ประวัติศาสตร์5 นวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นมาได้เพราะความบังเอิญ หรือ "ดวง"

5 นวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นมาได้เพราะความบังเอิญ หรือ “ดวง”

หลายพันปีที่ผ่านมา มนุษย์เราได้ค้นพบนวัตกรรมเจ๋งๆ หลายต่อหลายอย่างที่ทำให้คุณภาพชีวิตของเราดีขึ้นมาก นวัตกรรมหลายอย่างเกิดมาจากความตั้งใจค้นคว้าของนักวิจัย แต่ก็มีนวัตกรรมอีกหลายอย่างเช่นกัน ที่เกิดขึ้นมาได้เพราะ ความบังเอิญ ความไม่ตั้งใจ หรือจะเรียกว่า ดวง ก็ได้

5 อย่างนี้คือนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นมาได้เพราะความบังเอิญ ดวง หรือความฟลุคนั่นเอง

1. ยาปฏิชีวนะ

ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) อาจจะพูดแล้วทำให้หลายคนงง จริงๆ มันคือยาฆ่าเชื้อที่หลายคนกินตอนที่เป็นหวัดนั่นแหละครับ ยาปฏิชีวนะมีความสามารถในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัส (นั่นเป็นสาเหตุที่หมอไม่ให้กินพร่ำเพรื่อ)

ถึงแม้ยาปฏิชีวนะจะฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างเดียว แต่มันมีประโยชน์มากๆ เพราะก่อนที่มนุษย์ยังไม่ได้ค้นพบยาชนิดนี้ มนุษย์มากกว่าร้อยล้านคนต้องตายเพราะการติดเชื้อแบคทีเรียหลายต่อหลายชนิด อย่างเช่น กาฬโรค ที่ทำให้คนตายไปตอนยุคกลางหลายสิบล้านคนก็เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Yersinia Pestis

การค้นพบยาปฏิชีวนะจริงๆ แล้วถูกกระทำโดยนักวิทยาศาสตร์หลายคน แต่คนที่มีคุณูปการมากที่สุดคนหนึ่งคือ เซอร์อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง (Sir Alexander Fleming) เพราะว่าเขาได้ค้นพบสารเพนิซิลิน G (Penicillin G) ซึ่งเป็นสารชนิด Antibiotic สารแรกในโลก

อเล็กซานเดอร์ เฟลมมิง Cr: Wikipedia

ในปี ค.ศ.1928 เฟลมมิงได้ทำงานวิจัยกับแบคทีเรียชื่อ Staphylococci อยู่ แต่ในเดือนสิงหาคม เขาก็ได้ขอลาไปพักร้อนกับครอบครัวตลอดทั้งเดือน

เฟลมมิงเป็นคนขี้เกียจ ห้องของเขาเลยรกมาก เจ้าแบคทีเรียที่เขาใช้ทดลองก็วางไว้ระเกะระกะที่มุมนึงของห้องนั่นแหละ

พอกลับมาเฟลมมิงก็กลับมาดู เขาพบว่ามีเชื้อราชนิดหนึ่งขึ้นที่จานเพาะแบคทีเรียของเขา แต่เรื่องที่น่าแปลกคือ แบคทีเรียที่สัมผัสและล้อมรอบเจ้าเชื้อราพวกนั้นตายหมดเลย ส่วนแบคทีเรียที่เหลือยังมีชีวิตอยู่ดี

เฟลมมิงพูดขึ้นมาว่า “มันตลกว่ะ” แต่ในใจของเฟลมมิงปิ๊งขึ้นมาเหมือนอิคคิวซัง เขารู้ว่าต้องมีสารอะไรสักอย่างที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียพวกนี้ เขาจึงทดลองต่อไปด้วยการเพาะราชนิดดังกล่าวขึ้นมา และพบว่าสิ่งที่เขาคิดไว้เป็นจริง สารนี้ต่อมาได้ชื่อว่า เพนิซิลิน (ตามชื่อราที่มาจากจีนัส Penicillium) ซึ่งเป็นต้นแบบของยาปฏิชีวนะนั่นเอง

2. ไวอากร้า

ชายไทยหลายคนน่าจะรู้จักสิ่งนี้เป็นอย่างดี ไวอากร้า (Viagra) คือยาที่ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ยาวนานขึ้น มันเป็นวิธีแรกๆที่ใช้แก้ปัญหาน้องชายไม่แข็งเลยก็ว่าได้

ไวอากร้าถูกคิดค้นโดยบริษัทยา Pfizer ของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่นำมาเป็นยารักษาน้องชายไม่แข็ง จริงๆ บริษัทวิจัยมันเพื่อนำไปรักษาการแน่นหน้าอก (Angina) แต่พอทดลองไปทดลองมา มันไม่เวิร์ค แต่เจ้ายาตัวนี้กลับทำให้อวัยวะเพศแข็งได้เป็นเวลานานแทน

ไวอากร้า – CC By-SA 3.0 Cr: Audrey Disse

Pfizer ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของยานี้เสียเลย และขายมันในฐานะยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศแทน สุดท้ายยานี้ก็เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก ทุกวันนี้ยอดขายน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ (6.4 หมื่นล้านบาท) ทุกปี

