ประวัติศาสตร์หลานหลิงหวาง เจ้าชายนักรบผู้มีใบหน้าสวยจนต้องใส่หน้ากาก

หลานหลิงหวาง เจ้าชายนักรบผู้มีใบหน้าสวยจนต้องใส่หน้ากาก

ในช่วงศตวรรษที่ 6 (หลังจากยุคสามก๊กเกือบสามร้อยปี) แผ่นดินจีนแตกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ อาณาจักรที่แก่งแย่งชิงอำนาจกันมีอยู่สามอาณาจักรได้แก่ เป่ยโจว เป่ยฉี และเฉิน

ถ้าเทียบกันแล้ว อาณาจักรเป่ยโจวแข็งแกร่งที่สุด และมีแนวโน้มจะผนวกดินแดนทั้งหมดในแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่งเดียว แต่กองทัพเป่ยโจวกลับล้มเหลวในการตีอาณาจักรเป่ยฉีมาโดยตลอด เพราะฝีมือของเจ้าชายคนหนึ่ง

เจ้าชายผู้นี้มีชื่อว่า เกาซู่ หรือ เกาฉางกง (高长恭) ผู้มีตำแหน่งเป็นหลานหลิงหวาง หรือ เจ้าชายแห่งหลานหลิง

หลานหลิงหวางในศาลเจ้าญี่ปุ่น By Gisling – Own work, CC BY-SA 4.0,

ประวัติย่อเจ้าชายหนุ่ม

หลานหลิงหวางเกิดในปี ค.ศ.541 พ่อของหลานหลิงหวางเป็นพี่ชายของจักรพรรดิหวู่เฉิงแห่งราชวงศ์เป่ยฉี ดังนั้นเขาจึงเป็นหลานอาของพระองค์ และจัดว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ระดับสูงคนหนึ่งของอาณาจักร

หลานหลิงหวางมีหน้าตางดงามราวกับอิสตรี เขาเป็นชายที่ได้รับการยอมรับว่าหน้าตาดีที่สุด 1 ใน 4 คนในประวัติศาสตร์จีน

แต่หลานหลิงหวางไม่ใช่คนที่มีดีแค่หน้าตา เขาเป็นนักรบที่กล้าหาญและมีฝีมือมากในการต่อสู้ นอกจากนี้เขายังเป็นคนใจดีมีเมตตา มีน้ำใจ และรักทหารและราษฎรของเขามาก หลานหลิงหวางจึงเป็นที่นิยมอย่างมากในอาณาจักรเป่ยฉี

หากแต่ว่าเพราะใบหน้าของหลานหลิงหวางเหมือนผู้หญิงสวย ทำให้ในสนามรบ เขาจะสวมหน้ากากยักษ์มารไว้เสมอ เพื่อทำให้ข้าศึกตกใจกลัว และไม่ให้มองว่าเขาหน่อมแน้มเหมือนผู้หญิง

ออกรบ

เมื่ออายุมากขึ้น หลานหลิงหวางก็ได้รับตำแหน่งเป็นแม่ทัพ เขาได้รับมอบหมายให้รักษาการเมืองจิ้นหยาง (ไท่หยวน) จากพวกทูเจี๋ย อนารยชนเชื้อสายเติร์กที่มักรุกรานทางภาคเหนือของอาณาจักร

เมื่อหลานหลิงหวางออกสู่สนามรบ เขามักจะควบม้าออกนำหน้าทหารเข้าปะทะกับข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่าด้วยตัวเอง หลานหลิงหวางตีกองทัพทูเจี๋ยแตกถอยไปหลายครั้ง

แต่พวกอนารยชนเป็นงานง่ายเพื่อเทียบกับกองทัพใหญ่ของราชวงศ์เป่ยโจว สถานการณ์ของเป่ยฉีคล้ายคลึงกับจ๊กก๊ก นั่นก็คือเป็นอาณาจักรเล็ก ผู้คนเบาบาง เมื่อปะทะกันครั้งใด กองทัพเป่ยฉีจะเล็กกว่ากองทัพเป่ยโจวทุกครั้ง

ดังนั้นถ้าเป่ยฉีจะเอาชนะเป่ยโจวได้ แม่ทัพเป่ยฉีต้องเป็นกุญแจสำคัญในการสรรหากลยุทธ์เพื่อพิชิตศัตรู

ในปี ค.ศ 564 กองทัพราชวงศ์เป่ยโจวจำนวน 100,000 คนเข้าล้อมเมืองจินหย่งของราชวงศ์เป่ยฉีเอาไว้ ทหารเป่ยฉีหมดอาลัยตายอยาก ไม่มีกำลังใจสู้รบ ได้แต่ตั้งรับป้องกันไปวันๆ เท่านั้น เพราะกำลังต่างกันนับสิบเท่า

