ถ้าอยากจะสร้าง video ads เพื่อสร้าง conversion และยอดขาย จะใช้ online video maker ตัวไหนดีที่ใช้ง่ายและคลิปออกมาดี?
คำถามนี้เป็นคำถามสำคัญในการตลาดออนไลน์ของทศวรรษ 2020 เลยก็ว่าได้ เพราะ Video Ads/Promotional Video หรือโฆษณาที่อยู่ในรูปแบบของ Video เป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปแล้วคุณจะเห็นโฆษณาเหล่านี้ในเว็บไซต์ดูคลิปอย่างเช่น Youtube หรือ Line TV แต่ในระยะหลังได้ระบาดมาถึง Facebook, Instagram หรือแม้กระทั่ง Google Ad Network ด้วยเช่นกัน
สาเหตุที่ video ads เป็นที่นิยมก็เพราะศักยภาพในการสร้าง conversion ที่สูงกว่าการโฆษณาทางออนไลน์แบบอื่น และผู้ชมทั่วไปยังตอบรับในแง่บวกมากกว่าด้วย ดังนั้นถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก หรือว่าเปิดร้านขายของออนไลน์ การใช้งาน Video Ads จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก
อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะกลัวการสร้าง video ads เพราะคิดว่าน่าจะทำยาก (ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น) โดยเฉพาะถ้าคุณไม่มีทักษะการใช้งาน video editor มาก่อนเลย
ในอดีตอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ในปัจจุบันคุณสามารถสร้าง video ads คุณภาพสูงอย่างง่ายดายด้วย online video maker หลายตัว ดังนั้นไม่ว่าคุณจะมีทักษะหรือไม่มี คุณก็สามารถสร้างคลิปเพื่อการโฆษณาได้อย่างสะดวกสบายครับ และยังไม่ต้อง install อะไรอีกด้วย เพราะคุณทำทุกอย่างได้บนเว็บนั่นเองครับ
เรามาดูกันดีกว่ามี online video maker ตัวไหนที่จะน่าใช้สร้าง video ads บ้าง
ข้อควรทราบ: ราคา เงื่อนไขและฟีเจอร์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ โปรดตรวจสอบกับทางเว็บไซต์ผู้ให้บริการอีกครั้งหนึ่งครับ
1. Promo
Promo เป็น online video maker ที่เน้นไปที่การทำ Promotional Video หรือ Video Ads โดยตรง แต่จริงๆ แล้วตัวเครื่องมือมีศักยภาพในการสร้างคลิปวีดิโอได้ทุกรูปแบบที่มีความยาวต่ำกว่า 5 นาทีครับ
ในการสร้างวีดิโอด้วย Promo นั้นง่ายถึงง่ายมาก แถมยังลองสร้างได้ฟรีด้วย ผมจะลองสาธิตการสร้างแบบเบสิกให้ทุกคนได้ดูกันครับ
เริ่มต้นนั้นไม่มีอะไรยากเลยครับ นั่นคือเลือก video template ที่คุณต้องการ พวก template เหล่านี้จะเป็นแบบร่างของคุณในการสร้างวีดิโอ ซึ่งตัวมันเองถูกสร้างมาอย่างดีอยู่แล้ว คุณก็เลือกสักอันหนึ่งครับ โดยทาง Promo จะมีให้เลือกสามแบบได้แก่
- เลือกตามการใช้งาน เช่น Facebook Ads, Instagram Ads, Youtube Ads, Facebook Video, Youtube Videos ฯลฯ
- เลือกตามหมวดหมู่ เช่น Education, Travel, Food & Beverages ฯลฯ
- ไม่เลือก ต้องการสร้างวีดิโอจากหน้าเปล่าๆ ในส่วนนี้ก็ทำได้เช่นกันครับ
อย่างผมเลือก Facebook Ads ละกันครับ ก่อนที่จะเลือกคุณสามารถ Preview ก่อนได้ว่า template เป็นแบบไหน ถ้าถูกใจก็กด Customize ครับ
พอกด Customize เราก็จะแก้ไข template ที่เราเลือกมาได้ จะเห็นว่า User Interface ของ Promo นั้นใช้งานง่ายมาก และเป็นมิตรกับผู้ใช้บริการสุดๆ คุณจะรู้สึกไม่มึนเหมือนกับซอฟต์แวร์สร้างวีดิโอบางตัวครับ
