การศึกษา4 คอร์สเรียนเขียน App Android ออนไลน์สำหรับปี 2024

4 คอร์สเรียนเขียน App Android ออนไลน์สำหรับปี 2024

ในปัจจุบัน Smartphone และ Tablet ที่ใช้ Android (แอนดรอยด์) เป็นระบบปฏิบัติการนั้นมีจำนวนกว่าพันล้านเครื่องด้วยกัน และหลากหลายธุรกิจเองก็ต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรงผ่านทาง App ในมือถือของพวกเขา ดังนั้นเราจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโอกาสทางด้านธุรกิจและการทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับ Android นั้นมีมากมายมหาศาล

ดังนั้นถ้าคุณสนใจจะเรียนการเขียนโปรแกรมแล้ว การพัฒนาทักษะในการเขียน App ที่ใช้งาน Android จึงเป็นทักษะที่น่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะเปิดโอกาสในชีวิตให้กับผู้เรียนได้อย่างมากมายแล้ว การเรียนวิธีการใช้งานเองก็ไม่ได้ยากจนเกินไปอีกด้วย คุณสามารถเขียน Android App คุณภาพเยี่ยมได้หลังจากเรียนจากคอร์สออนไลน์ครับ

เราไปดูกันดีกว่ามีคอร์สไหนน่าเรียนบ้าง

ข้อควรทราบในการเรียนเขียนแอพ Android

ปัญหาสำคัญของคอร์สออนไลน์

แม้ว่าการเรียนวิธีการเขียนแอพแอนดรอยด์จะสามารถทำได้ผ่านคอร์สออนไลน์ แต่ในการเรียนนั้นก็มีปัญหาไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเนื้อหา

อย่างที่ทราบกันดี Android นั้นมีการอัพเดต version ใหม่อยู่ตลอดเวลาจาก Google ทำให้ตัวแพลตฟอร์มและฟีเจอร์เปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงจากเวอร์ชันเก่าๆ ดังนั้นถ้าคุณเลือกซื้อคอร์สโดยที่ไม่พิจารณาให้ดีก่อน คุณจะได้คอร์สเก่าที่แทบจะไม่ช่วยอะไรในการเรียนของคุณเลยครับ

ในโพสนี้ผมจึงพยายามเลือกแต่คอร์สใหม่ที่สุดที่ได้รับการอัพเดตอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น อย่างไรก็ดีตัวเนื้อหาเองก็ไม่ได้ up-to-date เสมอไปแบบ 100% เพราะผู้สอนต้องใช้เวลานับเดือนในการอัพเดตคอร์สให้รับ version ใหม่ ดังนั้นเนื้อหาบางส่วนอาจจะเก่าไปบ้าง แต่คุณจะได้ประโยชน์จากคอร์สเหล่านี้ เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่นั้นยังใช้ได้นั่นเองครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำอย่างมากเลยคือ คอร์สสั้นๆ ความยาวไม่เกิน 10 ชั่วโมงนั้นแทบจะไม่มีประโยชน์เลยในการเรียนการสร้าง App บน Android เพราะตัวเนื้อหาสั้นเกินไป และไม่ได้อธิบายอย่างละเอียดเพียงพอ ทำให้คุณขาดทักษะที่จำเป็นต่อการเรียนอย่างมาก ผมจึงเลือกที่จะไม่แนะนำคอร์สเหล่านั้นเลยครับ

ต้องมีพื้นฐานอะไรหรือไม่?

