ประวัติศาสตร์ภาพโมนาลิซ่า (Mona Lisa) ของดาวินชีมีความเป็นมาอย่างไร?

ภาพโมนาลิซ่า (Mona Lisa) ของดาวินชีมีความเป็นมาอย่างไร?

ภาพโมนาลิซ่า (Mona Lisa) เป็นหนึ่งในภาพที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และเป็นที่รู้จักกันดีโดยผู้คนทั่วทุกทวีป ภาพเขียนที่งามเลิศเลอนี้วาดโดยจิตรกรผู้มากความสามารถนามว่า ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo Da Vinci)

เรามาดูกันครับว่าโมนาลิซ่ามีความเป็นมาอย่างไรกันแน่?

ภาพโมนาลิซ่า

ภาพโมนาลิซ่า

ภาพโมนาลิซ่าเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังยิ้มอยู่อย่างน้อยๆ รอยยิ้มของเธอเป็นรอยยิ้มที่น่าหลงใหล น่าตีความ และน่าค้นหา ผู้หญิงที่อยู่ในภาพดูเป็นผู้หญิงในอุดมคติที่เป็นแบบอย่างแก่ผู้หญิงทั้งปวง

ดาวินชีไม่เคยลืมที่จะใส่ Signature ของเขาลงไปในภาพโมนาลิซ่าด้วย นั่นก็คือภาพฉากหลังที่มีความเป็นมิติอยู่ในนั้นทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการมองจากระยะไกล เทคนิคนี้เรียกว่า aerial perspective ซึ่งลีโอนาร์โดเก่งกาจมาก ตัวฉากหลังนี้มีส่วนสำคัญยิ่งในการเพิ่ม “ความลึกลับ” และความ “น่าหลงใหล” ของภาพ

ปัจจุบันมีการตีความภาพโมนาลิซ่านับพันนับหมื่นแบบในสาขาวิชาศิลปะ รวมไปถึงมีการเลียนแบบและล้อเลียนมากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ฝีมือของดาวินชีได้อย่างดี

ประวัติการวาดภาพโมนาลิซ่า

ผู้หญิงที่เป็นแบบให้กับดาวินชีในภาพโมนาลิซ่าคือ ลิซ่า เดล จิโอคอนโด (Lisa Del Giocondo) ลิซ่าเป็นชนชั้นสูงชาวอิตาเลียนแห่งตระกูล Gherardini ตระกูลสำคัญของนครรัฐฟลอเรนซ์ในยุค Renaissance แต่ในเวลานั้นตระกูลของเธอตกต่ำลง กล่าวคือเธอยังใช้ชีวิตอยู่อย่างสบาย แต่ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนกับบรรพบุรุษของเธออีกแล้ว

เมื่อลิซ่าอายุได้เพียง 15 ปี เธอก็แต่งงานกับพ่อค้าขายผ้าชื่อ ฟรานเชสโก เดล จิโอคอนโด (Francesco Del Giocondo) สามีของเธอมีฐานะร่ำรวยในระดับหนึ่ง (มากกว่าครอบครัวของลิซ่า) ชีวิตของลิซ่าหลังแต่งงานจึงจัดว่าสบายขึ้น

ตระกูลของฟรานเชสโกเป็นตระกูลที่คลั่งไคล้ในงานศิลปะ ประกอบกับในช่วงนั้น ลิซ่าเพิ่งจะให้กำเนิดอันเดรีย บุตรชายให้กับเขา และตัวเขาเองเพิ่งจะสร้างบ้านใหม่เสร็จสิ้นด้วย ฟรานเชสโกจึงอยากจะให้จิตรกรสักคนวาดภาพเหมือนของภรรยาของเขาให้สักหน่อย

จิตรกรที่เขาเลือกก็คือ ลีโอนาร์โด ดาวินชี ผู้นี้เอง

ช่วงที่ดาวินชีเริ่มวาดภาพน่าจะเป็นช่วงปี ค.ศ.1503-1506 (ช่วงเวลาไม่แน่ชัด) สาเหตุที่ดาวินชียอมวาดภาพโมนาลิซ่าก็เพราะว่าช่วงนั้นเขาไม่มีรายรับสักเท่าไรนัก

หากแต่ว่าในเวลาต่อมา ดาวินชีก็ติดวาดภาพอื่นๆ ด้วย ทำให้เขาไม่มีเวลาทำภาพโมนาลิซ่าให้เสร็จสิ้นเสียที จนสุดท้ายดาวินชีไม่ได้มอบภาพนี้ให้กับฟรานเชสโก ส่วนฟรานเชสโกก็ไม่ได้มอบค่าจ้างกับดาวินชี

ด้วยเหตุนี้ภาพนี้จึงติดตามจิตรกรผู้นี้ไปจนกระทั่งเขาเสียชีวิต เชื่อกันว่าดาวินชีน่าจะวาดภาพโมนาลิซ่าจนเกือบเสร็จในช่วงที่เขาอยู่ในฝรั่งเศส (ค.ศ.1516?) เรายังไม่แน่ชัดว่าภาพนี้เสร็จสมบูรณ์อย่างที่ดาวินชีหวังไว้แล้วหรือยัง เพราะมือขวาของเขาเป็นอัมพาตในปี ค.ศ.1517 นักประวัติศาสตร์ศิลปะต่างให้ความเห็นว่าภาพนี้น่าจะยังไม่เสร็จ

หลังจากดาวินชีเสียชีวิต ภาพนี้ได้ตกเป็นสมบัติของพระเจ้าฟรานซิสที่ 1 แห่งฝรั่งเศส หลังจากที่พระองค์ได้ซื้อต่อจากลูกศิษย์ของดาวินชี ภาพนี้ได้อยู่ในการครอบครองของราชสำนักฝรั่งเศส จนกระทั่งการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1789 ปัจจุบันภาพนี้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ Louvre กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

มีนักประวัติศาสตร์ศิลปะบางคนเชื่อว่าจริงๆ แล้วภาพโมนาลิซ่ามีสองภาพ ภาพที่หนึ่งคือภาพที่ดาวินชีวาดให้กับฟรานเชสโก ส่วนอีกภาพหนึ่งคือ ภาพที่เขาวาดขึ้นมาใหม่ทีหลังและภาพที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันคือภาพที่สอง แต่ว่าเราก็ยังไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่ามีภาพโมนาลิซ่ามีสองภาพจริงหรือไม่

เมื่อภาพโมนาลิซ่าถูกขโมย

ในปี ค.ศ.1911 ภาพนี้ถูกขโมยไปจากพิพิธภัณฑ์ Louvre ทำให้พิพิธภัณฑ์ต้องถูกปิดนานถึงหนึ่งสัปดาห์เพื่อจะทำการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง

หลังจากจับแพะไปหลายคน สองปีต่อมาทางตำรวจก็ได้พบว่า ผู้ขโมยภาพดังกล่าวไปคือ ลูกจ้างของพิพิธภัณฑ์คนหนึ่งเป็นคนขโมยมันไป ด้วยการนำภาพซุกไว้ในโค้ดของเขาหลังจากที่พิพิธภัณฑ์ปิด

ผนังที่ว่างเปล่าหลังภาพถูกขโมยไป. – Mary Evans Picture Library/Everett Collection (ME10031014)

ขโมยผู้นี้เป็นชาวอิตาเลียนนามว่า Vincenzo Peruggia เขาเป็นชาวอิตาเลียนคลั่งชาติ เขาเลยคิดว่าดาวินชีเป็นชาวอิตาเลียน เพราะฉะนั้นภาพนี้ควรจัดแสดงให้พิพิธภัณฑ์ในประเทศอิตาลี เขานำภาพดังกล่าวหนีไปยังอิตาลีและเก็บไว้ในอพาร์ตเมนต์ของเขาที่ฟลอเรนซ์เป็นเวลานานถึง 2 ปี

สุดท้าย เขาติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งในอิตาลี นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาถูกรวบตัวได้ในที่สุด ส่วนภาพโมนาลิซ่าก็ถูกส่งกลับไปยังพิพิธภัณฑ์ลูฟส์ตามเดิม

การค้นหาที่กินเวลานานถึงสองปี มีส่วนสำคัญทำให้ภาพนี้กลายเป็นภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลก และในเวลาต่อมาก็เป็นงานศิลปะที่มีผู้รู้จักมากที่สุดในโลก

ภาพโมนาลิซ่าถูกพบอีกครั้งหนึ่ง

ภาพโมนาลิซ่าถูกโจมตี

ในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 20 ปรากฏว่ามีความพยายามจะคนหลายกลุ่มที่จะทำลายภาพโมนาลิซ่า

ประมาณปี ค.ศ.1950 ได้มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเขาหลงรักภาพนี้ เขาเลยพยายามจะบุกเข้าไปใช้เลื่อยตัดภาพออกมา โชคดีที่มีผู้หยุดยั้งเอาไว้ได้ทัน

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำกระจกกันกระสุนมาหุ้มตัวภาพเอาไว้ ทำให้มันแข็งแรงมากขึ้น

ในปี ค.ศ.1956 ภาพโมนาลิซ่าถูกผู้ไม่หวังดีบางคนโยนหินเข้าใส่เต็มแรง ทำให้ตัวกระจกที่หุ้มภาพวาดเอาไว้แตกออก และสร้างความเสียหายให้กับภาพเล็กน้อย

หลังจากนั้นภาพโมนาลิซ่าก็โดนโจมตีอีกครั้งสองครั้ง ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นระหว่างจัดแสดงที่โตเกียวในปี ค.ศ.1974 มีผู้หญิงญี่ปุ่นคนหนึ่งเดือดดาลเพราะเจ้าหน้าที่เปิดทางเข้าให้ผู้พิการไม่ดีพอ เธอจึงใช้สเปรย์สีแดงฉีดไปที่ภาพ แต่เพราะมีกระจกคุ้มกันไว้อยู่ ทำให้ภาพไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

ส่งท้าย

ปัจจุบันภาพโมนาลิซ่าจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟส์ ประเทศฝรั่งเศส มีผู้คนนับพันไปชมความงดงามที่น่าหลงใหลของภาพนี้ทุกวัน ภาพนี้ยังคงเป็นหนึ่งในภาพวาดที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก (ถ้ามีการซื้อขายก็คงจะเป็นภาพวาดที่แพงที่สุดในโลก) และได้รับการยกย่องอย่างสูงในวงการศิลปกรรม

ดูผลงานของดาวินชีที่ตกทอดมาถึงปัจจุบันได้ ที่โพสนี้

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!