รีวิวรีวิวทำใบขับขี่ที่ขนส่งทางบก จตุจักร (แบบมีใบรับรองมาแล้ว) ปี 62

รีวิวทำใบขับขี่ที่ขนส่งทางบก จตุจักร (แบบมีใบรับรองมาแล้ว) ปี 62

ข้อควรทราบ: รีวิวนี้อาจจะไม่ตรงอีกต่อไป เพราะสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นในปี 63 โปรดตรวจสอบกับกรมขนส่งทางบกโดยตรงเพื่อความชัดเจนครับ

เนื่องจากผมเพิ่งได้ไปทำใบขับขี่มาแบบสดๆ ร้อนๆ เลย ครับที่กรมขนส่งทางบก จตุจักร มาดูกันครับว่ามีการทำอย่างไรบ้าง

สำหรับโพสนี้ เพราะผมไม่ค่อยมั่นใจว่าถ่ายรูปตัวสถานที่ราชการได้หรือไม่ ผมเลยไม่ได้ถ่ายมาเลยครับ ซึ่งจริงๆ ผมว่าถ้าไม่มีรูป ก็ไม่น่าจะยากอยู่ดีครับ

สำหรับเคสผมคือ ผมสอบผ่านมาแล้วจากโรงเรียน เพราะฉะนั้นนี่คือกระบวนการไปทำบัตรที่กรมขนส่งทางบกครับ

สถานที่ที่เราจะไปทำคือ ชั้น 2 อาคาร 4 กรมขนส่งทางบก จตุจักร พิกัดอยู่ตามด้านล่างครับ

สิ่งที่ต้องเตรียมไป

สิ่งที่เราต้องเตรียมไปทำใบขับขี่คือ 3 อย่างนี้ครับ

  1. ใบรับรองของโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับอนุญาต ใบนี้โรงเรียนสอนขับรถจะออกให้หลังจากที่เราสอบผ่านแล้ว เราต้องไปเอามาก่อนนะครับ แล้วถึงจะมาทำได้ แล้วอย่าลืมตรวจสอบชื่อนามสกุลให้ถูกต้องด้วยนะครับ
  2. ใบรับรองแพทย์ จะเอามาจากโรงพยาบาล หรือ คลีนิกมาก็ได้ แต่ตรวจเช็คให้ดีนะครับว่าต้องปั้มตราของคลีนิกหรือโรงพยาบาลมาด้วย
  3. บัตรประชาชน

สำหรับใบรับรองแพทย์ถ้าลืมเอามา ไม่เป็นไรครับ ใกล้ๆ กรมขนส่งทางบกมีคลีนิกอยู่ วิธีการไปคือ เดินออกมาจากอาคาร 4 ที่เราไปทำบัตร แล้วเลี้ยวซ้ายอย่างเดียวจนเดินออกมาจากประตูใหญ่เลยครับ พอถึงประตูใหญ่ให้เลี้ยวซ้าย หลังจากนั้นเดินตรงอย่างเดียวจนเลยไฟแดงไปนิดนึง ก็จะเจอกับคลีนิกเล็กๆ อยู่ครับ คลีนิกนี้จะมีแพทย์ที่คอยตรวจร่างกายและเขียนใบรับรองแพทย์ให้โดยเฉพาะเลย ราคา 80 บาท คนไม่เยอะ สบายๆ ครับ

นอกจากนี้เราต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชนมาด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าไม่ได้เตรียมมา ไม่เป็นไรเหมือนกันครับ ทันทีที่เราก้าวขาเข้ามาในอาคาร 4 เค้าท์เตอร์บริการถ่ายเอกสารจะอยู่ทางด้านขวาเลยครับ

ต้องจองคิวหรือไม่

โรงเรียนสอนขับรถบอกว่า ผมต้องจองคิวกับ DLT Smart Queue หรือที่เว็บนี้ ก่อนที่จะไป แต่สำหรับขนส่ง จตุจักรนี่ ผมไม่ได้จองคิวเลยครับ สามารถไปได้เลยทันที (ก่อนไปโทรไปถามประชาสัมพันธ์มาก่อน เค้าบอกว่าให้มาได้เลย)