เนื่องจากคอร์สทั้งหมดที่ผมจะแนะนำในโพสนี้จะเป็นคอร์สสำหรับมือใหม่ ซึ่งจะสอนการเขียนโปรแกรมในภาษาที่คุณต้องใช้ในการเขียน app ไปด้วยเลยอยู่แล้ว ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการเขียนโปรแกรมมาก่อนครับ

อย่างไรก็ดีถ้าคุณเคยเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษาเหล่านี้ (ภาษาใดภาษาหนึ่ง) มาบ้าง การเรียนจะง่ายขึ้นมากอย่างนัยสำคัญครับ

  • Java – ในการเรียนเขียนแอพ ส่วนใหญ่แล้วภาษาที่คุณจะได้เรียนและใช้งานคือ Java
  • Kotlin – ถ้าเทียบกับ Java แล้ว Kotlin เป็นภาษาที่ใหม่มาก อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน Kotlin เป็นภาษาที่ Google แนะนำให้ใช้งานในการสร้าง Android App ดังนั้นถ้าคุณอยากจะสร้าง App ที่มีซับซ้อนมากขึ้น ความเชี่ยวชาญในภาษา Kotlin จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน
  • C++
  • JavaScript

จริงอยู่ว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานใดๆ ในการเรียนมาก่อน แต่ถ้าคุณเรียนไปแล้ว คุณมีปัญหากับการเขียนโปรแกรมที่คอร์สที่คุณลงไป (Java หรือ Kotlin) ผมแนะนำให้ย้อนกลับไปซื้อคอร์สเรียนในภาษานั้นๆ ก่อนแล้วค่อยกลับมาเรียนคอร์สเรียนเขียน Android App ทีหลังครับ

Udacity

1. Android Basics by Google

คอร์สปิดแล้ว

ปัจจุบัน (กรกฎาคม 2024) คอร์สนี้ไม่มีให้ลงเรียนแล้วครับ

หลักสูตรของ Udacity ที่จัดทำภายใต้ความร่วมมือกับทาง Google โดยตรง คอร์สนี้คุณจะได้เรียนเขียน Android App กับผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูงสามคนที่คว่ำหวอดในวงการ IT มาอย่างยาวนานครับ

คอร์สเรียนเขียน App Android ของ Udacity

ตัวหลักสูตรจะประกอบด้วย 4 คอร์สย่อย ได้แก่

1. User Interface – คอร์สแรกจะสอนการสร้าง User Interface สำหรับ app ของคุณ คุณจะได้เรียนวิธีการใช้ XML Markup Language ในการเปลี่ยนตัวดีไซน์ให้เป็น App Layouts ที่ดูเป็นมืออาชีพ รวมไปถึงการใช้ Views และ ViewsGroups ในการแสดงผลตัว text และรูปภาพต่างๆ

2. User Input – คอร์สที่สองจะสอนพื้นฐานของภาษา Java ตั้งแต่ระดับเบื้องต้นไปจนถึง Object-Oriented Programming หลังจากนั้นคุณจะได้สร้าง app สั่งกาแฟแบบ interactive ที่ตอบสนอง User input ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. Multi-Screen Apps – คอร์สที่สามจะสอนคุณสร้าง app แบบ multi-screen ซึ่งจะรวมไปถึงการใส่รูปภาพและวิดีโอลงไปใน App ของคุณ หลังจากนั้นคุณจะได้เรียนรู้วิธีการใส่ฟีเจอร์เพิ่มเติมผ่านการรังสรรค์ app อีกหลายตัวด้วยกัน เช่น app แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเป็นต้น

4. Networking – คอร์สสุดท้ายจะสอนให้คุณได้รู้จักกับ Web APIs และวิธีการใช้ที่ถูกต้อง หลังจากนั้นคุณจะได้เรียนพื้นฐานของ Networking ใน Android อย่างเช่น HTTP Networking, JSON Parsing และ Threads

โดยรวมแล้วคอร์สนี้ถือว่าเป็นคอร์สสำหรับมือใหม่ที่สมบูรณ์มากเลยทีเดียวในส่วนของเนื้อหา แต่จุดแข็งของหลักสูตรนี้คือ คุณจะได้สร้าง Android App ของจริงมากถึง 7 app ด้วยกัน ซึ่งจะไล่ขึ้นมาตั้งแต่ง่ายไปหายาก

