การเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบตัวต่อตัวคือการเรียนภาษาอังกฤษแบบใหม่ ที่คุณจะได้เรียนกับครูเจ้าของภาษาแบบสดๆ ผ่านทาง Video Call ซึ่งจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะทั้งการฟังพูดอ่านเขียนได้รวดเร็ว
ครูของคุณจะได้ใช้เวลาทั้งหมดของเขาและเธอในการจัดการกับข้อผิดพลาดของคุณ และช่วยเหลือคุณพัฒนาทักษะในทุกๆ ด้าน ไม่ต่างอะไรกับการไปเรียนที่สถาบันเลยครับ
ถ้าเทียบกับการไปเรียนที่สถาบันทั่วไปแล้ว ราคาต่อชั่วโมงของคอร์สสอนภาษาอังกฤษออนไลน์ถูกกว่ามาก (ประมาณ 300-800 บาท) ขณะที่ถ้าไปเรียนภาษาอังกฤษที่สถาบันแบบตัวต่อตัวกับครูเจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์ในประเทศไทยนั้นแพงถึงแพงมากถึง 1,000-2,000 บาทเลยทีเดียว (จากที่ผมเคยเรียนมา) แถมบางสถาบันยังคิดค่าใช้จ่ายสูงกว่านั้นเสียอีก
ข้อดีของคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ผมจะแนะนำยังมีอย่างอื่นด้วย นั่นก็คือคุณเลือกเวลาเรียนได้ เรียนที่ไหนก็ได้ เลือกครูได้ (เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้เรียนกับเจ้าของภาษา) แถมหลายแห่งยังมีให้ลองเรียนฟรีอีก คุณเองก็ไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดเพื่อไปเรียนด้วยครับ
ดังนั้นผมจึงชอบวิธีการเรียนแบบนี้มาก และมองว่าเป็นตัวเลือกทางการเรียนที่ดีเยี่ยมไปเลยครับ
ในโพสนี้เราไปดูกันดีกว่าจะเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ที่ไหนดี?
1. British Council
ตัวเลือกในการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ตัวต่อตัวที่ดีที่สุดย่อมขาด British Council ไปไม่ได้เลย เพราะคุณจะได้เรียนกับครูผู้สอนประสบการณ์สูงจากประเทศอังกฤษโดยตรง นอกจากนี้ยังเรียนตามหลักสูตรอย่างเป็นทางการด้วย ทำให้เป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ไปโดยปริยายครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเรียนภาษาอังกฤษกับ British Council ทางออนไลน์จะต่างกับเรียนผ่านสถาบันในประเทศไทยอย่างไร คำตอบก็คือความยืดหยุ่นจะสูงกว่าอย่างชัดเจนครับ เพราะคุณสามารถเลือกในสิ่งต่อไปนี้ได้
- เลือกเวลาเรียนได้เองตลอด 24 ชั่วโมง (ถ้าไปเรียนที่สถาบันไม่ได้อย่างแน่นอน)
- เลือกครูผู้สอนได้
- เลือกเนื้อหาของบทเรียน (Lesson Themes) รวมไปถึงเลือกจุดมุ่งหมายในการเรียนได้
- เลือกเรียนแบบตัวต่อตัว หรือเรียนเป็นกลุ่ม ถ้าเลือกอย่างหลัง คุณจะได้เจอเพื่อนใหม่จากทุกมุมโลกครับ
นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เข้าถึงบทเรียน แบบฝึกหัด และทรัพยากรทางการเรียนอื่นๆ ได้ทุกที่ทุกแห่ง ส่วนการเรียนก็จะเรียนผ่าน Video Conference ครับ ดังนั้นถือว่าสะดวกสบายมากเลยทีเดียว
สำหรับค่าเรียนจะใช้ระบบสมัครสมาชิกครับ โดยจะมี 3 แพลนให้เลือกดังต่อไปนี้
- Silver – 5 Class Credits (2,329 บาทต่อเดือน)
- Gold – 10 Class Credits (3,808 บาทต่อเดือน)
- Platinum – 15 Class Credits (4,696 บาทต่อเดือน)