หลานหลิงหวางยกกองทัพมาช่วยเหลือทันที กองทัพของเขามาอยู่หน้าเมือง เขาเห็นว่าถ้ากองทัพในเมืองและหน้าเมืองติดต่อกันได้ กองทัพเป่ยฉีจะเข้าตีกระหนาบกองทัพเป่ยโจวจากหน้าและหลัง ทำให้ฝ่ายศัตรูแตกยับไป

แผ่นดินจีนแบ่งออกเป็นสามในสมัยของหลานหลิงหวาง By SY – Own work, CC BY-SA 4.0,

แต่การจะติดต่อกับในเมืองไม่ใช่เรื่องหมูๆ เพราะกองทัพเป่ยโจวปิดล้อมหลายสิบชั้น

หลานหลิงหวางกลับทำสิ่งที่พวกเป่ยโจวไม่คาดคิดที่สุดว่าจะมีใครกล้าทำ

เขานำทหารม้า 500 คนบุกเข้าชาร์จใส่ทหารราชวงศ์เป่ยโจว 100,000 คนที่กำลังล้อมเมืองอยู่อย่างหนาแน่น!

หลานหลิงหวางขี่ม้าใส่หน้ากากถือทวน เขานำหน้าทหารม้าเป่ยฉีบุกเข้าค่ายเป่ยโจวและไล่ฆ่าฟันทหารเป่ยโจวเป็นอลหม่าน ทหารเป่ยโจวต่างจดจ่ออยู่กับการตีเมืองและไม่คาดคิดว่าจะมีทหารเป่ยฉีจำนวนแค่ห้าร้อยคนบุกเข้ามา กองทัพเป่ยโจวจึงสับสนวุ่นวายอลหม่านไปหมด เปิดโอกาสให้หลานหลิงหวางมาถึงหน้ากำแพงเมืองได้

บรรดาทหารเป่ยฉีที่อยู่ในเมืองจำหลานหลิงหวางไม่ได้ หลานหลิงหวางจึงถอดหน้ากากที่สวมออก ทหารในเมืองจึงเปิดประตูเมืองให้พระองค์เสด็จเข้ามา

พวกทหารในเมืองเห็นหลานหลิงหวางนำกองทัพสนับสนุนมาถึง ทุกคนต่างมีกำลังใจจะต่อสู้มากยิ่งขึ้น เจ้าชายหลานหลิงจึงฉวยโอกาสที่ทหารเป่ยโจววุ่นวาย เขานำกองทัพเป่ยฉีที่อยู่ในเมืองไล่ฆ่าฟันออกไปทันที พร้อมกับกองทัพสนับสนุนที่ตีหักเข้ามา ทหารเป่ยโจวล้มตายราวกับใบไม้ร่วง กองทัพเป่ยโจวถูกตีแตกยับต้องถอยกลับไป

บรรดาทหารเป่ยฉีที่ได้รับชัยชนะจึงแต่งเพลง “เจ้าชายหลานหลิงเข้าสู่สนามรบ” เพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะในครั้งนี้ เพลงนี้ก็เป็นที่นิยมสืบต่อไปจนถึงสมัยราชวงศ์ถัง และได้รับการถ่ายทอดไปที่ญี่ปุ่น (ในช่วงนั้นญี่ปุ่นยังแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับจีน)

ปัจจุบันเพลงที่ว่านี้สูญหายไปแล้วในแผ่นดินจีน แต่ในญี่ปุ่นยังมีหลงเหลืออยู่ การแสดงด้วยเพลงดังกล่าวยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ไม่โปรด

หลังจากชัยชนะที่เมืองจินหย่งได้ไม่นาน จักรพรรดิหวู่เฉิงก็สวรรคต พระโอรสเกาเหว่ยขึ้นสืบราชสมบัติต่อเป็นจักรพรรดิแห่งเป่ยฉี

เกาเหว่ยไม่เคยชอบหน้าหลานหลิงหวาง เพราะหลานหลิงหวางเป็นที่นิยมมากจากทุกชนชั้นในอาณาจักร และมีความสามารถทั้งบุ๋นและบู๊ ในขณะที่ตัวเกาเหว่ยเองเป็นที่เกลียดชังของทุกคน จากการที่เขาสำมะเลเทเมาเป็นทรราช และโง่เขลาเบาปัญญา

ความนิยมของหลานหลิงหวางทำให้เกาเหว่ยไม่พอใจมากขึ้นทุกที เกาเหว่ยรู้สึกว่าทุกคนในอาณาจักรต้องการให้หลานหลิงหวางเป็นฮ่องเต้ มิใช่ตัวเขา ถีงแม้หลานหลิงหวางจะไม่เคยมักใหญ่ใฝ่สูงก็ตาม

เราปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า เรื่องนี้น่าจะมีมูล เพราะใครจะต้องการให้ทรราชเป็นฮ่องเต้กันเล่า?