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ขั้นตอนการ Edit ตัวคลิปครับ ในส่วนนี้คุณจะใช้คลิปที่คุณไปถ่ายมาหรือรูปภาพที่คุณเป็นเจ้าของอยู่แล้วก็ได้ คุณก็แค่ upload มันลงบนแพลตฟอร์มครับ หรือคุณจะใช้ทรัพยากรของ Promo ก็ได้ ซึ่งคลัง Media ของ Promo นั้นถือว่าใหญ่ที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของบรรดา Online video maker เลยก็ว่าได้ เพราะประกอบด้วย
- คลัง Stock Footage/Video ของบริษัทซื้อขายรูปภาพชื่อดังอย่าง Shutterstock และ Getty ทั้งหมด 23 ล้านคลิป
- คลัง Stock Footage ของ Promo อีก 150,000 คลิป
- คลังรูปภาพอีกนับล้าน
- เพลงอีกจำนวนมาก
ทรัพยากรทั้งหมดนี้คุณสามารถใช้ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ 100% ครับ เท่ากับว่าคุณไม่ต้องกังวลเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น ผมจะทำ Video Ads เพื่อขายทัวร์รัสเซียไปเมือง St. Petersburg ผมก็ search หาคำว่า “St. Petersburg” ใน media และพบว่าคลิป footage ชั้นยอดรอผมอยู่แล้ว ผมสามารถใช้ทุกคลิปเลยครับ
ก่อนจะใช้สร้างคุณสามารถ Preview ได้ครับ ถ้ารู้สึกว่าเอามาใช้ก็กด Use
พอกด Use แล้ว footage ที่ว่าก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในคลิปวีดิโอของคุณ และคุณสามารถ edit ต่อไปได้ตามความต้องการของคุณครับ ไม่ว่าจะใส่สี เปลี่ยน font เปลี่ยน background พิมพ์ข้อความ หรือย้าย footage ตรงนี้ไปอยู่ตรงโน้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายด้วยคลิกเดียว
แต่ที่สำคัญที่สุดคือกำหนดตัวโครงสร้างของโฆษณาครับ ซึ่ง promo จะให้คุณกำหนดเป็นแบบ wide, square หรือ vertical เพื่อให้เหมาะสมกับการโฆษณาใน social media ที่แตกต่างกันออกไป
อย่างผมนำ footage มาใช้และเปลี่ยนเป็นทัวร์ Victory Tale ไปแล้ว
ส่วนที่ใครที่อยากใส่เสียงพูด (voice-over) ก็สามารถ upload ใส่ได้โดยไม่มีข้อจำกัดอะไรครับ เช่นเดียวกับ Logo ของคุณ
หลังจากที่คุณพอใจกับวีดิโอของคุณแล้ว คุณก็ Save and Preview เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณกด publish เพื่อดาวน์โหลดวีดิโอของคุณ เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นครับ
สำหรับใครที่ยังรู้สึกว่าไม่ clear ลองดูขั้นตอนการสร้างวีดิโอโดยการใช้ Promo โดยทีมงานจากคลิปด้านล่างครับ (คลิก play ได้เลยครับ)
ทั้งนี้ถ้าเกิดปัญหาอะไร เช่นทำโน่นทำนี่ไม่ได้ ทีมงานของ Promo คอยช่วยเหลือคุณตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ คุณสามารถกดกล่อง Live Chat ทางด้านขวาเพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ
โดยรวมแล้วการใช้งาน Promo เป็น online video maker ที่จัดว่าใช้ง่ายมากๆ ผมชอบทั้งทรัพยากร, User Interface และความเรียบง่ายในการใช้งาน ทำให้เหมาะกับมือใหม่ไม่มีทักษะเรื่อง graphic design อย่างผมสุดๆ เลยครับ
ถัดไปเราดูเรื่องสำคัญที่สุด นั่นคือ “ราคา” ครับ
ราคาของ Promo
