เมืองเนเปิลส์ (Naples, Napoli) เป็นเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ตอนใต้ของอิตาลี เนเปิลส์เป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลยิ่งต่อวัฒนธรรมของอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมทางอาหาร เพราะเนเปิลส์เป็นเมืองที่ให้กำเนิดพิซซ่า (Pizza) หนึ่งในอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงที่สุดก็ว่าได้
ในโพสนี้ ผมจะเล่าความเป็นมาและอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับเมืองเนเปิลส์ให้ทุกคนได้ทราบคร่าวๆ และจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นลำดับต่อไปครับ
รู้จักเนเปิลส์ (Naples)
ในปัจจุบันเนเปิลส์ (Naples) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศอิตาลี และเป็นเมืองหลวงของเขต Campania เขตที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เนเปิลส์อยู่ทางตอนใต้ของโรมเป็นระยะทาง 226 กิโลเมตรครับ
ประวัติของเมืองเนเปิลส์นั้นยาวนานมาก โดยสามารถย้อนกลับไปได้ถึงปี 2000 BC และเชื่อหรือไม่นับตั้งแต่บัดนั้นเนเปิลส์ไม่เคยถูกทิ้งร้างเลยสักครั้งเดียว ตลอดเวลา 4,000 ปีนับจากแรกเริ่มก่อตั้ง มีผู้อยู่อาศัยอยู่ในเมืองเนเปิลส์โดยไม่ขาดตอน ต่างกันเมืองร่วมสมัยอื่นๆ ที่กลายเป็นซากปรักหักพังไปหมดแล้ว ที่สูสีกันเห็นจะมีแค่ เอเธนส์ พาราณสี ลั่วหยาง เยรูซาเลม และเมืองอีกไม่กี่แห่งในตะวันออกกลางเท่านั้น
ชาวกรีกโพ้นทะเลเป็นผู้สร้างเมืองเนเปิลส์ในช่วงปี 2000 BC แต่ในช่วงนั้นเนเปิลส์คงไม่ได้เป็นมากกว่าหมู่บ้านเล็กๆ จนกระทั่งในปี 900 BC ชาวกรีกจากเกาะโรดส์ได้สร้างเมืองท่าเล็กๆ ชื่อว่า Parthenope ที่เกาะ Megaride ในอ่าวเนเปิลส์
ด้วยความที่ Parthenope เป็นเมืองท่าทำให้มีผู้อยู่อาศัยและผู้แวะเวียนเข้ามามากขึ้นตามลำดับ ช่วงปี 500 BC ตัวเมืองจึงได้ชื่อใหม่ว่า Neapolis และได้กลายเป็นนครรัฐที่ใหญ่และรุ่งเรืองที่สุดในดินแดน Magna Graecia
ในช่วงสงครามพิวนิก นครรัฐเนเปิลส์ได้เป็นพันธมิตรสำคัญของโรมในการต่อสู้กับคาร์เธจ ทำให้ตัวเมืองรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็วจากการค้าขายกับโรม แต่แล้วเมืองกลับถูกพวก Samnite ตีแตกในช่วง Samnite Wars กองทัพโรมันจึงต้องเข้ามาขับไล่และผนวกเนเปิลส์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันในที่สุด
ภายใต้การปกครองของโรม ชาวเมืองเนเปิลส์มีอิสรภาพอย่างเต็มที่ รัฐบาลโรมันอนุญาตให้พวกเขาพูดภาษากรีกและคงวัฒนธรรมตามเดิมไว้ทุกประการ และยังสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นมากมายอย่างเช่นโรงอาบน้ำ ระบบชลประทาน และวิลล่าหลายแห่ง ต่อมาเมื่อโรมกลายเป็นจักรวรรดิ เนเปิลส์ก็ได้กลายเป็นเมืองพักผ่อนของจักรพรรดิโรมันทุกยุคทุกสมัยครับ
หลังจากจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลาย เนเปิลส์ตกอยู่ในการปกครองของชาว Ostrogoths จนกระทั่งกองทัพของจักรวรรดิโรมันตะวันออก (ไบแซนไทน์) ตีชิงเนเปิลส์กลับคืนได้สำเร็จในปี ค.ศ.536 และได้มีการสถาปนาดัชชีแห่งเนเปิลส์ (Duchy of Naples) ขึ้นในปี ค.ศ.661 ในฐานะรัฐในปกครองของจักรวรรดิโรมันตะวันออก
