ระหว่างที่นิโคลัส อเล็กซานดรา และมาเรีย กำลังรอนแรมสู่เยกาเตรินเบิร์ก สามสาวและอเล็กเซย์กำลังอยู่อย่างเป็นกังวล พวกเธอและเขาไม่ทราบว่าบิดามารดาอยู่ที่ไหนกันแน่
จนกระทั่งวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ.1918 ทุกคนที่ทาบอสค์ต่างได้รับทราบข่าวว่านิโคลัส อเล็กซานดรา และมาเรียอยู่ที่เมืองเยกาเตรินเบิร์ก ไม่กี่วันต่อมาจดหมายของอเล็กซานดราและมาเรียก็มาถึงทาบอสค์
ในจดหมายมีคำสั่งของอเล็กซานดราให้บุตรสาวของเธอทำ
คำสั่งของอเล็กซานดรา
ก่อนหน้านี้อเล็กซานดราได้นำเครื่องเพชรจำนวนมากออกมาจากพระราชวังอเล็กซานเดอร์ แต่เพื่อความปลอดภัย เธอฝากมันไว้กับข้าราชบริพารที่ไว้ใจได้นอกบ้านอิสรภาพ ถึงกระนั้นเครื่องเพชรหลายชุดยังอยู่กับครอบครัวโรมานอฟอยู่ดี
เมื่อเธอและนิโคลัสออกจากบ้านอิสรภาพมา เธอไม่ได้นำเครื่องเพชรที่ยังเหลืออยู่ติดตัวมาเลยสักชิ้นเดียว เธอฝากให้สามสาวเป็นผู้ดูแลพวกมันเอาไว้
คำสั่งในจดหมายของอเล็กซานดราจึงเกี่ยวข้องกับเครื่องเพชรเหล่านี้เอง แต่เธอใช้คำว่า “ยา” เป็นรหัสลับที่แสดงถึงเครื่องเพชรในจดหมายที่ส่งมาถึงทาบอสค์ เธอสั่งว่าให้
จัดการกับยาอย่างที่ได้ตกลงกันไว้
ทาเทียน่าในฐานะหัวหน้าครอบครัวที่ทาบอสค์เริ่มดำเนินการทันที สามสาวและข้าราชบริพารที่ไว้ใจได้ช่วยกันเย็บเพชรติดที่กระดุมเสื้อ และเย็บทับทิมที่เสื้อชั้นในเพื่อที่จะหลบหลีกการตรวจค้นของพวกบอลเชวิค อเล็กซานดราได้สั่งว่าให้นำของมีค่าไปให้ได้มากที่สุด พวกเธอจึงช่วยกันเย็บอัญมณีเหล่านี้อยู่นานหลายวันเลยทีเดียว
เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เสื้อและเสื้อชั้นในของสามสาวจึงกลายเป็นเสื้อเกราะชั้นดี ชนิดที่ว่าดาบปลายปืนแทงไม่เข้า อย่างที่จะปรากฏต่อไปในกาลข้างหน้า
เตรียมตัวเดินทางสู่เยกาเตรินเบิร์ก
หลังจากที่นิโคลัสเข้าอาศัยที่บ้านอิปาตเยฟได้ไม่นาน พวกบอลเชวิคก็เตรียมการส่งครอบครัวที่ตกค้างที่ทาบอสค์ไปยังเยกาเตรินเบิร์ก
ขั้นตอนแรกที่พวกบอลเชวิคทำคือ จัดการกับโคบีลินสกี้ที่เห็นได้ชัดว่าคอยช่วยครอบครัวโรมานอฟ คณะกรรมาธิการอูรัลปลดโคบีลินสกี้ออกจากตำแหน่ง และให้ราดิโอนอฟมาควบคุมพวกโรมานอฟแทน นอกจากนี้ยังสั่งให้เปลี่ยนทหารรักษาการณ์เดิมทั้งหมดด้วย โดยให้ทหารจากเยกาเตรินเบิร์กเข้าทำหน้าที่แทน
ถ้าเปรียบกับยาคอฟเลฟแล้ว ราดิโอนอฟผู้นี้เลวร้ายกว่ามาก เขามีนิสัยชอบกลั่นแกล้ง เขาสั่งห้ามไม่ให้สามสาวล็อกประตูห้องเวลานอน ราดิโอนอฟอ้างว่าเขาจะได้เปิดประตูตรวจสอบในเวลากลางคืนได้ว่าพวกเธอยังอยู่ในห้องหรือไม่
