Monster Beverage หรือชื่อเดิม Hansen เป็นบริษัทโซดาเล็กๆในรัฐแคลิฟอร์เนียในปี 1935 ซึ่งในระยะแรกบริษัทก็ขายเพียงโซดา และ น้ำผลไม้ง่ายๆ ตามโรงภาพยนตร์เท่านั้น ซึ่งเป็นบริษัทเล็กๆที่ไม่มีความสำคัญอะไร จนกระทั่งในปี 1988 บริษัทก็ล้มละลาย
เมื่อล้มละลาย บริษัทก็ได้ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ และมีทนายความชาวแอฟริกาใต้ชื่อว่า Rodney Sacks ได้มาซื้อกิจการไปในราคา 14.6 ล้านดอลลาร์
ซึ่งนั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัทเครื่องดื่มเล็กๆเช่นนี้
Sacks ได้เดินทางไปที่อังกฤษ และเห็นเครื่องดื่มสัญชาติไทย – ออสเตรีย อย่าง Red Bull แล้วเกิดสนใจอย่างมาก เขามั่นใจว่าเครื่องดื่มประเภทนี้จะต้องเป็นที่นิยมในอเมริกา
Hansen จึงเริ่มออกเครื่องดื่มชูกำลังสูตรของตัวเองในตลาดอเมริกาในปี 1996-1997 ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ตัวบริษัทนั้นคิดว่าไม่สามารถจะเอาชนะ Red Bull ได้ จึงต้องสร้างความแตกต่างในการหาตลาดใหม่ของตัวเอง ไปที่เครื่องดื่มชูกำลังที่มี Octane สูง
Sacks คิดว่าวัยรุ่นจะสนใจกลุ่มของเขา แต่เขากลับคิดผิดโดยสิ้นเชิง เพราะในระยะแรกนั้น เครื่องดื่มสูตรใหม่ขายแทบไม่ได้เลย ซึ่งจากการทำ Research พบว่าเครื่องดื่มมันมีความเป็นน้ำผลไม้มากเกินไป และเปรี้ยวเกินไป ทำให้ไม่เหมาะกับการเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง
Hansen จึงวิจัยหาสูตรใหม่ขึ้นมา เป็นเครื่องดื่มสุดหวาน และกระตุ้นให้มีชีวิตชีวาสุดๆ ในชื่อสุดฮิปปี้ว่า MONSTER เครื่องดื่มนี้เองที่เป็นเรือธงของ Hansen (บริษัทเปลี่ยนชื่อเป็น Monster Beverage ในปี 2012) มาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อได้เครื่องดื่มที่ต้องการแล้ว Sacks ได้ทำการโปรโมตอย่างหนัก ทั้งวิธีการแจกเครื่องดื่มฟรี และใช้ Presenter เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงมากมาย นอกจากนั้นยังพยายามโปรโมตแบรนด์ในแง่ที่ว่า เป็นเครื่องดื่มสำหรับวัยรุ่นที่ชื่นชอบการผจญภัย และความตื่นเต้น
ยุทธศาสตร์ของ Sacks ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทำให้ MONSTER เป็นที่นิยมอย่างยิ่งยวดสำหรับวัยรุ่นอเมริกัน กำไรและยอดขายเติบโตในระดับสามหลักเป็นสิบๆ ไตรมาสติดต่อกันในช่วงปี ค.ศ.2004-2006
นักลงทุนกว้านซื้อหุ้นของบริษัทอย่างก้าวกระโดด โดยไม่สนใจกับความถูกแพงของหุ้นมากนัก ส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นจาก $0.04 ไปสู่ $30 หรือกว่า 750 เท่า
การที่หุ้นขึ้นเร็วเช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะสอดคล้องกับกำไรแต่ทำให้กลุ่มขายชอร์ตตั้งคำถามว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังจะไปได้ถึงที่ใด และมูลค่าตลาดของ Monster Beverage ที่อยู่ในระดับมากกว่า 100 เท่าของกำไรเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลหรือไม่
นั่นทำให้ Monster Beverage กลายเป็นหุ้นที่มีแรงขายและแรงซื้อต่อสู้กันอย่างหนัก และเมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ Monster Beverage ก็โดนกระหน่ำขายเช่นเดียวกับหุ้นตัวอื่นๆ ถึงแม้งบการเงินจะยังอยู่ในระดับสุดยอดก็ตาม
เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจผ่านไป Monster Beverage ยังมีงบการเงินที่ดีเยี่ยมเช่นเดิม ทำให้ Short Seller เริ่มจะหมดแรงที่จะต่อสู้ และเริ่มทำการซื้อคืนอย่างหนักหน่วง ทำให้หุ้นวิ่งกระจายกลับมาอยู่ที่เดิมอีกครั้ง
หลังจากนั้น Monster Beverage ยังเป็น Growth Stock ที่แข็งแกร่งเช่นเดิม จนหุ้นมาสู่ระดับสูงถึง $60 ในปัจจุบัน
ความสำเร็จของ Monster Beverage ปฎิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากวิสัยทัศน์ของ ผู้บริหารอย่าง Rodney Sacks ผู้เปลี่ยนแปลงบริษัทโซดาเล็กๆมาสู่ความยิ่งใหญ่ในปัจจุบัน