ดัชชีแห่งเนเปิลส์เริ่มมีปัญหากับการปกครองของจักรวรรดิโรมันตะวันออก สุดท้ายก็ได้อิสรภาพในช่วงต้นศตวรรษที่ 9 แต่อิสรภาพที่ชาวเนเปิลส์ได้มาไม่ได้ทำให้พวกเขาสงบสุข ชาวเนเปิลส์ต้องสัประยุทธ์กับผู้รุกรานอยู่เนืองๆ จนกระทั่งในปี ค.ศ.1137 กองทัพ Normans ได้บีบให้ดยุคคนท้ายของดัชชีแห่งเนเปิลส์ยอมจำนน ทำให้เนเปิลส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรซิซิลี (Kingdom of Sicily)
ร้อยกว่าปีผ่านไป ในช่วงปี ค.ศ.1282 ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในอาณาจักรซิซิลี ทำให้อาณาจักรซิซิลีถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยส่วนที่อยู่บนแผ่นดินใหญ่ของอิตาลีได้เปลี่ยนชื่อเป็นอาณาจักรเนเปิลส์ (Kingdom of Naples)
ช่วงศตวรรษที่ 15-16 เนเปิลส์ได้กลายเป็นสาเหตุของการต่อสู้แย่งชิงอำนาจของฝรั่งเศสและสเปน แต่ความวุ่นวายดังกล่าวไม่ได้ส่งผลทางลบต่อการค้าและวัฒนธรรมของเมืองมากนัก ในช่วงยุค Renaissance เนเปิลส์ได้เป็นศูนย์กลางทางการค้า การเงิน และวัฒนธรรม ศิลปกรรม สถาปัตยกรรมในช่วงนี้เจริญรุ่งโรจน์อย่างมาก จิตรกรคนสำคัญอย่าง Caravaggio และ Bernini ต่างเกิดที่เมืองแห่งนี้ครับ
จุดสูงสุดของเนเปิลส์คือช่วงศตวรรษที่ 17 เพราะเนเปิลส์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรป โดยมีประชากรเป็นรองเพียงปารีสเพียงเมืองเดียวเท่านั้น ทำให้เนเปิลส์เป็นเมืองอันดับ 1 แห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเลยก็ว่าได้
ในปลายศตวรรษที่ 19 เนเปิลส์กลับชะงักงัน เพราะผู้คนอพยพออกจากเมืองไปจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเพราะการรวมประเทศอิตาลีทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจขึ้นในส่วนอื่นๆ ของประเทศ นอกจากนี้คุณภาพชีวิตของคนจนในเนเปิลส์ในช่วงเวลานั้นถือว่าแย่ เพราะเกิดโรคระบาดบ่อยครั้ง ชาวเนเปิลส์ที่แร้นแค้นจึงอพยพไปอยู่ที่อื่น แม้ว่าผู้คนจะอพยพออกไปมาก เนเปิลส์ก็ยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีอยู่ดี
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวเมืองเนเปิลส์ถูกถล่มอย่างหนัก ทำให้ชาวเมืองต้องช่วยกันสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ให้กลับมาสวยเหมือนเดิม โชคยังดีที่สิ่งก่อสร้างเก่าแก่ส่วนใหญ่รอดพ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ บริเวณเมืองโบราณเนเปิลส์จึงยังคงยิ่งใหญ่และสวยงามเช่นเดิม
ปัจจุบันเนเปิลส์ได้กลายเป็นเมืองมรดกโลกขององค์กร UNESCO และเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย โบสถ์โบราณในเมืองเนเปิลส์มีมากถึง 448 แห่ง และยังไม่นับปราสาท พระราชวัง และสิ่งก่อสร้างสไตล์ Gothic, Renaissance และ Baroque อีกจำนวนมาก ดังนั้นเนเปิลส์จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวในประเทศอิตาลีที่คุณพลาดไม่ได้เลยจริงๆ
การเดินทางไปเที่ยวเมืองเนเปิลส์ (Naples)