ทั้งนี้คลาสแบบเดี่ยวจะยาว 25 นาที โดยการจองคลาสแต่ละครั้งจะใช้ 2 Class Credits ครับ แต่ถ้าเลือกแบบกลุ่มจะยาว 55 นาที (แต่ใช้แค่ 1 Class Credits) ครับ ดังนั้นถ้าคุณสมัครสมาชิกแบบ Silver เรียนเดี่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 1,016 บาท แต่ถ้าสมัคร Platinum จะเหลือแค่ 682 บาทเท่านั้นเองครับ ซึ่งถ้าคุณอยากจะเก่งภาษาอังกฤษจริงๆ ผมมองว่าต้อง Platinum เท่านั้นครับ เพราะภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่ต้องอาศัยการสะสม และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพัฒนาแบบปุบปับได้
ข้อดีอีกอย่างคือทาง British Council ให้คุณทดลองเรียนฟรีด้วย (สำหรับ Gold และ Platinum) เท่านั้น ถ้าสนใจ ผมแนะนำให้ทดลองเรียนเลยครับ
2. Lingoda
Lingoda เป็นหนึ่งในสถาบันสอนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบออนไลน์ที่มาแรงที่สุดในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเพราะเป็นสถาบันไม่กี่แห่งที่เป็น Authorised Linguaskill Agent กับ Cambridge Assessment
ระบบการสอนทุกอย่างจะอ้างอิงตามเกณฑ์และมาตรฐาน CEFR (Level A1-C1) ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ด้วยความที่ใช้ระบบนี้ครูของ Lingoda จะเป็นเจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์สอนอย่างสูงถึงสูงมากเท่านั้นครับ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของครูแต่อย่างใด และไม่ต้องกลัวว่าจะได้ครูที่ไม่ใช่เจ้า่ของภาษาด้วยครับ
การเรียนต่างๆ ก็จะเริ่มตั้งแต่ระดับพื้นฐานภาษาอังกฤษเลยครับ แต่คุณเองก็เลือกได้เช่นกันว่าจะเริ่มเรียนจากตรงไหน
ขั้นตอนการเรียนกับ Lingoda
วิธีการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับ Lingoda นั้นไม่ยากเลยครับ หลักๆ มีแค่ 2 ขั้นตอนเท่านั้นเอง
ขั้นตอนที่ 1: Sign Up แล้วเลือกเวลาที่ต้องการจะเรียน นอกจากนี้ยังสามารถเลือกตามระดับ (CEFR) เช่นเดียวกับเลือกได้ว่าเรียนเดี่ยวหรือกลุ่มครับ ถ้าเรียนกลุ่มก็จะไม่เกิน 4 คน แต่ถ้าเรียนเดี่ยวก็จะตัวต่อตัวเลยครับ
ทั้งนี้เนื่องจาก Lingoda จะตามมาตรฐานของ CEFR ดังนั้นจะมีบทเรียนให้เลือกตามระดับที่เหมาะสม เช่นถ้าเป็นระดับ C1 เนื้อหาและระดับของภาษาย่อมจะสูงกว่า A1 ครับ
ส่วนครูที่สอนก็จะเปลี่ยนไปตามบทเรียนเช่นเดียวกัน แต่ละคลาสจะมีระบุไว้อย่างชัดเจนว่าครูจะสอนทักษะอะไร ซึ่งทักษะประกอบด้วย Reading, Speaking, Skills, Grammar, Writing ครับ
ขั้นตอนที่ 2 เริ่มเรียน!: หลังจากที่เลือกเวลาได้แล้ว คุณสามารถเริ่มเรียนได้ทันที แต่ละคลาสจะยาว 1 ชั่วโมงและจะสอนผ่าน Zoom ครับ ถ้าสงสัยว่าเรียนภาษาอังกฤษทางออนไลน์กับ Lingoda อย่างไร ลองดูจากคลิป Youtube ด้านล่างได้เลย (คลิก play ได้เลยครับ)
พอมาถึงขั้นนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าราคาค่าเรียนของ Lingoda เป็นเท่าไรแน่ เรามาดูกันครับ
ค่าเรียนของ Lingoda
