รีวิวอาหารบุฟเฟต์รีวิวร้าน Seoul Light Korea BBQ นราธิวาสฯ คุ้มค่าราคา 299

รีวิวร้าน Seoul Light Korea BBQ นราธิวาสฯ คุ้มค่าราคา 299

สวัสดีครับทุกท่าน ผมห่างหายจากการรีวิวร้านเนื้อย่างอยู่นานพอสมควรเลย รู้สึกคิดถึงเหมือนกัน 555 วันนี้ร้านที่จะรีวิวคือ ร้าน Seoul Light Korea BBQ (โซลไลท์ โคเรีย บีบีคิว) ร้านนี้อยู่ที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ครับ

พิกัดอยู่ตามด้านล่างเลย

เวลามานี่ถ้ามาจากพระราม 3 จะซับซ้อนหน่อยๆ เพราะเลี้ยวขวามาแล้วต้องชิดซ้ายเลยครับ ร้านอยู่ตรงหัวถนนพอดี ถ้าเหยียบเพลินนี่เลยร้านไปแน่ๆ

นี่เป็นบริเวณหน้าร้านครับ มีที่จอดรถ 4-5 คัน

ส่วนนี่คือภายในร้านครับ ผมชอบบรรยากาศของร้านเค้านะ ผมว่ามันดูกว้างขวางดีไม่อึดอัด

ส่วนด้านล่างนี่เป็นเมนูครับ หลายท่านอ่านจากรีวิวอื่นมาจะเห็นว่ามีแบบ 439+ ด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้วนะครับ มีแค่ 299+ (+ เซอร์วิสชาร์จ 10%)

เมนูมีแค่นี้ครับ หน้าเดียวเท่านี้แหละ เมนูมีแค่หมูกับไก่ หมูก็มีหมูสามชั้น ซี่โครงหมู สันคอหมู หมักด้วยซอสที่แตกต่างกัน ส่วนไก่ก็หมักกับอีก 2 ซอสเท่านั้นครับ อย่างไรก็ตาม จุดเด่นคือเนื้อหมูร้านนี้คือเป็นเนื้อหมูผ่านการ dry-aged มาเป็นเวลา 15 วันครับ ไม่ใช่ว่าหมักซอสธรรมดาๆแบบทั่วไป

นี่เป็นเตาของเราครับ เป็นเตาไฟฟ้า

ระหว่างที่รอพนักงานมาเปิดเตาให้ ผมก็ไปสำรวจไลน์เครื่องเคียงต่างๆ ครับ มีหลายอย่างเลยให้ตักเอาเอง

ตัวเครื่องเคียง โดยรวมผมว่ารสชาติเฉยๆ นะ ตัวกิมจิผมว่าเค็มไปหน่อยนึง ไม่รู้สึกกินแล้วชอบเหมือนที่ Nara

อันนี้เป็นไลน์สลัด กับน้ำจิ้มให้ตักครับ ตัวไลน์นี่ผมว่าสะอาดดี

ซูมเข้าไปอีกนิดตรงไลน์สลัด เห็นว่าเป็นของโฮมเมดทั้งหมด

ตัวผักนี่คุณภาพใช้ได้นะ แม่ผมชอบมะกอกของที่นี่มากเห็นว่าอร่อยดี

ถาดมามาซูมกันใกล้ๆ กับน้ำจิ้ม หลักๆ มีซอสมัสตาร์ดเผ็ดหวาน โกชูจัง ซอสดั้งเดิมเกาหลี และน้ำจิ้มเนื้อทั่วไป

ส่วนนี่เป็นของกินเล่น นี่คือขนมจีบกุ้งครับ ส่วนข้างๆ คือพริกกับผักสดๆ

ผมจัดการเอาน้ำจิ้มกับขนมจีบมาก่อน ที่เหลือค่อยว่ากัน

สรุปคือขนมจีบไม่ผ่านเลยครับ เป็นแบบแช่แข็งของสักยี่ห้อหนึ่งในท้องตลาดนี่แหละ แถมยังไม่ร้อนด้วย ไม่แนะนำให้กินครับ

ส่วนน้ำจิ้มนี่ขอรีวิวไปเลยว่าเฉยๆ เหมือนกัน มันช่วยชูรสชาติหมูและไก่ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้รู้สึกประทับใจมากเหมือนกับของ max beef