คุณจะเรียนรู้ความรู้และทักษะที่ใช้งานได้จริงผ่านการทำ project เหล่านี้ และเมื่อทำเสร็จแล้ว คุณก็สามารถนำไปใส่ใน Github Portfolio เพื่อแสดงถึงความเก่งกาจของคุณได้อีกด้วย

อย่างไรก็ดีจุดแข็งที่สุดของคอร์สนี้คือ คุณจะได้รับการช่วยเหลือ 3 รูปแบบด้วยกันจากทีมงานได้แก่

Technical Mentor Support – ถ้ามีปัญหาตรงไหน คุณสามารถใช้ Chat Interface บน Student Hub เพื่อถามคำถามได้แบบ 24/7 ทั้งนี้ทาง Udacity ให้ข้อมูลว่านักเรียนส่วนใหญ่จะได้รับการตอบกลับภายในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น

ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลเลยว่า คุณจะถูกปล่อยเคว้งโดยครูผู้สอน เพราะมีทีมงานจะช่วยเหลือคุณตลอดเวลา และด้วยความที่ทีมงานตอบเร็วมาก ถ้าคุณไม่เข้าใจเนื้อหาหรือว่าเจอ technical issues ต่างๆ คุณจะติดขัดในเวลาไม่นานครับ

Project Reviews – ตลอดหลักสูตร คุณสามารถส่งให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบงานของคุณได้ตลอดเวลา โดยไม่มีข้อจำกัดว่าจะส่งให้ดูได้กี่ครั้ง ดังนั้นถ้าคุณไม่แน่ใจว่าคุณสร้าง app อย่างถูกต้องหรือเปล่า คุณสามารถส่งให้ตรวจตั้งแต่แรกเลยครับ ทำให้คุณสามารถลองผิดลองถูกได้ และเรียนรู้เพิ่มเติมจากการได้ลองทำจริงนั่นเอง

ในการตรวจจะใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมง ซึ่งเร็วมากเช่นเดิม ทางผู้เชี่ยวชาญจะให้ feedback อย่างละเอียด ตลอดจน best practices ในการเขียนโค้ด ซึ่งจะช่วยให้ app ของคุณไม่เทอะทะ และมี performance ที่ดีมากขึ้นครับ

Career Services – หลังจากที่คุณจบหลักสูตรแล้ว ทางทีมงานของ Udacity จะตรวจสอบ Resume, LinkedIn และ Github Portfolio และช่วยยกระดับให้ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ในส่วนนี้จะมีประโยชน์มากนะครับ เพราะมีผู้สมัครงานมากมายที่ต้องพลาดโอกาสไป เพราะว่าพรีเซนต์ตนเองในส่วนนี้ให้กับลูกค้าหรือว่าบริษัทต่างๆที่เราสมัครไปไม่ดีนั่นเอง

การเรียนให้จบหลักสูตรนั้น คุณควรจะใช้เวลาเรียน 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นอย่างน้อย โดยคุณจะเรียนจบในเวลา 3 เดือนครับ

ค่าเรียน

ปัจจุบัน (กันยายน 2023 เป็นต้นไป) ทาง Udacity ได้ปรับค่าเรียนใหม่ให้ลดลงมาอย่างมีนัยสำคัญ โดยราคาจะอยู่ที่ $249 ต่อเดือน พร้อมด้วยส่วนลด 20% ถ้าคุณสมัครรายปี หลังจากสมัครแล้ว คุณจะเรียนได้ทุกคอร์สในแพลตฟอร์ม เรียกได้ว่ายาวเหยียดตั้งแต่ Kotlin หรือ JavaScript ไปจนถึง Data Analytics และ Machine Learning หรือพูดง่ายๆ คือทักษะสำคัญๆทางด้านเทคโนโลยีนั้นมีให้เรียนหมดเลยครับ