มีอยู่วันหนึ่ง เกาเหว่ยจึงเรียกเจ้าชายหลานหลิงเข้าวัง พระองค์ตรัสถามเจ้าชายหลานหลิงเกี่ยวกับการรบที่จินหย่งว่า

เจ้าบุกเข้าไปในกองทัพศัตรูมากเกินไป ถ้าไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ มันคงช้าเกินไปที่จะรู้สึกเสียใจสินะ

หลานหลิงหวางตอบเยี่ยงชายชาตินักรบว่า

ข้าพเจ้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อเรื่องในครอบครัวของเรา ข้าพเจ้าจึงทำทุกสิ่งโดยไม่ได้พิจารณาผลที่จะตามมา

คำพูดของหลานหลิงหวางทำให้เกาเหว่ยระแวงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคำว่า “เรื่องในครอบครัว” ทั้งนี้ก็เพราะราชวงศ์เป่ยฉีมีการต่อสู้ระหว่างพี่น้องมาตลอดแทบทุกรัชกาล เกาเหว่ยกลัวว่าหลานหลิงหวางจะสังหารตนเองและแย่งชิงตำแหน่งฮ่องเต้ไป เหมือนกับที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ก่อนหน้านี้

หลานหลิงหวางพอจะมองออกว่าเกาเหว่ยระแวงตนเอง หลังจากนั้นมา หลานหลิงหวางแสร้งทำเป็นป่วย และอยู่ห่างจากราชสำนัก เพื่อให้เกาเหว่ยผู้เป็นฮ่องเต้สบายพระทัย

ถึงแม้ว่าเจ้าชายหลานหลิงจะพยายามอยู่อย่างเงียบๆ แล้ว เกาเหว่ยก็ไม่สามารถเลิกระแวงได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง เกาเหว่ยตัดสินใจมอบสุรายาพิษให้หลานหลิงหวางฆ่าตัวตาย

จริงๆแล้วหลานหลิงหวางเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์และจงรักภักดี เขาจึงดื่มสุรายาพิษที่เกาเหว่ยให้มาอย่างกล้าหาญในปี ค.ศ.573 หลานหลิงหวางมีอายุได้ 32 ปีเท่านั้น

ผลที่ตามมา

ผู้ที่ได้ประโยชน์ที่สุดของการจากไปของหลานหลิงหวาง ไม่ใช่เกาเหว่ย แต่เป็นอาณาจักรเป่ยโจว

เมื่อหลานหลิงหวางยังอยู่ เขาเป็นเสาหลักในการป้องกันอาณาจักรไว้อย่างเข้มแข็ง ทำให้กองทัพเป่ยโจวไม่อาจทำลายเป่ยฉีได้

แต่เมื่อหลานหลิงหวางไม่อยู่แล้ว อาณาจักรเป่ยฉีจึงเหมือนขนมกรุบกรอบที่สามารถเคี้ยวให้แหลกไปได้ในบัดดล

ดังนั้นหลังจากที่เจ้าชายหลานหลิงสิ้นพระชนม์ไม่นาน กองทัพราชวงศ์เป่ยโจวก็เข้าโจมตีราชวงศ์เป่ยฉี ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานกองทัพเป่ยโจวได้อีกต่อไป ทำให้อาณาจักรเป่ยฉีล่มสลาย ดินแดนทั้งหมดตกอยู่ในอำนาจเป่ยโจว

เกาเหว่ยพยายามหลบหนีไปอาศัยราชวงศ์เฉินทางตอนใต้ แต่เขากลับถูกกองทัพราชวงศ์เป่ยโจวจับได้ เกาเหว่ยและเชื้อพระวงศ์เป่ยฉีทั้งหมดถูกส่งตัวไปยังเย่เฉิง เมืองหลวงของเป่ยโจว และได้รับการไว้ชีวิตจากจักรพรรดิโจวหวู่ตึ้ จักรพรรดิของราชวงศ์เป่ยโจว

แต่สุดท้ายแล้วกรรมก็ตามสนอง เกาเหว่ย

ต่อมาไม่นานโจวหวู่ตี้กลับระแวงว่า เกาเหว่ยจะเป็นกบฏ โจวหวู่ตี้จึงมีรับสั่งให้นำเกาเหว่ยและเชื้อพระวงศ์ตระกูลเกาทั้งหมดไปประหารชีวิต เกาเหว่ยจึงตายตามหลานหลิงหวางไป

ในบั้นปลาย การที่เกาเหว่ยสังหารหลานหลิงหวางจึงไม่ต่างอะไรกับการที่เกาเหว่ยสังหารตัวเอง

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!