โอซาก้า (Osaka) เป็นหนึ่งในเมืองที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โอซาก้าเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะฮอนชู ตัวเมืองตั้งอยู่ใกล้กับปากแม่น้ำที่ลงสู่ทะเล ทำให้ตัวเมืองมีสะพานและคลองมากมาย บางครั้งโอซาก้าถึงกับได้การเรียกขานว่าเป็นเวนิสแห่งทิศตะวันออกด้วยครับ
ปัจจุบันโอซาก้าเป็นเมืองแห่งความทันสมัย แต่ก็ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่น ในโพสนี้เราจะไปดูกันครับว่าเมืองแห่งนี้มีความเป็นมาอย่างไร และผมจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ

รู้จักโอซาก้า (Osaka)
พื้นที่บริเวณเมืองโอซาก้ามีมนุษย์อาศัยอยู่อย่างน้อย 2,500 ปี แต่กว่าโอซาก้าจะเริ่มเจริญเติบโตขึ้นเป็นเมืองก็ล่วงเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 3-5 แล้ว ตัวเมืองได้เริ่มเป็นเมืองท่าที่เชื่อมเกาะฮอนชูทางตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน
บางหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้ข้อมูลว่าจักรพรรดิญี่ปุ่นในยุคนั้นเคยสร้างพระราชวังที่ประทับขึ้นที่พื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองโอซาก้าในปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ดีชื่อของเมืองในยุคนั้นคือนานิวะ (Naniwa, 浪速) ไม่ใช่โอซาก้าแต่อย่างใดครับ
ในช่วงศตวรรษที่ 7-8 นานิวะได้ถูกสถาปนาเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นอยู่หลายครั้ง แต่ว่าเป็นอยู่ได้ไม่นานนัก เพราะเมืองหลวงถูกย้ายไปยังเมืองนารา และเกียวโตในเวลาต่อมาครับ
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเมืองหลวง แต่นานิวะก็ยังเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองด้วยการค้าขายและการสัญจรต่างๆ นอกจากนี้การที่เป็นเมืองธรรมดาเมืองหนึ่งทำให้นานิวะไม่เผชิญกับความวุ่นวายทางการเมืองเท่าไรนัก ชาวเมืองจึงอาศัยอย่างสงบสุขมานานหลายศตวรรษครับ
ในช่วงศตวรรษที่ 15 เป็นช่วงที่นานิวะเริ่มเรียกขานว่า “โอซาก้า” และได้ใช้ชื่อนี้มาถึงปัจจุบัน ช่วงศตวรรษนี้เองเป็นช่วงที่โอซาก้าเริ่มสัมผัสกับความวุ่นวายทางการเมือง เพราะนักบวชพุทธนิกาย Jodo Shinshu คือนิกายสุขาวตีของญี่ปุ่นได้สร้างสำนักใหญ่ขึ้นที่ปราสาท Ishiyama Hongan-ji ในเมือง
เหล่านักบวชนิกายนี้สนับสนุนพวก Ikko-ikki ให้ลุกฮือขึ้นต่อต้านอำนาจของพวกไดเมียวทั้งหลายที่ทรงอำนาจในญี่ปุ่นในเวลานั้น ผลที่ตามมาคือกลุ่ม Ikko-ikki เริ่มแข็งแกร่งและเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้พวกนักบวชยังช่วงชิงจุดยุทธศาสตร์บริเวณกึ่งกลางของประเทศและเส้นทางการค้าขายสำคัญเอาไว้ทั้งหมด เกิดเป็นภัยคุกคามต่อบรรดาไดเมียวเป็นอย่างมาก
ไดเมียวที่มุ่งมั่นที่สุดในการปราบปรามพวก Ikko-ikki และพวกนักบวชนิกาย Jodo Shinshu ก็คือโอดะ โนบุนากะ (Oda Nobunaga) แม้ว่าพวกนักบวชจะมีอำนาจและพันธมิตรมาก แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่อาจจะต้านทานกองทัพของโนบุนากะเอาไว้ได้ กองทัพของโนบุนากะเข้าปราสาท Ishiyama Hongan-ji ได้สำเร็จหลังจากพยายามตีอยู่นานถึง 11 ปี โนบุนากะจึงสั่งให้ทำลายปราสาทจนราบเป็นหน้ากลอง
ฮิเดโยชิได้สร้างปราสาทแห่งใหม่ชื่อว่า Osaka Castle ขึ้นบนพื้นที่ของปราสาทเดิมในเมืองโอซาก้าในปี ค.ศ.1583 ปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นยุทธการสำคัญในการชิงอำนาจระหว่างสายตระกูลของฮิเดโยชิและอิเอยาสึในช่วงปี ค.ศ.1614-1615 ผลสุดท้ายแล้วอิเอยาสึเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ และสถาปนารัฐบาลโชกุนโตกุกาวะขึ้นปกครองญี่ปุ่นครับ
หลังจากสงครามกลางเมืองสงบ โอซาก้าถูกพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น และเป็นเมืองที่มีชนชั้นพ่อค้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศในสมัยเอโดะ

ช่วงสมัยเอโดะนี้เองที่วัฒนธรรมของโอซาก้ารุ่งเรืองมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนสีที่เรียกว่า Ukiyo-e หรือการแสดง Kabuki และ Bunraku อันมีชื่อเสียงเลื่องลือของญี่ปุ่นครับ
อย่างไรก็ดีความสงบสุขของเมืองยุติลงในปี ค.ศ.1837 เพราะได้เกิดกบฏชาวนาขึ้นในเมือง การต่อสู้อย่างรุนแรงระหว่างพวกกบฏกับกองทัพโชกุนที่ถูกส่งมาปราบได้ทำให้ตัวเมืองเสียหายถึง 1 ใน 4 แต่ตัวเมืองก็ฟื้นคืนอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหนึ่งในเมืองท่าที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาค้าขายได้ในปี ค.ศ.1868

ปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 โอซาก้าได้กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่มั่งคั่ง และมีโรงงานมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีประชาชนเป็นการศึกษาดีเป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นด้วย แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นตัวเมืองได้รับความเสียหายอย่างยับเยินจากการทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศอเมริกัน
ถึงกระนั้นโอซาก้าก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสงครามเช่นเคย และกลายเป็นศูนย์กลางการเงินของญี่ปุ่นในช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาจนถึงทุกวันนี้ครับ
ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าเมืองโอซาก้ามีสถานที่ท่องเที่ยวไหนที่คุณไม่ควรพลาดบ้างครับ

1. Osaka Castle
Osaka Castle หรือปราสาทโอซาก้าเป็นปราสาททรงญี่ปุ่นอันสวยงามที่สร้างขึ้นโดย โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ หนึ่งในผู้ปกครองที่มีอำนาจสูงสุดในญี่ปุ่น ณ เวลานั้น เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในปราสาทขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นครับ

ในการสร้าง แม่ทัพนายกองตลอดจนไดเมียวที่อยู่ใต้อำนาจฮิเดโยชิทุกคนถูกสั่งให้มอบหินจากดินแดนในปกครองเป็นวัสดุในการก่อสร้างปราสาท ปัจจุบันหินเหล่านี้ก็ยังคงตั้งอยู่ โดยก้อนที่ใหญ่ที่สุดสูงถึง 14.5 เมตรซึ่งตั้งอยู่ประตูทิศใต้ครับ
ตัวปราสาทประกอบด้วยชั้นต่างๆ 5 ชั้น และจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับปราสาทแห่งนี้ แต่ทั้งด้านในและด้านนอกปราสาทล้วนแต่ไม่ใช่ของเดิมสมัยฮิเดโยชิ แต่เป็นผลงานการสร้างใหม่ในปี ค.ศ.1931 เพราะของเดิมถูกทำลายไปนานหลายร้อยปีแล้วครับ
2. Shitennō-ji Temple
Shitennō-ji Temple เป็นวัดพุทธที่มีประวัติย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 1 ดังนั้นจัดว่าเป็นวัดในพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ แต่ก็เหมือนกับปราสาทโอซาก้าครับ นั่นคือของเดิมหลงเหลือน้อยมาก ส่วนมากจะเป็นการสร้างใหม่ในยุคหลังทั้งสิ้นครับ

ปัจจุบันตัววัดมีเจดีย์ห้าชั้นที่ได้รับการตบแต่งด้านในอย่างสวยงาม และมีภาพเขียนและรูปปั้นแบบญี่ปุ่นที่วิจิตรให้คุณได้ชื่นชม นอกจากนี้ยังมีสวนสไตล์ญี่ปุ่นอันร่มรื่นและสวยงามให้คุณได้ผ่อนคลายอิริยาบถด้วยครับ
3. Universal Studios Japan
Universal Studios Japan เป็นสวนสนุกของ Universal Studios ที่มาเปิดในประเทศญี่ปุ่น และเป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมไม่แพ้โตเกียวดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวมากถึง 10 ล้านคนเลยครับ
ตัวสวนสนุกประกอบด้วย 9 โซนด้วยกัน อาทิเช่น Jurassic Park, Wizard World of Harry Potter, Waterworld ฯลฯ แต่ละโซนมีเครื่องเล่นสนุกมากมาย ซึ่งเหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยครับ
4. Osaka Aquarium Kaiyukan
Osaka Aquarium Kaiyukan เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น และใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่นี่อุดมไปด้วยสัตว์ทะเลนานาชนิดจากทุกทวีป และยังมีสัตว์น้ำจืดอีกจำนวนมากด้วยครับ รวมแล้วมีสัตว์น้ำถึง 30,000 ตัวจาก 500 สปีชีส์เลยทีเดียว

จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คืออาคารหลักที่นักท่องเที่ยวบางคนบอกว่าเหมือนกับตัวต่อเลโก้ครับ
5. Tempozan Ferris Wheel
Tempozan Ferris Wheel คือชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Harbor Village ตัวชิงช้าสวรรค์สูงถึง 112 เมตรและใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียเลยครับ ดังนั้นการนั่งชิงช้าสวรรค์จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการชมวิวมุมสูงของเมืองโอซาก้าในยามค่ำคืนครับ

นอกจากนี้ตัวชิงช้าสวรรค์ยังสวยเป็นพิเศษในช่วงกลางคืนด้วย เพราะมีการเปิดไฟ โดยสีของไฟจะขึ้นอยู่กับพยากรณ์อากาศของวันถัดไปครับ เช่นถ้าเป็นสีน้ำเงิน ฝนจะตกครับ
6. Umeda Sky Building
Umeda Sky Building เป็นอาคารออฟฟิศสองแห่งที่เชื่อมต่อกันด้วยทางเชื่อมด้านบน โดยด้านบนสุดของตึกจะมีจุดชมวิวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ จากจุดชมวิวนี้ คุณสามารถชมความงามของเมืองได้จาก 180 องศา ทำให้อีกเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกันสำหรับผู้ที่อยากชมแสงสีเสียงของโอซาก้าครับ
ตึกสูงสวยๆ ในโอซาก้าที่น่าไปถ่ายรูปและชมวิวมีอีกสองแห่ง นั่นคือ Abeno Harukas ตึกที่สูงที่สุดในโอซาก้าในปัจจุบัน, Kobe Port Tower และ Tsutenkaku ทั้งสามแห่งสามารถชมวิวของเมืองได้ครับ โดยตึก Tsutentaku นั้นสร้างขึ้นแทนที่หอไอเฟลจำลองที่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองครับ
7. พิพิธภัณฑ์ต่างๆ
เช่นเดียวกับเมืองใหญ่อื่นๆ โอซาก้ามีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจหลายแห่งด้วยกัน อาทิเช่น
- National Museum of Art (NMAO) – จัดแสดงผลงานมากมายของศิลปินญี่ปุ่นในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมไปถึงงานของศิลปินตะวันตกอย่างเช่นปิกัสโซด้วยครับ
- Osaka Municipal Museum of Fine Art – จัดแสดงผลงานศิลปะพู่กันสไตล์จีนโบราณ รวมไปถึงผลงานของศิลปินญี่ปุ่นครับ
- Osaka Science Museum – พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในทุกแขนง
- Osaka International Peace Center – พิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงความโหดร้ายของสงครามที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก
8. Tennoji Park
สำหรับใครที่อยากพักผ่อนอิริยาบถ การเข้าไปนั่งพักใน Tennoji Park เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณา เพราะสวนแห่งนี้ร่มรื่นมาก และมีทั้งสะพาน และสระน้ำ ทำให้บรรยากาศเหมาะต่อการผ่อนคลายเป็นที่สุด นอกจากนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลินักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมซากุระกันที่นี่ครับ

ภายในสวนยังมีสวนสัตว์ชื่อ Tennoji Zoo ตั้งอยู่ด้วย สวนสัตว์แห่งนี้มีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว และถูกออกแบบให้คล้ายกับทุ่งหญ้าสะวันนา ปัจจุบันในสวนสัตว์ยังมีสัตว์มากมายให้คุณได้ชมครับ
9. Osaka Expo Park
Osaka Expo Park เป็นสวนขนาดใหญ่มากที่เคยใช้เป็นสถานที่จัดงาน Osaka Expo ในปี ค.ศ.1970 และเป็นที่ตั้งของงานศิลปะชั้นเยี่ยมอย่าง Tower of the Sun ของศิลปินนามว่า Taro Okamoto ครับ

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวในช่วงซากุระบานหรือใบไม้เปลี่ยนสี เพราะที่นี่จะสวยงามมากในช่วงเวลานั้นครับ แต่ตัวสวนจะไปยากหน่อยเพราะว่าห่างจากตัวเมืองไป 20 กิโลเมตรครับ
ไปเที่ยวโอซาก้า (Osaka) อย่างไรดี?
การไปเที่ยวโอซาก้า (Osaka) ทำได้ไม่ยากเลยครับ และไม่จำเป็นต้องง้อทัวร์ เพราะคุณสามารถบินตรงจากกรุงเทพไปลงโอซาก้าได้เลย สายการบินที่มีให้บริการก็มีมากมายครับ ส่วนในเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการท่องเที่ยวนั้น ประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยมีปัญหาอยู่แล้วครับ