การเดินทางมาจากกรุงโรมมายังเนเปิลส์มีตัวเลือกอย่างรถบัสและรถไฟ โดยทั้งสองทางใช้เวลาพอๆ กันนั่นคือ 2 ชั่วโมงเศษ แต่ราคารถบัสจะถูกกว่า เพราะเริ่มต้นที่ 3 ยูโรเท่านั้นเองครับ ขณะที่รถไฟจะเริ่มต้นที่ 10 ยูโร อย่างไรก็ดีราคาอาจจะแพงกว่าได้เพราะหลายสาเหตุปัจจัย อย่างเช่นผู้ให้บริการที่ถูกที่สุดอาจจะเต็ม หรือว่าเวลาไม่ตรงกับที่คุณต้องการครับ
แต่ถ้าคุณมาจากเมืองอื่นของอิตาลี อย่างเช่นมิลานหรือเวนิส ผมมองว่าเครื่องบินเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ เพราะว่าจะประหยัดเวลาไปให้คุณได้หลายชั่วโมงเลยทีเดียวครับ
ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าครับ เมืองเนเปิลส์ (Naples) มีสถานที่ไหนน่าไปเยือนบ้าง
1. Castel dell’ Ovo
Castel dell’ Ovo หรือ The Egg Castle คือปราสาทที่เก่าแก่ในที่สุดในเมืองเนเปิลส์ ที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ประวัติของปราสาทแห่งนี้สามารถย้อนไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 12 เลยทีเดียว ในปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ก่อนประวัติศาสตร์ที่เก็บโบราณวัตถุที่น่าสนใจไว้มากมายครับ
จากปราสาทแห่งนี้คุณสามารถท่าเรือ (Port of Naples) และปากอ่าวอันมีชื่อเสียงของเนเปิลส์ที่รองรับเรือสินค้าเป็นเวลานานกว่า 2,000 ปีแล้ว และถ้าคุณมองไปไกลๆ คุณจะเห็นภูเขาไฟ Vesuvius ด้วยครับ
ใกล้กับปราสาทมีทางเดินเลียบอ่าวชื่อ Lungomare บริเวณทางเดินแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านอาหารอย่างเช่นร้านขายพิซซ่าชื่อดัง ตลอดจนคาเฟ่อีกมากมายครับ
2. Palazzo Reale di Napoli
Palazzo Reale di Napoli เป็นหนึ่งในสี่อดีตพระราชวังหลวงของกษัตริย์ราชวงศ์ Bourbon ที่เคยปกครองอาณาจักรเนเปิลส์มาก่อน ปัจจุบันตัวพระราชวังยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์และมีความสวยงามอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ภาพบนผนัง จิตรกรรม และสถาปัตยกรรมครับ
ไฮไลท์ที่นี่เหมือนจะเป็นรูปปั้นหินอ่อนของกษัตริย์แต่ละพระองค์ที่เคยปกครองเนเปิลส์ โดยเรียงรายไปตั้งแต่ Roger II ผู้สถาปนาอาณาจักรซิซิลีไปจนถึง Vittorio Emanuele II กษัตริย์พระองค์แรกที่ปกครองอาณาจักรอิตาลีที่ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวครับ
3. Piazza del Plebiscito
ห่างไปไม่ไกลจาก Palazzo Reale di Napoli คือจัตุรัสขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของเมืองเนเปิลส์ชื่อว่า Piazza del Plebiscito ที่นี่เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญในหน้าประวัติศาสตร์หลายแห่ง
Basilica of San Francesco di Paola มหาวิหารทรงครึ่งวงกลมที่สร้างโดยอ้างอิงรูปร่างมาจากมหาวิหาร Pantheon ในกรุงโรม แต่ที่ต่างออกไปคือบนวิหารแห่งนี้มีโดมสูง 53 เมตรตั้งอยู่ด้วยครับ
Palazzo della Prefettura หรือในภาษาอังกฤษว่า Prefecture Palace เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บริเวณจัตุรัส ที่นี่เคยใช้เป็นอาคารรับรองแขกเมืองที่มาเยี่ยมเยือนเมืองเนเปิลส์ ตัวอาคารมีความสวยงามและสร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบ neoclassical ครับ
