ประวัติศาสตร์วันสุดท้ายของ 'จอห์น เลนนอน' แห่งวงเดอะบีเทิ้ลส์

วันสุดท้ายของ ‘จอห์น เลนนอน’ แห่งวงเดอะบีเทิ้ลส์

จอห์น เลนนอน (John Lennon) เป็นนักร้องชาวอังกฤษของวงเดอะ บีเทิ้ลส์ (The Beatles) เลนนอนเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และนักกิจกรรมที่มีความสามารถและมุ่งมั่น เขาเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

หากแต่ว่าเลนนอนกลับต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ.1980

เราดูกันครับว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

จอห์น เลนนอนในปี ค.ศ.1980 ก่อนเขาเสียชีวิตเล็กน้อย By Jack Mitchellderivative, CC BY-SA 3.0,

แนะนำจอห์น เลนนอน

เดอะบีเทิ้ลส์เป็นวงแถวหน้าของโลกในช่วงยุค 60s หรือที่เรียกกันว่ายุคซิกตี้ วงดังกล่าวได้รางวัล Grammy Award ถึง 6 รางวัล และมีเพลงดังระเบิดมากมาย อาทิเช่น Let it be เป็นต้น

ไม่ต้องสงสัยว่าเลนนอนย่อมโด่งดังไปด้วย เลนนอนได้ออกจากวงในช่วงปี ค.ศ.1970 และหันมาทำงานดนตรีเดี่ยวของตัวเอง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

สถานะของเลนนอนจึงอยู่ในระดับเซเลป AAA ของสังคมอเมริกันในเวลานั้น

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1980 เลนนอนออกอัลบัมใหม่ชื่อ Double Fantasy ร่วมกับ โยโกะ โอโนะ (Yoko Ono) ภรรยาเชื้อสายญี่ปุ่นของเขา กระแสตอบรับอัลบัมใหม่ของเขาไม่ค่อยดีนัก ส่วนหนึ่งเพราะคอนเซ็ปต์ของอัลบัมเน้นไปที่ความรักระหว่างเลนนอนและโอโนะมากเกินไป ทำให้คนนอกไม่สามารถเข้าถึงได้

แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าอัลบัมนั้นจะเป็นอัลบัมสุดท้ายในชีวิตของจอห์น เลนนอน

วันสุดท้าย

เลนนอนและโอโนะได้ถ่ายแบบให้กับนิตยสาร Rolling Stone ที่อพาร์ตเมนต์ของทั้งคู่เสร็จสิ้นตอนเวลาประมาณสามโมงครึ่งของวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ.1980 เลนนอนยังคงอยู่ที่อพาร์ตเมนท์และให้สัมภาษณ์กับดีเจคนหนึ่ง

ทุกอย่างมันปกติมากๆ ไม่มีลางบอกเหตุใดๆ ว่าเลนนอนกำลังจะตายในอีกไม่กี่ชั่วโมง

เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จแล้ว (ประมาณห้าโมงเย็น) เลนนอนและโอโนะกำลังจะกลับไปมิกซ์เสียงเพลง Walking on the Thin Ice ทั้งสองจึงออกมาจากอพาร์ตเมนต์ชื่อ The Dakota ที่ตั้งอยู่ในย่าน Central Park West ของมหานครนิวยอร์ก

ระหว่างที่เลนนอนและโอโนะกำลังเดินไปที่รถ ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งวัย 25 ปีได้เดินเข้ามาหาเลนนอนและขอให้เขาเซ็นลงบนอัลบัม Double Fantasy เลนนอนเซ็นให้เขาอย่างไม่ลังเล เพราะว่าแฟนคลับของเขาก็มักจะมาดักรอเลนนอนเพื่อให้เขาเซ็นลายเซ็นเป็นประจำอยู่แล้ว

อพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ By Andrevruas – Own work, CC BY-SA 3.0,

