ประวัติศาสตร์รัสเซียปฏิวัติรัสเซียCamarilla กลุ่มพันธมิตรลับของชนชั้นสูง ผู้พลิกชะตารัสเซีย

Camarilla กลุ่มพันธมิตรลับของชนชั้นสูง ผู้พลิกชะตารัสเซีย

Camarilla ไม่ใช่คำที่มาจากภาษารัสเซีย คำๆนี้มีที่มาจากภาษาสเปน ความหมายของมันคือ

เหล่าชนชั้นสูงที่ใกล้ชิดกับกษัตริย์

ถ้าเปลี่ยนเป็นจีน พวกขันทีนี่แหละคือกลุ่มที่ใกล้เคียงกับกลุ่ม Camarilla

แต่ในบริบทของรัสเซียแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้คือพวกข้าราชบริพารระดับสูงหรือพวกนางสนองพระโอษฐ์ หน้าที่ของคนเหล่านี้คือคอยรับใช้หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับซาร์ พวกเขามักรวมตัวกันเป็นพันธมิตรเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน

ดังนั้นในบริบทของรัสเซีย พวก Camarilla คือ กลุ่มพันธมิตรลับของชนชั้นสูงที่ใกล้ชิดกับซาร์

พวก Camarilla นี้มักจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆทางการเมืองอย่างเป็นทางการ แต่มีอิทธิพลมากเหนือกษัตริย์ในการตัดสินพระทัยต่างๆ เพราะว่าเป็นที่ปรึกษาใกล้ชิด

ตระกูล Sheremetev หนึ่งในตระกูลชนชั้นสูงของรัสเซีย

หากแต่ว่าเมื่อเกิดความผิดพลาด พวกนี้มักเอาตัวรอดไปได้เพราะว่าไม่ได้ออกหน้า ประชาชนทั่วไปจึงไม่รู้ว่าพวก Camarilla แนะนำซาร์ผิดๆ ทำให้ผลออกมาเป็นหายนะเช่นนั้น

หรือเรียกได้ว่าซาร์ต้องรับความผิดไปเพียงคนเดียว ส่วนพวก Camarilla ไม่มีตัวตนในสังคมจึงไม่ต้องรับผิดใดๆ

แต่เดิมเหล่านักประวัติศาสตร์รัสเซียเคยถกเถียงกันว่ากลุ่มดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่ในช่วงก่อนการปฏิวัติรัสเซีย แต่ปัจจุบันนักวิชาการต่างสรุปได้ค่อนข้างแน่ชัดว่า กลุ่ม Camarilla นี้มีอยู่จริง พวกนี้มาจากตระกูลชั้นนำของรัสเซียที่กำลังถดถอย พวกเขาเกรงว่าจะสูญเสียความมั่งคั่ง อำนาจ และอภิสิทธิ์ชนที่เขามีอยู่ถ้าการปฏิรูปประเทศดำเนินต่อไป

ดังนั้นตระกูลดังๆ อย่าง Sheremetev, Golitsyn หรือ Yusupov (ในรูปด้านบนและด้านล่าง) จึงไม่น่าใช่พวก Camarilla เพราะตระกูลเหล่านี้ไม่ได้ตกอับ และยังมีสถานะทางสังคมอย่างเต็มเปี่ยม

เราจึงเจาะจงไม่ได้ว่าพวก Camarilla นี้คือใคร เพราะถ้าเรารู้ นั่นก็แปลว่ากลุ่มนี้ไม่ใช่กลุ่มลับแล้ว

ตระกูล Yusupov ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัสเซีย

ลักษณะโดยทั่วไปของพวก Camarilla จึงเป็นพวกอนุรักษ์นิยมขวาจัด พวกเขาทำทุกวิธีทางเพื่อให้อำนาจและความมั่งคั่งของพวกตนอยู่สืบต่อไป

ในปลายราชวงศ์โรมานอฟ เชื่อกันว่าพวก Camarilla เป็นพันธมิตรกับพวกตำรวจลับหรือ Okhrana อย่างลับๆ

การเป็นพันธมิตรกับตำรวจลับให้ประโยชน์กับพวก Camarilla หลายอย่าง ได้แก่

  1. พวก Camarilla จะได้กำจัดเสนาบดีหรือข้าราชการที่พวกเขาไม่ชอบหน้าหรือว่าเป็นศัตรูได้ง่ายดายมากขึ้น โดยไม่มีพวกตำรวจลับขัดขวาง
  2. ใช้วิธีการลับในการเปลี่ยนการเมืองเป็นไปอย่างที่พวกตนปรารถนา

