การศึกษา5 หลักสูตร Agile Management ออนไลน์ชั้นยอดสำหรับปี 2023

5 หลักสูตร Agile Management ออนไลน์ชั้นยอดสำหรับปี 2023

Agile Management คือการประยุกต์ใช้หลักการ Agile ที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์มาใช้ในการทำงานและการบริหารรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ Project Management

หลักการ Agile หรือในภาษาไทยเรียกว่า “การบริหารงานแบบคล่องตัว” ซึ่งจะตัดโครงการออกเป็น่ส่วนเล็กๆ และให้ทีมงานจัดการแต่ละส่วนให้เสร็จสิ้น หลังจากนั้นก็จะปล่อยออกสู่ท้องตลาดทันที

จุดเด่นของแนวคิดของ Agile คือ บริษัทจะส่งมอบสินค้าและบริการออกสู่ท้องตลาดได้อย่างรวดเร็ว เปิดโอกาสให้ทีมงานรับทราบถึง Feedback ตั้งแต่เนิ่นๆ นอกจากนี้ยังมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนสินค้าและบริการเหมาะสมต่อสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลง (ที่มาเร็วแบบติดจรวด) ได้อย่างทันท่วงที

แนวทางแบบ Agile จึงทำให้แนวทางการบริหารขององค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบโจทย์และความต้องการของตลาด นำมาซึ่งความสำเร็จระยะยาว

ดังนั้นเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้บริหารและ Project Manager ยุคใหม่จึงจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการการบริหารงานด้วยแนวคิดของ Agile ครับ

โดยทั่วไปแล้วคุณอาจจะต้องไปเข้ารับการอบรม Agile ที่สถาบันต่างๆ อย่างไรก็ดีด้วยเทคโนโลยีการศึกษาที่พัฒนาขึ้นทำให้คุณสามารถเข้ารับการอบรมกับหลักสูตร Agile Management กับหลักสูตรคุณภาพเยี่ยมระดับโลกทางออนไลน์ ซึ่งจะประหยัดกว่า และได้ผลสัมฤทธิ์ที่อาจจะเหนือกว่าด้วย

เรามาดูกันดีกว่าครับว่ามีหลักสูตรไหนบ้าง

ข้อควรทราบเกี่ยวกับหลักสูตรการทำงานแบบ Agile

สำหรับหลักสูตรการทำงานแบบ Agile ที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้จะมีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน อย่างเช่นบางหลักสูตรจะเจาะลึกไปในส่วนของการพัฒนาซอฟต์แวร์โดยตรง ขณะที่หลักสูตรอื่นๆ อาจจะเน้นไปที่ Agile Project Management (การบริหารโครงการ) และการประยุกต์ใช้ตัวหลักการในรูปแบบอื่นๆ

ด้วยความที่ความแตกต่างระหว่างหลักสูตรนั้นมีอยู่ไม่น้อย ผมแนะนำให้อ่านรายละเอียดในแต่ละคอร์สให้ดี คุณจะได้เลือกหลักสูตรที่เหมาะสมที่สุดในการทำงานของคุณครับ

ในการเรียนไม่มีความจำเป็นต้องมีประสบการณ์หรือทักษะใดๆ มาก่อน คุณสามารถเริ่มเรียนได้ทันทีครับ

**ใครที่อยากเรียน Agile เพื่อการสอบ PMP ผมแนะนำให้ไปเลือกคอร์สในบทความคอร์สติวสอบ PMP จะตรงกับความต้องการของคุณมากกว่าครับ**

1. Agile Software Development

หลักสูตรอบรม Agile ชั้นยอดที่จัดทำแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ชั้นนำอย่าง Udacity ที่มีบทเรียน แบบฝึกหัด และการวัดผลอย่างเข้มข้น คุณจะได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากมายในประยุกต์ใช้แนวคิดการบริหารงานแบบ Agile เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพครับ

หลักสูตร Agile Management ของ Udacity

สิ่งที่คุณจะได้เรียนประกอบด้วย

1. Foundations of Agile and Agile Frameworks – หมวดแรกคุณจะได้เรียนถึงหลักการสำคัญของ Agile ตั้งแต่การปลูกฝัง Mindset, ความแตกต่างระหว่าง Agile และ Waterfall Approach, รูปแบบทั้งสามของ Agile Frameworks ที่ใช้กันทั่วไปอย่างแบบ Scrum, Kanban และ XP

