ประวัติศาสตร์สี่กษัตริย์และจักรพรรดิจีนที่ "เหมาเจ๋อตง" ชอบมากที่สุดมีใครบ้าง

สี่กษัตริย์และจักรพรรดิจีนที่ “เหมาเจ๋อตง” ชอบมากที่สุดมีใครบ้าง

เหมาเจ๋อตง (Mao Zedong) คือผู้นำคนแรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน หลายท่านน่าจะเคยเห็นหน้าค่าตาเขามาบ้าง เพราะรูปของเขาตั้งอยู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง

เหมาเจ๋อตงเป็นผู้นำที่มีพื้นเพมาจากชนบท แต่เขาถือว่าเป็นปัญญาชนคนหนึ่ง เขาชอบอ่านหนังสือมาก เรียกได้ว่าอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าเลยก็ว่าได้

รูปของเหมาเจ๋อตงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน By Ge XiaoguangJp16103 – Own work, CC BY-SA 4.0,

หากแต่ว่าสิ่งที่เหมาเจ๋อตงโปรดปรานที่สุดคือ ชุดพงศาวดารจีน 24 เล่ม (Twenty-Four Histories) ที่เขาต้องนำติดตัวไปด้วยทุกหนทุกแห่ง

ขนาดตอนที่เขาถูกเจียงไคเช็คไล่ล่าในเหตุการณ์เดินทางไกล (Long March) เหมาเจ๋อตงยังใช้ให้คนสนิทแบกหนังสือเหล่านี้ไปด้วย และปล่อยให้พวกทหารที่ได้รับบาดเจ็บนอนรอความตายอยู่ตรงนั้น

หลังจากที่เอาชนะสงครามกลางเมืองได้แล้ว หนังสือเหล่านี้ยังเป็นที่โปรดปรานของเหมาเจ๋อตงอยู่ดี เหมาเจ๋อตงมักจะกองพวกมันไว้บนเตียงของเขา และนำมาอ่านอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เหมาเจ๋อตงเชี่ยวชาญประวัติศาสตร์จีนมากอย่างหาผู้เปรียบได้ยากคนหนึ่ง

ไม่เพียงเท่านั้น เหมาเจ๋อตงยังโปรดปรานที่จะแนะนำให้คนอื่นศึกษาประวัติศาสตร์ด้วย แม้กระทั่งหลี่จื้อซุย แพทย์ประจำตัวของเขาเอง

ภายใต้การสนทนากับหลี่จื้อซุยนี้เอง ทำให้เราทราบว่าเหมาชอบจักรพรรดิคนใดมากที่สุด ความชอบนี้ได้บ่งบอกถึงนิสัยภายในของเขาออกมาด้วย

1. โจ้วหวาง

โจ้วหวางเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ซาง แม้จะเป็นคนฉลาดมาก แต่โจ้วหวางเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ชาวจีนถือว่าเป็นทรราช เพราะความโหดร้าย ความฟุ้งเฟ้อ และความมักมากในกามของเขา โจ้วหวางชอบทารุณผู้คน และสังสรรค์กับสาวๆ ในสระที่เต็มไปด้วยเหล้า

โจ้วหวาง

เหมาเจ๋อตงอธิบายให้หลี่จื้อซุยฟังว่า ถึงแม้โจ้วหวางจะมีนิสัยที่เกินเลยไปบ้าง แต่โจ้วหวางได้ขยายดินแดนในปกครองของชาวจีนให้เพิ่มมากขึ้นมาก โดยการนำชายฝั่งทะเลตะวันออกเข้ามาอยู่ในกำมือของชาวจีน รวมไปถึงยังรวมเผ่าต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียวด้วย

สำหรับปี่กันที่โจ้วหวางสังหารทั้งๆที่ทัดทานด้วยความจงรักภักดีนั้น เหมาเจ๋อตงอธิบายว่าโจ้วหวางสังหารปี่กันเพราะเขาทัดทานไม่ให้โจ้วหวางขยายดินแดนต่อไป ซึ่งการทัดทานแบบนี้ เหมาเจ๋อตงคิดว่าไม่ถูกต้องสักเท่าใดนัก

หลี่จื้อซุยจะได้ทราบในเวลาต่อมาว่า เหมาเจ๋อตงผู้นี้เองมีนิสัยหลายอย่างเหมือนกับโจ้วหวางไม่มีผิดเพี้ยนไม่ว่าการเป็น การกำจัดผู้ที่ทัดทาน ใช้ชีวิตเริงร่ากับสาวๆ รวมไปถึงความทะเยอทะยานในการเป็นมหาอำนาจ

2. จิ๋นซีฮ่องเต้

จิ่นซีฮ่องเต้ หรือ ฉินสื่อหวงตี้เป็นจักรพรรดิที่เหมาเจ๋อตงชอบมากอีกคนหนึ่ง จิ๋นซีฮ่องเต้ผู้นี้คือผู้ที่รวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่ง ปิดฉากยุคจ้านกว๋อได้อย่างสมบูรณ์ และสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิ (ฮ่องเต้) พระองค์แรกของจีน

