การศึกษา5 คอร์สเรียน TOEFL iBT ออนไลน์ดีๆ ทำคะแนนให้ได้ 100+

5 คอร์สเรียน TOEFL iBT ออนไลน์ดีๆ ทำคะแนนให้ได้ 100+

ปัจจุบันการสอบ TOEFL iBT (Test of English as a Foreign Language: Internet-based test) ซึ่งเป็นการสอบภาษาอังกฤษมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับใครที่อยากไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือหลักสูตรอินเตอร์ต่างๆ ของมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย

ถ้าคุณจะไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วอยากเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของสหรัฐอเมริกาอย่างเช่น Harvard, Stanford หรือ MIT คุณต้องได้คะแนน TOEFL iBT มากกว่า 100 คะแนน หรือแม้กระทั่ง 110 คะแนนขึ้นไปเพื่อที่มหาวิทยาลัยเหล่านี้จะเริ่มต้นพิจารณาใบสมัครของคุณ

ทั่วทั้งประเทศไทยมีสถาบันที่มีคอร์สเรียน TOEFL iBT มากมาย แต่ผมสามารถพูดได้เต็มปากจากประสบการณ์ว่า บางแห่งนั้นเมื่อเรียนไปแล้วคะแนนไม่เพิ่มขึ้นเลยก็มี แม้ว่าคุณจะเสียเงินไปแล้ว 20,000-40,000 บาทก็ตาม นั่นเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่เกิดขึ้นจริงกับผม

TOEFL iBT เป็นข้อสอบที่ยา่กและต้องอาศัยการติวเข้มเพื่อทำคะแนนให้ได้มากกว่า 100 คะแนน
TOEFL iBT

ผมจึงเปลี่ยนมาเรียน TOEFL ทางออนไลน์ของผู้ให้บริการแห่งหนึ่งแทน ซึ่งปรากฏว่ามันเวิร์คมากๆ คะแนนของผมเพิ่มขึ้นมากถึง 12 คะแนนในช่วงเวลาเดือนเศษ ทำให้ผมได้คะแนน TOEFL iBT มากกว่า 100 คะแนน และเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกาได้อย่างที่หวังไว้ในที่สุดครับ

เราไปเริ่มต้นกันดีกว่าครับ คอร์สเรียน TOEFL iBT ออนไลน์ดีๆ และไม่แพงมีอะไรบ้าง

รายละเอียดการสอบ TOEFL iBT

TOEFL iBT เป็นการสอบที่จะวัดความสามารถในการอ่าน การฟัง การพูด และการเขียนภาษาอังกฤษ โดยแต่ละส่วนของ TOEFL iBT จะมีคะแนน 30 คะแนน ทำให้คะแนนรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 120 คะแนน

ในส่วนของการอ่านและการฟัง รูปแบบตัวข้อสอบจะเป็นแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) แต่การพูดและการเขียนนั้น คุณจะต้องพูดและเขียนเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีผู้ประเมินเป็นผู้เชี่ยวชาญของทาง ETS หรือผู้จัดสอบ TOEFL นั่นเองครับ

รูปแบบการสอบในปัจจุบันจะใช้ระบบออนไลน์ทั้งหมด ดังนั้นการเตรียมสอบ คุณจึงควรเลือกคอร์สเรียน TOEFL ที่ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาอังกฤษผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทความบนหน้าจอคอมพิวเจอร์ การฟังภาษาอังกฤษผ่าน Headphone ฯลฯ

1. PrepScholar

PrepScholar เป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการคอร์สเตรียมสอบ TOEFL iBT อันดับต้นๆ ของสหรัฐอเมริกา คุณจะได้รับการประเมินผลด้านทักษะภาษาอังกฤษของคุณอย่างรวดเร็ว การสอนของ PrepScholar จะดำเนินไปตามลำดับขั้นจากง่ายไปหายาก ทำให้คุณพัฒนาทักษะได้อย่างก้าวกระโดดครับ