คอร์สเรียนภาษาของ Lingoda จะมีสองแบบหลักๆ นั่นคือแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม (ไม่เกิน 4 คน) นั่นแปลว่าคุณสามารถเรียนกับเพื่อนได้ถ้าต้องการ ดังนั้นค่าเรียนจะต่างกันไปด้วย นอกจากนี้ระบบคิดเงินจะใช้แบบสมัครสมาชิกรายเดือนครับ
สำหรับการเรียนแบบเดี่ยวนั้น ค่าเรียนจะเป็นลักษณะนี้ (คลาสนึงยาว 1 ชั่วโมง)
ราคาต่างๆ ผมเปลี่ยนจากยูโรมาเป็นบาทให้แล้วเรียบร้อย
จำนวนคลาสต่อเดือน | ราคารวม (ประมาณ) | เฉลี่ยชั่วโมงละ |
5 | 5,000 | 1,000 |
10 | 8,600 | 860 |
15 | 11,850 | 790 |
20 | 15,100 | 750 |
30 | 21,600 | 718 |
หากแต่ว่าถ้าคุณคิดว่าคุณเรียนเยอะจริง และต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง ทางสถาบันมีคอร์สที่เรียกว่า Language Marathon ดังต่อไปนี้
- 989 ยูโรหรือ 35,600 บาทต่อ 3 เดือน เรียนได้ทั้งหมด 45 คลาส เฉลี่ยคลาสละ 791 บาท
- 1,979 ยูโรหรือ 71,250 บาทต่อ 6 เดือน เรียนได้ทั้งหมด 90 คลาส เฉลี่ยคลาสละ 791 บาท
- 3,499 ยูโรหรือ 126,000 บาทต่อ 12 เดือน เรียนได้ทั้งหมด 180 คลาส เฉลี่ยคลาสละ 700 บาท
แต่ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าคุณเรียนได้มากกว่า 90% ในช่วงเวลาที่กำหนด ทางสถาบันจะคืนเงินให้คุณ 120 ยูโร, 450 ยูโร และ 1,000 ยูโรตามลำดับ นั่นแปลว่าค่าเรียนของคุณจะเหลือแค่ 500 บาทต่อคลาส ถ้าคุณสมัครคอร์ส Marathon 12 เดือน
ถัดมา เรามาดูที่ค่าเรียนแบบกลุ่มกันบ้าง รูปแบบการคิดเงินเหมือนกับแบบเดี่ยวทุกประการ แต่ราคาต่อคลาสจะถูกกว่ามากครับ (คลาสละ 1 ชั่วโมง)
จำนวนคลาสต่อเดือน | ราคารวม (ประมาณ) | เฉลี่ยชั่วโมงละ |
5 | 2,120 | 424.5 |
10 | 3,560 | 356 |
15 | 5,000 | 333 |
20 | 6,100 | 304 |
30 | 8,600 | 287 |
นอกจากนี้แบบกลุ่มยังมีระบบ Language Marathon เช่นเดียวกัน
- 419 ยูโรหรือ 15,100 บาทต่อ 3 เดือน เรียนได้ทั้งหมด 45 คลาส เฉลี่ยคลาสละ 335 บาท
- 839 ยูโรหรือ 30,200 บาทต่อ 6 เดือน เรียนได้ทั้งหมด 90 คลาส เฉลี่ยคลาสละ 336 บาท
- 1,399 ยูโรหรือ 50,400 บาทต่อ 12 เดือน เรียนได้ทั้งหมด 180 คลาส เฉลี่ยคลาสละ 280 บาท
เงื่อนไขก็เหมือนเดิม นั่นคือถ้าเรียนได้มากกว่า 90% คุณจะได้เงินคืน แต่จำนวนเงินคืนจะอยู่ที่ 50 ยูโร, 200 ยูโร และ 400 ยูโรตามลำดับ ซึ่งจะน้อยกว่าแบบเดี่ยวครับ แต่นั่นแปลว่าถ้าคุณสมัครแบบ 12 เดือนและเรียนจนครบ ค่าเรียนจะอยู่ที่ 160 บาทต่อชั่วโมงเท่านั้น น่าจะหาที่ไหนไม่ได้แล้วครับ
ถ้ายังงง ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
การจองแบบกลุ่มไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องพาเพื่อนมาเรียนให้ครบ 4 คนนะครับ คุณสมัครเรียนคนเดียวก็ได้ แต่ในคลาสกลุ่มจะมีนักเรียนคนอื่นด้วยนั่นเองครับ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คุณได้รู้จักเพื่อนใหม่จากทั่วโลกด้วย ในกรณีที่นักเรียนไม่ครบ 4 คน ครูของคุณจะสอนตามปกติครับ ไม่ได้แปลว่าไม่ครบจะไม่สอนแต่อย่างใด