4. Naples Cathedral/ Duomo di Napoli
Naples Cathedral เป็นมหาวิหารหลักของเมืองเนเปิลส์ และมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในภาคใต้ของอิตาลี ตัวมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้บูชานักบุญ Januarius นักบุญหลักของเมืองนี้ครับ
ด้านในมหาวิหารถูกตบแต่งอย่างอลังการโดยเฉพาะโบสถ์ Royal Chapel of the Treasure of San Gennaro ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญ Januarius ซึ่งโบสถ์แห่งนี้นั้นอยู่คู่กับตำนานที่เรียกว่า “ปาฏิหาริย์แห่งหยดเลือด”
เรื่องมีอยู่ว่า ขวดที่เก็บเลือดที่แห้งไปแล้วของนักบุญผู้นี้จะถูกนำออกมาด้านนอกปีละสามครั้ง แทบทุกครั้งที่นำออกมา หยดเลือดที่แห้งไปแล้วจะกลายเป็นหยดเลือดที่เป็นของเหลวอย่างน่าเหลือเชื่อ ถ้าครั้งใดที่มันไม่กลายเป็นของเหลว นั่นแปลว่าเป็นลางร้ายสำหรับเมืองเนเปิลส์ครับ
ศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมภายในมหาวิหารส่วนอื่นนั้นสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเนเปิลส์และอิตาลี เพราะมีผลงานของจิตรกรของศิลปินชื่อดังมากมายไม่ว่าจะเป็นภาพเขียนสีเฟรสโกของ Domenichino หรือ Lanfranco และชิ้นงานอีกมากมายของศิลปินอันโดดเด่นในยุคนั้นครับ
ห่างออกไปจาก Naples Cathedral ไม่ไกลนักมีมหาวิหารที่สวยงามอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น
- Santa Restituta – โบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในเนเปิลส์ที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันยังมีภาพเขียนสีที่สวยงามให้นักท่องเที่ยวได้ชมครับ
- Santa Maria Donnaregina – โบสถ์สไตล์ Gothic ที่มีภาพเขียนสีเฟรสโกสมัยศตวรรษที่ 14 อันสวยงาม
- San Lorenzo Maggiore – โบสถ์อันสวยงามที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะ Renaissance ตอนต้น ตัวโบสถ์สร้างทับศูนย์กลางของเมืองเก่าเนเปิลส์ในสมัยกรีก-โรมัน ซึ่งคุณสามารถลองไปชมโบราณสถานเก่าที่ตั้งอยู่ใต้ดินได้ครับ ปัจจุบันนักประวัติศาสตร์พบว่าเป็นตลาดเก่าสมัยโรมัน
5. Catacombs of San Gennaro
Catacombs of San Gennaro เป็นสุสานที่ตั้งอยู่ใต้ดิน และมีประวัติความเป็นมาย้อนไปได้ถึงสมัยศตวรรษที่ 3-4 ขนาดของสุสานใต้ดินแห่งนี้ใหญ่โตมาก และได้รับการตบแต่งอย่างอลังการด้วยภาพเขียนสีเฟรสโกที่เกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์
ทั้งนี้สุสานสร้างขึ้นเพื่ออุทิศกับนักบุญในศาสนาคริสต์ทั้งสามได้แก่ นักบุญ Gaudiosus, นักบุญ Severus และนักบุญ Januarius ครับ
ภายในสุสานมีมหาวิหารในศาสนาคริสต์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย มหาวิหารแห่งนี้สามารถย้อนไปได้ถึงศตวรรษที่ 5 และเป็นแบบอย่างอันยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมคริสเตียนยุคแรกที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันครับ
6. Capodimonte Royal Palace