ขั้นตอนแรก

ทันทีที่เราขึ้นมาชั้นสอง ให้เราขึ้นมาหาประชาสัมพันธ์ก่อนครับ ประชาสัมพันธ์ก็จะตรวจสอบเอกสารเบี้องต้นว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ หลังจากนั้นก็จะส่งเราไปที่ช่อง 22 เพื่อรับบัตรคิว ในการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

ตัวบัตรคิวอยู่ที่โต๊ะที่ใช้ตรวจสอบเอกสารเลยครับ บัตรคิวนี้จะมีสีชมพู มันจะมีเลขตั้งแต่ 1-200 และถ้าครบ 200 แล้วจะกลับไปนับ 1 อีกครั้งหนึ่ง เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ครับ (บัตรคิวจะไม่มีตัวอักษรนำหน้าครับ)

ตอนที่ผมมา เค้าเรียกอยู่ที่คิว 120-130 แต่ผมได้คิวที่ 33 สรุปแล้วคือ ผมมีคิวอยู่หน้าผมประมาณ 100 คิวได้ครับ ผมเริ่มเข้าคิวตอนประมาณ 10.50 น. และถึงคิวตอน 11.50 น. รวมแล้วใช้เวลารอไปชั่วโมงนึงในขั้นตอนนี้

ระหว่างที่เรารอคิวในขั้นตอนนี้ เราจะได้ยินเสียงเรียกคิวจากเครื่อง และเห็นหมายเลขคิวบนกระดาน นั่นไม่ใช่คิวของเรานะครับ แต่เป็นคิวในขั้นตอนที่สอง คิวของขั้นตอนแรกจะเรียกโดยเสียงคนเท่านั้น และเรียกไม่ดังด้วย เพราะฉะนั้นเราเห็นคนยืนออกันที่ช่อง 22 กันมากมายเลยทีเดียว ผมแนะนำให้ยืนอยู่แถวนั้นแหละครับ ไม่งั้นถึงคิวเราแล้วเราจะไม่ได้ยิน

พอตรวจจริงๆ ใช้เวลาไม่นานครับ ไม่เกิน 3 นาทีก็เรียบร้อยแล้ว

ขั้นตอนที่สอง

หลังจากตรวจสอบเอกสารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้เราหอบเอกสารกลับไปที่ประชาสัมพันธ์ ที่ประชาสัมพันธ์จะให้บัตรคิวเรามาครับ บัตรคิวนี้จะมีสีขาว และมีตัวอักษรนำหน้าตามรูป

จำนวนคนรอ 246 คน ใช่ครับเยอะแบบนี้แหละ 55 สำหรับหลังจากรับบัตรคิวมาแล้ว ถ้าคนรอมากกว่า 200 คน ผมแนะนำให้ไปหาอะไรกินรอเลยครับ เพราะว่าขั้นตอนนี้บอกเลยว่านาน

ภายในกรมขนส่งทางบกก็มีร้านค้าขายอาหารอยู่ครับ เป็นร้านสวัสดิการ ราคาอาหารอยู่ที่ 30-50 บาท ไม่แพงและรสชาติใช้ได้ครับ

เก้าอี้ในห้องที่ให้รอเนี่ยมีไม่พอครับ ก็เลยต้องนั่งพื้นเอา ยังดีที่มีแอร์ฺ ไม่ร้อนเท่าไร ผมเลยนั่งเล่นมือถือรอไปครับ

ระหว่างนี้ก็เงี่ยหูฟังเสียงที่เรียกมาจากเครื่อง และแหงนหน้าดูจอด้วยครับ ขั้นตอนนี้ผมว่าไม่ค่อยพลาดกันหรอก เพราะเค้าเรียกกันดังพอสมควรครับ

ผมถึงคิวในเวลาประมาณ 14.00 น. หรือสองโมงพอดี ตอนทำก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ แค่จ่ายเงิน 205 บาท และถ่ายรูป ใบขับขี่ก็จะออกมาทันที เพียงเท่านี้ก็สามารถกลับบ้านได้แล้วครับ

รวมแล้วเวลาที่ใช้ไปทั้งหมดประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาทีครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!