นอกจากนี้คุณสามารถเรียนได้มากกว่าวันละคลาส หรือพูดง่ายๆ ถ้าวันนั้นรู้สึกขยัน อยากเรียนภาษาอังกฤษเป็นพิเศษ คุณจะเรียนวันนั้นไป 3 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ แต่คุณต้องบริหารเวลาเอาเอง เพราะจำนวนคลาสต่อเดือนมีจำกัดครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์จะมีเนื้อหาให้เรียนมากขนาดนั้นเลยหรือ คำตอบคือแต่ละเลเวล (ตั้งแต่ A1 ถึง C1) จะมี 50 คลาสให้เรียน ดังนั้นเนื้อหาทั้งหมดจะใช้เวลามากถึง 250 ชั่วโมงถึงจะครบครับ
ไม่ต้องสงสัยว่ามีเนื้อหาเพียงพอให้คุณเรียนแน่นอน (และยังไม่นับการเรียนซ้ำหรือทบทวนอีก) และหลังจากที่คุณจบระดับใดก็ตาม (สมมติว่า B1) คุณจะได้รับประกาศนียบัตรด้วยครับ
อย่างไรก็ดีข้อเสียของ Lingoda คือ
- ไม่มีคลาสสำหรับการสอบ IELTS, TOEFL ให้เรียน
- คอร์สเรียนภาษาอังกฤษเฉพาะทางยังมีแค่ Business English หรือภาษาอังกฤษสำหรับธุรกิจ ความยืดหยุ่นในการเรียนจึงต่ำกว่า
- การเลือกครูยังถือว่ายืดหยุ่นน้อยกว่าคู่แข่ง (สมมติว่าชอบครูคนนี้มาก อยากเรียนต่อยาวๆ คุณจะไม่สามารถทำได้ครับ)
Lingoda ให้คุณลองเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ได้ฟรี 7 วัน (เลือกระหว่าง 3 คลาสกลุ่ม หรือ 1 คลาสเดี่ยว)
[sc name=”lingodat” ][/sc]3. Live Lingua
Live Lingua เป็นอีกสถาบันสอนภาษาอังกฤษออนไลน์กับครูเจ้าของภาษาแบบตัวต่อตัวในราคาย่อมเยา ครูของ Live Lingua มีประสบการณ์สูงมาก พวกเขาเป็นเจ้าของภาษาที่มีประสบการณ์การสอนภาษาอังกฤษแก่นักเรียนทุกระดับมาอย่างยาวนาน หรือแม้กระทั่งจบการศึกษาระดับปริญญาเอกครับ
ทั้งนี้ปรัชญาของ Live Lingua คือนักเรียนทุกคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นนอกเหนือจากการเรียนภาษาอังกฤษแบบทั่วไปอย่างเช่น การพูดภาษาอังกฤษกับชาวต่างชาติในชีวิตประจำวันแล้ว ทางแพลตฟอร์มจึงมีคอร์สภาษาอังกฤษสำหรับเตรียมสอบไม่ว่าจะเป็น TOEFL, IELTS, TOEIC, CPE, GMAT Verbal อีกด้วย
แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือคุณสามารถเลือกเรียนตามความต้องการของคุณได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- English for Medical – เรียนภาษาอังกฤษในวงการแพทย์ เช่นเพิ่มทักษะการสอบถามผู้ป่วยเป็นภาษาอังกฤษ
- English for Tour Guides – เรียนภาษาอังกฤษสำหรับไกด์นำเที่ยว
- Interview Preparation – เรียนการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ
- English Presentation – เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการนำเสนอที่มีประสิทธิภาพ
- การฝึกพูดภาษาอังกฤษ, การสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ, คำศัพท์แบบรายทักษะ
- และอื่นๆ อีกมากมาย
ถ้าคุณสนใจในส่วนนี้ก็แค่ระบุลงไปในการเรียนครั้งแรกครับ ผมชอบมากกับระบบนี้ เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรให้เลือกเรียนบ้าง เพราะครูจะสร้างคอ์สเรียนภาษาอังกฤษที่เหมาะสมกับคุณแบบ 100% ขึ้นมาครับ
ค่าเรียนภาษาอังกฤษของ Live Lingua
