ท่องเที่ยวยอดเขา Mount Cook และโดยรอบมีจุดไหนสวยน่าไปเที่ยวบ้าง?

ยอดเขา Mount Cook และโดยรอบมีจุดไหนสวยน่าไปเที่ยวบ้าง?

ยอดเขา Mount Cook เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ รายรอบยอดเขาเหล่านี้เต็มไปด้วยทะเลสาบสีสวย ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ จากที่ได้ไปมาแล้ว ผมบอกได้เลยว่าที่นี่สามารถทำให้คุณหลงใหลทันทีที่คุณแลเห็นเลยก็ว่าได้

ดังนั้นสำหรับใครที่วางแผนไปเที่ยวเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์แล้ว Mount Cook เป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่คุณควรมาเยือนสักครั้งอย่างแน่นอน

สำหรับในโพสนี้ผมจะรวบรวมจุดที่สวยๆ ของยอดเขาแห่งนี้และบริเวณโดยรอบให้ทุกคนได้ทราบกันครับ

Mount Cook, New Zealand, Image by rana88888 from Pixabay

แนะนำ Mount Cook

Mount Cook หรือ Aoraki ในภาษาเมารีเป็นยอดเขาที่สูง 3,724 เมตร และถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี ในปัจจุบันยอดเขาแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยาน Aoraki/Mount Cook หนึ่งในอุทยานสำคัญของเกาะใต้ ครับ

พื้นที่ส่วนใหญ่ของ Mount Cook เป็นธารน้ำแข็งมากถึง 40% นอกจากนี้ธารน้ำแข็ง 8 แห่งจากทั้งหมด 12 แห่งในประเทศนิวซีแลนด์ล้วนแต่ตั้งอยู่ที่นี่อีกด้วย

ตัวอุทยานตั้งอยู่ในเขต Mackenzie โดยเฉลี่ยแล้ว Mount Cook ห่างจาก Christchurch 332 กิโลเมตร และห่างจาก Queenstown 300 กิโลเมตร ด้วยความที่ห่างจากทั้งสองเมืองใกล้เคียงกัน คุณใช้เวลาขับรถมา Mount Cook ประมาณ 4 ชั่วโมงครับ

แม้ว่าจะขับรถไกลพอสมควร แต่คุณจะขับรถอย่างไม่เบื่อเลยครับ เพราะไม่ว่าคุณจะมาจาก Christchurch และ Queenstown ทั้งสองข้างทางล้วนแต่มีทิวทัศน์ที่งดงามทั้งสิ้น

นักท่องเที่ยวทั้งชาวนิวซีแลนด์และต่างชาติมักเดินทางมาที่ Mount Cook เพื่อชมทัศนียภาพ เดินเทรคกิ้ง ดูดาว พายเรือ ฯลฯ ในปัจจุบันที่นี่เป็นอุทยานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศนิวซีแลนด์ครับ

ถัดไปเราไปดูกันดีกว่าครับ Mount Cook มีสถานที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง

1. Mount Cook Village

Mount Cook Village เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Aoraki/Mount Cook ที่นี่จะเป็นที่พักของคุณและเป็นจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยวทั้งหลายทั้งปวงรายรอบยอดเขา Mount Cook ด้วยครับ

Mount Cook Village By Pseudopanax, CC BY 3.0,

ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ติดกับยอดเขา Mount Cook เลย ทำให้คุณสามารถชมยอดเขาแห่งนี้ได้อย่างใกล้ชิด ลองเปิดหน้าต่างหรือเดินออกมาจากที่พักในช่วงเช้าๆ และชมดวงอาทิตย์ขึ้นสิครับ ภาพที่ดวงอาทิตย์พาดผ่านยอดเขาแห่งนี้จะทำให้คุณลืมไม่ลงเลยจริงๆ

ในการจองที่พักที่นี่ ผมแนะนำให้จองล่วงหน้านานๆ เลยครับ เพราะจำนวนที่พักมีน้อยมาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) ที่นักท่องเที่ยวล้นหลาม

2. Lake Pukaki

Lake Pukaki เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ และเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดของประเทศนิวซีแลนด์อย่างไม่ต้องสงสัย ตัวทะเลสาบมีสีฟ้าอ่อนที่งดงามมาก นอกจากนี้จากที่นี่คุณยังสามารถเห็นยอดเขา Mount Cook อีกด้วย

จุดชมวิวและถ่ายรูปที่ดีที่สุดก็คือสองข้างทางของ State Highway 80 ที่เชื่อมเมือง Twizel กับ Mount Cook Village นั่นแหละครับ แต่ถ้าจะจอดรถไปจอดที่ Peter’s Lookout ซึ่งเป็นจุดชมวิวโดยเฉพาะจะดีกว่าครับ

จุดนี้ไม่ถ่ายรูปไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะได้รับการขนานนามว่าเป็น “Million Dollar View” เลยทีเดียว ซึ่งผมพิสูจน์มาแล้วว่าสวยจริงสวยจัง ไม่ได้โม้แต่ประการใดครับ

