ท่องเที่ยว10 สถานที่น่าไปในริโอเดจาเนโร (Rio De Janeiro) เมืองสุดสวยแห่งบราซิล

10 สถานที่น่าไปในริโอเดจาเนโร (Rio De Janeiro) เมืองสุดสวยแห่งบราซิล

Rio De Janeiro หรือ ริโอเดจาเนโร (เรียกสั้นๆว่า Rio) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับสองของบราซิล คนไทยน่าจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของเมืองนี้มาบ้างจากความยิ่งใหญ่ของเทศกาลคาร์นิวัล (Carnival) ความสวยงามของธรรมชาติและอนุสาวรีย์ Christ the Redeemer รวมไปถึงความรุนแรงภายในเมือง

อย่างไรก็ดีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายๆ ภายในเมืองริโอเดจาเนโรแต่อย่างใด โดยเฉพาะถ้าคุณระมัดระวังตัวเองดีพอ และไม่นำตัวเองไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงๆ ในช่วงเวลากลางคืน

ในโพสนี้ ผมขอแนะนำเมืองริโอเดจาเนโรให้ทุกคนได้รู้จักอย่างคร่าวๆ ก่อน และตามมาด้วยสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเป็นลำดับถัดไปครับ

Rio de Janeiro Image by Poswiecie from Pixabay

รู้จักริโอเดจาเนโร (Rio de Janeiro)

เมืองริโอเดจาเนโร (Rio De Janeiro) เป็นเมืองหลวงของรัฐที่มีชื่อเดียวกันของประเทศบราซิล ตัวเมืองเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเรื่องการท่องเที่ยว เพราะตัวเมืองเป็นหนึ่งในเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในซีกโลกใต้ด้วย

ความเป็นมาของเมืองนี้ย้อนไปได้ถึงสมัยศตวรรษที่ 16 นักสำรวจชาวโปรตุเกสได้เดินทางมาที่นี่และสร้างเมืองขึ้นที่ปากอ่าวแห่งนี้ในปี ค.ศ.1565 โดยตั้งชื่อเมืองอันแสนยืดยาวว่า São Sebastião do Rio de Janeiro

เมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองเล็กๆ จนกระทั่งในปลายสมัยศตวรรษที่ 17 ได้มีการค้นพบทองคำและเพชรในดินแดน Minas Gerais ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าทึบ เหล่าพ่อค้าและนักสำรวจชาวโปรตุเกสจึงขนถ่ายทองคำกลับโปรตุเกสโดยผ่านตัวเมืองที่ปากอ่าว ทำให้ตัวเมืองมั่งคั่งตามไปด้วย เพราะได้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญ

Botafago Bay ในปี ค.ศ.1889

ความมั่งคั่งของเมืองได้ทำให้รัฐบาลอาณานิคมย้ายเมืองหลวงมาตั้งอยู่ที่นี่ แต่ในศตวรรษที่ 19 กลับมีเหตุการณ์น่าเหลือเชื่อขึ้น เมื่อกษัตริย์โปรตุเกส หรือเจ้าอาณานิคมได้หนีการรุกรานของนโปเลียนมาตั้งเมืองหลวงของอาณาจักรขึ้นที่ดินแดนบราซิล ซึ่งเป็นอาณานิคม นับตั้งแต่บัดนั้น ริโอเดจาเนโรจึงกลายเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโปรตุเกสไปด้วย

ในปี ค.ศ.1821 กษัตริย์จอห์นที่ 6 แห่งโปรตุเกสได้เดินทางกลับโปรตุเกส และทิ้งบราซิลให้อยู่ในการปกครองของโอรสอย่างเจ้าชายเปโดร ความวุ่นวายทางการเมืองในเวลาต่อมาได้ทำให้เจ้าชายเปโดรประกาศว่าบราซิลเป็นประเทศเอกราช ไม่ขึ้นกับโปรตุเกสอีกต่อไป และตั้งให้ริโอเดจาเนโรเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิบราซิล

Rio de Janeiro ในปี ค.ศ.1910

ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หรือสมัยสาธารณรัฐเป็นช่วงที่ริโอเดอจาเนโรได้รับการปรับปรุงโครงสร้าง เพราะตัวเมืองเต็มไปด้วยสลัมและเชื้อโรค การปฏิรูปช่วยให้ตัวเมืองสะอาดและมีเชื้อโรคน้อยลง แต่สลัมก็ยังคงอยู่ตามเดิม เพียงแต่ย้ายที่ไปอยู่ที่จุดใหม่เท่านั้น