สำหรับค่าเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์จะแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าคุณจะเรียนอะไร อาทิเช่น
- Standard English หรือภาษาอังกฤษทั่วไป ราคาเริ่มต้นที่ $24 หรือ 720 บาท
- เตรียมสอบเช่น TOEFL ราคาอยู่ที่ $29 หรือ 870 บาทต่อชั่วโมง
ในส่วนนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะจองแบบเป็นคอร์สยาวไปเลย หรือว่าจะจองเป็นรายชั่วโมง ซึ่งถ้าจองยาวไปเลยจะคุ้มกว่า เพราะค่าเรียนต่อชั่วโมงจะต่ำกว่า อย่างไรก็ดีถ้าจะจองยาว ผมแนะนำให้จองเวลาเรียนที่ 40 ชั่วโมงครับ ไม่ต้องจองมากกว่านั้น เพราะจองไปก็ไม่ได้ส่วนลดอะไรแล้ว
ถ้าคุณจอง 40 ชั่วใมง ค่าเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัวแบบ Standard English จะอยู่ที่ $20 หรือประมาณ 600 บาทครับ และรวมเอกสารทุกอย่างในการเรียนหมดแล้ว นอกจากนี้เวลาที่คุณจองไปจะไม่มีวันหมดอายุ จะกลับมาเรียนเมื่อไรก็ได้ครับ
วิธีการจองเวลาเรียน
วิธีการจองเวลาเรียนและเลือกครูของ Live Lingua แตกต่างกับแพลตฟอร์มอื่นด้านล่าง นั่นคือคุณจะกรอกประวัติและความต้องการของคุณลงไป หลังจากนั้นทาง Live Lingua จะหาครูชาวต่างชาติที่เหมาะกับคุณ หลังจากนั้นคุณจะได้ลองเรียนกับครูฟรีเป็นเวลา 30 นาทีเพื่อดูว่าการสอนของครูเข้ากับคุณหรือไม่ ถ้าคุณโอเค คุณถึงจะได้จองเวลาและจ่ายค่าเรียนครับ (ฟรีในที่นี่คือเรียนภาษาอังกฤษฟรีจริงๆ เพราะคุณไม่ต้องใส่แม้กระทั่งเครดิตการ์ดเลยครับ)
แต่ถ้าไม่ชอบครูที่ Live Lingua หามาให้ คุณสามารถให้ทีมงานหาคนใหม่ให้ได้ครับ ผมแนะนำว่าถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืน เพราะคุณเลือกครูได้แบบเบ็ดเสร็จอยู่แล้วครับ
จุดแข็งของ Live Lingua ที่ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นคือ คุณสามารถเลือกได้ครับว่าจะเรียนครั้งละนานเท่าไรตั้งแต่ 30 นาทีไปถึง 2 ชั่วโมง ถ้าวันไหนยุ่งมาก อยากจะเรียนภาษาอังกฤษสั้นๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ
อย่างไรก็ดีข้อเสียของ Live Lingua คือไม่มีแพลตฟอร์มการเรียนเป็นของตนเอง คุณจึงต้องเรียนกับครูผ่านทาง Third-party app อย่าง Skype ครับ
4. Italki
Italki เป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่เป็นผู้นำตลาดสำหรับการเรียนภาษาต่างๆ ทางออนไลน์แบบตัวต่อตัว ปัจจุบันมีผู้เรียนมากกว่า 5,000,000 คน ในปัจจุบันคุณสามารถเลือกได้ว่าอยากจะเรียนกับครูที่มีวุฒิบัตรครู หรือว่าเรียนกับเจ้าของภาษาทั่วไปที่ใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี การเรียนแบบหลังนี้จะเป็นทางการน้อยกว่าครับ
วิธีการเริ่มเรียนก็ค่อนข้างง่าย คุณสามารถเลือกครูได้จากประวัติ คลิปแนะนำตัว ราคาต่อชั่วโมง ประเทศ ฯลฯ ซึ่งทาง Italki ได้ให้ข้อมูลไว้อย่างละเอียดเลยทีเดียว หลังจากนั้นคุณก็จองเวลาเรียน แล้วก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของ Italki ได้ทันทีครับ
