การสอบใบขับขี่รถยนต์เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายสำหรับคนจำนวนมาก ทำให้หลายคน (รวมไปถึงตัวผมเอง) เลือกใช้บริการของโรงเรียนสอนขับรถ เพื่อที่เราจะได้มีครูที่มีประสบการณ์มาสอนการขับรถที่ถูกวิธีให้
แต่ในปัจจุบันได้มีโรงเรียนสอนขับรถหลายแห่งที่มีบริการการสอบใบขับขี่ไปด้วยในตัว ในโพสนี้ผมจึงขอมาอธิบายคร่าวๆ จากประสบการณ์ของตัวผมเองว่า การเรียนที่โรงเรียนเหล่านี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไร อย่างไรก็ตามในแต่ละโรงเรียนอาจจะแตกต่างกันนะครับ ในโพสนี้คือผมอธิบายตามสิ่งที่ผมได้พบเจอมาเท่านั้น
แนะนำโรงเรียนสอนขับรถแบบมีสอบใบขับขี่
โรงเรียนสอนขับรถในลักษณะนี้คือ นอกจากโรงเรียนจะทำหน้าที่สอนเราแล้ว ตัวโรงเรียนยังสอบเราทั้งการตรวจร่างกาย อบรมภาคทฤษฎี สอบภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติไปเลยในคราวเดียว
กล่าวคือทางโรงเรียนจะเป็นผู้คุมสอบและออกใบรับรองให้ หลังจากนั้นเราแค่นำใบรับรองดังกล่าวไปออกใบขับขี่ที่สำนักงานขนส่งใดๆ ก็ได้ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ใบขับขี่มาแล้ว
อย่างไรก็ตามเวลาเลือกโรงเรียน ต้องตรวจสอบดูดีๆ ด้วยครับว่าโรงเรียนได้รับการรับรองจากกรมขนส่งทางบกหรือไม่
สำหรับโรงเรียนที่ผมเรียนคือ โรงเรียนสอนขับรถ HR Pro พระราม 3 ครับ
ข้อดี
ไม่ต้องไปที่สำนักงานขนส่งเพื่อสอบใบขับขี่ เราสามารถสอบที่โรงเรียนได้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ทำให้เราไม่ต้องไปแออัดกับคลื่นมนุษย์จำนวนมากที่เข้าคิวรอสอบ ตอนที่ผมสอบกับทางโรงเรียน มีผู้สอบรอบเดียวกันประมาณ 40-50 คน และแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อแยกสอบทฤษฎีและปฏิบัติ ทำให้การสอบค่อนข้างสบายๆ ครับ
ไม่เสียเวลา หลายท่านคงจะเคยได้ยินว่า ถ้าสอบปฏิบัติที่สำนักงานขนส่งพลาด ผู้คุมสอบจะถือว่าเราตกทันทีและต้องมาสอบใหม่ในวันต่อมา บางคนตกซ้ำตกซากจนต้องไปๆ มาๆ หลายที ทำให้เสียเวลาและเหนื่อยมาก แต่ถ้าเราเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถที่มีจัดสอบ เราไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยครับ ถ้าเราพลาดในการสอบปฏิบัติหรือทฤษฎี ผู้คุมสอบ (ซึ่งจริงๆ ก็เป็นครูที่สอนเรานั่นแหละ) จะให้เราไปวนสอบใหม่จนผ่านทั้งทฤษฎีและปฏิบัติในวันนั้นๆ
ได้ซ้อมในสนามสอบจริง เวลาที่เราเรียนกับครูที่โรงเรียนแบบนี้ ครูมักจะให้เราซ้อมในสนามสอบที่จะใช้จริงๆ ในวันสอบ ทำให้เราคุ้นเคยกับสนามสอบมากๆ และไม่ตื่นสนามสอบเลยครับ อย่างผมนี่ ผมได้ซ้อมทุกท่าที่ใช้สอบประมาณ 30-40 รอบ ตอนสอบ ผมเลยมั่นใจมากๆ และผ่านอย่างสบายๆ เลยครับ
หลักสูตรได้มาตรฐาน เนื่องจากโรงเรียนเหล่านี้ได้รับการรับรองจากกรมขนส่งทางบก ทำให้หลักสูตรภาคทฤษฎีและปฏิบัติได้มาตรฐานไปด้วย ต่างจากโรงเรียนหลายแห่งที่เปิดขึ้นมาเองโดยไม่ได้รับการรับรอง
ข้อเสีย
ราคาสูง ข้อเสียสำคัญที่สุดของโรงเรียนสอนขับรถแบบนี้คือ ค่าเรียนมีราคาสูง จากที่ผมได้เรียนมา ค่าเรียนสอนขับรถ 15 ชั่วโมง (ปฏิบัติ 10 ชั่วโมง ทฤษฎี 5 ชั่วโมง) อยู่ที่ 6,000 บาท ซึ่งสูงกว่าโรงเรียนสอนขับรถทั่วไปพอสมควรเลย
คิวยาวมาก เนื่องจากความสะดวกสบายที่ได้รับ ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมาก อย่างโรงเรียนที่ผมเรียน คิวนี่เต็มเอี๊ยดไป 2-3 เดือน โดยเฉพาะถ้าเรียนในวันธรรมดาช่วงเย็นหรือวันหยุดอาจจะต้องต่อคิวรอเรียน 5-6 เดือนเลยทีเดียว ดังนั้นท่านใดที่ต้องการใบขับขี่แบบเร่งด่วน ย่อมไม่สามารถรอได้
ครูผู้สอนอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ แม้การสอนของโรงเรียนจะได้มาตรฐาน แต่ครูแต่ละคนมีความสามารถในการถ่ายทอดที่แตกต่างกัน มีโอกาสเช่นกันที่ครูบางคนอาจจะสอนไม่ดี อธิบายยังไงเราก็ไม่เข้าใจ
อย่างที่ผมพบมา บางทีครูผู้สอนก็อธิบายไม่ดี และไม่ค่อยสอนเทคนิคการขับรถเท่าไรนัก อย่างเช่นการกะจังหวะในการถอยรถเข้าซองที่ครูแทบไม่แนะนำอะไรเท่าไรเลย ผมเลยต้องมั่วเอาเอง มันเลยผิดๆถูกๆ ทำให้เสียเวลาไปไม่น้อย ดังนั้นการเลือกครูผู้สอนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
สรุป
แม้จะมีข้อเสียบางอย่าง แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้สึกว่าเรียนแล้วประทับใจ โดยเฉพาะการที่ได้สอบที่โรงเรียนเลย โดยไม่ต้องไปสอบที่สำนักงานขนส่ง
ดังนั้นถ้าท่านกำลังตัดสินใจอยู่ว่า จะเรียนกับโรงเรียนแบบนี้ เรียนกับโรงเรียนที่ไม่มีจัดสอบ หรือ เรียนที่ขนส่ง ผมคิดว่าการเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถที่มีจัดสอบใบขับขี่ในตัวอยู่แล้วเป็นทางเลือกที่ดีมากทางหนึ่งครับ