ประวัติศาสตร์คูซมา ครูชคอฟ ยอดทหารม้าคอสแซกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

คูซมา ครูชคอฟ ยอดทหารม้าคอสแซกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

คอสแซกเป็นชนเชื้อสายสลาฟที่อาศัยอยู่ในทางตะวันออกและใต้ของยูเครน และในภาคใต้ของรัสเซีย พวกคอสแซกเป็นทหารชั้นยอด โดยเฉพาะเหล่าทหารม้า พวกเขากล้าหาญและมีความสามารถในการบังคับม้าอย่างหาที่เปรียบได้ยากยิ่ง

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ปะทุขึ้น พวกคอสแซกก็ได้เดินทางมายังแนวหน้าเช่นเดียวกันเพื่อต่อสู้กับกองทัพศัตรู ในช่วงต้นของสงคราม ทหารคอสแซกนายหนึ่งได้ก่อวีรกรรมที่ยากจะมีใครเปรียบได้ขึ้นมา เขาชื่อ คูซมา หรือโคซมา ครูชคอฟ (Kuzma, Kozma Khruchkov)

ครูชคอฟ

ออกลาดตระเวน

มีอยู่วันนึง ครูชคอฟและเพื่อนทหารม้าคอสแซกห้านายได้ออกไปลาดตระเวนที่แนวหน้า ระหว่างที่พวกเขาพักม้าอยู่ ครูชคอฟและพรรคพวกกลับพบเห็นกองทหารม้าลาดตระเวนของเยอรมนีจำนวน 27 นายกำลังควบม้าเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว

ทหารม้าคอสแซกสองนายรีบควบม้ากลับฐานเพื่อเรียนให้กองบัญชาการทราบว่ากองทัพศัตรูอยู่ใกล้กับบริเวณนั้น ในที่แห่งนั้นจึงเหลือแค่ครูชคอฟและทหารม้าอีกสามนายเท่านั้น ทุกคนยืนอยู่พื้นและห่างจากม้าพอสมควร

ทหารม้าเยอรมันตรงเข้าชาร์จพวกครูชคอฟทันที ทหารคอสแซกทั้งสี่นายจึงต้องวิ่งไปที่ม้าของตนเอง ครูชคอฟรีบวิ่งไปที่ม้าและฉวยปืนไรเฟิลมาได้ แต่ปืนของเขายังไม่ได้ใส่กระสุน ทหารม้าเยอรมันนายหนึ่งจึงฟันเขาที่บริเวณนิ้ว ทำให้กระสุนทั้งหมดร่วงหล่นจากมือของเขา

ครูชคอฟไม่มีทางเลือกอื่นอีกต่อไป ด้วยความที่คุมสติได้อย่างดีเยี่ยม ครูชคอฟรีบโยนปืนทิ้งและขึ้นม้าทันที เมื่อเขาขึ้นม้าได้ ครูชคอฟพบว่าทหารม้าเยอรมันอยู่ถึง 11 คนอยู่รอบตัวเขา

1 ต่อ 11

จำนวนศัตรูนับสิบไม่ได้ทำให้ครูชคอฟเกรงกลัวเพราะเขายังมีดาบและม้าอยู่ ครูชคอฟใช้ดาบป้องกันตัวเองอย่างกล้าหาญ แต่พวกเยอรมันใช้หอกซึ่งเป็นอาวุธที่ยาวกว่า ทำให้ครูชคอฟโดนแทงไปหลายแผล

ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บ แต่เขายังไม่ยอมแพ้ เขาใช้ดาบในมือฟาดฟันเข้าใส่ทหารเยอรมันทีละคน ครูชคอฟมีฝีมือการใช้ดาบที่เก่งกล้ามาก ดาบ Shashka ที่เขาพกติดตัวยังคมกริบ เขาใช้ดาบดังกล่าวฟันทหารเยอรมันแต่ละนายเข้าที่จุดสำคัญ ทำให้ทหารเยอรมันสิ้นชีวิตทันที

ดาบ Shashka แบบคอเคเซียน Cr: Wikipedia

เมื่อสังหารทหารม้าเยอรมันไปได้บ้างแล้ว ครูชคอฟฉวยหอกจากทหารม้าเยอรมันที่ตายขึ้นมา และโยนดาบทิ้ง เพราะการใช้ดาบเสียเปรียบหอกมากในการต่อสู้บนหลังม้า หอกของครูชคอฟแทงทะลุร่างของทหารม้าเยอรมันที่รายล้อมเขาทีละนาย สุดท้ายทหารม้าทั้งหมด 11 คนที่รุมล้อมครูชคอฟต่างสิ้นชีวิตด้วยคมหอกและดาบของทหารม้าคอสแซกผู้นี้จนหมดสิ้น

ขณะเดียวกัน เพื่อนของครูชคอฟอีกสามคนก็สังหารพวกศัตรูไปได้อีก 13 คน รวมแล้วทหารม้าเยอรมันตายไป 24 คนจากทั้งหมด 27 คน อีก 3 คนหนีตายไปอย่างไม่คิดชีวิต

บั้นปลาย

ครูชคอฟขี่ม้าคู่ใจเกือบสิบกิโลเมตรกลับไปยังค่ายได้ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ทีมแพทย์พบว่าเขาถูกแทงด้วยหอกถึง 16 แผล ส่วนม้าของเขาโดนแทงจำนวน 11 แผล แต่ครูชคอฟกลับรอดชีวิตได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

ความดีความชอบของครูชคอฟและทหารอีก 3 นาย ทราบไปถึงซาร์นิโคลัสที่ 2 พระองค์จึงเรียกพวกเขามาเฝ้าและพระราชทานเหรียญกล้าหาญเซนต์จอร์จให้กับทั้งสี่ ครูชคอฟและเพื่อนทหารเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญนี้

ทหารรัสเซียได้รับกำลังใจอย่างมากจากวีรกรรมของครูชคอฟ แต่ในทางตรงกันข้ามฝ่ายมหาอำนาจกลางอย่างเยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการีต่างโกรธแค้นครูชคอฟมาก กองบัญชาการของฝ่ายมหาอำนาจกลางจึงประกาศว่าถ้าจะไม่มีการจับเป็นพวกทหารคอสแซกอย่างเด็ดขาด

หลังการปฏิวัติรัสเซีย ครูชคอฟได้ร่วมกับพวกรัสเซียขาวในการต่อสู้กับพวกบอลเชวิค เขาพลาดท่าได้รับบาดเจ็บสาหัส ผลสุดท้ายจึงเสียชีวิตในปี ค.ศ.1919 นั่นเอง

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!