นอกจากนี้เขายังคอยสั่งห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกมองดูหน้าต่างของบ้านอิสรภาพ เสียงโหวกเหวกโวยวายของราดิโอนอฟมักจะดังลั่นบ้านอยู่เสมอ
เมื่ออเล็กเซย์อาการดีขึ้น ทุกคนต่างพร้อมที่จะไปสมทบกับนิโคลัส อเล็กซานดรา และมาเรีย ที่เยกาเตรินเบิร์กแล้ว
ค่ำคืนที่น่ากลัว
ราดิโอนอฟสั่งให้โอลกา ทาเทียน่า อนาสตาเซีย และอเล็กเซย์ขึ้นเรือรุส เรือลำเดิมที่พาทุกคนมายังทาบอสค์ แต่ในครั้งนี้ ทุกคนขึ้นเรือเพื่อไปต่อรถไฟที่จะนำไปสู่เยกาเตรินเบิร์ก
คืนของวันนี้เองที่เกือบจะเกิดเรื่อง
เรื่องมีอยู่ว่าพวกเรดการ์ดที่ทำหน้าที่รักษาการณ์ทำตัวไม่น่าไว้วางใจ พวกเขาใช้ปืนประจำกายยิงนกที่บินผ่านไปมาเล่นๆ บางคนก็บ้าขนาดเอาปืนกลมายิงเล่นอย่างเมามัน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้สามสาวและเหล่าข้าราชบริพารรู้สึกกลัว
แต่การกระทำของราดิโอนอฟต่างหากที่ทำให้ทุกคนกลัวมากที่สุด
เขาสั่งให้ล็อคห้องของอเล็กเซย์และนาร์โกนี กะลาสีเรือผู้ดูแลเขาในเวลากลางคืนจากด้านนอก แต่กลับสั่งห้ามไม่ให้เหล่าสามสาวล็อคห้องของพวกเธอ!
ตอนกลางดึกของคืนนั้นเอง เรื่องก็เกือบจะเกิดขึ้น
มีเรื่องเล่าว่าพวกทหารสมคิดกันจะเข้าไปลวนลามสามสาวในห้อง พวกเขากำลังเมาและรู้ว่าห้องของพวกเธอไม่ได้ล็อคเอาไว้
หากแต่ว่ามีอะไรสักอย่างที่ห้ามพวกเขาเอาไว้ สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ มีพวกบอลเชวิคคนหนึ่งช่วยสามสาวด้วยการปิดประตูและล็อคห้องของพวกเธอ ทำให้โอลกา ทาเทียน่า และอนาสตาเซียนอนหลับอย่างปลอดภัยจนกระทั่งถึงเช้า
ค่ำคืนที่เกือบจะเป็นเรื่องสยองขวัญจึงผ่านพ้นไปในที่สุด
มาถึงสถานที่สุดท้าย
เรือรูสนำสามสาวและอเล็กเซย์มาถึงเมือง Tyumen ที่นั่นมีรถไฟขบวนพิเศษขบวนหนึ่งรออยู่แล้ว สามสาวและอเล็กเซย์และข้าราชบริพารจำนวนหนึ่งถูกส่งตัวขึ้นไปบนตู้ชั้น 2 ส่วนข้าราชบริพารที่เหลือส่งไปนั่งที่ตู้ชั้น 4
ทุกคนมาถึงเยกาเตรินเบิร์กในเวลาตีสอง แต่กว่าจะได้ลงจากรถก็เป็นเวลาเก้าโมงเช้า ผู้ที่ได้ลงจากรถมีแต่เพียงสามสาว อเล็กเซย์ และข้าราชบริพารที่อยู่ในตู้ชั้นสองเท่านั้น
นาร์โกนีอุ้มอเล็กเซย์ลงจากรถไฟ และนำตัวเขาไปส่งยังรถม้าอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้วิ่งกลับมาช่วยสามสาวถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของพวกเธอ หากแต่ว่าเบโลบาโรดอฟคนเดิมปฏิเสธที่จะให้นาร์โกนีทำเช่นนั้น เขายืนกรานให้สามสาวถือกระเป๋าด้วยตัวเอง
