หลังจากดูรายการทำอาหารสนุกๆ อย่างเช่น Masterchef, Topchef ฯลฯ หลายคนคงจะรู้สึกอยากทำอาหารกินเองขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะช่วงที่เราจะต้อง social distancing อย่างตอนที่มีโรคระบาดด้วย
ผมเชื่อว่าบางคนทำอาหารไม่เป็นเลย อย่าว่าแต่ทำอาหารตามสูตรเลย ใช้มีดหั่นวัตถุดิบก็ยังไม่เป็น (ไม่ต้องอายครับ ผมก็เคยเป็น 1 ในนั้น 555) หรือบางคนอาจจะไม่กล้าทำ เพราะกลัวว่าจะกินไม่ได้จนต้องเททิ้ง แม้ว่าจะอยากทำก็ตาม
หนึ่งในทางเลือกของคุณจึงเป็นการไปเรียนที่โรงเรียนสอนทำอาหารชั้นนำ แต่การเรียนทำอาหารที่โรงเรียนเหล่านี้ต้องใช้เวลานานมาก คุณอาจจะมีเวลาไม่พอ เพราะต้องทำงานและธุระส่วนตัว
ดังนั้นการเรียนทำอาหารออนไลน์จึงเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ครับ การเรียนจะเป็นอย่างไร เราไปดูกันเลยดีกว่า
เรียนทำอาหารออนไลน์ vs เว็บสูตรอาหาร
หลายคนอาจจะสงสัยว่าเรียนทำอาหารออนไลน์กับเว็บสูตรอาหารอย่างเช่น Wongnai cooking, Kapook และ cookpad ต่างกันอย่างไร
คำตอบคือ การเรียนทำอาหารออนไลน์จะให้รายละเอียดที่มากกว่ามาก คุณจะได้ดู video ที่ครูผู้สอนจะสอนคุณทั้งในเรื่องวัตถุดิบ ทักษะ เทคนิค และความรู้ทางอาหารอื่นๆ ดังนั้นคุณสามารถเรียนรู้วิธีการทำอาหารจากศูนย์ ในขณะที่เว็บสูตรอาหาร หรือวีดิโอใน Youtube นั้นเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นฐานในการทำอาหารอยู่แล้วเสียเป็นส่วนใหญ่
นอกจากนี้ครูผู้สอนในเว็บเรียนทำอาหารยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำอาหารอย่างเชฟมืออาชีพ และมีประสบการณ์การสอนมาก่อนด้วย นั่นจึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้การเรียนทำอาหารออนไลน์น่าสนใจมาก
เราไปดูกันดีกว่าครับว่าแพลตฟอร์มหรือเว็บเรียนทำอาหารออนไลน์มีที่ไหนบ้าง
1. Masterclass
ถ้าคุณเคยได้ดูรายการทำอาหารของต่างชาติอย่างเช่น Masterchef US หรือ Hell’s Kitchen คุณน่าจะรู้จัก Gordon Ramsey อย่างแน่นอน ผมอยากจะบอกว่าคุณสามารถเรียนทำอาหารกับเขาได้จริงๆ!