ไม่เพียงเท่านั้นถ้าคุณไม่เคยเรียนกับ Udacity มาก่อนเลย คุณสามารถใช้คูปองลด 40% ได้ (อย่างที่ผมทำด้านล่าง) เพื่อที่จะได้ส่วนลดลงไปอีก ซึ่งถ้าคุณเลือกแบบรายปีนั้น คุณจะจ่ายค่าเรียนประมาณ $120 เท่านั้นเอง

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

  • เรียนกับผู้เชี่ยวชาญ ภายใต้การร่วมมือกับ Google
  • เนื้อหาเป็นระบบและได้รับการอัพเดตอยู่ตลอดเวลา
  • มีโปรเจคให้ทำ ซึ่งเหมือนกับการทำงานจริงให้กับลูกค้า
  • มีมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาและตรวจงานให้ทุกเวลาที่ร้องขอ
  • มีทีมงานช่วยยกระดับ profile ของคุณให้น่าสนใจยิ่งขึ้น

ข้อเสีย

  • ค่าเรียนสูงกว่าตัวเลือกอื่นๆ

Udemy

2. The Complete Android 13 App Development Bootcamp 2023

สำหรับใครที่คิดว่าคอร์สวิดีโอที่มีเนื้อหา 60-65 ชั่วโมงนั้นยาวเกินไป ผมแนะนำให้ซื้อคอร์สนี้ของ Vin Norman ซึ่งเป็น Senior Android Enginner ของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรครับ นอกจากคอร์สนี้จะสั้นกว่าอย่างชัดเจนแล้ว (32.5 ชั่วโมง) ตัวคอร์สนี้จะทั้งใช้ Kotlin และ Java เลยครับ ดังนั้นคุณจะได้รับประสบการณ์การเรียนที่ต่างกับคอร์สอื่นครับ

คอร์สเรียนเขียน App android บน Udemy

เนื้อหาในคอร์ส

เช่นเดียวกับคอร์สอื่นๆ แกนหลักของคอร์สนี้คือการสร้าง project ซึ่งสิ่งที่คุณจะได้เรียนในคอร์สนี้ประกอบด้วย

  • XML และการสร้าง Layouts
  • พื้นฐาน Java
  • การสร้าง Calculator App (ใช้ความรู้ที่เรียนไปด้านบน)
  • Activities, Intents, Android Manifest
  • RecyclerViews
  • สร้าง Beautiful List Showcase App
  • พื้นฐาน Kotlin – Variables, Null Safety, Debugging, Functions, Classes และอื่นๆ อีกมากมาย
  • การสร้าง Forms
  • Fragments และ Navigation Bar

โดยรวมแล้วโครงสร้างของคอร์สนี้จะเป็นระเบียบและชัดเจนมาก คุณจะเรียนคอนเซปต์ก่อน หลังจากนั้นจะนำความรู้ที่เรียนมาทำ project ครับ ซึ่งจะเหมาะสำหรับใครที่อยากเรียน concept แบบเคลียร์ๆ ก่อนที่นำมาใช้จริง

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ขาดไปของคอร๋สนี้คือจะไม่มีการทำโปรเจคขนาดใหญ่เวอร์วังเหมือนกับคอร์สอื่นๆ นั่นเองครับ

ในส่วนของสำเนียง ผมมองว่าครูผู้สอนอธิบายได้ชัดเจนดี และฟังไม่ยากเลย (เหมือนกับเจ้าของภาษาทั่วไป) ซึ่งคุณมั่นใจได้ว่าเรื่องภาษาไม่น่าจะเป็นอุปสรรคครับ