ในการเรียน ครูของคุณจะสร้างหลักสูตรและคอร์สให้กับคุณตามความต้องการ คุณสามารถบอกได้ว่าอยากเพิ่มทักษะส่วนไหนเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการพูด ฟัง อ่านเขียน นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียนได้บนมือถือเพราะว่ามี app ให้ดาวน์โหลดทั้งใน iOS และ Android ครับ
สำหรับค่าเรียนนั้นอยู่ที่ประมาณ 400-900 บาทต่อชั่วโมงแล้วแต่ครูแต่ละคนจะตั้ง (แต่ถูกกว่านั้นมากก็มีเหมือนกัน) อย่างไรก็ดี Italki ไม่มีให้ลองเรียนฟรีครับ เพียงแต่คุณจะได้ลดราคา 50%-80% ในการเรียนชั่วโมงแรกเท่านั้นเอง
จุดแข็งของ Italki คือ
- ราคาโดยเฉลี่ยจัดว่าถูกถ้าเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ
- ครูภาษาอังกฤษมีให้เลือกมากกว่า 4,000 คน
- ถ้าไม่ชอบสามารถหาครูคนใหม่ได้ทันที เพราะการเรียนเป็นแบบ Pay Per Lesson (จ่ายต่อชั่วโมง)
- เป็น Social Network ในตัวด้วย คุณสามารถพูดคุยและทำความรู้จักกับคนใช้ app เดียวกัน
5. Preply
Preply เป็นแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์แบบตัวต่อตัวที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ เพราะมีติวเตอร์นับหมื่นคน และนักเรียนอีกมากกว่าหนึ่งแสนคนต่อปี แม้ว่าส่วนมากแล้วติวเตอร์ของ Preply จะสอนภาษา แต่ก็มีสอนวิชาอื่นๆ ด้วยเช่นกันครับ
สำหรับภาษาอังกฤษแล้ว Preply น่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่ให้มีติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษทางออนไลน์ที่มากที่สุด เพราะมีให้คุณเลือกเกือบสามพันคนเลยครับ
การจองคอร์สเรียนภาษาอังกฤษของ Preply ค่อนข้างเรียบง่าย นั่นคือคุณเลือกครูหรือติวเตอร์ได้อย่างอิสระ โดยพิจารณาจากประวัติ รูปถ่าย ประสบการณ์ คลิปแนะนำตัว จำนวนนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ จำนวนคลาสที่สอนไปแล้ว หลังจากนั้นก็เลือกเวลาเรียน และพร้อมเริ่มต้นได้ทันทีครับ
จุดแข็งของ Preply คือจำนวนติวเตอร์ที่มากมาย ทำให้คุณสามารถระบุได้ว่าคุณต้องการติวเตอร์ที่สอนภาษาอังกฤษเฉพาะทางแบบไหน อาทิเช่น
- สอนภาษาอังกฤษเพื่อการเตรียมสอบ IELTS, GMAT, TOEFL ได้
- สอนเด็กที่มีอาการ ADHD ได้ดี
- สอนการสัมภาษณ์งานได้
- สอนวรรณกรรมภาษาอังกฤษได้
- และอื่นๆ อีกมากมาย
แม้ว่าติวเตอร์ทุกคนของ Preply จะถูกคัดเลือกมาอย่างดี แต่บางคนอาจจะไม่ใช่เจ้าของภาษา ผมจึงแนะนำว่าถ้าคุณจะเรียนกับ Preply คุณควรจะกรองให้ดี ด้วยการเลือกให้ครูของคุณเป็น Native Speaker เท่านั้น และมาจากประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ครับ
ค่าเรียนของ Preply จะอยู่ที่ 450-900 บาทต่อชั่วโมงแล้วแต่ครูของคุณจะตั้ง อย่างไรก็ดีคุณจะต้องเรียนออนไลน์ผ่าน Skype เพราะ Preply ไม่มีแพลตฟอร์มของตัวเองครับ
ทั้งนี้ Preply ให้คุณลองเรียนกับครูคนใดก็ได้ฟรี (จ่ายเงินก่อน ถ้าไม่พอใจคือคืนเงินทุกบาททุกสตางค์)
6. Verbling
Update: ปัจจุบัน Verbling อยู่ในสถานะการควบรวมกิจการกับ Busuu ดังนั้นนโยบายต่างๆ ยังไม่ชัดเจน ผมจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยง Verbling ไปก่อนครับ
