ประวัติศาสตร์สือเล่อ ตอนที่ 2: กลลวงกำจัดศัตรูทางการเมือง

สือเล่อ ตอนที่ 2: กลลวงกำจัดศัตรูทางการเมือง

จากตอนที่แล้ว สือเล่อมีชัยครั้งใหญ่เหนือกองทัพจิ้น ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วแผ่นดิน ส่วนหนึ่งเพราะความโหดเหี้ยม อีกส่วนหนึ่งก็เพราะความเก่งกาจในการทำศึก หลังจากนั้นไม่นานสือเล่อก็ได้รับคำสั่งให้รวมทัพเข้ากับแม่ทัพฮั่นจ้าวคนอื่นๆ บุกเมืองลั่วหยาง เมืองหลวงของราชวงศ์จิ้น

ในเวลานั้นลั่วหยางปราศจากกำลังทหาร เพราะสือเล่อกวาดล้างไปหมดสิ้นแล้วก่อนหน้านี้ กองทัพฮั่นจ้าวจึงเข้าเมืองได้โดยง่าย และจับจิ้นไหวตี้สำเร็จโทษหลังจากนั้นไม่นาน ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางของจีนส่วนใหญ่อยู่ในกำมือของฮั่นจ้าว

ได้ฐานที่มั่น

ปี ค.ศ.312 สือเล่อได้รับคำสั่งให้ยกทัพลงใต้เพื่อตีราชวงศ์จิ้นที่หนีไปตั้งเมืองหลวงใหม่ที่เมืองเจี้ยนคัง (นานกิง) ในปัจจุบัน คราวนี้สือเล่อกลับวางแผนผิดพลาด ทำให้กองทัพของเขาไม่อาจรุกต่อไปได้ เพราะฝนตกหนัก และน่าจะเริ่มขาดเสบียง สือเล่อไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีจึงเรียกเหล่าที่ปรึกษามาพบ

เตียวยิงที่ปรึกษาคนแรกเสนอให้สือเล่อยอมจำนนต่อราชวงศ์จิ้น แต่จางบิน ที่ปรึกษาอีกคนหนึ่งไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าสือเล่อได้ทำลายกองทัพจิ้นจนยับเยิน ถ้าไปยอมจำนนคงไม่แคล้วถูกประหารชีวิต ทางที่ดีสือเล่อควรเร่งถอยทัพไปก่อน กองทัพจิ้นน่าจะไม่กล้าติดตามเพราะครั่นคร้ามในฝีมือ หลังจากนั้นก็ไปยึดเมืองชัยภูมิดีสักแห่งหนึ่งเพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นเตรียมตั้งตัวเป็นใหญ่จากฮั่นจ้าว

สือเล่อนั้นเชื่อในคำแนะนำของจางบิน ดังนั้นจึงไปรีบถอยไปและไปยึดเมืองเซียงกั๋วเป็นฐานที่มั่นของตน หลังจากนั้นสือเล่อก็สะสมไพร่พลเพื่อวางแผนปลดแอกตนเองจากฮั่นจ้าวในเวลาที่เหมาะสม เมื่อมีจังหวะก็ยกไปตีหัวเมืองจิ้น และผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฮั่นจ้าว แม้ว่าสือเล่อทำทุกอย่างในนามฮั่นจ้าว แต่การปกครองเมืองใหม่นั้นทุกอย่างทำด้วยตนเองหมด โดยไม่ได้ขออนุญาตราชสำนักแต่อย่างใด

สาเหตุที่สือเล่อใจกล้าเช่นนั้นก็เพราะเห็นว่าหลิวฉง ฮ่องเต้ฮั่นจ้าวนั้นคงจะอยู่ได้ไม่นาน จริงอยู่ว่าหลิวฉงเป็นคนฉลาด แต่ก็เหี้ยมโหดและขาดปณิธานอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับความสุขทางกามารมณ์ที่ทำลายตนเองและแว่นแคว้นอยู่ทุกวัน