เมืองริโอเดจาเนโรยังคงสถานะเมืองหลวงของบราซิลมาจนถึงปี ค.ศ.1960 รัฐบาลบราซิลจึงได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองบราซิเลีย (Brasilia) แต่ตัวเมืองแห่งนี้ก็ยังคงเจริญต่อไป ในปัจจุบันมีผู้อยู่อาศัยในเขตเมืองมากถึง 12.2 ล้านคนเลยทีเดียวครับ

ถัดไปเราไปดูกันดีกว่า เมืองนี้มีที่ไหนน่าไปเยือนบ้าง

การเดินทางไปยังริโอเดจาเนโร

ริโอเดจาเนโรเป็นเมืองที่ผมต้องเอ่ยว่าไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก แต่ไม่ใช่ว่าถึงขนาดที่ไปเที่ยวไม่ได้เลย ผมแนะนำให้ทุกคนอ่านคู่มือเรื่องความปลอดภัยก่อนที่คุณจะเดินทางไป เพื่อที่คุณจะได้แต่ประสบการณ์ที่ดีจากเมืองแห่งนี้ครับ

ในการเดินจากกรุงเทพไปยังริโอเดจาเนโร คุณจะต้องแวะเปลี่ยนเครื่องอย่างน้อย 1 ครั้ง นั่นคือที่ตะวันออกกลางหรือว่ายุโรป อย่างไรก็ดีผมพบว่าถ้าคุณเลือกเปลี่ยนเครื่อง 2 ครั้ง ราคาตั๋วเครื่องบินอาจจะถูกกว่าถึง 30,000 บาทเลยทีเดียว สายการบินที่น่าสนใจได้แก่

  • Emirates (เปลี่ยนเครื่องครั้งเดียว)
  • Qatar Airways
  • Air France
  • KLM
  • Swiss Air

1. Christ the Redeemer

Christ the Redeemer เป็นอนุสาวรีย์/รูปปั้นพระเยซูที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา Corcovado ตัวอนุสาวรีย์เป็นสัญลักษณ์ของทั้งเมืองริโอเดจาเนโรและประเทศบราซิล

Christ the Redeemer By Gustavo Facci from Argentina, CC BY-SA 2.0,

อนุสาวรีย์ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1931 ด้วยเงินบริจาคของชาวบราซิลที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ตัวฐานของอนุสาวรีย์มีโบสถ์เล็กๆ ตั้งอยู่ ชาวบราซิลมักจะเดินทางมาแต่งงานหรือทำพิธีศีลจุ่มกันที่นี่ครับ

คุณสามารถขึ้นไปชมตัวอนุสาวรีย์ได้โดยนั่งรถไฟขึ้นไปครับ เมื่อคุณอยู่ด้านบนแล้ว คุณจะเห็นตัวเมืองได้อย่างรายรอบเลยครับ

วิวมุมสูงของ Rio de janeiro By Mariordo (Mario Roberto Durán Ortiz), CC BY 3.0,

2. Sugarloaf Mountain

Sugarloaf Mountain เป็นภูเขาบริเวณปากอ่าวของเมือง Rio de Janeiro ที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ ภูเขาแห่งนี้จึงสัญลักษณ์ของเมือง และสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ

Sugarloaf Mountain Image by Jose Guertzenstein from Pixabay

วิวทิวทัศน์บนภูเขานั้นสวยงดงามมาก เพราะจะเป็นทั้งหาดและปากอ่าวของเมืองโดยรอบ และเกาะแก่งต่างๆ ของอีกด้วย ทั้งนี้คุณสามารถขึ้นไปได้ด้วยการนั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปครับ

ด้านบนของภูเขามีสิ่งน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ ป้อมปราการรูปดาวชื่อ Fort São João ตั้งอยู่ ตัวป้อมปราการมีอายุอย่างน้อย 400 ปี ย้อนไปถึงสมัยอาณานิคมเลยครับ