Verbling เป็นเว็บไซต์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อกับครูสอนภาษาอังกฤษจากทุกส่วนของโลก ครูบนแพลตฟอร์มของ Verbling จะเป็นเจ้าของภาษาที่ได้รับรองทางด้านการสอนภาษาอังกฤษมาแล้วเป็นเวลานาน
ประวัติของครูบางคนหรูหรามาก บางคนอาจจะจบมหาวิทยาลัย Ivy League อย่าง Harvard บางคนอาจจบครุศาสตร์ทางด้าน ESL มาโดยตรง บางคนอาจเคยสอนในโรงเรียนต่างๆ หรือแม้กระทั่งเคยเป็นคนตรวจคลิปเสียงการสอบ Speaking สำหรับ TOEFL iBT เลยทีเดียวครับ
การเริ่มเรียนก็ไม่ยากอะไรเลย คุณเลือกครูที่คุณสนใจได้จากประวัติ รูปถ่าย รีวิว ค่าเรียน คลิปแนะนำตัว รวมไปถึงสำเนียงภาษาอังกฤษที่คุณต้องการ (เช่นถ้าคุณอยากได้สำเนียงอเมริกัน คุณย่อมต้องเรียนกับครูจากสหรัฐอเมริกา) ถ้าคุณถูกใจครูคนไหนก็จองเวลาให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็ได้เรียนแล้วครับ
ทั้งนี้การเรียนกับครูบน Verbling ไม่ใช่ว่าไม่มีหลักสูตร แต่ครูของคุณจะสร้างหลักสูตรตามความต้องการของคุณ เช่นคุณต้องการเรียนภาษาอังกฤษโดยเน้นการพูดเท่านั้น หรือว่าเน้นการสอบ TOEFL ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเรียนสูงกว่าการเรียนที่สถาบันทั่วไปมากครับ (รวมไปถึงการเรียนออนไลน์กับ Lingoda ด้วย)
นอกจากนี้จุดแข็งอย่างมากของ Verbling คือคุณจะได้เรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวบนแพลตฟอร์มของ Verbling เองไม่ใช่ว่าต้องไปเรียนผ่าน Skype ทำให้ครูของคุณมีเครื่องมือแบบ Interactive อันทันสมัยในการสอนคุณด้วยไม่ว่าจะเป็น Flashcard, Vocab Review, Learning Plan และ Assessment ฯลฯ
ความหลากหลายในการเรียนกับ Verbling จึงถือว่าเหนือกว่าแพลตฟอร์มอื่นอย่างชัดเจนครับ
ทั้งนี้คุณสามารถเรียนที่ไหนก็ได้ เพราะ Verbling มี app iOS และ Android ให้คุณดาวน์โหลดด้วย ถ้าคุณอยากเรียนที่ไหนก็ได้ก็ตามใจคุณ ขออย่างเดียวคือมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตแรงๆ ครับ
ค่าเรียนภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวทางออนไลน์กับ Verbling อยู่ที่ครูแต่ละคนเป็นคนตั้ง จากที่ผมดูคร่าวๆ แล้วจะเริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 250 บาทแต่มากกว่า 1,000 บาทก็มีเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ 600-700 บาท แต่ถ้าคุณจองการเรียนหลายๆ ชั่วโมงกับครูคนเดียว เช่นจองทีเดียว 10-20 ชั่วโมง คุณจะได้รับส่วนลดครับ
Verbling ให้คุณเรียนฟรีได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 30 นาที
7. Verbalplanet
Verbalplanet เป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่น่าพิจารณาสำหรับใครที่อยากเรียนภาษาอังกฤษทางออนไลน์กับครูเจ้าของภาษา ครูทุกคนของ Verbalplanet ได้รับการคัดเลือกมาอย่างดี และมีประสบการณ์การสอนมาอย่างเต็มเปี่ยมครับ บางคนเป็นครูสอนภาษาอังกฤษมานานแล้วถึงเกือบ 30 ปีก็มี
