ชาวไทยพุทธหลายท่านที่ศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่าจะอยากไปประเทศอินเดียสักครั้ง เพื่อไปสัมผัสถึงสถานที่จริงที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งทริปดังกล่าวจะเป็นทริปที่ไม่เหมือนกับทริปใดในประวัติการท่องเที่ยวของคุณเลยครับ
สถานที่ที่คุณต้องไปแน่ๆ คือ สังเวชนียสถาน 4 แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วเราควรจะไปที่ไหนอีกดี? โพสนี้ผมจะแนะนำสถานที่อื่นๆ ที่น่าสนใจให้ได้ทราบกันครับ
1. สังเวชนียสถาน 4
สังเวชนียสถาน 4 คือ สถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญในช่วงพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้าได้แก่ การประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน สถานที่ดังกล่าวได้แก่
สวนลุมพินีวัน
สวนลุมพินีวันคือสถานที่ที่พระพุทธเจ้าประสูติ ในปัจจุบันสถานที่แห่งนี้คือ “ลุมพินี” (Lumbini) เขต Rupandehi ในประเทศเนปาล ที่นี่เป็นสถานที่แสวงบุญแห่งเดียวที่ไม่ได้อยู่ในประเทศอินเดียครับ ถ้าคุณจะไป คุณต้องนั่งรถข้ามแดนจากอินเดียไปยังฝั่งเนปาลด้วย ในกรณีที่คุณไปกับทัวร์สังเวชนียสถานทั้งหลาย ทัวร์จะจัดการเรื่องนี้ให้คุณทั้งหมดครับ
ภายในสถานที่แห่งนี้มีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างโบราณที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตที่นี่เคยมีอารามทางศาสนามาก่อน แต่สิ่งที่ช่วยให้เราทราบว่าที่นี่เป็นสวนลุมพินีวันจริงๆ คือเสาอโศกครับ นักประวัติศาสตร์ได้พบจารึกบนเสาอโศกที่เขียนว่าพระเจ้าอโศกมหาราชได้โปรดให้สร้างเสาหินที่นี่ เพราะบริเวณนี้เป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า
จุดที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าประสูติจริงๆ มีวัดตั้งครอบไว้อยู่ วัดดังกล่าวคือวัดมายาเทวี (Maya Devi Temple) ซึ่งตั้งตามชื่อของพุทธมารดา หรือ พระนางสิริมหามายานั่นเอง
ส่วนภาพด้านล่างคือ จุดที่เชื่อกันว่าพระพุทธเจ้าทรงประสูติครับ
นอกจากนี้ใกล้เคียงกับวัดมายาเทวียังมีวัดอยู่อีกหลายหลัง ซึ่งเป็นวัดไทย วัดพม่า วัดจีน วัดทิเบตมาตั้งอยู่ คุณสามารถเดินเข้าไปชมวัดเหล่านี้ได้ครับ
พุทธคยา
พุทธคยา (Bodh Gaya) คือสถานที่ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ปัจจุบันพุทธคยาก็ยังใช้ชื่อเดิม และตั้งอยู่ในรัฐพิหาร (Bihar) ของประเทศอินเดีย โดยห่างจากเมืองปัตนะ เมืองหลวงของรัฐประมาณ 110 กิโลเมตร
ในปัจจุบันพุทธคยาได้กลายเป็นสถานที่แสวงบุญขนาดใหญ่ของชาวพุทธทุกนิกายไม่ว่าจะเป็นเถรวาท มหายาน หรือวัชรยาน วัดของชาติต่างๆ ตั้งอยู่รายรอบพุทธคยาอยู่หลายแห่งด้วยกัน แต่ศูนย์กลางของพุทธคยาคือ วัดมหาโพธิ (Mahabodhi Temple) วัดเก่าแก่ที่สามารถย้อนไปได้ถึงสมัยคุปตะ และต้นพระศรีมหาโพธิ์ ต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับในช่วงเวลาที่ตรัสรู้
ชาวพุทธและพระสงฆ์ที่เดินทางมาจาริกแสวงบุญมักจะมานั่งสมาธิเดินจงกรมกันที่นี่ แน่นอนว่าคุณควรจะเข้าร่วมครับเพื่อเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต
ใกล้กับวัดมหาโพธิมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ขนาดสูง 25 เมตรตั้งอยู่ แม้ว่าจะเพิ่งจะสร้างขึ้นใหม่ แต่ถือว่าเป็นพระพุทธรูปขนาดยักษ์องค์แรกที่สร้างขึ้นในแผ่นดินอินเดียเลยก็ว่าได้ครับ
สารนาถ
สารนาถ (Sarnath) หรือ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (Isipatana) เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 และทำให้ศาสนาพุทธถือกำเนิดบนโลกนับตั้งแต่บัดนั้น
ปัจจุบันสารนาถเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากเมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศประมาณ 10 กิโลเมตร รายรอบสารนาถมีวัดพุทธหลากหลายเชื้อชาติเช่นเดียวกับที่ลุมพินีและพุทธคยา แต่ศูนย์กลางของสารนาถคือ Dhamek Stupa หรือ สถูปธัมมจริกา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา บริเวณสถูปมีซากปรักหักพังซึ่งเชื่อกันว่าเป็นซากมหาวิหารเก่าในสมัยโบราณอีกด้วย
ใกล้กับ Dhamek Stupa มีสถูปอีกแห่งหนึ่งชื่อ Chaukhandi Stupa สถูปแห่งนี้สร้างขึ้นบนสถานที่ที่พระพุทธเจ้าพบกับปัญจวัคคีย์เป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วครับ
ถ้าคุณไปสารนาถ อย่าได้แปลกใจถ้าคุณเห็นนักบวชเชนจำนวนมาก เพราะสารนาถเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาเชนเช่นเดียวกันครับ
กุสินารา
กุสินารา (Kushinagar) เป็นสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ในอดีตเมืองนี้เป็นเมืองหลวงของเจ้ามัลลกษัตริย์ แต่ในปัจจุบันเป็นเมืองเล็กๆ ในรัฐอุตตรประเทศของอินเดียเท่านั้น แต่บริเวณรอบเมืองก็มีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างโบราณหลายต่อหลายแห่งด้วยกัน
สถูปปรินิพพาน (Parinirvana Stupa) เป็นสถูปที่สำคัญที่สุดของกุสินารา ภายในสถูปประกอบด้วยพระพุทธรูปปางปรินิพพานให้ชาวพุทธที่ศรัทธาได้มาสักการะบูชา
ห่างจากสถูปปรินิพพานไม่ไกลนักคือ Ramabhar Stupa สถูปที่เชื่อกันว่าสร้างขึ้นบนจุดที่ร่างพระพุทธเจ้าได้รับการถวายพระเพลิงโดยเหล่ามัลลกษัตริย์
เช่นเดียวกับสังเวชนียสถานอื่นๆ กุสินารายังมีวัดพุทธจากทุกชาติให้คุณเข้าไปชมด้วยครับ
2. เขาคิชฌกูฏ
เขาคิชฌกูฏ หรือ Gijjhakuta เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองราชคฤห์ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ในหน้าพุทธประวัติแล้ว ภูเขาแห่งนี้ปรากฏอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมมากมาย และเป็นสถานที่ปลีกวิเวกสำหรับพระองค์จากกรุงราชคฤห์
นอกจากนี้พระเทวทัตยังเคยกลิ้งหินจากภูเขานี้เพื่อหมายใจจะทำร้ายพระพุทธเจ้า แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว และถูกธรณีสูบในเวลาต่อมา
ในปัจจุบันเขาคิชฌกูฏยังปรากฏร่องรอยของสิ่งก่อสร้างโบราณให้เห็น ชาวพุทธจำนวนมากจึงมักจะเดินเท้าขึ้นเขาเพื่อเป็นการแสวงบุญและบำเพ็ญเพียรครับ เส้นทางเดินก็ไม่ยากเพราะมีการปูพื้นอย่างดี ติดอยู่อย่างเดียวคืออากาศร้อนถึงร้อนมากนั่นแหละครับ
3. วัดเวฬุวันมหาวิหาร