สิ่งที่คุณจะได้จาก PrepScholar

  • การเรียนการสอนแบบ Interactive และ Video รวมแล้วมากถึง 150 ชั่วโมง และครูผู้สอนจัดว่าเป็นอันดับต้นๆ ของตลาด
  • มีการดีไซน์คอร์สให้เหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน (personalized)
  • มีแบบฝึกหัดจำนวนมากกว่า 1,000 ข้อให้ลองทำ
  • มีคอร์ส vocab โดยเฉพาะถึง 20 บท
  • มีการให้ feedback ต่อแบบฝึกหัด speaking และ writing ของคุณ (12 ครั้งสำหรับ speaking และ 4 ครั้งสำหรับ writing)
  • สอบถามครูผู้สอนทาง e-mail ได้อย่างไม่จำกัดเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษ หรือการทำข้อสอบ ฯลฯ
  • การันตีว่าคะแนนของคุณจะเพิ่มมากกว่า 15 คะแนน ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น คุณจะได้เงินคืน
  • ถ้าลองเรียนแล้วไม่ประทับใจ ผู้เรียนสามารถขอเงินคืนได้ทั้งหมดในเวลา 5 วัน

ข้อดีข้อเสียคอร์สเรียน TOEFL ของ PrepScholar

ข้อดี

  • Content ในคอร์สมากมายมหาศาล
  • Personalized learning ซึ่งช่วยให้คุณเรียนในความเร็วที่เหมาะสมกับระดับของคุณ
  • จัดเต็มเรื่องคำศัพท์ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าเจอศัพท์ยากจะอ่านไม่ออก
  • ถามครูผู้สอนได้ไม่จำกัด
  • มีการันตีเงินคืนถ้าคะแนนไม่เพิ่ม
  • เรียนฟรี 5 วันแบบไม่ต้องใส่เครดิตการ์ด (ดีมากเพราะจะได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบ)

ข้อเสีย

  • ข้อสอบเสมือนมีน้อยกว่าที่อื่นมาก
  • ไม่ใด้ใช้วิดีโอเป็นหลักเหมือนกับ Kaplan หรือ Magoosh และ interactive content อาจไม่ได้ตอบโจทย์ผู้เรียนบางคน
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $187 (ใช้ได้ 1 ปี) กับ $385 (ไม่มีเวลาจำกัด) ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ

2. BestMyTest

BestMyTest เป็นอีกผู้ให้บริการคอร์สเรียน TOEFL iBT คุณจะเริ่มต้นด้วยการลองทำข้อสอบเสมือนว่าคุณได้คะแนน TOEFL iBT เท่าไร หลังจากนั้นตัวโปรแกรมจะชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนของคุณ และพัฒนาทักษะแต่ละด้านเป็นลำดับต่อไป

BestMyTest - หนึ่งในคอร์สเรียน TOEFL ที่คุ้มค่าที่สุด
BestMyTest – หนึ่งในคอร์สเรียน TOEFL ที่คุ้มค่าที่สุด

รายละเอียดคอร์สของ BestMyTest

ในทุกคอร์สเรียน สิ่งที่ผู้เรียนจะได้รับคือ

  • บทเรียน TOEFL แบบ interactive กว่า 200 บทที่ถูกเรียงอย่างเป็นระบบ
  • ข้อสอบ TOEFL จำลองกว่า 20 ชุด
  • แบบฝึกหัดช่วยเตรียมสอบอีกกว่า 1,000 ข้อ
  • Virtual Tutor ติวเตอร์เสมือนที่จะช่วยดูแลการเตรียมสอบ TOEFL iBT ทั้ง 4 ทักษะ ทำให้คุณเรียนภาษาอังกฤษได้อย่างประสิทธิภาพ และกำจัดจุดอ่อนของคุณในทุกๆ ด้าน
  • การประเมินผลการพูดและการเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด (มีจำกัดครั้ง)
  • ถามผู้เชี่ยวชาญถึงข้อสงสัยในการสอบ หรือการใช้ภาษาอังกฤษได้ทุกรูปแบบ
  • การันตีคะแนนว่าจะเพิ่มอีกอย่างน้อย 7 คะแนน (มีจำกัดครั้ง)
  • การทำข้อสอบวัดระดับ (Diagnostic Test)