3. Ipanema

Ipanema เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในเรื่องความสวยงาม นอกจากความอลังการของธรรมชาติแล้ว คุณจะยังได้สัมผัสวัฒนธรรมของชาวบราซิลด้วย เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของตลาดและพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ไม่เพียงเท่านั้นงานสำคัญๆ ของเมืองยังถูกจัดขึ้นที่นี่บ่อยครั้ง บางครั้งจะมีแสดงดนตรี ประเพณีพื้นบ้าน และมีขายอาหารบราซิลแบบต้นตำรับด้วยครับ

Ipanema Beach By Mike Vondran, Flickr, CC By 2.0

4. Copacabana

Copacabana เป็นหาดทรายสีขาวสุดสวยยาวถึง 4 กิโลเมตร และครอบคลุมพื้นที่ด้านหนึ่งทั้งหมดของตัวเมือง Rio de Janeiro หาดทรายแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าสวยงามระดับโลก ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน Countdown หลักของบราซิล

Copacabana Beach By bisonlux – Flickr, CC BY 2.0

บริเวณชายหาดมีทางเดินที่มีชื่อเสียงนามว่า Copacabana promenade ตัวถนนถูกสร้างโดยใช้ลวดลายเป็นคลื่นและใช้สีดำและขาวครับ ทางเดินนี้จะเลียบชายหาดไปทั้งหมด 4 กิโลเมตร ทำให้คุณสามารถเดินชมวิวได้อย่างสบายๆ ครับ

Copacabana Promenade By Mteixeira62 , CC BY-SA 3.0,

ห่างออกไปจากตัวหาดจะมีอาคารเก่าแก่สมัยอาณานิคมอยู่หลายแห่ง เช่นเดียวกับร้านอาหาร คาเฟ่ ผับและบาร์ต่างๆ ถ้าอยากสัมผัสกับชีวิตตอนกลางคืนแบบบราซิล การมาเที่ยวที่นี่ก็เป็นทางเลือกที่สนใจครับ

Copacabana Beach ในช่วงปีใหม่ By Porto Bay Hotels & Resorts, CC BY 2.0,

5. Maracana Stadium

สำหรับสนามฟุตบอลในประเทศที่คลั่งไคล้กีฬาฟุตบอลอย่างบราซิลแล้ว ไม่มีสนามใดจะใหญ่และทรงเกียรติไปกว่า Maracana Stadium ใจกลางเมือง Rio de Janeiro

Maracana Stadium Image by Jose Guertzenstein from Pixabay

ในอดีตสนามแห่งนี้เคยจุแฟนบอลได้มากถึง 200,000 คน แต่การปรับปรุงใหม่ได้ทำให้เหลือที่นั่งเพียงประมาณ 78,000 ที่เท่านั้น สนามนี้จะใช้แข่งแมตช์สำคัญๆ ในวงการฟุตบอลบราซิล รวมไปถึงฟุตบอลโลกที่จัดที่บราซิลอย่างในปี ค.ศ.2014 ด้วย แต่ในปีนั้นทีมชาติบราซิลไม่ได้เล่นที่สนามแห่งนี้เลยสักครั้งเดียว เพราะโดนทีมชาติเยอรมันถลุงไป 1-7 ที่สนามอื่นครับ

ผมบอกเลยจะหาสนามไหนยิ่งใหญ่กว่าสนามนี้บอกเลยว่ายาก ถ้าคุณชอบกีฬาฟุตบอล คุณควรเข้าสัมผัสบรรยากาศตอนมีการแข่งขันสักครั้งหนึ่งครับ

6. Churches

ภายในเมือง Rio de Janeiro มีโบสถ์ที่สวยงามอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ละแห่งมีอายุย้อนไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 17-19 และยังมีสภาพที่สมบูรณ์มากครับ

โบสถ์ที่น่าสนใจแห่งแรกคือ Nossa Senhora do Carmo (Old Cathedral of Rio de Janeiro) โบสถ์ที่เคยเป็นโบสถ์หลวงเมื่อครั้งที่บราซิลเป็นจักรวรรดิ ตัวโบสถ์ถูกสร้างขึ้นอย่างอลังการด้วยสไตล์ Baroque ในอดีตกษัตริย์โปรตุเกสที่ปกครองบราซิลยังได้มาทำพิธีราชาภิเษกที่นี่อีกด้วย

Nossa Senhora do Carmo By Sailko, CC BY 3.0,

ปัจจุบันที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของเมืองและประเทศบราซิลครับ

โบสถ์แห่งที่สองที่คุณไม่ควรพลาดคือ São Bento Monastery อารามในคริสตจักรที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากปากอ่าวนัก ตัวโบสถ์มีอายุประมาณ 400 ปี และสร้างขึ้นด้วยสไตล์ Mannerist แห่งยุค Renaissance ครับ

São Bento Monastery By Patricia Figueira, CC BY-SA 2.0,

ด้านในถูกตบแต่งอย่างอลังการด้วยภาพเขียนและประติมากรรมโดยจิตรกรระดับปรมาจารย์หลายคน อาทิเช่น Domingos da Conceição และ Ricardo do Pilar พระสองรูปที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดฝีมือของบราซิลในช่วงเวลานั้นเลยครับ

โบสถ์แห่งสุดท้ายที่น่าสนใจคือ Sao Francisco da Penitencia Church ตัวโบสถ์เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1657 และใช้เวลามากกว่า 100 ปีกว่าจะเสร็จสิ้น ตัวโบสถ์สร้างขึ้นโดยใช้ศิลปะแบบ Portuguese Baroque ทำให้ด้านในมีความหรูหราและเปล่งปลั่งไปด้วยทองคำอันละลานตา ความสวยงามของที่นี่ไม่แพ้โบสถ์ดังๆในยุโรปเลยครับ

7. Quinta da Boa Vista

Quinta da Boa Vista เป็นสวนขนาดใหญ่กลางเมือง Rio de Janeiro ศูนย์กลางของส่วนแห่งนี้คือ Paço de São Cristóvão พระราชวังเก่าที่เคยเป็นที่พำนักของจักรพรรดิแห่งบราซิล แต่ในปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของบราซิลไปแล้ว

Paço de São Cristóvão ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของบราซิล By Fortes Photography, CC BY-SA 4.0,

ภายในพิพิธภัณฑ์มีสิ่งของจัดแสดงน่าชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบราณวัตถุ หรือซากฟอสซิลของพืชและสัตว์ที่พบในดินแดนบราซิลครับ

ภายในสวนสาธารณะ By Dornicke, CC BY-SA 4.0,

นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว คุณยังสามารถไปเดินชมสวนสัตว์ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ได้ เช่นเดียวการเดินเล่นบนทางเดินริมทะเลสาบที่มีต้นไม้อันร่มรื่นครับ

8. Escadaria Selarón

Escadaria Selarón เป็นบันไดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Rio de Janeiro ด้วย ตัวบันไดเป็นผลงานของ Jorge Selaron ช่างเซรามิกชื่อดังชาวชิลี

Escadaria Selarón By lawtonjm, flickr, CC by ND 2.0

บันไดแห่งนี้มีสีสันฉูดฉาดและประดับประดาไปด้วยโมเสกแบบสมัยใหม่ ซึ่งดูแปลกตาและสวยไปในเวลาเดียว ภาพยนตร์หลายเรื่องต่างเคยใช้ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำมาแล้วครับ

9. ที่เที่ยวอื่นๆ ใน Rio de Janeiro

นอกเหนือจากสถานที่ที่ผมแนะนำไปแล้ว Rio de Janeiro ยังมีที่เที่ยวอันน่าสนใจหลายแห่ง อาทิเช่น

  • Jardim Botânico – สวนพฤษภศาสตร์ขนาดใหญ่ที่มีโดม Orchidarium ที่มีกล้วยไม้มากกว่า 2,000 สปีชีส์ และยังมีต้นไม้และดอกไม้อื่นๆ ที่สวยงามอีกเป็นจำนวนมาก
  • Favela – ย่านสลัมของเมือง Rio de Janeiro ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คุณเดินทางไปเข้าชมและสัมผัสบรรยากาศได้ แต่ต้องไปกับทัวร์พิเศษเท่านั้น ห้ามไปเองเด็ดขาด เพราะว่าอันตรายมาก
  • Catedral de São Sebastião – มหาวิหารที่เพิ่งสร้างในช่วงปี ค.ศ.1970 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากวิหารของชาวมายาโบราณ
  • Tijuca Forest – ป่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง ถ้าคุณมาเยือนที่นี่จะได้ชมทั้งสัตว์ และวิวมุมสูงของหาด Copacabana และ Ipanema ครับ
  • Teatro Municipal – โรงละครขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโรงละครที่กรุงปารีส

ส่งท้าย

[sc name=”travelthai” ][/sc]
Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

สถานที่ท่องเที่ยว

โรงแรมที่พัก

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!