Capodimonte Royal Palace เป็นพระราชวังที่ตั้งอยู่บนภูเขาห่างจากเมืองเนเปิลส์มาเล็กน้อย เดิมทีพระราชวังนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักสำหรับกษัตริย์เนเปิลส์ยามที่เสด็จล่าสัตว์ แต่ในเวลาต่อมาพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นพระราชวังฤดูร้อน และสถานที่เก็บรักษางานศิลปะและของมีค่าของราชวงศ์จำนวนมาก
ในปัจจุบันที่นี่จึงเป็นสถานที่เก็บรักษางานศิลปะที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลี และได้เป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ งานศิลปะที่เก็บรักษาไว้ที่นี่ได้แก่งานของ Raphael, Boticelli, Bellini, Caravaggio รวมไปถึงจิตรกรที่มีชื่อเสียงอีกมากมายครับ นอกจากนี้ยังมีเฟอร์นิเจอร์และของมีค่าของกษัตริย์แห่งเนเปิลส์ให้คุณได้ชมด้วยครับ
7. National Archaeological Museum of Naples
National Archaeological Museum of Naples เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่เก็บรักษาโบราณวัตถุต่างๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกรีกโรมันแล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณพลาดไม่ได้ เพราะโบราณวัตถุหลายชิ้นของที่นี่เป็นชิ้นที่มีชื่อเสียงมากครับ
หนึ่งในโบราณวัตถุที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ โมเสกขนาด 6.2 เมตรที่มีชื่อว่า “Alexander Mosaic” และจารึกรูปของอเล็กซานเดอร์มหาราชในสนามรบ ถ้าคุณเคยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์กรีกโรมัน คุณต้องเคยเห็นโมเสกชิ้นนี้ผ่านตาอย่างแน่นอนครับ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีโมเสก และของมีค่าจำนวนมากจากเมืองปอมเปอี และเมืองต่างๆ จากทางตอนใต้ของอิตาลี ซึ่งจะช่วยให้คุณสัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมกรีก-โรมันได้เป็นอย่างดี (ในอดีตอิตาลีตอนใต้เคยเป็นอาณานิคมกรีกทั้งหมด) บางชิ้นมีขนาดใหญ่โตและจะทำให้คุณตกตะลึงได้ไม่ยากเลยครับ
8. Cappella Sansevero
Cappella Sansevero เป็นโบสถ์ส่วนตัวของตระกูล Sansevero ที่ร่ำรวยของเนเปิลส์ แต่ทว่าในเวลาต่อมาโบสถ์แห่งนี้ได้มีชื่อเสียงทางศิลปะ เพราะด้านในมีงานศิลปะมากถึง 30 ชิ้น โดยเฉพาะรูปปั้นที่ประณีตและสวยงามจากฝีมือของช่างฝีมือชาวอิตาเลียนระดับสุดยอดนับสิบคนครับ
9. Teatro di San Carlo
Teatro di San Carlo เป็นโรงละครที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของอิตาลีและยุโรป โรงละครแห่งนี้เริ่มมีการแสดงตั้งแต่ปี ค.ศ.1737 และแสดงติดต่อกันนับตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน
ภายในโรงละครได้รับการตบแต่งอย่างอลังการงานสร้าง ความสวยงามของโรงละครแห่งนี้ถือว่าไม่แพ้ที่ใดในโลกเลยครับ โรงละครหลายแห่งที่สร้างขึ้นภายหลังล้วนแต่ได้แรงบันดาลใจจากที่นี่ทั้งสิ้น
ปัจจุบันคุณยังสามารถเข้าไปชมโอเปร่า บัลเล่ต์ หรือคอนเสิร์ตได้ครับ
10. Castel Nuovo