คอร์สเรียน TOEFL ของ BestmyTest จะมีแยกย่อยไปอีก 3 รูปแบบ

  • Custom – เข้าถึงได้ 1-6 เดือน ค่าเรียนอยู่ที่ $69-$129 หรือประมาณ 2,100-3,900 บาท
  • Premium – เข้าถึงได้ 6 เดือน ค่าเรียนอยู่ที่ $189 หรือประมาณ 5,700 บาท
  • Last Minute – เข้าถึงได้ 7 วัน ค่าเรียนคือ $39 หรือประมาณ 1,200 บาท

ทั้ง 3 แพลนเหมือนกันหมดทุกอย่างในเรื่องของฟีเจอร์ แต่พรีเมียมจะถามครูได้มากที่สุด ส่งการพูดและการเขียนให้ตรวจได้มากกว่าอีก 2 แบบ

โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าถ้าจะเรียน เอาแค่แบบ Custom ก็พอแล้วครับ แต่ถ้าคะแนนของคุณไม่ดีเท่าไรนัก เช่นทำข้อสอบจำลองออกมาแล้วได้ต่ำกว่า 60 คะแนน หรือไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษมานานมากๆ ในกรณีนี้ผมมองว่าแบบ Premium ก็น่าสนใจครับ

ส่วนแบบ Last Minute นั้นผมไม่แนะนำเท่าไร เพราะไม่มีการให้ครูตรวจการเขียนและการพูดภาษาอังกฤษของเราครับ จากประสบการณ์ของผมแล้ว สิ่งนี้เป็นกุญแจสำคัญในการทำคะแนนรวมให้ดีครับ ดังนั้นขาดไม่ได้จริงๆ

ข้อดีข้อเสียคอร์สเรียน TOEFL ของ BestMyTest

ข้อดี

  • ราคาน่าคบหาที่สุดในบรรดาผู้บริการทั้งหมด
  • แบบฝึกหัดและชุดข้อสอบ TOEFL เยอะมาก ถือว่ามากเป็นอันดับต้นๆ เหนือผู้ให้บริการอื่นๆ
  • มีครูผู้สอนมาให้ feedback ในส่วนของ Writing และ Speaking
  • มีระบบ Tracking System ที่คอยเตือนว่าทักษะใดของคุณยังไม่ดี
  • เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
  • มีการันตีว่จะได้คะแนนเพิ่ม
  • ทดลองเรียนได้

ข้อเสีย

  • การตรวจ Speaking และ Writing โดยคนจริงๆ มีจำกัดครั้ง
  • วิดีโอมีน้อย เพราะเน้น interactive learning เป็นหลัก

BestmyTest ให้คุณเรียนฟรีเป็นเวลา 7 วัน อย่าลืมไปลองเรียน TOEFL ฟรีกันดูครับ

3. Magoosh

Magoosh เป็นผู้ให้บริการคอร์สเตรียมสอบ TOEFL, GRE, GMAT ระดับต้นๆ ในวงการ สำหรับคอร์ส TOEFL iBT คุณจะได้เรียนทักษะเพื่อเพิ่มคะแนนของทั้ง 4 พาร์ทไม่ว่าจะเป็น Reading, Listening, Speaking หรือ Writing ทาง video กับครูผู้สอนผู้คร่ำหวอดในการสอน TOEFL iBT มาอย่างยาวนาน

Magoosh - อีกหนึ่งคอร์สเรียน TOEFL ออนไลน์ชั้นยอด
Magoosh – อีกหนึ่งคอร์สเรียน TOEFL ออนไลน์ชั้นยอด

