การศึกษา3 คอร์สติวสอบ FRM ออนไลน์ช่วยคุณสอบผ่านอย่างมั่นใจ

3 คอร์สติวสอบ FRM ออนไลน์ช่วยคุณสอบผ่านอย่างมั่นใจ

FRM หรือ Financial Risk Manager เป็นหนึ่งในวุฒิบัตร (Certification) ที่สำคัญที่สุดสำหรับสายงาน Risk Management หรือว่าการบริหารความเสี่ยงในภาคการเงิน

แม้ว่า FRM จะยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับการสอบ CFA หรือวุฒิบัตรทางการเงินการลงทุนอื่นๆ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า FRM มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะความต้องการบุคลากรด้านการบริหารความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร สถาบันการเงิน หรือแม้กระทั่งบริษัททั่วไปที่ต้องมีการลงทุนในธุรกิจต่างๆ อยู่เนืองๆ

การได้ครอบครองวุฒิบัตร FRM จึงเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดทางไปสู่อาชีพในสายการเงินมากมายหลากประเภท ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Analyst), ที่ปรึกษาทางด้านความเสี่ยง (Risk Consultant) และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ FRM ยังเป็นวุฒิบัตรที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ดังนั้นถ้าคุณมีทักษะในการทำงานที่ดี และครอบครองวุฒิบัตร FRM คุณมีโอกาสไม่น้อยที่จะได้ไปทำงานสาขาการจัดการความเสี่ยงในต่างประเทศที่ให้รายได้ที่สูงครับ

อย่างไรก็ดีการสอบผ่าน FRM นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย ในโพสนี้ผมจึงจะมาแนะนำคอร์สติวสอบ FRM ออนไลน์คุณภาพเยี่ยมที่จะช่วยคุณสอบผ่านได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องไปเรียนที่สถาบัน หรือว่าเสียเวลาหลายร้อยชั่วโมงเรียนกับหนังสือ แล้วผลสัมฤทธิ์กลับไม่ดีนักครับ

รูปแบบการสอบ FRM

การที่จะได้มาซึ่งวุฒิบัตรดังกล่าวนั้นจะผ่านการสอบที่จัดโดยองค์กร GARP หรือ Global Association of Risk Professionals ทั้งหมด 2 ระดับด้วยกัน (FRM Exam Part I, FRM Exam Part II) และมีประสบการณ์ทำงานประจำที่ได้รับการยอมรับเป็นเวลา 2 ปี ครับ

FRM
FRM

การสอบ FRM Part I จะใช้รูปแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) จำนวน 100 ข้อ โดยจะเน้นไปที่เนื้อหาดังต่อไปนี้

  • เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ประเมินความเสี่ยงทางด้านการเงิน
  • พื้นฐานของการบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
  • การวิเคราะห์เชิงปริมาณ (Quantitative Analysis)
  • ตลาดการเงินและสินทรัพย์ต่างๆ (Financial Markets)
  • Financial Modeling + Risk Modeling

หลังจากสอบ Part I ผ่านแล้ว คุณถึงจะมีสิทธิ์สมัครสอบ Part II ต่อไป โดยความรู้ที่สอบจะลงลึกไปกว่า Part I โดยจะประกอบด้วยเนื้อหาหลักๆ เหล่านี้

  • ความเสี่ยงรูปแบบต่างๆ (Market Risk, Credit Risk, Operational Risk)
  • การบริหารความเสี่ยงทางด้านการคลัง และสภาพคล่อง (Treasury and Liquidity Risk Management)
  • การจัดการความเสี่ยงทั่วไป
  • การบริหารการลงทุน (Investment Management)

ในการสอบ FRM Part II จะเป็นแบบ Multiple Choice เช่นเดียวกับ Part I แต่จำนวนข้อจะเหลือแค่ 80 ข้อเท่านั้นครับ

สำหรับค่าสอบ Part I จะอยู่ที่ $950 หรือ $1,150 แล้วแต่ว่าคุณสมัครสอบช้าหรือเร็ว ในส่วนของ Part II จะอยู่ที่ $550-750 ครับ ซึ่งถ้าต้องสอบ

สำหรับในเรื่องการสมัครสอบ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ของ GARP ครับ

สอบการเงิน: CFA หรือ FRM ดี?

หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะสอบ CFA หรือ FRM ดี ในส่วนนี้ผมมองว่ามีความแตกต่างกันค่อนข้างมากครับ และมีวัตถุประสงค์ที่ต่างกันโดยชัดเจน

เนื้อหาในการสอบของ CFA นั้นจะกว้างกว่ามาก โดยครอบคลุมสาขาต่างๆ ในการเงิน ตั้งแต่ Financial Statements, Corporate Finance, Alternative Investments ไปจนถึง Portfolio/Investment Management โน่นเลย

อย่างไรก็ดีข้อสอบ CFA นั้นจะไม่ลงลึกในส่วนใดมากนัก แม้ว่าในส่วนของการวางแผนการเงิน และการลงทุนอาจจะเน้นสักหน่อยก็ตาม

ขณะที่ FRM จะเน้นไปที่ด้านการจัดการความเสี่ยงและเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ดังนั้นเนื้อหาที่ออกสอบจะแคบกว่า CFA อย่างชัดเจน แต่ตัวเนื้อหาที่เกี่ยวกับความเสี่ยงแน่นอนว่าอยู่ในระดับสูงกว่า CFA มาก

ในเรื่องความยากง่ายของข้อสอบ ผมมองว่าขึ้นอยู่กับตัวบุคคล และการเตรียมตัว ดังนั้นจึงไม่อาจจะระบุลงไปได้ว่าข้อสอบตัวไหนยากกว่ากัน แต่ถ้าวัดจากอัตราการสอบผ่านของผู้เข้าสอบแล้วจะพบว่าอยู่ใกล้เคียงกันที่ 40%-50% ครับ

สรุปแล้วถ้าคุณสนใจจะทำงานในสาขาการบริหารความเสี่ยง คุณควรจะเลือก FRM อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าคุณจะเป็นนักวิเคราะห์หุ้น ผู้จัดการกองทุน หรืออาชีพอื่นๆ CFA น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ

1. Bionic Turtle

ตัวเลือกอันดับ 1 ในการติวสอบ FRM อย่างไม่ต้องสงสัย Bionic Turtle เป็นสถาบันออนไลน์ที่ติวสอบเฉพาะวุฒิบัตรทางการเงินอย่าง FRM และ CFA ครับ

ทางสถาบันได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานในเรื่องของคอร์สที่มีคุณภาพและราคาที่ไม่แพงจนเกินไป นอกจากนี้ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนยังดีเยี่ยมอีกด้วย เพราะโดยเฉลี่ยแล้วนักเรียนกว่า 73% ของสถาบันสอบ FRM ผ่านครับ (เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วไปที่ 40%-50%)

Bionic Turtle - หนึ่งในคอร์สติวสอบ FRM ที่คุ้มค่าที่สุด
Bionic Turtle – หนึ่งในคอร์สติวสอบ FRM ที่คุ้มค่าที่สุด

การเรียนกับ Bionic Turtle จะใช้ระบบวิดีโอเป็นหลัก ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สอน FRM มาแล้วเกือบ 20 ปี จะอธิบายอย่างละเอียดในเนื้อหาต่างๆ ที่จะออกข้อสอบ ทำให้คุณสามารถเข้าใจเนื้อหาต่างๆ ได้รวดเร็วมากขึ้น เรียกได้ว่าประหยัดเวลาในการอ่านไปอย่างมากเลยครับ

บทเรียนการบริหารความเสี่ยงของ Bionic Turtle
บทเรียนการบริหารความเสี่ยงของ Bionic Turtle

นอกจากการสอนแบบวิดีโอแล้ว ทาง Bionic Turtle ยังมีทรัพยากรอื่นๆ ที่ช่วยให้ในเรียนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • Question Sets แบบฝึกหัดและตัวอย่างข้อสอบ FRM กว่า 4,000 ข้อให้คุณได้ฝึกทักษะ ทุกส่วนจะถูกจัดเป็นหมวดหมู่เพื่อให้ง่ายต่อการทบทวน และฝึกฝนด้วยการจับเวลาจริงก่อนที่จะเข้าสู่สนามสอบ
  • Study Notes หรือเนื้อหาโดยสรุปที่เต็มไปด้วยรูปภาพ ตัวอย่าง และเทคนิคประกอบมากมาย
  • Study Planner – เครื่องมือวางแผนการเรียนที่จะช่วยให้คุณจัดสรรเวลาการเรียนและการทบทวนอย่างเป็นระบบ
  • Interactive Quizzes – แบบฝึกหัดแบบ Interactive ที่จะมีความยากใกล้เคียงข้อสอบจริง
  • Active Forum – เข้าถึง community บน Forum ที่มีสมาชิกกว่า 26,000 คนที่ช่วยกันเรียนและถามตอบข้อสงสัยในการสอบ FRM

สำหรับทั้งหมดนี้จะอยู่ที่ $349 หรือประมาณ 10,470 บาท สำหรับ Part ใด Part หนึ่ง ถ้าคุณจะซื้อทั้ง 2 พาร์ท ราคาจะอยู่ที่ $599 หรือประมาณ 17,970 บาทครับ โดยคุณจะเข้าถึงตัวคอร์สได้ทั้งหมดเป็นเวลา 1 ปี