ผลงานสำคัญของจิ๋นซีฮ่องเต้คือ เขาเป็นผู้ให้สร้างกำแพงเมืองจีนโดยเชื่อมกำแพงของแคว้นต่างๆ ทางตอนเหนือเข้าด้วยกัน เพื่อป้องกันการรุกรานของอนารยชน นอกจากนี้จิ๋นซีฮ่องเต้ยังโปรดให้กำหนดมาตราชั่ง ตวง วัด ให้เป็นแบบเดียวกันทั่วประเทศ และสร้างถนนเชื่อมดินแดนต่างๆ เข้าด้วยกันด้วย

จิ๋นซีฮ่องเต้ หรือ ฉินสื่อหวงตี้

ดังนั้นผลงานของจิ๋นซีฮ่องเต้เรียกได้ว่ามีไม่น้อย แต่การปกครองของเขาดำเนินไปด้วยความโหดร้าย จิ๋นซีฮ่องเต้ปกครองอาณาจักรด้วยการใช้กฎหมายที่เคร่งครัด ซึ่งสืบทอดมาจาก ซางยาง และตามคำแนะนำของหลี่ซือ ผู้ใดฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกลงโทษอย่างรุนแรง

นอกจากนี้จิ๋นซีฮ่องเต้ได้เกณฑ์ผู้คนจำนวนมากมาสร้างกำแพงเมืองจีน พระราชวังอาฝางกง และสุสานของตัวเขาเอง ความโหดร้ายของจิ๋นซีฮ่องเต้ชัดเจนมากที่สุดเมื่อเขาสั่งให้เผาหนังสือและฝังเหล่าบัณฑิตทั้งเป็น ทำให้คนจีนต่างหวาดกลัวมาก และถือว่าเขาเป็นจักรพรรดิที่โหดร้ายมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์จีน

สำหรับเหมาเจ๋อตงแล้ว จิ๋นซีฮ่องเต้น่าจะเป็นจักรพรรดิที่เขาชอบมากที่สุด เพราะเหมาเจ๋อตงชอบเปรียบตนเองกับจิ๋นซีฮ่องเต้บ่อยครั้ง

เหมาเจ๋อตงให้ความเห็นว่าคนจีนเกลียดจิ๋นซีฮ่องเต้เพราะเขาสังหารพวกบัณฑิตลัทธิขงจื้อ ผู้ที่ขัดขวางการรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่ง จิ๋นซีฮ่องเต้จึงต้องสังหารเสียเพื่อตัดปัญหา นอกจากนี้จำนวนที่ถูกสังหารยังมีแค่ 260 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาเจ๋อตงถือว่าจิ๊บจ๊อยมาก

สุดท้ายเหมาเจ๋อตงสรุปว่าคนจีนไม่ควรจะละเลยความยิ่งใหญ่และผลงานของจิ๋นซีฮ่องเต้ และไปให้ความสำคัญกับอะไรที่จิ๊บจ๊อย

จริงๆ แล้วผลงานของเหมาคล้ายกับจิ๋นซีฮ่องเต้อยู่ไม่น้อย นั่นคือเขาปิดฉากสงครามกลางเมืองและความวุ่นวายในจีนหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์ชิงในปี ค.ศ.1912 และยุติศตวรรษแห่งความอัปยศ (Century of Humiliation) ได้สำเร็จ

นอกจากนี้เหมาเจ๋อตงได้กำจัดพวกปัญญาชนในการปฏิวัติวัฒนธรรมด้วย ซึ่งว่ากันตามตรงแล้ว คล้ายกับจิ๋นซีฮ่องเต้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

บูเช็คเทียน

สำหรับคนที่สามที่เหมาเจ๋อตงชื่นชอบคือ บูเช็คเทียน หรือ หวู่เจ๋อเทียน (Wu Zetian) จักรพรรดินีหนึ่งเดียวของจีน บูเช็คเทียนเป็นจักรพรรดินีที่เก่งกาจ โดยเฉพาะเรื่องการใช้กลลวง ใช้ตำรวจลับ ใช้สายลับในการกวาดล้างศัตรูทางการเมือง เธอเป็นนักบริหารที่ดีด้วย แผ่นดินจีนถือว่าสุขสงบภายใต้การปกครองของเธอ

หวู่เจ๋อเทียน

ทั้งนี้นอกจากตัวเหมาเจ๋อตงจะชื่นชอบบูเช็คเทียนแล้ว เจียงชิง ภรรยาของเหมาเองก็ชอบด้วย