ทั้งนี้ Lake Pukaki เป็นทะเลสาบที่สวยและเข้าถึงง่าย ต่างจากทะเลสาบอื่นๆ ที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปครับ

3. Mueller Glacier/Lake

Mueller Glacier และ Mueller Lake เป็นธารน้ำแข็งและทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้กับ Mount Cook ตัวธารน้ำแข็งยาวทั้งหมด 13 กิโลเมตร และใกล้เคียงกันมีทะเลสาบสีฟ้าอ่อนอันสวยงามตั้งอยู่ครับ

ตัวทะเลสาบและธารน้ำแข็งแห่งนี้ไม่ติดกับถนนครับ ทำให้คุณต้องเดินเทรคกิ้งเข้าไปตามเส้นทางที่เรียกว่า Hooker Valley Track ซึ่งเดินไม่ยากอะไรเลย เพราะเส้นทางเกือบทั้งหมดเป็นทางราบ สองข้างทางที่คุณเดินเข้าไป คุณจะเห็นภูเขาหิมะอย่างเต็มตาเลยครับ

อย่างไรก็ดีสำหรับ Mueller Glacier แล้วนั้น ถ้าคุณต้องการเห็นชัดๆ คุณจะต้องเดินเส้นทางที่ยากกว่า แต่แน่นอนว่าคุ้มค่า เพราะวิวบริเวณนั้นเรียกได้ว่าสวยงามสุดยอดครับ อย่างไรก็ดีถ้าใครสนใจจะไปเดินเทรคกิ้งที่เส้นทางเหล่านี้ คุณต้องตรวจสอบสภาพอากาศให้ดี เนื่องจากอาจจะเจอหิมะถล่ม ทำให้คุณได้รับอันตรายได้ครับ

4. Hooker Glacier/Lake

Hooker Glacier และ Hooker Lake เป็นธารน้ำแข็งและทะเลสาบอีกสองแห่งที่ตั้งอยู่ติดกับ Mount Cook ความยาวของตัวธารน้ำแข็งอยู่ที่ 11 กิโลเมตรครับ ซึ่งสั้นกว่า Mueller Glacier เล็กน้อย

Hooker Glacier By Pseudopanax

การเข้าถึงธารน้ำแข็งและทะเลสาบทั้งสองแห่งจัดว่าไม่ยาก เพราะแค่คุณเดินตามเส้นทางเทรคกิ้ง Hooker Valley Track ไปจนสุดทาง คุณจะเห็นทั้งธารน้ำแข็งและทะเลสาบได้อย่างชัดเจนเลยครับ

อย่างไรก็ดีถ้าคุณอยากเข้าไปใกล้แบบใกล้สุดๆ คุณต้องเดินลึกเข้าไปอีกตามเส้นทางเทรคกิ้งอื่นๆ ซึ่งวิบากกว่าแต่ก็สวยยิ่งกว่าครับ

5. Tasman Glacier

Tasman Glacier เป็นธารน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาธารน้ำแข็งทั้งหมดที่นี่ และเป็นธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในนิวซีแลนด์ด้วย เพราะมีความยาวถึง 23.5 กิโลเมตรครับ

Tasman Glacier By Pseudopanax@Wikimedia, CC BY 3.0,

ใกล้กับธารน้ำแข็งแห่งนี้มีทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งชื่อ (Tasman Lake) ภายในทะเลสาบคุณจะเห็นก้อนน้ำแข็งลอยไปมาด้วยครับ ในทะเลสาบแห่งนี้คุณสามารถพายเรือคายัค หรือนั่งเรือเล็กเพื่อเข้าไปชมภูเขาน้ำแข็งลูกใหญ่ๆ ได้ครับ หรือว่าจะเอาแบบสุดจริงๆ คือเดินเข้าไปชมตัวธารน้ำแข็งเลยก็ได้เช่นกัน

เช่นเดียวกับธารน้ำแข็งและทะเลสาบอื่นๆ คุณต้องเดินเทรคกิ้งเพื่อที่จะเข้าถึงตัวธารน้ำแข็งและทะเลสาบแห่งนี้ครับ ซึ่งเส้นทางก็ค่อนข้างสะดวกสบาย ไม่ยากอะไรครับ

6. Mount Cook

แน่นอนว่าถ้าคุณเดินทางมาที่อุทยานแห่งนี้ คุณจะเห็นยอดเขา Mount Cook อยู่แล้ว แต่ที่ผมแยกออกมาก็เพราะจะอธิบายว่า คุณสามารถปีนขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของยอดเขา Mount Cook ได้ครับ

ทุกปีจะมีนักปีนเขาจำนวนมากเดินทางมาปีนเขาที่นี่ เพราะว่า Mount Cook เหมือนกับเป็นสถานที่ทดสอบชั้นเยี่ยมก่อนที่พวกเขาจะไปปีนยอดที่ยากกว่าอย่างเช่นยอดเขาในเทือกเขาหิมาลัย แต่ผมบอกไว้ก่อนว่าการปีนยอดเขาแห่งนี้ไม่ง่ายนะครับ คุณต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว

ถ้าคุณสนใจกิจกรรมนี้ คุณจะต้องติดต่อกับบริษัทปีนเขาที่นิวซีแลนด์อย่างเช่น Adventure Consultants, Alpine Guides หรือ Aspiring Guides หรือบริษัทอื่นๆ ที่ให้บริการคนนำทางขึ้น Mount Cook ครับ

อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าคุณอยากปีนแล้วจะได้ปีน เพราะคุณต้องนำหลักฐานที่แสดงถึงประสบการณ์ในการปีนเขามาระดับหนึ่งมาให้บริษัทเหล่านี้ดูด้วย แต่ถ้าคุณมีครบทุกอย่างแล้ว จัดไปเลยครับ โอกาสแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว!

7. Dark Sky Reserve

Dark Sky Reserve ไม่ใช่สถานที่ลึกลับที่ไหน แต่เป็นท้องฟ้าในยามค่ำคืนของที่นี่นั่นเองครับ รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้กำหนดให้พื้นที่ 4,367 ตารางกิโลเมตรใกล้กับอุทยาน Aoraki/Mount Cook เป็นเขต Dark Sky Reserve โดยภายในเขตนี้จะจำกัดแสงไฟทั้งหลายให้น้อยที่สุด เพื่อที่นักท่องเที่ยวจะได้สำรวจท้องฟ้าในยามค่ำคืนได้อย่างเปรมปรีดิ์

ดังนั้นท้องฟ้าของที่นี่จึงไม่มีที่ติสำหรับการดูดาวและสำรวจปรากฏการณ์บนท้องฟ้าในช่วงกลางคืน เพราะปราศจากแสงรบกวนใดๆ ทั้งสิ้น คุณสามารถเห็นทางช้างเผือก และดาวฤกษ์ต่างๆ ได้อย่างแจ่มแจ้งเลยครับ

ผมเองก็เคยดูมาแล้ว ในตอนนั้นผมซื้อทัวร์ออกไปดูดาวนี่แหละครับ ประสบการณ์ที่ได้คือประทับใจมากๆ เพราะไกด์มีความรู้เรื่องดาราศาสตร์ดีมาก และเขานำกล้องโทรทรรศน์ชั้นเยี่ยมมาให้เราดูดาวด้วย แต่จริงๆ กล้องโทรทรรศน์ไม่ต้องใช้ก็ได้ เพราะตาเปล่าก็สวยแล้วครับ

ในช่วงแรกเราจะยังไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไร แต่พอหลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปประมาณ 90 นาทีเท่านั้นแหละครับ ดวงดาวมหาศาลก็ปรากฏแก่สายตาของผม

ว่ากันตามตรงนะ ผมยังไม่เคยดูดาวที่ไหนสวยเท่าที่ Mount Cook นี่อีกเลย แต่ข้อเสียมีอยู่อย่างเดียวคือ หนาวถึงหนาวมาก อากาศที่หนาวนี่ทำให้หลายคนในทริปถึงกับยอมเข้าไปหลบในรถเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าคุณจะออกไปดูดาว ผมแนะนำให้ใส่เสื้อหนาวให้ครบสมบูรณ์เลยครับ เพราะมันหนาวจริงๆ (ขนาดผมไปช่วงกลางฤดูร้อนนะ)

ไป Mount Cook อย่างไร

จริงๆ แล้ว Mount Cook เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูครับ แต่ช่วง High Season จะเป็นช่วงฤดูร้อน (ธันวามคม-กุมภาพันธ์) เพราะจะเป็นช่วงที่อากาศดี ไม่หนาวจนเกินไป สามารถเดินเทรคกิ้งได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการลื่น หรือหิมะถล่มมากมายนัก

อย่างไรก็ตามช่วงเดือนมีนาคมก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะใบไม้เริ่มจะเปลี่ยนสี ทำให้วิวโดยรอบสวยมาก และค่าใช้จ่ายจะไม่สูงเท่ากับตอน High Season ด้วยครับ

ทัวร์ไทยทั่วไปที่จัดทริปไปเกาะใต้ของประเทศนิวซีแลนด์ส่วนมากจะนำคุณไปเที่ยว Mount Cook อยู่แล้ว ซึ่งการไปทัวร์แน่นอนว่าสะดวกสบาย แต่คุณจะไม่ได้เดินเทรคกิ้งชมจุดสวยต่างๆ อย่างที่ผมแนะนำในโพสนี้ครับ เพราะการเดินแต่ละเส้นทางต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงเลยทีเดียว ถ้าคุณไปกับทัวร์ย่อมไม่มีเวลาเพียงพออยู่แล้วครับ

ทางเลือกที่น่าสนใจกว่าคือ คุณไปเที่ยวนิวซีแลนด์เองด้วยการขับรถไม่ว่าจะเป็นรถ Campervan หรือรถทั่วไปก็ตาม ซึ่งถ้าคุณไปเอง คุณจะได้สัมผัสยอดเขาสุดสวยแห่งนี้มากกว่าไปกับทัวร์ครับ ถ้าคุณกังวลเรื่องการวางแผนการเดินทาง ผมแนะนำให้ใช้ Roadtrippers ครับจะเพราะการใช้งานสะดวกสบาย และใช้ง่ายมาก

[sc name=”travelthai” ][/sc]

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!