ช่วงเวลานั้นเหมือนกับพระเจ้าแกล้งพวกเธอ เพราะฝนตกลงมาอย่างมากมายที่เมืองเยกาเตรินเบิร์ก ทำให้สามสาวเปียกไปทั้งตัว พื้นดินที่พวกเธอเหยียบย่างกลายเป็นโคลน ทาเทียน่าในฐานะหัวหน้าครอบครัวเดินอยู่ด้านหลังพี่สาวและน้องสาวของเธอ เธอพยายามลากกระเป๋าสองใบที่หนักอึ้งและในมือของเธอยังมีสุนัขอีกตัวหนึ่ง สุนัขตัวนี้ชื่อ Ortipo มันเป็นสิ่งที่มาลามา นายทหารที่เธอหลงรักมอบให้ก่อนที่จะลาจากกัน
สามสาวโรมานอฟอดทนอย่างยิ่งยวด พวกเธอนำกระเป๋าทุกใบใส่รถโดยที่ไม่มีใครช่วย หลังจากนั้นพวกเธอและอเล็กเซย์ถูกส่งตัวไปยังบ้านอิปาตเยฟทันที สามสาวลักลอบนำเพชรเข้ามาในบ้านอิปาตเยฟได้เป็นผลสำเร็จ พวกบอลเชวิคไม่เจอเพชรแม้ว่าจะตรวจค้นอย่างหนักก็ตาม
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่เป็นใจเลย ครอบครัวโรมานอฟดีใจมากที่ได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง นิโคลัสและอเล็กซานดราต่างบรรยายในไดอารี่ว่าการที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งในวันนั้นทำให้ทุกคนมีความสุขมาก
จากลาชั่วนิรันดร
สำหรับข้าราชบริพารส่วนใหญ่แล้ว การได้เห็นสามสาวและอเล็กเซย์ลงรถไฟเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้เห็นครอบครัวโรมานอฟ กิลเลียตเล่าในบันทึกของเขาว่า เขาไม่เอะใจเลยว่าครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นคนใดคนหนึ่งในครอบครัวโรมานอฟที่เขาทั้งรักและผูกพัน
ในวันเดียวกันนั้นพวกบอลเชวิคแบ่งพวกข้าราชบริพารออกเป็นสามกลุ่ม
กลุ่มแรกจับเข้าคุกไปรวมกับผู้ที่อยู่ในคุกอยู่แล้วอย่าง โดลโกรูคอฟ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มนี้คือ เกนดริโควา ทาทิชเชฟ โวลคอฟ และ ชไนเดอร์
กลุ่มที่สอง ถูกส่งตัวเข้าบ้านอิปาตเยฟไป ได้แก่ คาริโตนอฟ เซตเนฟ และตรุป
กลุ่มที่สาม ถูกปล่อยตัวออกเป็นอิสระ แต่ห้ามเข้าบ้านอิปาตเยฟ ต่อมาไม่นานพวกเขาและเธอได้รับคำสั่งให้ออกจากเมืองทันที กลุ่มนี้มีจำนวนมากที่สุด ประกอบด้วย กิปส์ กิลเลียต และข้าราชบริพารคนอื่นๆ
ไม่ต้องสงสัยว่าพวกบอลเชวิคจงใจแยกเหล่าข้าราชบริพารเหล่านี้เพื่อที่การทำอะไรบางอย่างจะง่ายมากขึ้นในบ้านหลังนั้น กลุ่มที่หนึ่งและสามจึงเป็นกลุ่มที่จากลากับครอบครัวโรมานอฟชั่วนิรันดร
เรื่องจะดำเนินไปอย่างไร
อ่านตั้งแต่ตอนแรกและติดตามตอนต่อไปได้ที่ วันสุดท้ายของราชวงศ์โรมานอฟ หรือติดตามตอนที่ 19 ได้ที่นี่
หนังสืออ้างอิง อยู่ที่นี่