วิธีการจองคอร์สก็เหมือนกับแพลตฟอร์มอื่นๆ นั่นคือเลือกครู เลือกเวลา และเริ่มเรียน แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆ ของ Verbalplanet คือข้อมูลจำนวนมหาศาลของครูที่ทางแพลตฟอร์มให้เรามาเพื่อประกอบการพิจารณา
ของเว็บอื่นอาจจะเป็นข้อมูลสั้นๆ แต่ของ Verbalplanet จะยาวเป็น CV/Resume เลยครับ พร้อมกับมีคลิปแนะนำตัวและรีวิวให้คุณพิจารณาด้วย
หลังจากคุณเริ่มเรียนแล้ว ครูของคุณจะออกแบบคอร์สที่เหมาะสมให้กับคุณ และเมื่อคุณเรียนไปเรื่อยๆ ครูจะให้ feedback อย่างละเอียดบนแพลตฟอร์มให้คุณอ่านแบบเต็มๆ ว่าตอนนี้ทักษะของคุณไปถึงไหนแล้วและควรแก้ไขอะไรบ้างครับ
อย่างไรก็ดีการเรียนกับ Verbalplanet จะต้องเรียนผ่าน Skype ครับ ความสะดวกสบายจึงอาจจะไม่เท่าคอร์สที่ให้คุณเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ผ่านตัวแพลตฟอร์มโดยตรงอย่าง Verbling
สำหรับเรื่องค่าเรียนต่อชั่วโมงจัดว่ายังค่อนข้างสูง เพราะคลาสนึงจะเรียนแค่ 45 นาที แต่ค่าเรียนอยู่ที่ 600-800 บาทเหมือนกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ครับ อย่างไรก็ดีเมื่อคุณเรียนมากขึ้น ราคาต่อชั่วโมงจะลดลงตามลำดับครับ (มากที่สุด 15%)
คุณสามารถลองเรียนกับครูบางคนใน Verbalplanet ได้ฟรี แต่บางคนอาจจะแค่ลดค่าเรียนครั้งแรกให้ 50% ครับ
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบตัวต่อตัวที่ไหนดี?
จากที่ผมได้อธิบายไปแล้วจะเห็นว่ามีหลายแพลตฟอร์มที่คุณสามารถหาครูเจ้าของภาษามาสอนภาษาอังกฤษให้กับคุณได้ โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า
- ภาษาอังกฤษทั่วไป – ได้ทุกแพลตฟอร์ม
- ภาษาอังกฤษเตรียมสอบ – British Council, Live Lingua
- ภาษาอังกฤษเฉพาะทาง – Live Lingua, Preply
- มาตรฐานสูงที่สุด – British Council, Lingoda
- ความสะดวกสบาย – British Council, Lingoda, Preply
- เรียนแบบชิวๆ เหมือนคุยกับเพื่อน – Italki
เคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผล
ไม่ว่าคุณจะเรียนภาษาอังกฤษอย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือการฝึกใช้ภาษาอังกฤษให้ได้มากที่สุดครับ คุณควรจะนำตัวเองเข้าไปสู่สังคมที่ใช้ภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั่งอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ดูภาพยนตร์ภาษาอังกฤษแบบไม่มี Subtitle ฯลฯ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมต้องขอเน้นกับการเรียนก็คือ ไม่มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ไหนในโลกทีจะช่วยให้คุณเก่งภาษาได้ในเวลาอันสั้น อย่างเรียน 5-10 ชั่วโมงแล้วจะพูด ฟัง อ่าน เขียนแบบคล่องปร๋อเลยนี่เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะการเรียนภาษาคือการสะสม คุณจะค่อยๆ เรียนรู้ไปตามลำดับขั้นตอน และการใช้ภาษาของคุณจะดีขึ้นเองในที่สุด
ดังนั้นผมแนะนำว่าถ้าคุณเจอครูสอนภาษาอังกฤษที่ใช่แล้ว โปรดลองเรียนประมาณ 20 ชั่วโมงขึ้นไป คุณถึงจะได้ผลสัมฤทธิ์ที่คุณปรารถนาครับ