ปะทะกับหวางจวิ้น

บุคคลที่สือเล่อมองว่าเป็นคู่ปรับคนสำคัญของตนก็คือหวางจวิ้น แม่ทัพจิ้นเพียงไม่กี่คนที่ไม่ได้หนีศึกลงใต้ แต่ยังป้องกันที่มั่นของตนอย่างแข็งแกร่ง หวางจวิ้นผู้นี้นั้นเคยปะทะกับสือเล่อมาแล้วหลายครั้ง และแทบทุกครั้งจบลงด้วยความปราชัยของสือเล่อ

ในปี ค.ศ.313 หวางจวิ้นนัดแนะกับชาวเซียนเปยบุกตีเมืองเซียงกั๋ว ฐานที่มั่นของสือเล่อ ทำให้สถานการณ์ของสือเล่อไม่ดีนัก แต่สือเล่อกลับใช้การซุ่มโจมตี ทำให้กองทัพเซียนเปยส่วนหนึ่งแตกกระเจิง และจับลูกพี่ลูกน้องของหัวหน้าเผ่าได้ เหล่าแม่ทัพของสือเล่อต่างต้องการจะจับตัวมาประหารชีวิต แต่สือเล่อกลับแสดงความเมตตา และปล่อยตัวเขาไปโดยดี พวกเซียนเปยที่เหลืออยู่สำนึกในบุญคุณของสือเล่อ และยกทัพกลับไป เมื่อปราศจากกองทัพเซียนเปย หวางจวิ้นก็อยู่ไม่ได้ นอกจากต้องถอนกำลังไปเช่นกัน

แม้ว่าจะไม่ได้ชัยชนะ แต่เมื่อได้ข่าวว่าจิ้นไหวตี้ถูกประหารชีวิตไปแล้ว หวางจวิ้นก็มักใหญ่ใฝ่สูงอยากที่จะนั่งบัลลังก์ เหล่าที่ปรึกษาล้วนแต่คัดค้านอย่างแข็งขัน แต่นอกจากหวางจวิ้นจะไม่ฟังแล้วยังจับที่ปรึกษาสังหารเสียหมด ทำให้ตัวเขาเองขาดที่ปรึกษาและขุนพลที่ดีในการทำการศึก

ฝ่ายจางบิน ที่ปรึกษาของสือเล่อนั้นเห็นเป็นโอกาสในการทำลายหวางจวิ้น เขาจึงเสนอให้สือเล่อแสร้งทำเป็นอ่อนน้อมต่อหวางจวิ้น และทำทีเสนอว่าให้หวางจวิ้นตั้งตัวเป็นฮ่องเต้ ปรากฏว่าหวางจวิ้นตอบรับด้วยความยินดียิ่ง และให้สือเล่อนำบรรณาการเข้ามาที่เมืองหลวงของตนได้

สือเล่อนั้นเห็นหวางจวิ้นหลงกล เขาจึงเตรียมกองทัพใหญ่ในรูปแบบของกองบรรณาการ และเดินทัพเข้ามาในดินแดนของหวางจวิ้น ซึ่งปราศจากการต่อต้าน เหล่าที่ปรึกษาและขุนพลของหวางจวิ้นเห็นว่าสือเล่อทำตัวไม่ชอบมาพากลจึงเสนอให้ส่งทหารไปบดขยี้สือเล่อเสียก่อนที่จะเดินทางเข้ามา แต่หวางจวิ้นที่เย่อหยิ่งกลับปฏิเสธ กองบรรณาการปลอมๆ ของสือเล่อจึงมาถึงเมืองจี้ เมืองหลวงของหวางจวิ้น