โดยส่วนตัวผมมองว่าคุ้มค่ากับราคาอย่างมาก เพราะทรัพยากรที่ทาง Bionic Turtle ให้มาก็จัดว่ายอดเยี่ยม และเหลือล้นเกินพอเลยครับ

ใครที่สนใจสามารถกดลิงค์ด้านล่างและสมัครได้เลยครับ (เลือกแพลน Advanced)

นอกจากนี้ใครที่ต้องการอะไรเพิ่มเติมที่ช่วยในการเตรียมสอบ ทาง Bionic Turtle ก็มีเช่นกัน โดยในราคา $449 ต่อปีต่อพาร์ท (หรือ $799 สำหรับทั้งสองพาร์ท) คุณจะได้

  • Focus Review – วิดีโอทบทวนเพิ่มเติมแบบพิเศษที่จะทบทวนความรู้ที่คุณต้องทราบในการสอบ FRM
  • Learning Spreadsheet – Spreadsheet ที่ช่วยคุณเข้าใจคอนเซปต์ที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น โดยจะประกอบด้วยตัวอย่างเสริม และรูปภาพประกอบมากมาย

อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่จะเข้าสอบส่วนใหญ่ ผมมองว่าไม่จำเป็นถ้าซื้อเพิ่มหรอกครับ เพราะแค่แบบคอร์สเรียนวิดีโอปกติ ผมมองว่าก็เพียงพอแล้ว

นอกจาก 2 แพลนด้านบนแล้ว Bionic Turtle ยังมีแพลนแบบ Basic ด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณจะไม่ได้การเรียนการสอนแบบวิดีโอ แต่จะได้แค่ Study Notes และ Question Sets เท่านั้น ทั้งหมดนี้จะอยู่ในราคา $249 ต่อเลเวลต่อปี ในส่วนนี้ผมมองว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไร ถ้าจะสมัคร ผมมองว่าสมัครแบบมีวิดีโอไปด้วยจะดีกว่าครับ

ในส่วนของข้อเสีย ผมมองว่ามีอยู่อย่างเดียวนั่นคือไม่มี Pass Guarantee เหมือนกับเจ้าอื่นครับ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่ถูกกว่าเกินครึ่ง นอกจากนี้ Pass Guarantee ทั้งหลายก็ไมไ่ด้แปลว่าจะใช้ได้ง่ายๆ เพราะสถาบันที่ให้ส่วนมากจะมีเงื่อนไขต่างๆ ที่ส่งผลให้เราใช้มันยากอยู่แล้ว

2. Kaplan Schweser

Kaplan Schweser เป็นสถาบันออนไลน์ที่ติวสอบวุฒิบัตรทางการเงินอย่างเช่น CFA และ FRM โดยเฉพาะ และจัดว่าเป็นเจ้าตลาดเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าคุณอยากจะการันตีว่าจะได้รับประสบการณ์การเรียนที่ดี Kaplan Schweser ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเตรียมสอบ FRM ของคุณครับ

วิธีการสอบของ Kaplan Schweser จะเหมือนกับ Bionic Turtle นั่นก็คือจะใช้ระบบวีดิโอครับ ครูของสถาบันนี้ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูงที่ติวสอบนักเรียนมาแล้วมากมาย ดังนั้นสามารถไว้ใจได้เลยในเรื่องคุณภาพ

คอร์สติว FRM จาก Kaplan Schweser

นอกจากเนื้อหาหลักแบบวิดีโอแล้ว คุณจะได้ทรัพยากรเหล่านี้ในการเตรียมสอบ FRM ครับ

  • Schweser Notes – เอกสารหลักในการเรียนที่จะอธิบายคอนเซปต์ต่างๆ ที่จะออกสอบให้เข้าใจได้มากขึ้น
  • แบบฝึกหัดต่างๆ ที่ช่วยวัดความรู้ของคุณในเนื้อหาต่างๆ ที่จะออกสอบ
  • ตัวอย่างข้อสอบเสมือนจริง 2 ชุด
  • Quicksheet ที่ช่วยให้คุณทบทวนสูตรต่างๆ
  • Secret Sauce – เอกสารพิเศษที่แนะนำเทคนิค เคล็ดลับต่างๆ
  • Pass Guarantee – ถ้าสอบไม่ผ่าน คุณสามารถเข้าถึงตัวคอร์สได้เพิ่มอีก 1 ปี

