ประวัติศาสตร์สือเล่อ ตอนที่ 3: ตั้งตนเป็นอิสระจากฮั่นจ้าว

สือเล่อ ตอนที่ 3: ตั้งตนเป็นอิสระจากฮั่นจ้าว

หลังจากที่สือเล่อได้เป็นจ้าวหวางแล้ว อำนาจของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดังระบือไกล ท้ายที่สุดก็หลบหนีไม่พ้นการระแวงจากหลิวเย่า ความสัมพันธ์ทั้งสองจึงจบสิ้นลงอย่างเป็นทางการ เมื่อหลิวเย่าสังหารทูตของสือเล่อ ด้วยความโกรธเคือง สือเล่อจึงตั้งตนเป็นใหญ่และไม่ขึ้นกับฮั่นจ้าวอีกต่อไป

เผชิญหน้ากับจู่ที่

ในช่วงปี ค.ศ.319-322 สือเล่อใช้เวลาไปกับการจัดการสร้างความมั่นคงของตนเอง โดยเป้าหมายหลักก็คือหัวเมืองของราชวงศ์จิ้นที่อยู่ในภาคกลางและภาคเหนือ ในช่วงนี้นั้นสือเล่อต้องเผชิญหน้ากับจู่ที่ แม่ทัพราชวงศ์จิ้นที่ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากราชสำนักของตนเลย แต่กลับเก่งกาจอย่างไม่น่าเชื่อ และตีกองทัพของสือเล่อแตกกลับไปหลายครั้ง แม้กระทั่งสือหู่ หลานชายและแม่ทัพคนสำคัญของสือเล่อยกมาเอง แต่กลับไม่สามารถเอาชัยได้

สถานการณ์การรบระหว่างสือเล่อกับจู่ที่นั้นถือว่าสือเล่อเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และทำให้หัวเมืองต่างๆ เริ่มประสบปัญหาทางด้านการเงินและกำลังคน สือเล่อจึงขอเจรจาสงบศึกกับจู่ที่ โดยอาศัยแม่น้ำเหลืองเป็นเขตแดนระหว่างทั้งสองฝ่าย

สำหรับสือเล่อนั้นเขาฉวยโอกาสนี้ฟื้นฟูกำลังทหาร และรอจังหวะให้ราชสำนักจิ้นเล่นงานจู่ที่ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นาน จู่ที่ก็ถูกถอดจากตำแหน่งและล้มป่วยเสียชีวิต สือเล่อเห็นดังนั้นจึงยกทัพเข้าโจมตีหัวเมืองจิ้นที่อยู่ระหว่างแม่น้ำเหลืองและแม่น้ำไฮว้ ปรากฏว่าก็ตีได้จนหมด ทำให้ในเวลานั้นกำลังของสือเล่อแข็งแกร่งและเพียงพอที่จะเปิดศึกกับฮั่นจ้าวอย่างเป็นทางการได้ ในปี ค.ศ.324 สือเล่อก็ตัดสินใจว่าตัวเขาและนายเก่าอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีกแล้ว สงครามใหญ่ระหว่างสองแคว้นจึงเริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่บัดนั้น

ศึกใหญ่กับฮั่นจ้าว

ระหว่างที่สือเล่อตั้งตนเป็นใหญ่ และสร้างความเข้มแข็งให้กับแว่นแคว้นของตนนั้น ราชสำนักฮั่นจ้าวเผชิญกับการก่อกบฏของเผ่าตีและเฉียง ทำให้หลิวเย่าต้องเสียเวลาปราบกบฏอยู่นานหลายปี หลังจากปราบกบฏเสร็จแล้วก็ยกไปตีหัวเมืองจิ้นอื่นๆ ที่ยังไม่ได้อยู่ในอำนาจของตน ทหารฮั่นจ้าวจึงต้องทำศึกอยู่โดยตลอด ต่างกับฝ่ายสือเล่อที่ได้พักอยู่นานเกือบสองปีช่วงที่มีการสงบศึกกับจู่ที่

การศึกระหว่างทั้งสองแคว้นนั้นดำเนินไปแบบผลัดกันรุกผลัดกันรับ ในช่วงแรกนั้นฮั่นจ้าวเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ยังไม่สามารถตีชิงดินแดนของสือเล่อได้ เพื่อเป็นการตอบโต้ สือเล่อจึงให้สือหู่เป็นแม่ทัพใหญ่ และนำกองกำลังส่วนใหญ่ยกไปตีเมืองลั่วหยาง เมืองสำคัญของฮั่นจ้าว ปรากฏว่ากองทัพฮั่นจ้าวนั้นมีปัญหาเรื่องระเบียบวินัย ทำให้ยกพลไปช่วยเหลือลั่วหยางไม่ทัน สือหู่จึงตีเมืองลั่วหยางแตก และช่วงชิงจุดยุทธศาสตร์สำคัญได้ทั้งหมด มิหนำซ้ำยังพลิกกลับเป็นฝ่ายกระทำอีกด้วย