หวางจวิ้นจึงเปิดประตูเมืองให้กองทัพของสือเล่อเข้ามาได้ ฝ่ายสือเล่อนั้นจึงปล่อยแกะและแพะจำนวนมหาศาลเข้าไปหน้าประตูเมือง พร้อมๆ กับส่งกำลังทหารเข้าเมืองไปอีกด้านหนึ่ง หลังจากนั้นก็เปิดฉากฆ่าฟันทหารของหวางจวิ้นที่ไม่ได้ทันตั้งตัว อันที่จริงแล้วแกะและแพะนั้นถูกสือเล่อปล่อยเข้าไปเพื่อก่อความวุ่นวาย และชะลอการหลบหนีของหวางจวิ้น ซึ่งก็ได้ผล เพราะหวางจวิ้นหลบหนีไม่ทัน และถูกสือเล่อจับกุมได้สำเร็จ

ท้ายที่สุดหวางจวิ้นถูกนำตัวไปประหารชีวิตที่เมืองเซียงกั๋ว เป็นอันปิดฉากแม่ทัพราชวงศ์จิ้นที่เป็นคู่ปรับสำคัญของสือเล่อ ว่ากันว่าตอนที่หวางจวิ้นจะตายนั้น เขาด่าสือเล่อจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่เพชฌฆาตลงดาบที่ศีรษะของเขาเลยทีเดียว

เผชิญหน้ากับจิ้นจุ่น

การพิชิตหวางจวิ้นได้นั้นถือเป็นความชอบอันยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของสือเล่อ หลิวฉงจึงมีพระบรมราชโองการมอบดินแดนที่สือเล่อตีได้เป็นของเขาอย่างทางการ ฐานกำลังของสือเล่อจึงเหมือนเสือติดปีก และมีศักยภาพที่จะตั้งตนเป็นใหญ่ได้อย่างไม่มีผู้ใดขัดขวาง

ในปี ค.ศ.318 หลิวฉงสวรรคต ทำให้ราชสำนักฮั่นจ้าววุ่นวายอย่างหนัก เพราะฮ่องเต้พระองค์ใหม่และเหล่าเชื้อพระวงศ์ฮั่นจ้าวนั้นถูกจิ้นจุ่น พ่อตาของฮ่องเต้สังหารเรียบจนเกือบหมดวงศ์ หลังจากนั้นจิ้นจุ่นกลับส่งสาส์นไปอ่อนน้อมต่อราชวงศ์จิ้น โดยแสดงความปรารถนาจะไปอยู่ใต้ราชวงศ์จิ้นเช่นเดิม

เหตุการณ์นี้นั้นไม่เป็นคุณกับสือเล่อ เพราะเขาทราบดีว่าราชสำนักจิ้นเกลียดชังเขาเข้ากระดูกดำ ดังนั้นสือเล่อจึงนำกองทัพขนาดใหญ่ของตนยังไปยังลั่วหยางทันที โดยร่วมมือกับหลิวเย่า เชื้อพระวงศ์ที่รอดตายเพราะถูกส่งไปครองเมืองฉางอานในเวลานั้น

ด้วยเหตุนี้จิ้นจุ่นจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาพยายามจะสงบศึกกับสือเล่อด้วยการส่งของกำนัลมาให้จำนวนมาก แต่สือเล่อกลับปฏิเสธและส่งของทั้งหมดไปให้หลิวเย่า ระหว่างที่จะตรึกตรองว่าทำอย่างไรต่อไปดี ทจิ้นจุ่นกลับถูกลอบสังหารโดยลูกพี่ลูกน้องของตนเอง และตระกูลจิ้นก็ถูกหลิวเย่ากวาดล้างจนหมดสิ้นวงศ์

เมื่อเข้าเมืองหลวงได้สำเร็จ หลิวเย่าจึงสถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้ ส่วนสือเล่อที่มีความดีความชอบ (อีกแล้ว) ก็ได้เป็นจ้าวหวาง ผู้เรืองอำนาจที่สุดในแผ่นดินฮั่นจ้าว ณ เวลานั้น

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!