วิธีการก็คือเรียนผ่านเว็บไซต์ที่เรียกว่า “Masterclass” นั่นเอง
ปัจจุบันคอร์สทำอาหารที่สอนโดย Gordon Ramsey มีทั้งหมด 2 คอร์สได้แก่คอร์ส Cooking I และ Cooking II นอกเหนือจาก Gordon Ramsey แล้ว Masterclass ยังมีคอร์สอีกมากมายที่ให้คุณได้เรียนทำอาหารกับเชฟมิชลินสตาร์คนอื่นๆ อาทิเช่น Thomas Keller และ Massimo Bottura อีกด้วย
วิธีการจ่ายเงินของเว็บนี้จะเป็นแบบสมัครสมาชิกในราคาเดือนละ $15 หรือประมาณ 450 บาท
เมื่อคุณจะจ่ายค่าสมาชิกแล้ว คุณสามารถเข้าถึงทุกคอร์สสอนทำอาหารโดยทุกเชฟ และรวมไปถึงคอร์สอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารอีกหลายสิบคอร์สด้วย ทำให้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมากเลยครับ
ถ้าคุณสนใจผมแนะนำให้ทดลองเรียนก่อนได้ครับ เพราะว่าทาง MasterClass มี Class Sample ให้คุณลองเรียนก่อนได้ฟรี
2. Udemy
Udemy เป็นเว็บไซต์การเรียนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บนเว็บไซต์มีการเรียนทุกรูปแบบ ซึ่งรวมไปถึงการทำอาหาร (Cooking) ด้วยครับ
คอร์สทำอาหารบน Udemy อาจจะเรียกได้ว่ามีมากที่สุดแล้วก็ได้ เพราะว่ามีมากกว่าหนึ่งพันคอร์ส และมีอาหารหลากหลาย ตั้งแต่อาหารฝรั่ง อาหารไทย อาหารคลีน อาหารคีโต หรือแม้กระทั่งอาหารที่ใช้สมุนไพรต่างๆ ทำให้คุณสามารถเลือกคอร์สต่างๆ ได้ตามความชอบเลยครับ
ยกตัวอย่างคอร์สบน Udemy ที่น่าสนใจ
- Essential Cooking Skills – สอนทักษะการทำอาหารตะวันตกทั่วไป
- Basic Italian Cooking Skills – สอนการทำอาหารอิตาเลียนแบบเบสิกเช่นพิซซ่าหรือพาสต้า
- Indian Culinary World – Master the art of Indian Cooking – คอร์สสำหรับใครที่อยากทำอาหารอินเดียเป็น
- Cooking Korean Foods – Recipes & Video Tutorials – คอร์สสอนทำอาหารเกาหลีอย่างละเอียด
เนื่องจากคอร์สทำอาหารบน Udemy มีมากมายมหาศาล ผมแนะนำให้คุณเลือกโดยใช้ขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
- ตรวจสอบเนื้อหาของคอร์สให้ดีว่าตรงกับความต้องการของคุณ รวมไปถึงปริมาณเนื้อหาคุ้มค่าต่อค่าเรียนหรือไม่
- มีคนเรียนมาก และมีคนรีวิวเยอะหรือไม่ และรีวิวได้ดาวสูงหรือไม่ คอร์สที่ผมจัดว่าดีคือมากกว่า 4 ดาวขึ้นไปครับ ถ้าได้เกิน 4.5 ดาวจะยิ่งดี
- นำคอร์สที่คุณสนใจมาเปรียบเทียบกันก่อนที่จะสมัครทุกครั้ง
คอร์สบน Udemy จะเป็นคอร์สแบบขายขาด นั่นคือหลังจากคุณเสียเงินซื้อแล้ว คอร์สจะอยู่กับคุณตลอดไปครับ คุณไม่มีความจำเป็นต้องรีบเรียนแต่อย่างใด
3. Rouxbe
Rouxbe เป็นโรงเรียนทำอาหารที่สอนนักเรียนทางออนไลน์เท่านั้น แต่ได้รับการรับรองจาก WorldChefs และ ACF (American Culinary Federation) นอกจากนี้ผู้สอนยังเป็นระดับแนวหน้าของวงการอาหารด้วย
การเรียนกับ Rouxbe จะเป็นการเรียนแบบจริงจัง เพราะคุณมีโอกาสได้รับประกาศนียบัตรด้วย ถ้าคุณเรียนจบทั้งหมด (ใช้เวลาหลายร้อยชั่วโมง) และผ่านการประเมินครับ วิธีการเรียนก็จะเป็นการเรียนผ่าน video เหมือนกับเว็บอื่นๆ แต่จะละเอียดขึ้นไปอีก