ยกตัวอย่างเช่น พวก Camarilla อาจจะไม่ชอบหน้ารัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง แต่ไม่สามารถกำจัดได้โดยวิธีทั่วไป พวก Camarilla ก็จะไปสั่งให้พวกตำรวจลับปล่อยปละละเลยไม่ต้องรักษาความปลอดภัยอะไรมากให้แก่รัฐมนตรีคนดังกล่าว ถ้ารัฐมนตรีถูกพวกนักปฏิวัติลอบสังหาร เท่ากับว่าพวก Camarilla สามารถกำจัดรัฐมนตรีผู้นั้นไปอย่างแนบเนียน

นี่เป็นความโหดเหี้ยมของพวก Camarilla ที่ยืมมือพวกนักปฏิวัติในการกำจัดพวกเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ทั้งนี้พวก Camarilla เกลียดชังการปฏิรูปการเมืองมากที่สุด เพราะว่าพวกตนจะเสียประโยชน์จากการที่ประชาชนส่วนใหญ่มีสิทธิ์มีเสียงขึ้นมา ดังนั้นผู้ที่พยายามจะปฏิรูปการเมืองของรัสเซียจึงต้องมีอันเป็นไปอย่างแปลกๆ อาทิเช่น

ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซาร์ผู้ปลดปล่อย ซาร์นักปฏิรูปของรัสเซีย

ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2

มีข้อสันนิษฐานว่า ในวันที่ซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ถูกปลงพระชนม์ที่คลองแคทเทอรีน มีหรือพวกตำรวจลับจะไม่ทราบว่ามีผู้พยายามลอบปลงพระชนม์พระองค์ แต่ที่มันเกิดขึ้นได้อาจจะเพราะว่าพวก Camarilla สั่งให้ตำรวจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ต่างหาก

รายต่อมาก็คือ Pyotr Stolypin นายกรัฐมนตรีในสมัยซาร์นิโคลัสที่ 2 เขาพยายามปฏิรูปเศรษฐกิจและการเมือง โดยเน้นไปที่การปฏิรูปที่ดิน และการกระจายรายได้ ผลที่ตามมาคือเขาถูกยิงต่อหน้าพระพักตร์ของนิโคลัสระหว่างที่ดูโอเปร่าที่กรุงเคียฟ

นิโคลัสสั่งให้มีการสอบสวนเรื่องดังกล่าว แต่การสอบสวนดำเนินไปได้ไม่นาน พระองค์ก็สั่งให้หยุดอย่างแปลกๆ หลังจากนั้นคดีก็ไม่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกเลย

ดังนั้นจึงมีกระแสว่าพวก Camarilla นั่นเองที่เป็นจ้างมือสังหารไปยิง Stolypin เพราะเกลียดนโยบายของเขาที่ทำให้ผู้ดีตกยากอย่างพวกตนเสียประโยชน์ และยังไม่ปรารถนาจะให้ซาร์นิโคลัสอยู่ในอิทธิพลของเขามากเกินไป

อีกเคสหนึ่งที่ชัดเจนยิ่งกว่าคือ เคสของหนังสือ Protocols ที่พวกตำรวจลับรัสเซียทำขึ้นเพื่อปลุกกระแสต่อต้านชาวยิวในรัสเซียจนบูมไปทั่วโลกในภายหลัง กรณีนี้พวก Camarilla น่าจะเป็นผู้สั่งเช่นกันเพื่อหาเหตุในการกวาดล้างชาวยิวที่ไร้ความผิด

พฤติการณ์เช่นนี้ของพวก Camarilla มีส่วนสำคัญยิ่งที่ขัดขวางพัฒนาการทางการเมืองของรัสเซีย รัสเซียที่ต้องการการปฏิรูปอย่างมากจึงไม่สามารถปฏิรูปได้สำเร็จ ผลที่ตามมาก็คือการปฏิวัติในปี ค.ศ.1917

วาระสุดท้ายของพวก Camarilla เชื่อได้ว่าไม่ดีนัก เพราะหลังจากที่พวกบอลเชวิคมีอำนาจ เลนินและสตาลินได้กวาดล้างพวกอภิสิทธิ์ชนเก่าอย่างรุนแรง ชนิดที่ว่าไม่มีใครกล้าเอ่ยว่าตนเองเป็นอภิสิทธิ์ชนเก่าอีกเลย พวก Camarilla คงจะโดนไปด้วยไม่ต่างกัน บางคนคงจะหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ และพยายามลืมสิ่งที่ตัวเองทำลงไปจนวันสุดท้ายของลมหายใจ 

บทความประวัติศาสตร์

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!