Promo คิดราคาเป็นรูปแบบสมาชิก โดยแบ่งออกเป็น 3 แพลนได้แก่
- Basic เริ่มต้นที่ $39 หรือประมาณ 1,170 บาทต่อเดือน
- Standard เริ่มต้นที่ $69 หรือประมาณ 2,070 บาทต่อเดือน
- Pro เริ่มต้นที่ $249 หรือประมาณ 7,470 บาทต่อเดือน
ราคาเริ่มต้นในที่นี้คือราคาที่ต้องจ่ายเป็นรายปีครับ ถ้าอยากจ่ายเป็นเดือนต่อเดือน (monthly) จะแพงกว่า นั่นคืออยู่ที่ $49, $99 และ $359 ตามลำดับ ถ้าคำนวณดูแล้ว ราคาแบบรายปีจะถูกกว่าเดือนต่อเดือนประมาณ 20%
ทุกแพลนจะได้ฟีเจอร์หลักเหมือนกันหมด นั่นคือ
- การสร้างวีดิโอความยาวไม่เกิน 5 นาทีอย่างง่ายดายด้วย online video maker โดยวีดิโอที่สร้างด้วย Promo จะเป็นแบบ HD (720p) หรือ Full HD (1080 p) และสามารถดาวน์โหลดได้เป็นไฟล์ MP4
- ทรัพยากรทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Premium Video Clips (ของ Getty และ Shutterstock), Standard Video Clips, Music
- การใส่ Logo ของคุณลงไปใน Video
- การสร้าง Photo Collage
- การใช้งาน Promo Mobile App
- License การใช้งานแบบตลอดชีพ ดังนั้นคุณสามารถใช้งานคลิปวีดิโอที่คุณสร้างเชิงพาณิชย์ทางออนไลน์ได้ไม่จำกัดครั้ง และไม่จำกัดเวลา เพราะคุณเป็นเจ้าของวีดิโอนั้นโดยสมบูรณ์ แม้ว่าคุณจะยกเลิกสมาชิกไปแล้วก็ตาม (แต่ถ้ายกเลิกไปแล้วจะแก้ไขวีดิโอนั้นไม่ได้อีก หรือกลับมาดาวน์โหลดไฟล์ใหม่ไม่ได้)
อย่างไรก็ดีแพลนทั้ง 3 ก็มีข้อแตกต่างกัน นั่นคือแพลน Basic จะสร้างวีดิโอได้แค่ระดับ HD (720p) Premium Clips ได้เพียง 3 คลิปต่อเดือนเท่านั้น (36 คลิปต่อปี) แต่แพลนที่เหลือสามารถใช้ได้ไม่จำกัด นอกจากนี้แพลน Basic จะไม่สามารถใช้ Watermark ของคุณได้ เช่นเดียวกับการดาวน์โหลด custom font ของคุณเอง
ส่วนแพลน Standard จะทำได้ทุกอย่างที่ว่าไปด้านบน ตั้งแต่สร้างวีดิโอระดับ Full HD (1080p), ใช้ทรัพยากรทุกอย่างได้ไม่จำกัด ใช้ custom font และ watermark ได้แต่จะไม่สามารถทำ White Label Sharing และ resell วีดิโอให้กับผู้อื่นได้ แต่แพลน Pro จะทำได้ทุกอย่างที่ว่าไป และได้รับ Customer Support ระดับ VIP ครับ
ถ้าสงสัย อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Promo Pricing ครับ
ทั้งนี้ผมมองว่า ถ้าคุณไม่ได้เป็น freelance หรือ Agency โฆษณา และสร้างคลิปวีดิโอเพื่อโฆษณาสินค้าและบริการของคุณเอง การใช้งานแพลน Basic และ Standard ก็เพียงพอต่อความต้องการแล้วครับ
ถ้าเทียบกับ Online video maker ตัวอื่นแล้ว ผมขอบอกเลยว่า Promo เป็น Online video maker ที่ราคาสูงที่สุดตัวหนึ่งในตลาด แต่ทรัพยากรและ User Interface ของ Promo นั้นเหนือกว่าตัวอื่นมากเช่นเดียวกัน ทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายค่า footage, ค่าไฟล์เสียงไปอีกมากโข
ยกตัวอย่างแค่ค่า footage ก็ได้ครับ Shutterstock คิดค่า footage โดยเริ่มต้นที่เดือนละ $159 ต่อเดือน และดาวน์โหลดได้แค่ 10 คลิปเท่านั้น ซึ่งแพงกว่าค่าสมาชิกรายเดือนระดับ Standard ของ Promo ที่ใช้ footage ของ Shutterstock กี่คลิปในราคา $69 อย่างมาก ขณะที่ Online video maker ตัวอื่นไม่มีทรัพยากรให้คุณใช้มากเท่านี้เลยครับ