นอกจากนี้คุณจะได้เจาะลึกวิธีการบริหารของทีมต่างๆ ที่จะช่วยนำมาซึ่งความสำเร็จและมูลค่าทางธุรกิจอย่างมหาศาล

2. Delivering Value with Agile Planning and Prioritization – หมวดที่สองจะเป็นการลงลึกในการวางแผนงานแบบ Agile คุณจะได้เรียนวิธีการจัดการความต้องการ, การวาง Roadmaps, รวมไปถึงกลยุทธ์การใช้เทคนิคของ Agile ในการจัดเรียงลำดับความสำคัญ และแผนการส่งมอบแบบเป็นระบบ

3. Progress, Communication, and Organizational Agility – หมวดสุดท้ายจะเจาะลึกในส่วนของการสื่อสาร โดยเฉพาะในส่วนของความคืบหน้าของโครงการ รวมถึงเรียนรู้เรื่องความเสี่ยงและสิ่งที่ควรจะปฏิบัติและหลักเลี่ยงเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

แม้ว่าตัวหลักสูตรอาจจะดูเหมือนว่าจะเน้นที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ความรู้ในคอร์สนั้นสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมเลยครับ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการใช้ Agile เข้ามาในการบริหารจัดการ เพื่อทำให้โปรเจคของคุณประสบความสำเร็จ

สำหรับสิ่งที่โดดเด่นของหลักสูตรนี้ก็คือ การฝึกอบรมจะเน้นการปฏิบัติด้วย เพื่อการเรียนจะให้เกิดผลสูงสุด คุณจะได้ลองทำ Project ต่างๆ ที่เป็น simulaton ของการทำงานในบริษัทของจริง ทำให้คุณได้เข้าใจถึงกระบวนการบริหารโครงการต่างๆ แบบ Agile ครับ

สิ่งที่ผมชอบในหลักสูตรนี้คือมีทรัพยากรการเรียนจำนวนมากที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาแบบวิดีโอ แบบฝึกหัด และ Project นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือผู้เรียนอย่างครบครัน คุณสามารถสอบถามคำถามได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ Project ได้อย่า่งไม่จำกัด หลักสูตรนี้จึงเป็นหลักสูตรฝึกอบรม Agile ที่ไม่ต่างกับอะไรกับการมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ข้างๆ เลยครับ

หลักสูตรนี้จะคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน โดยจะอยู่ที่เดือนละ $399 หรือประมาณ 11,970 บาท ซึ่งจะใช้เวลาเรียนประมาณ 3 เดือน (5-10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ทั้งนี้ถ้าคุณจ่ายเหมาแบบ 3 เดือนเลย ราคาจะอยู่ที่เดือนละ $339 หรือประมาณ 10,170 บาท หรือว่าลดไป 15% นั่นเองครับ

ทั้งนี้ผมแนะนำให้ลองคิดให้ดีก่อนว่าจะเลือกแบบไหน เพราะในทางทฤษฎีแล้ว ถ้าคุณเรียนเร็ว คุณจะเรียนจบทุกอย่างได้ภายในเวลา 1 เดือน และจ่ายค่าเรียนแค่เดือนเดียวเท่านั้น ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายไปอย่างมากเลยครับ ซึ่งถ้าเป็นเคสนี้ แบบรายเดือนจะคุ้มค่ามากกว่าแบบ 3 เดือน

หลายคนอาจจะสงสัยว่าค่าเรียนคอร์สนี้แพงกว่าคอร์สนี้ค่อนข้างมาก จะคุ้มค่าหรือไม่ ผมมองว่าคุ้มครับ เพราะคุณจะได้รับความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงที่ละเอียดมากกว่าคอร์สอื่นอย่างชัดเจน และมีภาคปฏิบัติที่มีการช่วยเหลือแบบ 100% อีกด้วย ซึ่งจะเหนือกว่าการเรียนกับหลักสูตรอื่นๆ อย่างมากเลยทีเดียว

Tips: Udacity มีลดราคาอยู่เรื่อยๆ ครับ บางครั้งอาจจะลดได้ถึง 75% ทำให้ค่าเรียนเหลือแค่เดือนละ $100 หรือ 3,000 บาทเท่านั้นเอง ผมจึงแนะนำให้คุณเปิดแพลตฟอร์มของ Udacity ดูทุกครั้งก่อนที่พิจารณาสมัครหลักสูตรอื่นๆ ครับ