เมื่อเลนนอนเซ็นเสร็จแล้ว เขาก็ถามขึ้นว่า

นี่คือทั้งหมดที่คุณต้องการใช่มั้ย

ชายผู้นั้นยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อยให้กับเลนนอน

เลนนอนไปมิกซ์เสียงจนเสร็จตอนเกือบห้าทุ่ม เขาตัดสินใจกลับอพาร์ตเมนต์เพื่อมาบอกฝันดีกับฌอน (Sean) บุตรชายวัยห้าขวบของเขา ก่อนที่จะออกไปหาอะไรกินกับโอโนะ

รถของเลนนอนมาจอดที่ถนนหมายเลข 72 ซึ่งเป็นถนนที่ค่อนข้างเปลี่ยว เมื่อเทียบกับอีกด้านหนึ่งของอพาร์ตเมนต์ของเขา

ระหว่างนั้นเอง ชายหนุ่มคนเดิมเมื่อตอนเย็นได้เดินออกมาจากจุดลับตาคนใกล้กับประตูทางเข้าอพาร์ตเมนท์ของเลนนอน เขาชักปืนรีวอลเวอร์ออกมายิงใส่หลังของเลนนอนทันทีจากระยะสามเมตร

จุดที่เลนนอนถูกสังหาร By David Shankbone – Own work, CC BY-SA 3.0,

กระสุนนัดแรกพลาดเป้าไป แต่กระสุนนัดที่สองและสามถูกเลนนอนเข้าอย่างจัง เลือดของเลนนอนไหลท่วมร่างทันที เลนนอนแข็งใจเดินไปได้อีกห้าก้าว จนใกล้ถึงบริเวณรักษาความปลอดภัย เลนนอนพูดขึ้นว่า

ฉันถูกยิง ฉันถูกยิง

หลังจากนั้นเลนนอนก็ล้มลง เทปที่เขาถืออยู่ในมือกระจายไปทั่ว

มือสังหารผู้นั้นไม่ได้หนีไปไหนแต่อย่างใด เขาโยนอาวุธทิ้ง และยืนรอตำรวจอยู่ตรงนั้น เจ้าหน้าที่ของอพาร์ตเมนท์ตะโกนถามเขาว่า

คุณรู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรลงไป

มือสังหารตอบอย่างไร้อารมณ์ว่า

ฉันเพิ่งจะยิงจอห์น เลนนอน

เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงอย่างรวดเร็ว และรวบตัวมือสังหารผู้นั้นได้ในทันที

ตำรวจรีบนำตัวเลนนอนขึ้นรถตำรวจไปยังโรงพยาบาลโดยไม่รอรถพยาบาล เพราะเห็นว่าอาการเลนนอนแย่มากแล้ว เลนนอนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมาท์ไซนาย-รูสเวลต์ หนึ่งในโรงพยาบาลชั้นนำของเมือง

ระหว่างที่อยู่ในรถตำรวจ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้ถามเลนนอนว่า เขาคือจอห์น เลนนอน ใช่หรือไม่ เลนนอนตอบว่าใช่ หลังจากนั้นเขาก็สลบไป เลนนอนไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย

สิ้นลมหายใจ

ตอนห้าทุ่มเศษ เลนนอนมาถึงโรงพยาบาล อาการของเขาหนักมาก เลนนอนไม่หายใจแล้ว และไม่มีชีพจรด้วย แพทย์จำนวนสามคนได้ทำการช่วยชีวิตเลนนอนทันที แพทย์ตัดสินใจผ่าตัดเพื่อเปิดหัวใจของเลนนอนออก และทำการนวดหัวใจเพื่อหวังให้ชีพจรของเลนนอนกลับมาอีกครั้ง

หากแต่ว่าแพทย์ก็ได้ทราบว่าบาดแผลที่เลนนอนได้รับนั้นสาหัสมาก กระสุนนัดหนึ่งทะลุหน้าอกของเขา ส่วนอีกนัดหนึ่งค้างอยู่ที่หัวใจห้องล่างซ้าย กระสุนสองนั้นนี้ได้ทำให้ปอดข้างซ้าย และเส้นเลือดเหนือหัวใจพินาศยับเยิน