ส่วนนี่เครื่องดื่มเป็นชาเขียว รวมอยู่ในบุฟเฟต์แล้วครับ

ส่วนนี่เป็นผักสดและกิมจิสดดีเช่นเดียวกัน พริกกรอบมากๆ

ส่วนเนื้อนี่ทางร้านจัดให้มารวมกันแบบนี้เลย ผมไม่รู้เลยว่าอันไหนเป็นอันไหน

เริ่มนำเนื้อลงไปตามลำดับ ที่เห็นน่าจะเป็นหมู dry-aged

ผมว่าตัวที่ dry-aged มานี่อร่อยทุกส่วนไม่ว่าจะเป็นหมูสามชั้น หรือสันคอหมู เนื้อหมูมีรสชาติกลมกล่อมและไม่มีความเหนียวเลย

แล้วก็กินติดต่อกันไปเรื่อยๆ เนื้อแผ่นใหญ่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีกรรไกรช่วยตัด

ตัวไก่นี่มีให้สั่งสองซอสได้แก่ หมักซอสซีอิ้ว หรือหมักซอสแดงแบบเกาหลี

โดยส่วนตัวคิดว่ารสชาติเฉยๆ ทั้งคู่ ไม่ได้รู้สึกว้าว แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกัน ผมชอบแบบซอสแดงมากกว่า ถึงกระนั้นเรื่องนุ่มนี่ ร้านนี้ไว้ใจได้เลย เพราะว่านุ่มจริงๆ ทั้งหมูและไก่

สรุปคือทำไปทำมาชอบเนื้อหมู dry-aged ที่สุด สั่งไปสั่งมาหลายรอบเลยครับ อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยครับ มันอร่อยในตัวของมันเองอยู่แล้ว

ข้าวสวยรวมอยู่ในบุฟเฟต์แล้วครับ เป็นข้าวแบบเกาหลี ร้อนและอร่อยดี

ซุปของร้านนี้เป็นซุปเต้าหู้แบบเกาหลี รสชาติใช้ได้ มีข้อดีคือมาแบบร้อนมาก ส่วนเต้าหู้นิ่มดี ความเผ็ดอยู่ระดับกลางๆ มีประโยชน์มากในการตัดเลี่ยน

ถัดมาเป็นเมนูทานเล่น เมนูนี้คือ ปลาหมึกทอดกับเฟรนช์ฟรายส์

ตัวเฟรนช์ฟรายส์ไม่กรอบไม่ร้อน ส่วนปลาหมึกทอดนี่เหมือนสาหร่ายห่อไส้ปลาหมึกทอดมากกว่า รสชาติเฉยๆ พอกินได้

ต่อมาเป็นพิซซ่าซีฟู้ด จานนี้บอกเลยว่าไม่หวังอะไรเท่าไรนัก

แต่เอาเข้าจริง มันกลับร้อน กรอบพอสมควร โดยส่วนตัวผมชอบนะ ผมว่าอร่อยดี

ถัดมาก็เป็นพิซซ่ากิมจิ

จานนี้ไม่ได้หวังอะไรมากเหมือนเดิม แต่มันกลับอร่อย อันนี้ต้องยอมรับว่าทำมาได้ดี เพราะไม่มีความเปรี้ยวเกินขนาดโดดออกมาเลย แป้งอะไรก็อร่อยดี

ท้ายสุด ของหวานของร้านนี้เป็นแตงโมนะครับ แต่ไม่ได้กินเลยไม่ได้ถ่ายมา

ส่วนการบริการถือว่าเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาอะไรครับ พนักงานบริการดี เปลี่ยนเตาให้แบบราบรื่นบริบูรณ์

โดยรวมแล้ว ถ้าชอบกินหมูและไก่นี่แนะนำเลยครับ หมู dry-aged ของร้านนี้อร่อยจริงๆ ส่วนราคานี่ก็สบายกระเป๋ามากๆ ตัวร้านก็สะอาดดีด้วย ร้าน Seoul Light Korea BBQ ถือว่าเป็นร้านที่คุ้มค่าร้านหนึ่งเลยครับสำหรับสายกิน

ดูรายชื่อและรีวิวร้านอาหารน่าลองในกรุงเทพและปริมณฑลได้ ที่นี่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!