ทั้งหมดนี้จะอยู่ที่ราคา $799 หรือประมาณ 23,970 บาทต่อปีต่อ Part ครับ

แม้ว่าราคาจะสูงมากและเป็นสองเท่าของ Bionic Turtle แต่จากที่ผมใช้เอกสารของเจ้านี้ในการเตรียมสอบมา ผมก็ต้องยอมรับว่าตัวเอกสารถือว่ายอดเยี่ยมมากครับ ทุกอย่างชัดเจน อธิบายไม่เวิ่นเว้อ และเข้าใจได้ง่ายครับ

ถ้าคุณต้องการเอกสาร แบบฝึกหัด และตัวอย่างข้อสอบอย่างเดียว ไม่ต้องการคอร์สเรียน คุณก็สามารถซื้อได้เช่นกันในราคา $399 หรือประมาณ 11,970 บาทต่อปีครับ (แต่จะไม่ได้ Secret Sauce ครับ)

อย่างไรก็ดีในส่วนนี้ผมมองว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไร เพราะในราคานี้ คุณสามารถได้คอร์สเรียนแบบวิดีโอของ Bionic Turtle ได้เลย ซึ่งให้ทรัพยากรที่ไม่ต่างกันมากนักครับ

3. Analyst Prep

Analyst Prep เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าคุณอยากได้คอร์สติวเข้ม FRM ที่ช่วยให้คุณสอบได้ โดยที่ราคาไม่แรงจนเกินไปนัก และให้ประสบการณ์ที่ดีกว่าการเรียนผ่านหนังสือทั่วไปครับ

คอร์สเตรียมสอบ FRM ของ Analyst Prep
คอร์สเตรียมสอบ FRM ของ Analyst Prep

รูปแบบของคอร์ส FRM ของ Analyst Prep จะใช้ระบบวิดีโอเช่นเดิมในการเรียนการสอน นอกจากวิดีโอที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว คุณยังจะได้ทรัพยากรอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น

  • Question Bank – แบบฝึกหัดต่างๆ กว่า 3,000 ข้อสำหรับการทบทวนบทเรียน
  • Study Notes – เอกสารประกอบการเรียนที่ช่วยสรุปประเด็นสำคัญให้เข้าใจได้ง่าย
  • ตัวอย่างข้อสอบ 4 ชุดที่ช่วยให้คุณฝึกฝน
  • Performance Tools – เครื่องมือที่ช่วยชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งจุดอ่อนของคุณในบทต่างๆ อย่างเช่นบทการบริหารความเสี่ยง, การวิเคราะห์เชิงปริมาณ ฯลฯ

ราคาคอร์สนี้จะอยู่ที่ $299 หรือประมาณ 8,970 บาทต่อปีต่อเลเวล อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน สำหรับ Part II จะยังไม่มีคลิปสอนแบบวิดีโอครับ แต่ราคาจะถูกลงเหลือแค่ $179

ผมมองว่า Analyst Prep ก็เป็นตัวเลือกที่ควรค่าต่อการพิจารณา ตัวแพลตฟอร์มเองก็ดูทันสมัย และน่าเรียนเป็นอย่างยิ่ง แต่ในเรื่องความคุ้มค่า ผมมองว่ายังห่างไกลกับ Bionic Turtle เพราะเพียงแค่คุณเพิ่มอีกแค่ $49 คุณจะได้ทรัพยากรเพิ่มขึ้นอีกมากแบบมีนัยสำคัญเลยครับ

ตัวเลือกอื่นๆ สำหรับเตรียมสอบ FRM

นอกจากนี้ยังมีคอร์สออนไลน์อื่นๆ ที่ช่วยในการเตรียมสอบ FRM เช่นกัน อย่างไรก็ดีคอร์สที่ผมจะแนะนำต่อไปด้านล่าง ไม่มีการเรียนแบบวิดีโออย่างละเอียด

ดังนั้นประสบการณ์การเรียนจะไม่ต่างกับการอ่านหนังสือเตรียมสอบเองเท่าไรนัก ผมจึงมองว่าไม่คุ้มค่าเท่าไร ถ้าเทียบกับเวลาและเงินที่เสียไปครับ อย่างไรก็ดีผมจะใส่ไว้ให้เพื่อการพิจารณาเพิ่มเติมครับ

Wiley Efficient Learning – ชุดเตรียมสอบที่จัดทำโดยสำนักพิมพ์ Wiley ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ระดับโลก ตัวคอร์สจะอยู่ที่ $295 ต่อเลเวล โดยจะมี Study Notes ให้อ่าน และแบบฝึกหัดให้ลองทำประมาณ 1,100 ข้อ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยประเมินผล และตรวจสอบหาจุดอ่อนเพื่อที่คุณจะไม่พลาดในห้องสอบครับ

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!