ่ต้องไปช่วงเมษายนจะมีโอกาสเห็นมากที่สุด
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
6. Mirissa, Sri Lanka
Mirissa เป็นเมืองทางใต้สุดของประเทศศรีลังกา ภายในเมืองเพิ่งมีกระแสการดูวาฬเกิดขึ้นมาภายในไม่นานมานี้ ชายฝั่งของเมือง Mirissa เป็นทางผ่านที่วาฬมักจะอพยพจากซีกโลกใต้ไปยังซีกโลกเหนือ ทำให้ที่เมืองแห่งนี้พบเห็นวาฬหลากสายพันธุ์อาทิเช่น วาฬสเปิร์มและวาฬสีน้ำเงินผ่านไปมาอยู่บ่อยครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนของทุกปี
วิธีการชมไม่ต่างอะไรกับสถานที่อื่นๆ นั่นคือนั่งเรือออกไปชม อย่างไรก็ตามช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมเป็นช่วงหน้ามรสุมที่คลื่นลมรุนแรง และโอกาสเห็นวาฬต่ำมาก ทำให้การชมวาฬที่นี่สามารถทำได้เพียง 6 เดือนเท่านั้นในแต่ละปี
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
7. Vancouver Island, Canada
Vancouver Island เป็นเกาะในเขต British Columbia ของประเทศแคนาดา สถานที่แห่งนี้มีวาฬจำนวนมากโดยเฉพาะวาฬเกรย์ที่มักจะผ่านเกาะแห่งนี้เป็นฝูงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้เกาะแถบนี้ยังเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเหล่าวาฬเพชฌฆาตหรือออก้าอีกด้วย ทำให้ถ้าชอบเหล่าวาฬเพชฌฆาตจริงๆ สถานที่แห่งนี้เป็นอันดับต้นๆ ที่ต้องมาเลยครับ
ทั้งนี้ช่วงที่มีวาฬสีเทามากที่สุดจะเป็นช่วงเดือน มีนาคมถึงเมษายน แต่ถ้าเป็นออก้าจะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ในช่วงที่มีวาฬมากๆ เราสามารถดูได้จากชายฝั่งเลยครับ หรือจะออกไปชมแบบใกล้ชิดทางเรือก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
8. Valdes Peninsula, Argentina
Valdes Peninsula หรือคาบสมุทร Valdes เป็นคาบสมุทรในประเทศอาร์เจนตินา ทะเลแถบนี้มีสิงโตทะเลและแมวน้ำที่เป็นอาหารของวาฬเพชฌฆาตอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้วาฬเพชฌฆาตมีจำนวนมากไปด้วย ดังนั้นที่คาบสมุทรแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจึงมีโอกาสที่จะเห็นวาฬเพชฌฆาตเข้ามางับเหยื่ออยู่บ่อยครั้ง นอกจากวาฬเพชฌฆาตแล้ว บริเวณนี้ยังมีวาฬชนิดอื่นๆ รวมถึงสัตว์ทะเลมากมายให้ชมด้วยเช่นกัน
การติดต่อทัวร์ที่นำนักท่องเที่ยวออกไปดูวาฬสามารถทำได้ที่เมือง Puerto Madryn ทัวร์เหล่านี้มักจะนำนักท่องเที่ยวไปยังหมู่บ้าน Puerto Pirámide เพื่อพานักท่องเที่ยวออกไปชมวาฬในทะเลโดยรอบ
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมวาฬที่แห่งนี้คือ เดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน ส่วนเดือนอื่นยากที่จะเห็นวาฬได้ครับ
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
9. Kaikoura, New Zealand
นอกจากเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์จะมีทะเลสาบสวยๆ แล้ว ที่นี่ยังมีจุดดูวาฬระดับโลกด้วยเช่นกัน จุดที่ว่าคือเมือง Kaikoura นั่นเอง
ที่เมือง Kaikoura มีวาฬสเปิร์มให้ดูตลอดทั้งปี แถมยังมีวาฬเพชฌฆาต วาฬสีน้ำเงินและวาฬหลังค่อมด้วย แต่ช่วงที่มีวาฬเยอะที่สุดคือช่วงมิถุนายน-สิงหาคม
วิธีการดูวาฬของที่นี่มีหลายรูปแบบ ตั้งแต่ดูจากเรือ ดูจากเครื่องบิน หรือดำน้ำ แต่ละแบบก็มีค่าใช้จ่ายที่ต่างกันออกไป จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือนอกจากจะมีวาฬให้ดูแล้ว ท้องทะเลโดยรอบยังสวยงามด้วย เพราะว่ามีภูเขาหิมะเป็นฉากหลังนั่นเองครับ
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
10. Tonga
Tonga หรือตองกา เป็นประเทศที่น้อยคนจะรู้จัก ประเทศแห่งนี้เป็นประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กตั้งอยู่ที่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ที่นี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการดูวาฬ
วาฬที่นี่มีให้ดูหลากหลาย เพราะอยู่ในเส้นทางการเดินทางของพวกมันเช่นเดียวกัน แต่หลักๆ คือวาฬหลังค่อมกับวาฬสเปิร์ม
Tonga เป็นจุดดูวาฬแบบพิเศษ เพราะเป็นประเทศไม่กี่แห่งในโลกที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำกับวาฬได้ ทำให้นักท่องเที่ยวที่อยากใกล้ชิดกับวาฬแห่กันมาที่นี่
แน่นอนว่าถ้าได้ว่ายน้ำกับวาฬขนาดนี้ ต้องเห็นมันชัดแจ๋วอย่างแน่นอน!
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่
ดูวาฬในประเทศไทย
การดูวาฬสามารถทำได้ในประเทศไทยเช่นกัน แม้จำนวนและสายพันธุ์ของวาฬไม่อาจจะเทียบได้กับที่อื่นก็ตาม
วาฬที่พบเห็นในประเทศไทยมากที่สุดคือ วาฬบรูด้า สถานที่ที่พบบ่อยคือ บริเวณอ่าวไทยตอนบน เช่นจังหวัดเพชรบุรี เช่น แหลมผักเบี้ย อ่าวบางตะบูนเป็นต้น ในสถานที่เหล่านี้มีบริษัทบางแห่งให้บริการนำนักท่องเที่ยวออกไปดูวาฬเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งวาฬบรูด้ายังโผล่ให้เห็นในชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนของกรุงเทพมหานครด้วย
ข้อควรทราบเกี่ยวกับการดูวาฬ
- ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าคุณจะเห็นวาฬถ้าคุณนั่งเรือออกไป โดยเฉพาะในเดือนที่ไม่ใช่ฤดูกาลดูวาฬ บางครั้งการนั่งเรือออกไป 3-4 ชั่วโมง อาจจะไม่เห็นอะไรเลยนอกจากนกทะเลก็เป็นได้
- อากาศและท้องทะเลที่แปรปรวนอาจจะทำให้ผู้ให้บริการเลือกที่จะไม่ออกเรือ ในกรณีนี้ผู้บริการจะคืนเงินให้ แต่แน่นอนว่าเราจะเสียเที่ยวเพราะอุตส่าห์มาแล้ว (ผมเคยเผชิญประสบการณ์นี้กับตัวที่ Kaikoura)
- การดูวาฬต้องรักษากฎระเบียบให้ดี วาฬเป็นสัตว์สงวนในหลายๆ ประเทศ (รวมไปถึงประเทศไทย) การเข้าใกล้วาฬมากเกินไปอาจจะเกิดอันตรายได้