วัดเวฬุวันมหาวิหาร (Venuvan, Veluyana) เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา ปัจจุบันตั้งอยู่ใกล้กับเมืองราชคฤห์ ในรัฐพิหารของประเทศอินเดีย
ในปัจจุบันเวฬุวันไม่ได้เป็นวัดอีกต่อไปแล้ว แต่กลับเป็นเพียงสวนไผ่ดังเช่นแต่ก่อน ภายในสวนไผ่แห่งนี้มีพระพุทธรูปองค์เล็กให้สักการะ และซากปูชนียสถานที่แสดงถึงการเกิด ตั้งอยู่ และดับไปตามกฎของไตรลักษณ์เท่านั้น
4. ถ้ำสัตตปานี
ถ้ำสัตตปานี (Saptaparni Cave) เป็นถ้ำที่พระอรหันต์ 500 รูปทำสังคายนาครั้งที่ 1 หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ในปัจจุบันตัวถ้ำก็ยังอยู่ใกล้กับเมืองราชคฤห์ให้ชาวพุทธเดินเข้าไปแสวงบุญได้ครับ
5. มหาวิทยาลัยนาลันทา
มหาวิทยาลัยนาลันทา (Nalanda) เป็นมหาวิทยาลัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในอดีตกาล ตัวมหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยในพระพุทธศาสนาและเคยรุ่งเรืองมานานถึง 700 ปี ก่อนที่จะถูกทำลายโดยกองทัพมุสลิม
ปัจจุบันซากปรักหักพังของนาลันทายังหลงเหลืออยู่ โดยตั้งอยู่ที่รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย โดยรวมแล้วถือว่าซากปรักหักพังของนาลันทามีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ในระดับหนึ่ง ทำให้เชื่อได้ว่าในอดีตนาลันทาต้องเคยยิ่งใหญ่อลังการตามที่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าไว้ทุกประการครับ นาลันทาจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่คุณควรจะมาเยี่ยมเยือนสักครั้ง
6. วัดพระเชตวัน
วัดพระเชตวัน (Jetavana) เป็นวัดที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวายพระพุทธเจ้าในกรุงสาวัตถี (Shravasti) แคว้นโกศล วัดแห่งนี้เป็นวัดที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่นานที่สุดเป็นเวลานานถึง 19 ปี
ปัจจุบันที่เชตวันยังปรากฏให้เห็นถึงสิ่งก่อสร้างโบราณอยู่ รวมไปถึงส่วนที่เชื่อกันว่าเป็นกุฏิของพระพุทธเจ้าด้วย แม้ว่าทุกวันนี้จะไม่ได้เป็นวัดอีกแล้วก็ตาม ผู้แสวงบุญและพระสงฆ์มักจะมานั่งสมาธิภายในอดีตวัดแห่งนี้ครับ
7. เวสาลี
เวสาลี หรือ Vaishali เป็นเมืองของเจ้าลิจฉวีแห่งวัชชีในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้ามักจะเสด็จมาประทับที่กุฏาคารศาลาวิหาร (Kutagarasala Vihara) และแสดงธรรมอยู่หลายบทอย่างที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก
ในปัจจุบันเวสาลีเป็นเมืองในรัฐพิหารของอินเดีย และมีแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ สถูปและวัดในบริเวณนี้ยังถือว่าสมบูรณ์ แต่ที่หาชมได้ยากคือเสาอโศกครับ เสาอโศกที่เวสาลีเป็นเสาเดียวในโลกเลยก็ว่าได้ที่อยู่ในสภาพเหมือนในอดีต
8. สาญจี
สาญจี (Sanchi) ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติโดยตรง แต่สาญจีเป็นแหล่งปูชนียสถานในพุทธศาสนาที่สำคัญมาก พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างสาญจีขึ้นเป็นหนึ่งในอนุสรณ์ทางศาสนาพุทธในอาณาจักรมคธ และกษัตริย์ในราชวงศ์คุปตะได้สนับสนุนและขยายขนาดของสถานที่ดังกล่าวจนใหญ่โต ทำให้สาญจีประกอบด้วยสถูปและวัดนับสิบหลังด้วยกัน