นอกจากนี้บางครั้ง Udacity จะเปลี่ยนจากส่วนลดมาเป็น Financial Support ซึ่งในส่วนนี้จะไม่ต่างอะไรกับการลด 75% ครับ แต่จะให้เฉพาะนักเรียนใหม่เท่านั้น และต้องสมัครก่อนถึงจะได้รับสิทธิ์ครับ

2. Software Product Management Specialization

สำหรับหลักสูตรนี้จะเป็นของ Coursera ที่จัดทำโดย University of Alberta โดยคุณจะได้เรียนรู้วิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นโดยใช้แนวทางของ Agile

ต่างจากหลักสูตรแรก หลักสูตรนี้จะเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์แบบเฉพาะทาง คุณควรจะมีพื้นฐานการทำงานในสายงาน IT หรือเทคโนโลยีมาก่อน ถ้าคุณมี background มาจาก sector อื่น ผมมองว่าตัวเลือกอื่นจะดีกว่าครับ

ภายในหลักสูตรจะประกอบด้วยคอร์สย่อย 6 คอร์สได้แก่

1. Introduction to Software Product Management – คอร์สแรกจะแนะนำให้คุณเข้าใจถึงประโยชน์ของการบริหารผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยสร้างซอฟต์แวร์ที่มีความเสถียร มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน และมีคุณภาพสูง

2. Software Processes and Agile Practices – เรียนรู้โครงสร้างต่างๆ ของการพัฒนาซอฟต์แวร์ และพื้นฐานของแนวทาง Agile อย่างเช่น Extreme Programming และ Scrum

3. Client Needs and Software Requirements – คอร์สที่ 3 จะนำเสนอเทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลต่างๆ จากลูกค้าผ่านการสื่อสาร โดยเฉพาะในส่วนของ Requirements ต่างๆ

4. Agile Planning for Software Products – คอร์สต่อมาจะเจาะลึกในส่วนของการวางแผนโดยใช้หลักการ Agile เพื่อเปลี่ยน Requirements ที่ได้รับเป็นแผนงานที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์

5. Reviews & Metrics for Software Improvements – คอร์สที่ 5 จะอธิบายถึงเทคนิคสำหรับการตรวจสอบโปรเจคเพื่อให้รับความต้องการของลูกค้า, แผนงานที่ได้วางไว้ คุณจะได้เข้าใจถึงความสำคัญของรีวิวและ metrics อื่นๆ เกี่ยวข้องที่สามารถใช้ประเมินคุณภาพของซอฟต์แวร์และ ความคืบหน้าของโครงการ

6. Capstone – คอร์สนี้เป็นโปรเจคใหญ่ที่คุณจะได้ลองใช้หลักการ Agile มาใช้ในการทำงานในสถานการณ์จริง และจัดการกับความท้าทายระหว่างการทำงาน ทั้งนี้คุณจะได้รับบทบาทสมมติเป็น Product Manager ที่ทำหน้าที่บริหารการพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับลูกค้าเสมือนจริงครับ

โดยรวมแล้วหลักสูตรนี้ถือว่ายอดเยี่ยมมาก สำหรับใครที่ต้องการเรียนรู้การทำงานแบบ Agile และการนำมาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ยุคใหม่ ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยแนะนำให้เรียน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็นเวลา 6 เดือนครับ

หลักสูตรนี้สามารถเรียนได้ฟรี แต่ถ้าต้องการการตรวจการบ้านและ Project ต่างๆ และรับประกาศนียบัตร คุณจะต้องจ่ายค่าเรียนเดือนละ $49 หรือประมาณ 1,470 บาทครับ ในส่วนนี้ผมมองว่าแบบเสียเงินเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะว่ามี Project ขนาดใหญ่ให้ทำด้วยนั่นเอง

3. Agile Development Specialization

หลักสูตรที่ 3 นี้จะสอนถึงการใช้หลักการของ Agile มาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยไม่จำกัดแค่ซอฟต์แวร์เท่านั้น ตัวหลักสูตรจัดทำโดย University of Virginia หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกาครับ

ภายในหลักสูตรมีคอร์สย่อยทั้งหมด 4 คอร์สได้แก่

1. Agile Meets Design Thinking – คอร์สแรกจะเชื่อมโยงหลักการของ Agile เข้ากับ Design Thinking โดยมีจุดประสงค์หลักที่จำกัดการเสียเวลาไปกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครต้องการ และไม่สร้างยอดขายให้กับบริษัท