Castel Nuovo เป็นปราสาทที่เป็นสถานที่ประทับของกษัตริย์แห่งเนเปิลส์มานานกว่า 5 ศตวรรษ โดยตัวปราสาทสร้างขึ้นตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 13 และมีการบูรณะในหลายต่อหลายราชวงศ์ที่ได้ปกครองเนเปิลส์ครับ
จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือประตูโค้งหินอ่อนสีขาวชื่อ Triumphal Arch ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางประตูทางเข้าปราสาท ประตูแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงชัยชนะของกษัตริย์แห่ง Aragon ที่ได้ยาตราทัพเข้าเมืองเนเปิลส์ได้สำเร็จ
ด้านในปราสาทมีอาคารอีกหลายแห่งที่สวยงามซึ่งสร้างด้วยศิลปะโกธิคและยุคกลาง อย่างเช่นโบสถ์ Palatine Chapel, อาคารหลัก Hall of the Barons และ Armoury Hall เป็นต้น
อาคารเหล่านี้มีความเก่าแก่ สวยงามและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยสาระทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะ Hall of the Barons ซึ่งเป็นที่ประทับของกษัตริย์เนเปิลส์ในยุคนั้น แต่ที่เรียกว่า “Hall of the Barons” ก็เพราะกษัตริย์ Ferdinand I ได้หลอกพวกบารอนที่คิดจะล้มพระองค์เข้ามาในอาคารนี้ และจับกุมตัวพวกเขาทั้งหมดได้สำเร็จครับ
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเมือง Naples และที่อยู่ใกล้เคียง
นอกเหนือจากสถานที่สิบแห่งด้านบนในเมืองเนเปิลส์แล้ว ภายในเมืองยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง อาทิเช่น
- Santa Lucia – ถนนคนเดินแคบๆ ที่มีผู้คนคับคั่งเหมาะสำหรับการสำรวจชีวิตของชาวเนเปิลส์
- San Martino Monastery – อารามในศาสนาคริสต์ที่มีการตบแต่งด้วยหินอ่อน และภาพเขียนสีเฟรสโกอย่างสวยงาม
- Santa Chiara – โบสถ์อันสวยงามที่ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับรีสอร์ท
- Galleria Umberto I – สถานที่ช็อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีความเป็นมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19
ขณะเดียวกัน Naples มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง ได้แก่
- Pompeii – ซากเมืองโบราณปอมเปอีที่ถูกเถ้าภูเขาไฟกลบทั้งเมือง ตัวเมืองอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก คุณจะได้เห็นว่าชาวโรมันในเมืองดำรงชีวิตอย่างไรในวาระสุดท้ายของพวกเขา
- Herculaneum – ซากของเมืองที่ประสบชะตากรรมเดียวกับปอมเปอี และคุณสามารถสัมผัสชีวิตแบบโรมันได้ไม่ต่างกับที่เมืองปอมเปอีครับ
- Castera Palazzo Reale – พระราชวังเก่าขนาด 1,200 แห่งสไตล์เดียวกับพระราชวังแวร์ซายส์ที่ฝรั่งเศส
- Capri-Blue Grotto – เกาะและถ้ำสุดสวยที่มีหินงอกหินย้อยให้ชมเป็นจำนวนมาก
- Ischia – เกาะเก่าแก่ที่มีสิ่งก่อสร้างสมัยกรีกโรมันตั้งอยู่
- Capua – อดีตเมืองใหญ่ในสมัยโรมัน ปัจจุบันเป็นโบราณสถานที่สำคัญที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี
- Vesuvius – ภูเขาไฟขนาดยักษ์ที่ทำลายเมืองปอมเปอี ปัจจุบันมันก็ยังคุกรุ่นอยู่ คุณสามารถเดินขึ้นไปเกือบถึงปากปล่องของมันได้ครับ
- Amalfi Coast – ชายหาดที่สวยและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป