ประเทศอินเดียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ผลไม้อย่าง “มะม่วง” (Mango) เป็นที่นิยมในการกินอย่างสุดๆ ผมเชื่อว่าคนไทยบางคนน่าจะเคยลิ้มลองมะม่วงอินเดียมาบ้างแล้ว เพราะ “Mango Lassi” เครื่องดื่มยอดนิยมในร้านอาหารอินเดียก็ใช้มะม่วงอินเดียเป็นส่วนประกอบหลัก
โดยทั่วไปแล้วมะม่วงอินเดียมีหลายสายสิบสายพันธุ์ แต่แทบทุกสายพันธุ์มีรูปร่างและรสชาติที่ต่างออกไปจากมะม่วงไทยโดยสิ้นเชิง ในโพสนี้เราจะมาดูกันครับว่า “มะม่วงอินเดีย” มีสายพันธุ์ไหนบ้าง
1. Alphonso
Alphonso หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “Hapus” เปรียบเสมือนเทพเจ้าแห่งมะม่วงอินเดียทั้งปวง เพราะได้รับความนิยมสูงสุด ตัวมะม่วงจะมีสีเหลืองอมส้มครับ Alphonso เป็นมะม่วงที่มีรสชาติหวานจัด มีกลิ่นหอม เนื้อแน่น แต่แทบไม่มีกากใยอาหารเลย ทำให้เหมาะกับการใช้ทำเป็นขนมหวานและเครื่องดื่มครับ
ที่มาของมะม่วงชนิดนี้มาจากรัฐมหารัชตะที่ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศอินเดียครับ และเป็นมะม่วงจากอินเดียที่ได้รับการส่งออกนอกประเทศมากที่สุดแล้ว โดยทั่วไปแล้วต้นมะม่วงชนิดนี้จะให้ผลในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมครับ
2. Chausa
Chausa เป็นมะม่วงยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งของอินเดีย ตัวมะม่วงถูกตั้งชื่อตามเมืองแห่งหนึ่งในรัฐพิหาร (Bihar) และมีเรื่องเล่าว่า Sher Shah Suri คู่ปรับสำคัญของราชวงศ์โมกุลได้เป็นผู้ทำให้มะม่วงชนิดนี้ได้รับความนิยม
ผลมะม่วงชนิดนี้จะมีสีเหลืองทองอย่างงามตา บางผลอาจจะมีสีเหลืองอมเขียว รสชาติของมะม่วงชนิดนี้จะออกหวานและมีกลิ่นที่หอมหวลครับ
3. Raspuri
มะม่วงทรงวงรีอย่าง Raspuri มีที่มาจากรัฐ Karnataka (กรนาฏกะ) ทางตอนใต้ของอินเดีย ชาวอินเดียมักจะนำมะม่วงชนิดนี้ไปทำโยเกิร์ตอย่าง Mango Lassi สมูตตี้ และแยม เพราะผลมะม่วงให้น้ำเยอะมาก บ่อยครั้งที่ Raspuri ถูกขนานนามว่าราชินีแห่งมะม่วงทั้งปวง
Raspuri มักให้ผลช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ถ้าคุณไปเที่ยวอินเดียตอนใต้ คุณจะเห็นชาวบ้านนำมะม่วงชนิดนี้มาวางขายเต็มไปหมดเลยครับ
4. Totapuri
รัฐกรนาฏกะเป็นสถานที่ให้กำเนิดมะม่วงอินเดียมากกว่า 60 สายพันธุ์ นอกจาก Raspuri แล้ว Totapuri คืออีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก มะม่วงพันธุ์นี้มีรูปร่างแปลกตาที่ชาวอินเดียเปรียบว่าเหมือนกับปากนกแก้วที่มีสีเขียวอมเหลืองครับ
Totapuri เป็นมะม่วงที่ไม่ได้มีรสหวานเหมือนกับมะม่วงพันธุ์อื่นๆ อย่าง Raspuri หรือ Alphonso มักจึงมักจะใช้กินกับสลัดเสียมากกว่าครับ ต้นมะม่วงจะให้ผลช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมครับ
5. Pairi
Pairi หรือ Paheri แห่งรัฐคุชราด (Gujarat) เป็นมะม่วงสีแดงที่เริ่มให้ผลในเดือนเมษายน ซึ่งถือว่าฤดูให้ผลของมันเร็วกว่ามะม่วงชนิดอื่น มะม่วงชนิดนี้มีจุดเด่นคือมันมีรสเปรี้ยวอมหวาน ต่างจากมะม่วงอินเดียพันธุ์อื่นๆ ที่อาจจะหวานอย่างเดียว ชาวรัฐคุชราดมักนำเมนูนี้ไปทำเป็นของหวานอินเดียที่เรียกว่า “Aamras” ครับ
6. Dasheri
Dasheri เป็นมะม่วงที่มีถิ่นที่มาจากเมือง Lucknow เมืองที่นอกจากจะโด่งดังเรื่อง Biryani แล้ว ยังโด่งดังในฐานะเมืองมะม่วงแห่งอินเดียตอนเหนือด้วย
มะม่วง Dasheri มักมีสีเขียวเข้ม และเริ่มเหลืองอร่ามเมื่อมันสุก มะม่วงชนิดนี้ให้ผลยาวนานตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงปลายเดือนสิงหาคมครับ
7. Kesar
Kesar เป็นพันธุ์มะม่วงที่มาจากรัฐคุชราด สีของมันเหมือนกับเครื่องเทศอย่างหญ้าฝรั่นไม่มีผิดเพี้ยน ด้วยความที่มันหวานอร่อย มันจึงถูกใช้ประกอบอาหารและของหวานระดับสูงนานาชนิด ผลที่ตามมาคือทำให้ราคาของมันสูงเป็นอันดับต้นๆ ของมะม่วงทุกพันธุ์ในอินเดียครับ
8. Himsagar
Himsagar คือพันธุ์มะม่วงระดับสุดยอดแห่งดินแดนตะวันตกของอินเดีย โดยเฉพาะเมืองชื่อ “Murshidabad” มะม่วงชนิดนี้หอมกรุ่น และมีรสสัมผัสที่อ่อนนุ่มคล้ายกับครีม ทำให้เชฟชาวอินเดียชอบเลือกมะม่วงพันธุ์นี้มาทำเครื่องดื่มอินเดียอย่าง Mango Lassi และขนมหวานต่างๆ
อย่างไรก็ดีมะม่วงชนิดนี้จะให้ผลิตผลแค่ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายนเท่านั้นครับ
9. Badami
Badami เป็นมะม่วงอีกพันธุ์ที่มาจากรัฐกรนาฏกะ จุดเด่นของมะม่วงพันธุ์นี้คือมีเปลือกที่บางมาก และมีสีเหลืองทองและมีสีแดงที่บริเวณหัวของผลมะม่วงครับ
รสชาติของ Badami ไม่แพ้มะม่วง Alphonso เลยแม้แต่น้อย ทำให้ Badami ถูกขนานนามว่าเป็น “Alphonso แห่งรัฐกรนาฏกะ” ตัวมะม่วงมีวิตามินสูงมาก และมักใช้ทำเป็นน้ำผลไม้ครับ ระยะเวลาการให้ผลก็ถือว่านานกว่าพันธุ์อื่นๆ เพราะมีให้กินตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมเลยทีเดียว
10. Langra
Langra เป็นพันธุ์มะม่วงจากเมืองพาราณสี (Varanasi) หนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดู สีของผลมะม่วงเป็นสีเขียวเหมือนกับมะนาว แม้ว่ามันจะสุกแล้วก็ตาม ที่เมืองพาราณสีมีตำนานเล่าว่ามะม่วงชนิดนี้ถูกปลูกในฟาร์มของชายไร้ขาเป็นที่แรก ตัวมะม่วงจึงได้ชื่อนี้ครับ
มะม่วงชนิดนี้จัดเป็นมะม่วงเปรี้ยว แม้ว่าจะสุกแล้วมันก็ยังมีความเปรี้ยวอยู่ ถ้าใครชอบเปรี้ยวแล้วละก็ ห้ามพลาดเป็นอันขาดเลยครับ
11. Neelam
Neelam เป็นสายพันธุ์มะม่วงที่ต่างจากมะม่วงอินเดียส่วนใหญ่ กล่าวคือมันไม่ได้จำกัดอยู่ที่รัฐใดรัฐหนึ่ง แต่มันพบได้ทั่วทั้งประเทศอินเดีย อย่างไรก็ดีมะม่วง Neelam ที่รสชาติดีที่สุดต้องมาจากรัฐ Andhra Pradesh ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของอินเดียครับ
สีของ Neelam จะเป็นสีส้มอมเขียว และขนาดผลจะเล็กกว่ามะม่วงส่วนใหญ่ ผลมะม่วงจะมีกลิ่นอมโชยที่บ่งบอกว่าตัวเนื้อมะม่วงมีรสหวานเพียงใด
12. Mulgoba
Mulgoba หรือ Malgova, Malgoa เป็นมะม่วงแห่งรัฐทมิฬนาฑู รัฐที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของอินเดีย ตัวมะม่วงเป็นมะม่วงทรงกลมสีเขียวอมเหลืองลูกใหญ่ และมีเปลือกหนามาก ราวกับว่าพยายามจะไม่ให้เราได้กินมันได้ง่ายๆ แต่เมื่อคุณปอกเข้าไปถึงเนื้อในแล้ว คุณจะได้สัมผัสกับมะม่วงที่หวาน ชุ่มฉ่ำและเต็มไปด้วยน้ำครับ ทำให้มันเหมาะมากๆ ที่จะใช้ทำน้ำมะม่วงครับ
13. Malda
Malda เป็นมะม่วงที่ชาวอินเดียขนานนามกันอยู่บ่อยๆ ว่าเป็นราชาแห่งมะม่วงทั้งปวง พันธุ์มะม่วงนี้มาจากรัฐพิหารและเบงกอลตะวันตก และมีจุดเด่นตรงที่มันปราศจากกากไฟเบอร์ใดๆ รสชาติของมันยังหวานอมเปรี้ยว ผลมะม่วงมีกลิ่นหอมหวาน แถมยังมีเปลือกบางด้วย เรียกได้ว่า Malda นำข้อดีของมะม่วงทุกพันธุ์มารวมกันเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้มะม่วงชนิดนี้บางสายพันธุ์ย่อยอย่าง “Fazli” มีขนาดใหญ่มาก โดยมีน้ำหนักมากถึง 1 กิโลกรัม ชาวอินเดียนิยมนำมันมาทำเป็น Chutney ครับ
14. Rumani
Rumani เป็นมะม่วงสีเหลืองอมเขียวที่อุดมไปด้วยวิตามินมากมาย ถิ่นกำเนิดของมันอยู่ที่รัฐทมิฬนาฑูใกล้กับเมืองเชนไน ด้วยความที่มะม่วงนี้รสชาตินี้มาก ทำให้ชาวทมิฬโปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง พวกเขามักจะกินมันแบบสดๆ และใช้เป็นส่วนประกอบของขนมหวาน โยเกิร์ต แยม สมูตตี้ และอื่นๆ อีกมากเลยครับ