ดังนั้นผมจึงมองว่า Promo เป็น online video maker ที่ใช้สร้าง video ads ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งในตลาดอย่างไม่ต้องสงสัย ลองใช้งานเองได้ฟรีโดยคลิกที่ปุ่มด้านล่างครับ
รีวิว: g2 4.3/5.0, Capterra 4.6/5.0
2. Powtoon
Powtoon เป็นอีกหนึ่ง online video maker ที่น่าสนใจ วิธีในการสร้าง video ads ของ Powtoon แทบไม่ต่างอะไรกับ Promo เลยครับ นั่นคือหลังจากที่คุณเลือก template เสร็จแล้ว คุณก็แก้ไขด้วยการใส่ ready-made scene ที่มีไว้ให้อยู่แล้วลงไปครับ เนื่องจากเหมือนกับ Promo มาก ในส่วนนี้ผมคงอนุญาตไม่อธิบายซ้ำ
ในเรื่องการใช้งาน ผมมองว่า Powtoon ก็ใช้งานง่ายในระดับหนึ่ง แต่โดยรวมแล้วผมชอบ user interface ของ Promo มากกว่าครับ แต่ Powtoon มีข้อดีคือคุณสามารถสร้างวีดิโอได้ยาว 30 นาทีด้วยกัน ดังนั้นถ้าคุณจะทำคลิปยาวๆ เหมือนกับ Youtuber ก็ทำได้ครับ ทำให้ Powtoon ใช้งานส่วนอื่นได้ด้วย ไม่จำกัดแค่ marketing video หรือ video ads
สำหรับเรื่องราคา Powtoon แบ่งออกเป็น 4 แพลนได้แก่
- Free
- Pro – เริ่มต้นที่ $19 หรือประมาณ 570 บาทต่อเดือน
- Pro+ – เริ่มต้นที่ $59 หรือประมาณ 1,770 บาทต่อเดือน
- Agency – เริ่มต้นที่ $99 หรือประมาณ 2,970 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ราคาดังกล่าวเป็นราคาแบบจ่ายรายปี ซึ่งสำหรับ Powtoon แล้วคุณควรสมัครเป็นรายปีอย่างยิ่ง เพราะว่าราคาแบบเดือนต่อเดือนแพงกว่าถึงเกือบ 5 เท่า (Pro เริ่มต้นที่ $89)
สำหรับแบบที่ใช้ฟรีจะถูกจำกัดเวลาที่ 3 นาทีและไม่สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ ดังนั้นแบบนี้จึงใช้ทำ video ads ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าจะใช้สร้าง video ads จะต้องเริ่มที่แบบ Pro ครับ ซึ่งจะสร้างวีดิโอความยาวมากที่สุดที่ 10 นาที และคุณภาพวีดิโออยู่ในระดับ Full HD จัดว่าเกินพอสำหรับการสร้าง video ads ใดๆ ครับ
ส่วน Pro+ จะเหนือกว่า Pro ตรงที่จะสร้างวีดิโอได้ยาวมากขึ้น ดาวน์โหลดออกไปจากแพลตฟอร์มได้ไม่จำกัดครั้ง แต่ยังทำ reseller ไม่ได้อยู่ดี ถ้าอยากจะทำได้ต้องใช้ แพลนแบบ Agency ครับ (มีเฉพาะแบบรายปีเท่านั้น)
ในเรื่องทรัพยากรอย่าง footage นั้น Powtoon ไม่ได้บอกไว้ว่าให้ใช้อะไรจำนวนเท่าไร แต่ผมเชื่อว่าไม่น่าจะมากกว่า Promo เพราะไม่มีทรัพยากรของ Shutterstock และ Getty ให้ใช้ครับ
3. Magisto
Magisto เป็นธุรกิจ online video maker ของ Vimeo บริษัท video hosting platform ชื่อดัง และเป็นตัวเลือกราคาถูกสำหรับการทำ Video ads ครับ แต่น่าเสียดายที่ Magisto ไม่ให้คุณใช้ฟรีแบบไม่ต้องใส่ credit card ก่อนสมัคร ผมเลยไม่ได้ไปลองใช้ตัวแพลตฟอร์มครับ
จุดแข็งของ Magisto คือการใช้ AI ในการช่วยสร้าง video ads ได้ทำให้การสร้างสะดวกสบายมาก และอาจจะเป็น online video maker ที่ใช้งานง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ วิธีการใช้งานคือ
- Upload ทุกอย่างที่คุณต้องการใช้สร้าง Video Ads ลงในแพลตฟอร์ม