สิ่งที่คุณจะได้จาก Magoosh

  • คอร์สเรียน TOEFL iBT แบบสมบูรณ์ โดยมีบทเรียนวีดิโอให้คุณเรียนมากกว่า 140 บท ที่สอนโดยเจ้าของภาษาผู้เชี่ยวชาญ
  • แบบฝึกหัดมากกว่า 420 ข้อ และมีวีดิโอเฉลยละเอียดแบบวิดีโอทุกข้อ ถ้าคุณมีปัญหากับข้อใดข้อหนึ่งสามารถติดต่อกับผู้สอนได้ผ่านทาง e-mail
  • ข้อสอบวัดผลสัมฤทธิ์ และมีโปรแกรมประเมินคะแนนของคุณที่แม่นยำ
  • ตารางการเรียน (Study Plan) ที่ชัดเจน
  • Mobile App ให้คุณสามารถ
  • การันตีว่าคะแนนของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4 คะแนน แต่ถ้าคุณไปสอบแล้ว คะแนนของคุณเพิ่มน้อยกว่า 4 คะแนน คุณจะได้เงินค่าคอร์สคืนทั้งหมดครับ
  • ถ้าลองเรียนแล้วไม่ประทับใจสามารถขอเงินคืนได้ทั้งหมดในเวลา 7 วัน

ราคาคอร์สเรียนของ Magoosh ในปัจจุบันเริ่มต้นที่ $109 สำหรับ 1 เดือน และ $129 สำหรับคอร์ส 6 เดือน สำหรับผู้สอบส่วนใหญ่นั้น ผมบอกได้เลยว่าเดือนเดียวไม่พอ ผมแนะนำให้เลือกแบบ 6 เดือนครับ

ราคาคอร์สเรียน TOEFL ออนไลน์ของ Magoosh

ข้อดีข้อเสียคอร์สของ Magoosh

ข้อดี

  • เป็นคอร์สเรียน TOEFL ออนไลน์ที่ให้เนื้อหาแบบวิดีโอมากที่สุดในตลาด
  • เฉลยละเอียดแบบวิดีโอมีประโยชน์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทักษะของคุณยังไม่ดีนัก เพราะคุณจะเข้าใจกลไกการคิดว่าทำไมถึงได้คำตอบข้อนี้
  • เตรียมสอบ TOEFL ได้ทุกที่ด้วย Mobile app
  • ถ้าสงสัยสามารถถามครูผู้สอนได้ทุกเวลา
  • ตัวเว็บใช้งานได้สะดวกสบาย
  • มีการันตีคะแนน

ข้อเสีย

  • ข้อสอบน้อยกว่าบางเจ้าที่ให้ข้อสอบมากกว่า 1,000 ข้อ
  • ไม่มีการให้ feedback ในส่วนของ Speaking

4. Kaplan

Kaplan เป็นหนึ่งในเจ้าตลาดเตรียมสอบต่างๆ ก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นคงไม่มีข้อสงสัยใดๆ ในเรื่องคุณภาพที่เต็มเปี่ยมของคอร์ส TOEFL iBT แบบออนไลน์ของบริษัทนี้

อีกคอร์สติว TOEFL ที่น่าสนใจ (ของ Kaplan)
Kaplan – อีกคอร์สเรียน TOEFL ที่น่าสนใจ

สิ่งที่คุณจะได้จาก Kaplan

  • ใช้การเรียนการสอนแบบ video โดยมีวีดิโอให้คุณดูมากกว่า 190 วีดิโอด้วยกัน ซึ่งจะรวมทุกอย่างในการสอบ TOEFL ไว้หมดแล้ว
  • แบบฝึกหัดให้ลองทำมากกว่า 400 ข้อ และข้อสอบเสมือนอีก 4 ชุด โดยครูผู้สอนจะให้คะแนน writing ของคุณ
  • ได้ Coursebook จาก Kaplan
  • การันตีว่าคุณจะได้คะแนนดีขึ้น

ข้อดีข้อเสียคอร์สติว TOEFL ของ Kaplan

ข้อดี

  • ครูผู้สอนเป็นมืออาชีพสูงมาก และมีประสบการณ์สอนสูงมาก
  • ได้ Coursebook ของ Kaplan ฟรี
  • เรียนได้ทุกที่ทุกแห่ง
  • แพลตฟอร์มมี User Interface ที่ดี เอื้อต่อการเรียนออนไลน์
  • ขอความช่วยเหลือจากครูผู้สอนประสบการณ์สูงได้ทาง e-mail ทุกเวลา เหมือนกับว่ามีติวเตอร์ส่วนตัว