2. Hypothesis-Driven Development – คุณจะได้เจาะลึกลงไปในแนวทางสำคัญของ Agile นั่นคือให้ความสำคัญกับผู้ใช้งาน และทดสอบไอเดียที่คุณได้คิดขึ้นมาอยู่เสมอด้วยการลองผิดลองถูก เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ตอบรับผู้ใช้งานของคุณ

3. Agile Analytics – คอร์สนี้จะเป็นการสร้างระบบวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับทีมของคุณ เพื่อที่จะเอื้อต่อการทำ data analysis อย่างมีประสิทธิภาพ

4. Managing an Agile Team – คอร์สสุดท้ายจะอธิบายถึงแนวทางของ Agile อย่าง Scrum, XP และ Kanban รวมไปถึงการบริหารงานแบบ Agile ที่จะช่วยให้คุณตรวจสอบความคืบหน้าในการทำงาน และการวัดผลได้อย่างแม่นยำ

โดยรวมแล้วจะเหมาะกับใครที่อยากจะเรียนรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการบริหารเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด ทั้งนี้หลักสูตรนี้จะใช้เวลาเรียนประมาณ 4 เดือน (3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ครับ

การเรียนจะได้เรียนได้ฟรีเช่นเดิม แต่ถ้าอยากได้ feedback และประกาศนียบัตร ค่าเรียนจะอยู่ที่ $79 หรือ $2,370 บาทต่อเดือน ทั้งนี้เนื่องจากค่าเรียนราคาสูง ผมแนะนำให้สมัคร Coursera Plus ครับ (ดูรายละเอียดด้านล่าง)

4. Agile Leadership Specialization

หลักสูตรที่ 4 เป็นของ University of Colorado โดยจะนำเสนอบทเรียนที่แตกต่าง นั่นคือจะสอนถึงการพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำ (Leadership Skills) โดยใช้หลักการของ Agile เพื่อที่ผู้เรียนจะได้นำไปใช้ในการบริหารงานแบบ Agile ต่อไป

ภายในคอร์สประกอบด้วยคอร์สย่อยทั้งหมด 5 คอร์สได้แก่

1. Agile Leadership: Introduction to Change – คุณจะได้เรียนรู้ถึงทักษะการเป็นผู้นำโดยอ้างอิงแนวทางของ Agile รวมไปถึงทักษะต่างๆ ที่ช่วยให้คุณและทีมปรับตัวอย่างฉับไวให้รับกับการเปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการประเมินว่าบริษัทของคุณมีความคล่องตัวมากเพียงใด

2. Agile Leader Training – สำหรับคอร์สที่ 2 จะเป็นการเจาะลึกในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงโดยตรง เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวคุณเอง และทีมงานให้พร้อมกับเปลี่ยนแปลง คุณจะได้เข้าใจว่าทำไมบางกลุ่มคนถึงเกรงกลัวการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้คุณจะเข้าใจถึงวิธีการอันมีประสิทธิภาพที่เอาชนะความกลัวดังกล่าว และเข้าใจจิตใจของเพื่อนร่วมทีมมากยิ่งขึ้น ในระยะยาวแล้ว สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความแตกต่างระหว่างการทำงานอย่างมากเลยทีเดียว

3. Developing an Agile Team – คอร์สนี้จะอธิบายให้คุณเข้าใจถึงจิตวิทยาสังคม ซึ่งจะช่วยคุณประเมินระดับของความคล่องตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในทีมของคุณ หลังจากนั้นคุณจะได้เข้าถึงเครื่องมือต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณสร้างทีมงานแบบ Agile โดยใช้ Framework อย่าง Scrum

4. Agile Organization – คอร์สที่ 4 จะสอนการประยุกต์ใช้หลักการ Agile ในระดับสูงขึ้น นั่นคือระดับผู้บริหาร คุณจะได้เรียนรู้ทฤษฎีด้านการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ทั้งนี้เพราะว่าไม่ใช่ทุกส่วนของบริษัทจะนำหลักการ Agile มาใช้แล้วได้ผล คุณจะได้เข้าใจว่าส่วนไหนควรจะใช้ ส่วนไหนไม่ควรจะนำมาใช้ ฯลฯ