- เลือกแนวทางการ editing ที่คุณต้องการ รวมไปถึง footage และไฟล์เพลงที่คุณต้องการจากคลัง
- หลังจากนั้น AI จะจัดการสร้างวีดิโอให้กับคุณโดยอัตโนมัติ
- ปรับแต่งตามสมควร เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้น
ด้วยขั้นตอนเหล่านี้ทำให้การสร้าง video ads โดยใช้ Magisto ง่ายมาก และใช้เวลาน้อยสุดๆ เลยครับ
นอกเหนือจากนี้ Magisto มีฟีเจอร์ดีๆ อย่างเช่น
- สร้างวีดิโอความยาวสูงสุด 10 นาทีในรูปแบบ HD (720p) หรือ Full HD (1080p)
- มี Stock footage และรูปภาพกว่า 3 ล้านชิ้นจากคลังของ iStock
- ใช้งาน Custom Font และ logo ได้อย่างอิสระ
- เข้าถึงคลังไฟล์เพลงของ Magisto
- ได้ Vimeo Pro หรือ Business สำหรับการเก็บวีดิโอของคุณ
- การใช้งาน mobile app
- และอื่นๆ อีกมากมาย
สำหรับเรื่องราคานั้น Magisto ประกอบด้วย 3 แพลนด้วยกัน แต่แพลนแรกสุดหรือ Premium ไม่สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้จึงเหลือแค่ 2 แพลนเท่านั้น ได้แก่ Professional ($9.99 หรือประมาณ 300 บาทต่อเดือน) และ Business ($34.99 หรือประมาณ 1,050 บาทต่อเดือน)
ราคานี้เป็นราคาจ่ายรายปีนะครับ ถ้าจ่ายเดือนต่อเดือนจะเป็นสองเท่าของราคานี้ ($19.99 และ $69.99) ตามลำดับ
สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างสองแพลนจริงๆ แล้วไม่เยอะ นั่นคือแพลน Business จะได้สิ่งเหล่านี้
- Video Business – เก็บไฟล์วีดิโอใน cloud ความจุมากถึง 5 TB (แบบ Professional จะได้ 1 TB)
- Customized Font – ใส่ Font ของตนเองได้
- Email Marketing Tools – เครื่องมือสำหรับการทำ Email Marketing (ทาง Magisto ไม่ได้ระบุว่าเป็นอย่างไร)
- Video Analytics – เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลและวิเคราะห์วีดิโอ
- Export – สามารถ export ไปยัง Facebook Ads Manager หรือว่าแปะลงเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย
ข้อดีของ Magisto คือราคาค่อนข้างถูก มีทรัพยากรให้ใช้พอสมควร และใช้ AI ในการสร้าง video ads ทำให้มีความรวดเร็วและง่ายดายกว่าการสร้างเอง แต่ข้อเสียหลักๆ ของ online video maker ตัวนี้ก็คือคุณไม่สามารถ resell วีดิโอของคุณได้เลย ไม่ว่าจะเป็นแพลนใดๆ ครับ
รีวิว: Capterra 4.4/5.0, g2 3.9/5.0
4. Animoto
Animoto เป็นอีกหนึ่ง online video maker ที่คุณสามารถใช้ทำ video ads อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย คอนเซปต์ของการใช้งานจะเป็นแบบ Drag & Drop เช่นเดียวกับ Promo และ Powtoon ครับ
ขั้นตอนแรกคือการเลือก video template คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการทำอะไร อย่างเช่นจัดโปรโมชั่นในช่วงซัมเมอร์ หรือแนะนำสินค้าใหม่ในคลิปวีดิโอของคุณ อย่างไรก็ดีผมมองว่ามีให้เลือกน้อยไปหน่อยครับ
หลังจากที่คุณเลือกได้แล้ว คุณก็จะมาถึงหน้าที่คุณสามารถ customize ได้
ขั้นตอนต่อไปเหมือนกับ Promo ไม่มีผิดเพี้ยน นั่นคือคุณใส่สิ่งที่ต้องการจะใส่ลงไปในคลิปจากคลังของ Animoto หรือว่าคลังของคุณเองก็ได้ หลังจากนั้นก็ export เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ video ads ที่นำไปใช้ได้อย่างสบายๆ แล้วละครับ
สำหรับความยาวจำกัดนั้นอยู่ที่ 20 นาทีซึ่งเพียงพอสำหรับการทำ video ads หรือว่า content marketing ทุกรูปแบบเลยครับ
ราคาของ Animoto
Animoto เก็บค่าบริการเป็นรูปแบบสมาชิก โดยแบ่งเป็น 3 แพลนได้แก่
- Free
- Professional (เริ่มต้นที่ $33 หรือประมาณ 990 บาทต่อเดือน)
- Team (เริ่มต้นที่ $49 หรือประมาณ 1,470 บาทต่อเดือน)
ราคาด้านบนจะเป็นราคาจ่ายรายปี ถ้าเป็นรายเดือนต่อเดือนจะต้องคูณด้วย 2 เข้าไปครับ
สำหรับแพลนฟรี คุณจะใช้งานตัว online video maker สร้าง video ads ตั้งแต่ต้นจนจบและยังดาวน์โหลดออกมาได้ฟรีในความละเอียด 720p โดยมีข้อยกเว้นคือในวีดิโอจะมี watermark ของ Animoto ติดอยู่ที่มุมบนขวาของคลิป, ใส่ logo watermark ของคุณเองไม่ได้ และใช้ทรัพยากรส่วนใหญ่จากคลังไม่ได้
จากที่ตรวจสอบดู ผมคิดว่าคุณไม่น่าจะเอา video ads แบบฟรีมาใช้จริงในการโฆษณาได้ เพราะว่าเจ้า watermark ที่เขียนว่า “Video Made with Animoto” ใหญ่พอสมควร และบัง content ของคุณไปไม่น้อยครับ
ส่วนแพลน Professional นั้นคุณจะทำ video ads ในความละเอียด 1080p, ใช้ทรัพยากร footage และภาพถ่ายกว่า 1 ล้านชิ้นของ Getty Images รวมไปถึงเพลงอีก 3,000 เพลงได้ครับ ขณะที่แพลน Business จะได้ทุกอย่างและบวกเพิ่มด้วยการทำ resell ได้ และสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 3 คนครับ
รีวิว: Capterra 4.3/5.0, g2 4.4/5.0
5. InVideo
InVideo เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้าง video ads เพราะมีการใช้งานแบบ Drag & Drop ที่ทรงประสิทธิภาพเหมือนกับ online video maker ตัวอื่น แถมยังมีราคาที่น่าคบหาอีกต่างหาก
InVideo ให้ผู้ใช้งานออกแบบ video ads ได้ฟรีครับ เพราะฉะนั้นมาลองกันเลยดีกว่า
การเลือก video template สำหรับ video ads ของ InVideo จะต่างกับผู้ให้บริการอื่นอย่างชัดเจน เพราะจะมี template ที่ฟรีและไม่ฟรีไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ทุกอันครับ อย่างในรูปด้านล่าง บางอันจะต้องจ่ายเงินซื้อเพิ่ม
หลังจากที่เลือก template และโครงสร้างโฆษณาเสร็จแล้ว คุณจะถูกส่งมายังหน้านี้ครับ หน้านี้จะเป็นหน้าที่คุณเริ่มต้นการแก้ไขได้นั่นเอง
การแก้ไขต่างๆ จะไม่ต่างกับ Promo และ online video maker ตัวอื่นนัก แต่ก็มีสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ไม่น้อย นั่นคือคุณจะใส่ Stickers, Effects (อย่างเช่นดอกไม้ไฟ), Shapes และ Enhancers ต่างๆ ลงในคลิปของคุณเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าเพิ่มมากขึ้นได้ครับ
โดยรวมแล้วผมว่า User Interface ของ invideo ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว การใช้ทุกอย่างง่ายดายและสะดวกสบายครับ
ราคาของ InVideo
สำหรับเรื่องราคานั้น InVideo ประกอบด้วย 2 แพลนหลักด้วยกัน นั่นคือ
- Business ($10 หรือประมาณ 300 บาทต่อเดือน)
- Unlimited ($30 หรือประมาณ 900 บาทต่อเดือน)
ราคานี้เป็นราคาที่ต้องจ่ายเป็นรายปี แต่ถ้าเป็นแบบเดือนต่อเดือนจะต้องคูณ 2 ครับ