ข้อเสีย

  • ราคาแพงมากถึง $349 และให้เวลาเรียนแค่ 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งถือว่าราคาแพงกว่าที่อื่นๆมาก
  • ไม่มีการตรวจแบบฝึกหัด Speaking โดยผู้เชี่ยวชาญ
  • แบบฝึกหัดของ Kaplan ค่อนข้างง่าย แต่อาจจะเป็นข้อดีสำหรับใครที่ยังได้คะแนนไม่ดีนัก และอยากได้ความมั่นใจ

5. edX

edX ไม่ใช่บริษัทที่ขายคอร์สติวสอบเหมือนกับตัวเลือกอื่นๆ แต่เป็น platform การเรียนออนไลน์ สำหรับคอร์ส TOEFL นี้ edX จัดทำร่วมกับ ETS ผู้จัดสอบ TOEFL โดยตรง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยว่าคอร์สจะต้องมีคุณภาพอย่างแน่นอน

คอร์สแนะนำการสอบ TOEFL ของ edX
คอร์สแนะนำการสอบ TOEFL ของ edX

รายละเอียดคอร์สติวสอบ TOEFL ของ edX

ต่างจากคอร์สเรียน TOEFL อื่นๆ ผู้เรียนจะได้เข้าใจในส่วนของรายละเอียดในการทำข้อสอบ TOEFL iBT มากกว่า ไม่ว่าจะเป็น

  • การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสอบ TOEFL
  • ข้อสอบ TOEFL มีการให้คะแนนอย่างไร
  • TOEFL iBT จะนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง เช่นการศึกษาต่อ การหางาน ฯลฯ
  • คำแนะนำต่างๆ ที่ผู้สอบควรจะทราบ
  • วิธีพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของคุณ

ข้อดีข้อเสียคอร์สติว TOEFL บน edX

ข้อดี

  • ฟรี! คอร์ส TOEFL ออนไลน์นี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
  • ให้ข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการทำข้อสอบ TOEFL
  • มี Discussion Board ให้คุณพูดคุยกับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน
  • มีข้อสอบเก่าของจริงให้ลองทำ

ข้อเสีย

  • เนื้อหาในคอร์สมีไม่มากนัก เพราะเป็นคอร์สฟรี

เรียน TOEFL ออนไลน์ที่ไหนดี?

เนื่องจากแต่ละคนชอบวิธีการเรียนที่แตกต่างกันออกไป การจะเลือกคอร์สไหนดีจึงขึ้นอยู่กับสไตล์การเรียนของคุณครับ

แต่ในความคิดเห็นของผมแล้ว ผมชอบการเรียนผ่านการทำโจทย์ ดังนั้นผมจึงชอบคอร์สเรียน TOEFL ออนไลน์ของ BestMyTest หรือ PrepScholar แต่ถ้าคุณชอบการเรียนจากวีดิโอ Magoosh ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ (เพราะ Kaplan ราคาสูง)

ถ้าคุณต้องการข้อสอบหรือแบบฝึกหัดมาฝึกทำเพิ่มเติม คุณสามารถหาได้ฟรีจาก

ส่งท้ายเรื่องการเตรียมสอบ TOEFL

สุดท้ายผมอยากจะฝากไว้ว่าการที่คุณจะได้คะแนน TOEFL ดีจะต้องใช้เวลาเสมอครับ มันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะเก่งขึ้นใน 1-2 วัน ไม่ว่าคุณจะเลือกคอร์สไหนก็ตาม คุณต้องให้เวลากับมันอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไปถึงจะเห็นผล ในส่วนนี้จะเหมือนกับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษโดยองค์รวมครับ

ในช่วงเวลานั้นผมขอให้คุณทำข้อสอบ TOEFL ทุกวันไม่ว่าจะเป็นทักษะใดก็ตาม ความสามารถทางภาษาอังกฤษของคุณจะพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับความมั่นใจครับ สุดท้ายแล้วคะแนนจะเพิ่มขึ้นออกมาอย่างแน่นอน

ขอให้ทุกคนโชคดีครับ

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!