สถูปที่โดดเด่นที่สุดคือ สถูปหมายเลข 1 หรือ สถูปใหญ่ (Great Stupa) ซึ่งสร้างครอบพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าครับ
สาญจีถือว่าเป็นปูชนียสถานในพระพุทธศาสนาที่สำคัญและอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย ภายในตัวปูชนียสถานประกอบด้วยรูปปั้น ภาพแกะสลัก เสาอโศกที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนามากมาย ทำให้สาญจีเป็นสถานที่ที่ชาวพุทธไม่ควรพลาดเลยครับ
สาญจีตั้งอยู่ในเมืองชื่อเดียวกันในรัฐมัธยประเทศของอินเดีย ซึ่งห่างจากสถานที่อื่นๆ พอสมควร แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะเดินทางไปชมโดยเฉพาะครับ
9. ถ้ำอชันตา
ถ้ำอชันตา (Ajanta Caves) เป็นถ้ำขนาดยักษ์ที่มีอายุเก่าแก่มากถึงสองพันปี ในอดีตมันเคยถูกใช้เป็นอารามถ้ำที่รองรับพระสงฆ์ได้หลายพันรูปในคราวเดียว
ที่ผมใช้คำว่าขนาดยักษ์ เพราะถ้ำอชันตามีถ้ำย่อยอยู่ถึง 30 ถ้ำ และมีพื้นที่รวมกันถึง 82.42 กิโลเมตร ทำให้ถ้ำแห่งนี้เป็นโบราณสถานอันดับต้นๆ ของอินเดียอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
ภายในถ้ำประกอบด้วยรูปปั้น รูปแกะสลัก ภาพวาด ภาพเขียน และผลงานทางศิลปะอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา แทบทุกสิ่งในถ้ำสวยงาม วิจิตร อลังการและทรงคุณค่าอย่างมาก ที่นี่จึงเป็น a must ที่คุณควรมาเยือนสักครั้งไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาพุทธหรือไม่ก็ตามครับ
ตัวถ้ำอยู่ใกล้กับเมือง Aurangabad ในรัฐมหารัชตะ ซึ่งห่างจากสถานที่อื่นๆ ในโพสนี้มากกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร ดังนั้นถ้าคุณจะไป คุณควรจะบินไปโดยใช้สายการบินในประเทศอินเดียครับ
ข้อควรทราบ
- รัฐพิหารที่คุณจะไปแสวงบุญเป็นรัฐที่ยากจนที่สุดรัฐหนึ่งของอินเดีย และคุณต้องเดินทางไปๆ มาหลายครั้งเพื่อไปสถานที่แสวงบุญให้ครบ การเดินทางจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกับไปเดลี ดังนั้นทัวร์สังเวชนียสถานดีๆ อย่างเช่น Oceansmile เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถตัดปัญหาหลายอย่างที่คุณต้องเผชิญไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การเดินทาง ความสะอาด ความปลอดภัย ฯลฯ
- ราคาของทัวร์สังเวชนียสถานในแต่ละบริษัทอาจแตกต่างกันมาก สาเหตุคือคุณภาพของยานพาหนะ ที่พักและอาหารที่ต่างกัน ผมแนะนำว่าเราควรให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าราคา เพราะคุณมีโอกาสท้องเสียได้ง่ายๆ ที่อินเดียครับ อาหารและที่พักควรจะสะอาดและมีคุณภาพไว้ก่อน
- ทัวร์สังเวชนียสถานส่วนใหญ่จะพาคุณไปสถานที่ที่ผมแนะนำอยู่แล้ว ส่วนมากจะเป็นทัวร์ 7-9 วันที่ไม่ได้ไปถ้ำอชันตา ถ้าคุณต้องการไปถ้ำอชันตาด้วย (ซึ่งผมแนะนำอย่างยิ่งว่าควรไป) อาจจะใช้เวลา 10-11 วัน
ใครที่จะไปแสวงบุญเองก็สามารถไปได้เช่นกัน แต่แน่นอนว่าเรื่องการวางแผนและความสะดวกสบายจะยากลำบากพอสมควรเลยครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]