ยี่สิบนาทีต่อมา หลังจากที่ลองทุกวิธีแล้ว แพทย์ก็ประกาศว่าจอห์น เลนนอนได้เสียชีวิตลงแล้ว แพทย์ได้ใช้เวลา 11.07 น. เป็นเวลาที่เขาเสียชีวิต เพราะเขาไม่หายใจและไม่มีชีพจรตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาลแล้ว

ตอนที่แพทย์ประกาศว่าเลนนอนเสียชีวิต เรื่องน่าเหลือเชื่อก็เกิดขึ้น เพลง All My Loving ของวงเดอะบีเทิ้ลส์ได้ดังขึ้นผ่านทางระบบกระจายเสียงของโรงพยาบาลในวินาทีนั้น

เมื่อโอโนะทราบข่าวว่าสามีเสียชีวิต เธอถึงกับตกตะลึงไป และร้องไห้อย่างหนัก

มือสังหารคือใคร?

ตำรวจได้ทำการสอบสวนและพบว่าฆาตกรที่สังหารจอห์น เลนนอน ชื่อ มาร์ค เดวิด แชปแมน (Mark David Chapman)

แชปแมนผู้นี้เป็นชาวฮาวาย เดิมทีตัวเขาเป็นแฟนคลับเดอะ บีเทิ้ลส์ ตัวยง แต่เขาเริ่มเกลียดเลนนอนเมื่อ เลนนอนเคยให้สัมภาษณ์เมื่อ 14 ปีก่อนว่า

เดอะบีเทิ้ลส์ เป็นที่นิยมมากกว่าพระเยซูเสียอีก

จริงๆแล้ว แชปแมนเป็นคนจิตไม่ปกติ เขามีอาการของโรคจิตเภท (Psychosis) อยู่เสมอๆ และยังมีอาการหมกมุ่นด้วย หลังจากที่เขาถูกจับแล้ว จิตแพทย์ได้ลงความเห็นว่าเขาเป็นผู้ป่วยโรคจิตเภทจริง

แชปแมนเคยเดินทางมานิวยอร์ก (จากฮาวาย) ครั้งหนึ่งแล้วเพื่อที่จะสังหารเลนนอน แต่เขาเปลี่ยนใจ จนกระทั่งในเดือนธันวาคมที่เขาบินกลับมานิวยอร์กอีกครั้งเพื่อลงมือสังหารดังกล่าว

ศาลได้ตัดสินให้แชปแมนต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่สามารถขออนุญาตปล่อยตัวแบบมีทัณฑ์บน (parole) ได้ แชปแมนได้ขอ parole ไปแล้วทั้งสิ้น 10 ครั้ง ทุกครั้งล้วนแต่โดนปฏิเสธทั้งหมด ปัจจุบันแชปแมนจึงยังอยู่ในคุกอยู่

ระหว่างที่อยู่ในคุก แชปแมนเคยให้การว่า เขาเสียใจที่เขาลงมือสังหารเลนนอนในวันนั้น

ชาวโลกอาลัย

การเสียชีวิตของเลนนอนเป็นข่าวไปทั่วโลก แฟนคลับทุกคนของเขาต่างอาลัยในการจากไปของนักร้องผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ พวกเขาแห่ไปร้องเพลงที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของเลนนอนมากมาย จนโอโนะต้องบอกว่า พวกเขารบกวนการนอนของเธอ

ผู้คนจำนวนมากมายรวมตัวกันเพื่อไว้อาลัยให้กับเลนนอน เช่นที่เมืองลิเวอร์พูล บ้านเกิดของเลนนอน และที่ Central Park บริเวณใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ

มีแฟนคลับจำนวนหนึ่งฆ่าตัวตายตามเลนนอนไปเช่นเดียวกัน โอโนะ ภรรยาของเขาจึงต้องออกมาเตือนและไม่แนะนำให้พวกเขากระทำการดังกล่าว

การตายของเลนนอนได้ให้กำเนิดทฤษฎีสมคบคิดมากมายเช่นเดียวกับเคสอื่นๆ ซึ่งก็ยังไม่มีเคสไหนที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน

Rest In Peace

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!