สิ่งที่คุณจะได้จากทั้งแพลนนี้ได้แก่
- Online video maker ที่สร้างวีดิโอระดับ Full HD (1080p) ในความยาวไม่เกิน 15 นาที
- Template ในการสร้างวีดิโอกว่า 3,000 ชิ้น
- รูปภาพและ footage แบบพรีเมียมของ Storyblocks และ Shutterstock ที่นำไปใช้ได้อย่างถูกลิขสิทธิ์กว่า 1 ล้านชิ้น, รูปภาพของแพลตฟอร์มที่ให้ใช้รูปฟรีอย่างเช่น Pixabay อีกกว่า 3 ล้านชิ้น
- จำนวนผู้ใช้งานไม่จำกัด
- Reseller Rights – ในทุกแพลน คุณสามารถขายวีดิโอที่สร้างขึ้นกับบุคคลที่ 3 ได้
โดยรวมแล้วจะเห็นว่าทั้งสองแพลนต่างกันไม่มากนัก สิ่งที่แตกต่างมีแค่ข้อจำกัดในการใช้งานทรัพยากรเท่านั้นครับ นั่นคือแบบ Business จะใช้รูปภาพและวีดิโอแบบพรีเมียมได้แค่ 300 ชิ้นต่อเดือนเท่านั้น ขณะที่แบบ Unlimited นั้นไม่จำกัด
นอกจากนี้การดาวน์โหลดคลิปต่อเดือนของแพลน Business จะทำได้แค่ 60 ครั้งแต่แบบ Unlimited จะทำได้ไม่จำกัด ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีข้อแตกต่างกันเลยครับ ดังนั้นถ้าคุณใช้งาน video ads ไม่เยอะในแต่ละเดือน แพลน Business ก็เพียงพอต่อความต้องการแล้วครับ
เลือก online video maker สำหรับ video ads ตัวไหนดี?
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าโดยรวมแล้ว Promo คุ้มค่าราคาที่สุด เหมาะกับการสร้าง video ads ทุกรูปแบบรวมไปถึง marketing video ในระยะยาว เพราะมีทรัพยากรที่พร้อมที่สุด เรียกได้ว่าคุณไม่ต้องไปหาทรัพยากรอื่นมาทำ video ads อีกแล้ว เพราะทุกอย่างมีพร้อมแล้วนั่นเอง
แต่เนื่องจาก Promo มีราคาสูง ผมมองว่า Magisto หรือ InVideo ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการประหยัดงบในส่วนนี้ เพราะทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสร้างวีดิโอออกมาได้ดี รวมไปถึงมีทรัพยากรพอสมควรในราคาย่อมเยาครับ
สำหรับใครที่อยากได้แพลตฟอร์มที่ทำ content ยาวๆ ได้ด้วย การใช้งานก็คงต้องเป็น Powtoon หรือ Animoto นั่นเอง เพราะคลิปของคุณจะยาวได้ถึง 20-30 นาทีเลยทีเดียว ซึ่งในส่วนนี้ Promo, Magisto และ InVideo ไม่สามารถให้ได้ครับ
ข้อควรทราบ:
จริงๆ หลังจากที่คุณสร้างวีดิโอโดยใช้เครื่องมือเหล่านี้แล้ว คุณแทบจะไม่มีโอกาสเจอกับปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ใดๆ เพราะทุกอย่างอยู่ใน Lifetime License หมดแล้ว แต่คุณต้องระวังเรื่องรูปภาพ เพลง และ footage ที่คุณ upload ขึ้นไปเอง ซึ่งในส่วนนี้จะไม่เกี่ยวกับทางผู้ให้บริการ และถ้าคุณ upload ไฟล์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ คลิปของคุณย่อมเจอปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ได้อย่างแน่นอนครับ
ด้วยเหตุนี้ผมจึงมองว่าคุณไม่จำเป็นต้องไปหารูปภาพหรือ footage จากบุคคลที่สาม แต่ใช้ที่อยู่ในคลังของ online video maker ก็เพียงพอแล้วครับ
สำหรับใครที่จะใช้ video ads โฆษณาใน Facebook หรือ Instagram ผมแนะนำให้คุณใช้ซอฟต์แวร์อย่าง Revealbot เพื่อ optimize การโฆษณาโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณได้รับ ROI ที่ดีขึ้นจากการโฆษณาครับ