5. Capstone – คุณจะได้รับบทบาทสมมติเป็น Senior Scrum Master ของบริษัทชั้นนำอย่าง Nike คุณจะได้ลองนำแนวคิดการบริหารที่ได้เรียนไปมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาตนเอง การพัฒนาทีม และการพัฒนาบริษัทแบบองค์รวม ทั้งนี้คุณจะได้นำความรู้ทั้งหมดที่คุณได้เรียนไปจาก 4 คอร์สด้านบนมาให้ใน Project นี้ครับ

ผมมองว่าตัวหลักสูตรนี้เหมาะมากสำหรับผู้บริหารที่ต้องการจะประยุกต์แนวทาง Agile Management เข้ากับบริษัทของคุณครับ

ในส่วนของการเรียนจะใช้เวลา 6 เดือน (เฉลี่ย 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ซึ่งจะเรียนได้ฟรีเหมือนเดิม แต่ถ้าอยากได้คอร์สเต็ม (ซึ่งผมแนะนำ) ค่าเรียนจะอยู่ที่ $49 หรือประมาณ 1,470 บาทต่อเดือนครับ

Coursera Plus

สำหรับใครที่สนใจหลักสูตร Agile หลายตัวบน Courseraผมแนะนำให้สมัคร Coursera Plus เพราะว่าจะได้เข้าถึงคอร์สแบบเต็มๆ โดยไม่มีจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น รวมแล้วกว่า 3,000 คอร์สด้วยกัน

ราคาของ Coursera Plus จะอยู่ที่ $399 ต่อปี (เฉลี่ยแล้ว $33.25 หรือประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน) ซึ่งถือว่าถูกกว่าจ่ายรายเดือนในคอร์สต่างๆ อย่างมากเลยครับ โดยเฉพาะถ้าใครอยากเก็บ Certificate ผมยิ่งแนะนำให้สมัครเลยครับ

5. Professional Certificate in Agile Project Management

หลักสูตรนี้เป็นของ University of Maryland โดยจะเน้นการนำหลักการ Agile มาใช้กับ Project Management โดยเฉพาะ คุณจะได้เรียนรู้หลักการต่างๆ อย่างละเอียด และเข้าใจการประยุกต์ใช้ในการบริหารโครงการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้คอร์สย่อยมีทั้งหมด 5 คอร์สประกอบด้วย

1. Applied Scrum for Agile Project Management – คอร์สแรกจะแนะนำให้คุณเข้าใจถึงหลักการสำคัญของ Agile และทำไมหลักการเหล่านี้ถึงนำมาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีกว่า หลังจากนั้นคุณจะได้เรียนการใช้ Scrum ในการบริหารโครงการและทีมของคุณ รวมไปถึงข้อควรระวังต่างๆ ที่คุณควรทราบ

2. Sprint Planning for Faster Agile Team Delivery – คอร์สที่สองจะแนะนำวิธีเพิ่มความเร็วในการทำงานสำหรับโครงการที่ deadline กระชั้นชิด และเพิ่มศักยภาพของทีมงานในการทำงานให้สำเร็จลุล่วงเร็วขึ้น

3. Agile Innovation and Problem Solving Skills – เรียนรู้การใช้ Agile Solution ในการจัดการความเสี่ยง การแก้ไขปัญหาต่างๆ และเอื้อให้เกิดประสิทธิผลในการทำงานสูงสุด

4. Agile Leadership Principles and Practices – เรียนรู้ทักษะการเป็นผู้นำแบบ Agile เพื่อยกระดับทีมของคุณในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหา ประสิทธิภาพในการทำงาน และแรงจูงใจต่างๆ

5. Agile Process, Project, and Program Controls – ปิดท้ายหลักสูตรด้วย Agile Controls ซึ่งจะช่วยให้โครงการของคุณสำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ทีมของคุณพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง

โดยรวมแล้วหลักสูตรนี้เป็นอีกหลักสูตรหนึ่งที่นำเสนอการบริหารโครงการแบบ Agile ที่น่าสนใจ และครบถ้วนไปด้วยรายละเอียดจากแง่มุมต่างๆ แบบบูรณาการ ซึ่งเหมาะกับผู้บริหารและ Project Manager ทั่วไป ทั้งนี้คอร์สนี้จะใช้เวลาเรียนประมาณ 5 เดือน (2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) ครับ

ในการเรียนก็เรียนได้ฟรี แต่ถ้าต้องการคอร์สเต็มๆ นั่นคือมีการช่วยเหลือและประเมินผลจากครู และได้รับประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัย คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่าย $895 หรือประมาณ 26,850 บาทครับ

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!