Rouxbe คิดค่าใช้จ่ายสองแบบด้วยกัน แบบแรกคือแบบสมาชิก คุณจะเข้าถึงคอร์สต่างๆ ได้หลายสิบคอร์ส ในราคา $9.99 ต่อเดือน แต่ถ้าคุณต้องการเข้าถึงคอร์สที่ได้ประกาศนียบัตร คุณจะต้องจ่ายเงินสดในราคา $799 แล้วคอร์สดังกล่าวจะอยู่กับคุณไปตลอดครับ (แต่ถ้าจะเอาใบประกาศต้องจบภายใน 6 เดือน)
4. Skillshare
Skillshare เป็นเว็บไซต์การเรียนออนไลน์ที่คล้ายกับ Udemy นั่นคือเป็นเว็บไซต์ที่สอนการพัฒนาทักษะแบบออนไลน์ คุณสามารถเรียนรู้ทักษะได้มากมาย รวมไปถึงทักษะการทำอาหารด้วย
สิ่งที่คุณจะได้เรียนมีตั้งแต่อาหารเฉพาะอย่างไปจนถึงทักษะการใช้มีด หรือแม้กระทั่งถ่ายรูปอาหารยังไงให้ออกมาให้สวยครับ ข้อเสียมีอยู่อย่างเดียวคือผู้สอนอาจจะไม่ได้เจนจบเหมือนกับ Masterclass หรือ Rouxbe
ในเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น Skillshare ใช้โมเดลธุรกิจแบบสมัครสมาชิก ค่าสมาชิกจะอยู่ที่ $8.25 ต่อเดือนถ้าคุณสมัครสมาชิกเป็นเวลา 1 ปี และ $19 ต่อเดือนถ้าคุณจ่ายเป็นรายเดือนครับ
5. Mushroom Superclass
Mushroom Superclass เป็นเว็บเรียนออนไลน์ที่เน้นการสอนที่มาจากผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ที่ทางเว็บเรียกว่า “Super Master” ซึ่งในเว็บจะสอนหลายด้านไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไปจนถึงทำอาหารเลยครับ
ในปัจจุบัน (เมษายน ค.ศ.2020) คอร์สเรียนทำอาหารออนไลน์ของ Mushroom Superclass จะมีอยู่ 2 ลักษณะ นั่นคือคอร์สสำหรับผู้ที่ต้องการทำกินเองที่บ้าน และคอร์สสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะทำอาหารใดๆ เพื่อที่จะไปขาย
แบบแรกภายในคอร์สจะสอนวิธีการทำเมนูอาหารหลากหลาย อย่างคอร์สอาหารฝรั่งจะสอนคุณตั้งแต่พื้นฐานอย่างการทำน้ำ stock เลยทีเดียวไปจนถึงเมนูที่ advanced ขึ้นอย่างเช่นสเต็กปลาแซลมอน ส่วนแบบที่สองจะเน้นไปที่เมนูใดเมนูหนึ่ง เช่นหมูทอด คุณจะได้เรียนวิธีการทำหมูทอดให้อร่อย รวมไปถึงการคำนวณต้นทุน การจัดเซตราคาขายให้เหมาะสมด้วย
ราคาของแต่ละคอร์สของ Mushroom Superclass จะแตกต่างกันออกไป โดยจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาท เมื่อคุณซื้อคอร์สนั้นๆ ไปแล้ว ตัวคอร์สจะอยู่กับคุณตลอดไปครับ คุณจะเรียนหรือดูอีกสักกี่รอบก็ได้
ข้อเสียของ Mushroom Superclass คือยังมีคอร์สให้เลือกเรียนไม่มากนัก แต่ในอนาคตน่าจะมีคอร์สทำอาหารดีๆ ให้เรียนมากกว่านี้ครับ
ข้อควรทราบ
ก่อนที่คุณจะเสียเงินซื้อคอร์สทำอาหารออนไลน์ใดๆ คุณควรจะพิจารณาสิ่งเหล่านี้ครับ
- รีวิว – คุณควรจะอ่านรีวิวก่อนที่จะซื้อ เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าคอร์สนั้นๆ ดีจริงๆ
- รูปแบบการจ่ายเงิน – เนื่องจากบางแพลตฟอร์มใช้ระบบสมัครสมาชิก ถ้าคุณไม่มีเวลาเรียน ช่วงเวลาที่สมัครสมาชิกจะจบลง และคุณจะเสียเงินไปฟรีๆ ในกรณีเช่นนี้ เว็บไซต์ที่ให้ซื้อคอร์สขาดน่าจะดีกว่าสำหรับคุณ ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณอยากจะทุ่มให้การเรียนทำอาหารอย่างจริงจัง และมั่นใจว่าจะเรียนทุกวันแน่นอน เว็บไซต์แบบสมัครสมาชิกอาจจะเหมาะกับคุณมากกว่าครับ
ถ้าคุณสนใจเรียนการทำอาหารญี่ปุ่น คุณสามารถเรียนออนไลน์ได้จากสถาบันเหล่านี้ครับ