เหมาเจ๋อตงได้ถามหลี่จื้อซุยว่า เขาคิดอย่างไรกับบูเช็คเทียน หลี่จื้อซุยตอบว่า

เธอขี้ระแวงมากเกินไป และมีสายลับมากมาย เธอสังหารผู้คนมากเกินไป

เหมาเจ๋อตงจึงพูดขึ้นว่า

แต่เธอเป็นนักปฏิวัติสังคมนะ เธอสนับสนุนพวกเจ้าของที่ดินระดับกลางและล่าง และทำให้พวกอภิสิทธิ์ชนและตระกูลใหญ่ๆเสียประโยชน์ แล้วถ้าเธอไม่ขี้ระแวงและถ้าเธอไม่ใช้สายลับ เธอจะค้นพบว่าพวกอภิสิทธิ์ชนกับตระกูลใหญ่ๆ วางแผนจะล้มเธอได้อย่างไร สุดท้ายทำไมเธอถึงจะไม่ควรสังหารผู้คนที่วางแผนจะฆ่าเธอเล่า

ตัวเหมาเจ๋อตงเองก็มีนิสัยเหมือนกับบูเช็คเทียน นั่นก็คือเจ้าเล่ห์เพทุบาย ขี้ระแวง และชอบการกวาดล้างอย่างรุนแรง อย่างที่ปรากฏให้เห็นในการขึ้นสู่อำนาจของเขา และการปฏิวัติวัฒนธรรม

สุยหยางตี้

สุยหยางตี้ หรือ จักรพรรดิองค์ที่สองแห่งราชวงศ์สุยเป็นจักรพรรดิคนสุดท้ายที่เหมาเจ๋อตงชื่นชอบ แม้ว่าคนจีนทั่วไปจะไม่ชอบก็ตาม

สุยหยางตี้เป็นจักรพรรดิที่คนจีนถือว่าเป็นทรราชผู้ชั่วร้ายเพราะเขามักมากในกามเป็นที่สุด และหลงใหลในอะไรที่เวอร์วังอลังการ เช่นการยกทัพไปตีอาณาจักรโกคูรยอ ทำให้คนจีนจำนวนมากต้องตาย นอกจากนี้ยังโหดเหี้ยมด้วย เพราะเขาเข่นฆ่าพี่น้องเพื่อที่จะได้มาซึ่งตำแหน่งจักรพรรดิ

เหมาเจ๋อตงมองสุยหยางตี้ในทางตรงกันข้าม เขาถือว่าสุยหยางตี้เป็นหนึ่งในจักรพรรดิที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์จีนเลยทีเดียว

เขามองว่าสุยหยางตี้สั่งให้สร้างคลองต้าอวิ๋นเหอ ทำให้แม่น้ำสายใหญ่ของจีนเชื่อมต่อกัน การคมนาคมจากภาคเหนือไปใต้สะดวกสบายมากขึ้น คลองแห่งนี้จึงเหมือนเป็นเข็มขัดที่รัดประเทศเข้าไว้ด้วยกัน สุยหยางตี้จึงถือว่ามีคุณูปการสำคัญมากคนหนึ่งต่อประเทศจีน

เช่นเดียวกับสุยหยางตี้ เหมาเจ๋อตงมักมากในกามอย่างมาก (เขามีกองร้อยสาวๆเอาไว้ปรนเปรอตัวเอง) และหลงใหลอะไรที่เวอร์วังอลังการอย่างเช่น การครอบครองระเบิดนิวเคลียร์ที่ทำให้คนจีนนับสิบล้านคนอดอยากตาย เพราะเขานำสินค้าทางการเกษตรไปแลกกับเทคโนโลยีอาวุธ

อย่างไรก็ตามสิ่งที่เหมาเจ๋อตงแตกต่างกับสุยหยางตี้คือ สุยหยางตี้ไม่สามารถตีโกคูรยอได้สำเร็จ แต่เหมาเจ๋อตงทำให้จีนครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ และกลายเป็นมหาอำนาจมาจนถึงทุกวันนี้

ทรรศนะของหลี่จื้อซุย

หลี่จื้อซุยวิพากษ์วิจารณ์เหมาเจ๋อตงในหนังสือของเขาว่า จากที่ได้สนทนากัน แนวคิดของเหมาเจ๋อตงแตกต่างจากคนจีนทั่วไป เพราะคุณธรรมไม่มีอยู่ในพจนานุกรมของเหมาเจ๋อตง เขายอมรับว่าเขารู้สึกช็อคที่ทราบว่ากษัตริย์และจักรพรรดิที่เหมาชื่นชอบแต่ละคนล้วนแต่เป็นทรราชที่โหดร้ายที่สุดในสายตาของคนจีน

นอกจากนี้หลี่จื้อซุยมองว่า ความชอบของเหมาเจ๋อตงได้แสดงให้เห็นว่าตัวเหมาเจ๋อตงเองพร้อมและยินดีที่จะใช้วิธีที่โหดร้ายและเป็นทรราชมากที่สุดเพื่อให้บรรลุสิ่งที่ตนเองต้องการ

ทั้งนี้หลี่จื้อซุยได้คุยกับเหมาเจ๋อตงเรื่องนี้ในช่วงปี ค.ศ.1955-1956 เขาจะได้ทราบว่าสิ่งที่เขาวิเคราะห์ถูกต้องในอีกสิบปีต่อมา

Sources:

  • Li Zhisui, Private Life of Chairman Mao
  • Jung Chang, Mao: The Unknown Story

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!