คะแนนรีวิวอยู่ที่ 4.7/5.0 จากนักเรียนมากกว่า 3,200 คน

ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี

  • เรียนจบครบการสร้าง Android App โดยใช้ Java และ Kotlin
  • เนื้อหาละเอียดแต่ไม่ยาวเกินไป
  • โครงสร้างคอร์สดี ช่วยให้เข้าใจได้ง่าย
  • การอธิบายของครูผู้สอนยอดเยี่ยม
  • ครูผู้สอนอัพเดตเนื้อหาบ่อย ทำให้ยังทันสมัย
  • คอร์สราคาถูกมากถ้าซื้อตอนลดราคา

ข้อเสีย

  • เนื้อหาบางส่วนล้าสมัย และยังไม่ถูกนำออกจากคอร์สโดยครูผู้สอน

3. The Complete Android 12 & Kotlin Development Masterclass

คอร์สนี้คุณจะได้เรียนกับ Denis Penjuta นักพัฒนาซอฟต์แวร์ประสบการณ์สูง ตัวเนื้อหาจะสอนการใช้แอพโดยใช้ Android 10 และ 12 (2 เวอร์ชันล่าสุด) และ Kotlin ครับ

เนื้อหาในคอร์ส

สำหรับเนื้อหาในคอร์สมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ครับ

  • อธิบาย Android Studio สำหรับผู้เรียนหน้าใหม่
  • พื้นฐานภาษา Kotlin
  • พื้นฐานของ Object-Oriented Programming (OOP)

หลังจากภาคทฤษฎีแล้ว คุณจะสร้าง Android App หลายตัวด้วยกัน ซึ่งจะคุณเรียนรู้จากการทำโปรเจคเหล่านี้ได้แก่

  • Calculator App (เรียน XML และวิธีการสร้าง User Interface ที่ดี)
  • Drawing App (การใช้ Canvas, การ Import/Export รูปภาพ)
  • Workout App (Timers, และการใส่ฟีเจอร์ต่างๆ)
  • Happy Places App (การจัดการในส่วนของ Location, GPS, Google Maps API)
  • Weather App (การใช้ API, JSON, GSON)
  • Project Management App หรือร่างโคลนของ Trello (การทำ User Authentication, การจัดการ Database, การใช้ Firebase ฯลฯ)

ตัวโปรเจคจะค่อยๆ ยากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะโปรเจคสุดท้ายที่เหล่านักเรียนแทบจะประสานเสียงกันเลยว่ายากมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะคุณจะได้เรียนรู้การสร้าง App ที่ซับซ้อน เมื่อเรียนจบ (ในส่วนของวิดีโอยาวถึง 63 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นคุณจะใช้เวลานับเดือนทีเดียว) คุณจะพร้อมสำหรับการสร้าง app ระดับ enterprise ด้วยตัวของคุณเอง

ในส่วนของเรื่่องสำเนียง ผมลองฟังแล้วพบว่าฟังไม่ยาก แต่ accent ของครูผู้สอนจะไม่ใช่แบบเจ้าของภาษา ซึ่งคุณอาจจะใช้เวลาสักหน่อย หูของเราก็จะชินไปเองครับ

คะแนนรีวิว 4.6/5.0 จากนักเรียน 25,000+ คน

จุดเด่นจุดด้อย

จุดเด่น

  • เนื้อหาละเอียดเก็บหมดทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ
  • ลองทำ app ที่ใช้ได้จริงถึง 6 ตัวด้วยกัน
  • ราคาคอร์สไม่แพงถ้าซื้อในช่วงลดราคา

จุดด้อย

  • สำเนียงของครูผู้สอนฟังยากกว่าเจ้าของภาษาเล็กน้อย
  • เนื้อหาบางส่วนไม่ได้รับการอัพเดต

คอร์สเรียนเขียน App Android ที่เก่าแล้ว

คอร์สด้านล่างเป็นคอร์สที่ผมเคยแนะนำไปตอนที่เขียนบทความครั้งแรกตอน 2-3 ปีที่แล้วครับ แต่จากที่ตรวจสอบ ทางผู้สอนไม่ได้อัพเดตเนื้อหามานานแล้วกว่า 1 ปีด้วยกัน ทำให้ตัวคอร์สน่าจะล้าสมัยไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมจึงไม่แนะนำให้เรียนคอร์สเหล่านี้ครับ