ราชสำนักฮั่นจ้าวนั้นต้องใช้เวลาเลียแผล และฟื้นฟู่กำลังของตนอยู่นานถึงสามปี ในปี ค.ศ.328 หลิวเย่าจึงยกกองทัพใหญ่มาหมายจะตีชิงเมืองลั่วหยางคืนให้ได้ เมื่อได้ปะทะกันตรงๆ ปรากฏว่าสือหู่นั้นต้านทานเอาไว้ไม่อยู่ กองทัพฮั่นจ้าวยึดเมืองต่างๆ รายรอบลั่วหยางไว้ได้เกือบทั้งหมด และล้อมตัวเมืองไว้อย่างแน่นหนา

ชัยชนะอันรวดเร็วของหลิวเย่านั้นทำให้สือเล่อตกตะลึง เขาจึงเร่งเตรียมกองทัพและยกไปช่วยสือหู่ด้วยตนเอง โดยผ่านด่านเฉิงเกา จุดยุทธศาสตร์สำคัญ แต่กลับไม่มีทหารฮั่นจ้าวมาสกัดไว้เลยแม้แต่นายเดียว ส่งผลให้สือเล่อและกองทัพหลวงเดินทางผ่านมาได้อย่างง่ายดาย

ช่วงปีใหม่ของปี ค.ศ.329 กอง่ทัพของทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าปะทะกับในศึกครั้งใหญ่ ระหว่างการศึกนั้นหลิวเย่าได้เสพสุราจนมึนเมา และตกจากหลังม้าที่ตนขี่ เปิดโอกาสให้ทหารฮั่นจ้าวเข้ากลุ้มรุมและจับตัวเป็นเชลยได้ เมื่อหลิวเย่าถูกจับกุม กองทัพฮั่นจ้าวจึงแตกหนีไปคนละทิศละทาง

สือเล่อนั้นให้การดูแลหลิวเย่าอย่างดี โดยเจตนานั้นหวังจะให้หลิวเย่าเกลี้ยกล่อมให้ราชสำนักฮั่นจ้าวยอมจำนนแต่โดยดี สือเล่อจะได้ไม่ต้องลำบากทำศึกต่อไป แต่หลิวเย่ากลับมีขัตติยมานะ เขากลับส่งสาส์นไปบอกบุตรชายทั้งสองของตนว่า

จงร่วมมือกับเหล่าขุนนางปกป้องอาณาจักรเอาไว้ให้ได้ ไม่ต้องเป็นห่วงข้า

เมื่อสือเล่อเห็นจดหมายดังกล่าวก็โกรธจัด และเห็นว่าเลี้ยงดูหลิวเย่าต่อไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เขาจึงสั่งให้หลิวเย่าไปประหารชีวิต อดีตฮ่องเต้ฮั่นจ้าวผู้นี้จึงสิ้นลมด้วยความกล้าหาญในปีเดียวกันนั้นเอง

ตั้งตัวเป็นฮ่องเต้

หลังจากที่หลิวเย่าสิ้นไปแล้ว สือเล่อจึงสั่งให้กองทัพยกไปตีเมืองอื่นๆ ของฮั่นจ้าว ปรากฏว่าฝ่ายฮั่นจ้าวนั้นดำเนินการตั้งรับผิดพลาด ด้วยการทิ้งเมืองฉางอาน อันเป็นเมืองหลวงที่มีชัยภูมิอันดี แล้วหนีไปตั้งตนที่มณฑลกานซู ซึ่งนอกจากจะกันดารแล้วยังมีผู้คนน้อยนิด

ท้ายที่สุดฮั่นจ้าวจึงต้องทุ่มกำลังที่เหลืออยู่เพื่อตีเมืองฉางอานที่ตนเองทิ้งไปกลับคืน ซึ่งก็แน่นอนว่าไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะถูกสือหู่ตีแตกยับเยิน สือหู่นั้นได้กวาดล้างอาณาจักรส่วนที่เหลือของฮั่นจ้าวจนหมดสิ้น และปิดฉากราชวงศ์ของชาวซงหนูที่เคยปกครองภาคเหนือของจีนไปอย่างถาวร

ชัยชนะเหนือฮั่นจ้าวทำให้ภาคเหนือและภาคกลางของจีนเกือบทั้งหมดอยู่ในกำมือของสือเล่อ เมื่อเห็นฐานอำนาจของตนมั่นคงแล้ว เขาจึงตั้งตัวเป็นเทียนหวาง และอีกไม่นานก็ตั้งตัวขึ้นเป็นฮ่องเต้ตามขนบธรรมเนียมจีน สือเล่อจึงเป็นฮ่องเต้คนเดียวในหน้าประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นทาสมาก่อนครับ

ราชวงศ์ที่สือเล่อสถาปนาขึ้นนั้นมีนามว่าโฮ้วจ้าว (หรือจ้าวหลัง) ซึ่งถ้าใครที่อ่านประวัติศาสตร์จีน น่าจะทราบดีว่าราชวงศ์ที่มีคำว่าโฮ้วนั้นมักจะเป็นราชวงศ์สั้นๆ ซึ่งในเคสนี้ก็ไม่ได้ต่างกันครับ ในตอนหน้าเรามาดูกันดีกว่า สือเล่อและราชวงศ์ของเขาจะมีจุดจบอย่างไรครับ

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!