3. วาสลีน

วาสลีน (Vaseline) คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่คนทั่วไปใช้กันดี เจ้านี่ก็ได้รับการค้นพบอย่างบังเอิญเช่นเดียวกัน

มีอยู่วันหนึ่งในปี ค.ศ.1859 นักเคมีชื่อ Robert Chesebrough ไปตรวจตราดูบ่อน้ำมันในรัฐเพนซิลวาเนีย เขาได้ยินพวกคนงานชอบบ่นกันว่า เจ้าขี้ผึ้งติดไม้ (Rod Wax) ชอบเข้าไปอยู่ในเครื่องยนต์ และทำให้มันเสียอยู่เรื่อยเลย

แต่เวลาที่พวกเขาได้รับบาดเจ็บจากการทำงานเช่น มีอะไรบาด หรือ โดนความร้อน พวกเขาจะเอาขี้ผึ้งนี้มาแปะที่บาดแผล ปรากฏว่ามันเข้าท่ามากๆ เพราะว่าแผลที่ผิวหนังของเขาหายเร็ว

Chesebrough จึงเอาขี้ผึ้งนี้กลับไปบ้าน และทดลองกับตัวเอง ซึ่งมันก็ได้ผลดีจริงๆ เขาเลยเปิดบริษัทขายเจ้าขี้ผึ้งนี้ซะเลย เขาตั้งชื่อมันว่าวาสลีน (Vaseline) แต่ชื่อจริงๆ ของมันคือ Petroleum Jelly

ตอนแรกก็ขายไม่ออก เพราะว่าไม่มีใครเชื่อ Chesebrough เลยต้องแสดงโชว์ด้วยการราดกรดบ้าง เอามือไปโดนความร้อนบ้าง และโปะด้วยวาสลีน เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่าผลิตภัณฑ์ของเขาใช้ได้จริง

หลังจากนั้นวาสลีนเลยขายดีเป็นน้ำเทท่าถึงทุกวันนี้ ส่วน Chesebrough มีชีวิตถึง 96 ปี มีเรื่องที่ลือกันไปว่า เขาอายุยืนมากเพราะกินวาสลีนทุกวัน!

4. สารให้ความหวาน

คนเรานี่ก็ชอบกินของหวาน แต่กินของหวานมากไม่ดี เพราะการบริโภคน้ำตาลมากเกินไป จะส่งผลเสียต่อร่างกาย ก่อโรคต่างๆ นาๆ และทำให้อ้วนด้วย ดังนั้นถ้ามีสารให้ความหวานที่ไม่ใช่น้ำตาลก็น่าจะดี สารให้ความหวานที่เป็นที่นิยมที่สุดชนิดหนึ่งคือ Saccharin

ในปี ค.ศ.1878 Constantine Fahlberg นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งกำลังวิจัยน้ำมันดินอยู่ที่ห้องแล็บที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์

มีอยู่วันนึง เขาลืมล้างมือก่อนที่จะไปกินอาหารเย็น เขาใช้มือหยิบแผ่นขนมปังขึ้นมา เขารู้สึกว่ามันหวานผิดปกติ พอไปหยิบอย่างอื่นก็หวานไปหมดเลย เขาคิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับอะไรสักอย่างที่เขาทดลองในวันนั้นแน่ๆ

Saccharin

Fahlberg รีบกลับไปห้องแล็บและทำการทดลองทันที จนสุดท้ายเขาก็ได้สารดังกล่าวขึ้นมา สารที่ว่าคือ Saccharin มันมีความหวานมากกว่าน้ำตาลถึง 300-400 เท่า แต่ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญมันได้ มันเลยให้พลังงาน 0 แคลอรี

หลังจากนั้น Saccharin ก็กลายเป็นสารให้ความหวานที่ใช้ในขนม เครื่องดื่มต่างๆ มากมายสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือ คนที่กลัวอ้วน ต้องการลดน้ำตาล และอื่นๆ อีกจำนวนมาก

5. โคคา-โคล่า

เครื่องดื่มนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เครื่องดื่มที่ว่าหรือโค้กนั่นเอง

เจ้าเครื่องดื่มนี้เกิดขึ้นมาได้ เพราะเภสัชกรชื่อ John Temberton ได้พยายามหาสูตรที่ช่วยให้เขาลดอาการปวดหัว ที่เกิดจากการได้รับบาดเจ็บจากสงครามกลางเมืองสหรัฐ ก่อนหน้านี้เขาใช้มอร์ฟีนและติดมัน เขาจึงต้องการหายาตัวใหม่ที่ทำให้เขาลดอาการปวดหัวได้

โคคา โคล่า

ในปี ค.ศ.1885 Temberton ได้ผสมสูตรอย่างไรก็ไม่ทราบ เขาไม่เคยบอกใคร ทุกวันนี้ก็ยังเป็นความลับสุดยอดอยู่ แต่ผสมไปผสมมาอย่างงงๆ มันให้กำเนิดเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นขึ้นมา สุดท้ายแล้วเขาจึงได้ขายมันที่ร้านขายยาของเขา ปรากฏว่ามันขายดีมาก โคคา-โคล่าจึงถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่บัดนั้น

แก้ปัญหาอ่อน Grammar ด้วย Grammarly สิครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!