อย่างไรก็ดีถ้าถามว่าเรียนแล้วยังมีประโยชน์หรือไม่ คำตอบก็คือยังมีประโยชน์ครับ แต่คุณจะต้อง catch up ฟีเจอร์หรือฟังก์ชันใหม่ๆด้วยการอ่าน documentation ด้วยตนเองครับ

4. Android Java Masterclass – Become an App Developer

สำหรับคอร์สนี้ คุณจะได้เรียนกับ Tim Buchalka และ Jean-Paul Roberts สองนักพัฒนาประสบการณ์สูง (รวมกันแล้วมากกว่า 50 ปี) ทั้งนี้ภาษาที่คุณจะได้เรียนในการเขียน app คือ Java (ต่างจากคอร์สที่สองที่เป็น Kotlin) ครับ

ข้อควรทราบ: ในปัจจุบันครูผู้สอนกำลังใส่เนื้อหาใหม่เพื่อแทนที่เนื้อหาที่ล้าสมัย ดังนั้นเนื้อหาบางส่วนอาจจะเก่าและคุณจะต้องปรับแก้ด้วยตนเองเพื่อให้รับกับ Android 12 อย่างไรก็ดี Udemy ให้คุณเข้าถึงคอร์สได้ตลอดชีพ ดังนั้นคุณจะได้เนื้อหาใหม่ทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มครับ

คอร์สสอนเขียน app Android

สิ่งที่คุณจะได้เรียนในคอร์สนี้นั้นจะผ่านการทำ Project เกือบทั้งหมด (ยกเว้นพื้นฐานภาษา Java) ดังนั้นคุณควรจะได้ลองลงมือทำตลอดทั้งคอร์สครับ

  • Hello World App – เรียนวิธีการใช้ Android Studio Templates, การ set up Virtual Device, การใช้ Emulator
  • Button Counter App – เจาะลึกการสร้าง User Interface ให้กับ app ของคุณ
  • พื้นฐาน Java
  • Top 10 Downloaded App – การจัดการ Async Tasks และ XML Data รวมไปถึงการทำ Testing
  • Youtube App – การใช้ API และการทำ Testing
  • Flickr App – API, JSON, Validation, Touch Events ฯลฯ
  • Friends App – จัดการ Database ของตัว app โดยใช้ SQL
  • Fragment Lifecycle
  • Multiple Tables

โดยรวมแล้วคอร์สนี้จะมีเนื้อหาทั้งหมด 60 ชั่วโมงด้วยกัน เรียกได้ว่าอัดแน่นจัดเต็ม และอธิบายทุกส่วนของการสร้าง app บน Android อย่างละเอียด และเป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งจะเหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนการสร้าง app อย่างเป็นระบบครับ

ในส่วนของเรื่องสำเนียงนั้น ผมได้ลองทดลอบแล้ว พบว่าชัดเจนดีมากตามแบบเจ้าของภาษาทั่วไป ดังนั้นผมเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการเรียนแต่อย่างใดครับ

คอร์สนี้ได้คะแนนรีวิวไป 4.5/5.0 จากนักเรียนมากกว่า 64,000 คน

คอร์สอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Machine Learning – แม้ว่าจะเป็นทักษะฝั่ง Data Science แต่ Machine Learning เป็นทักษะที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการพัฒนาแอป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณอยากจะใช้ AI ใน Android App ของคุณ ซึ่งจะช่วยเพิ่มฟีเจอร์ดีๆ ที่จะตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

Serverless Computing – ยกระดับ app ของคุณไปอีกระดับโดยใช้ AWS Lambda ของ Amazon เพื่อที่ให้คุณสามารถ scale ตัว app ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายเมื่อมีผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!