การศึกษา4 คอร์สสอน Django ออนไลน์น่าเรียนสำหรับนักพัฒนาและผู้สนใจทุกระดับ

4 คอร์สสอน Django ออนไลน์น่าเรียนสำหรับนักพัฒนาและผู้สนใจทุกระดับ

Django เป็น web framework ระดับสูงของ Python ที่ช่วยในการสร้าง Web Application ที่ซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว สะดวกสบาย ไม่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ยังสามารถ scale ให้ใหญ่ขึ้นโดยไม่ยุ่งยากอีกด้วย

ดังนั้น Django จึงเป็น framework ในฝันสำหรับนักพัฒนาที่ชื่นชอบและให้ความสำคัญในเรื่องประสิทธิภาพของ Web Application เลยครับ จากผลการสำรวจของ Stackoverflow ในปี ค.ศ.2020 พบว่า Django เป็น framework ที่นักพัฒนาชื่นชอบเป็นลำดับที่ 7 และมีผู้ที่ต้องการจะเรียนเป็นลำดับที่ 4 เลยทีเดียวครับ

เหล่านักพัฒนา Django เองก็ถือว่าได้รับค่าตอบแทนสูงเช่นกันตามความต้องการ อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนต่อปีของนักพัฒนา Django อยู่ที่มากกว่า $100,000 ครับ ทำให้ Django เป็นตัวเลือกที่ควรค่าต่อการเรียนอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าคุณใช้ Python อย่างคล่องแคล่วอยู่แล้วครับ

Django

สำหรับผู้สนใจทุกวันนี้คุณไม่จำเป็นต้องไปเรียน Django ที่สถาบันใดๆ อีกต่อไป เพราะทุกอย่างสามารถเรียนได้อย่างสมบูรณ์บนโลกออนไลน์ที่คุณจะเรียนทบทวนกี่ครั้งกี่หนก็ได้ครับ ซึ่งในโพสนี้ผมจะมาแนะนำคอร์สสอน Django ออนไลน์ที่น่าสนใจนั่นเองครับ

เรามาดูกันดีกว่าครับมีคอร์สไหนน่าเรียนบ้าง

ข้อควรทราบ:

  • ราคาและเงื่อนไขของแต่ละคอร์สมีโอกาสที่จะเปลี่ยนไปได้ เพราะฉะนั้นคุณควรตรวจสอบอีกครั้งก่อนที่จะลงคอร์สใดๆ ครับ
  • ในการเรียนคุณจะต้องเรียน Python เบื้องต้นมาก่อน แต่ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องเป็นเทพเจ้าในการใช้งาน Python แต่อย่างใด สำหรับบางคอร์ส คุณอาจจะต้องมีพื้นฐาน HTML& CSS และ JavaScript บางส่วนด้วยครับ

Coursera

คอร์สที่ 1 อยู่ในแพลตฟอร์มของ Coursera

Coursera เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดในการเรียนออนไลน์ จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือแต่ละคอร์สจะถูกจัดทำขึ้นโดยบริษัทหรือมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งสิ้น ทำให้คุณไว้วางใจได้เลยว่าคอร์สจะมีคุณภาพเยี่ยม

นอกจากนี้การเรียนการสอนในแต่ละคอร์สก็จะไม่ต่างกับในมหาวิทยาลัยเท่าใดนัก เพราะสอนโดยคณาจารย์ท่านเดียวกัน และยังมีการประเมินผลที่ครบถ้วนเพื่อที่คุณจะได้มั่นใจในทักษะที่เรียนไป สุดท้ายถ้าคุณเรียนจบครบถ้วนสมบูรณ์ คุณยังจะได้ Certificate จากทางมหาวิทยาลัยอีกด้วย ซึ่งเหมาะมากๆ สำหรับใครที่ชอบเก็บสะสมประกาศนียบัตรเหล่านี้ครับ

ในการเรียนกับ Coursera ส่วนมากจะเป็นหลักสูตรที่มีคอร์สย่อยหลายคอร์ส โดยแต่ละคอร์สจะเกี่ยวข้องกันและจะช่วยให้คุณสร้างทักษะแบบบูรณาการ ในส่วนของค่าเรียนคุณจะต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนในการเรียนครับ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคอร์ส ดังนั้นคุณไม่สามารถดองคอร์สเอาไว้ได้ และการเรียนให้จบโดยเร็วเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ เพราะจะประหยัดค่าเรียนนั่นเอง

1. Django for Everybody Specialization

หลักสูตรสอน Django โดยเฉพาะที่จัดทำโดย University of Michigan ภายในคอร์สคุณจะได้เรียนวิธีการสร้างเว็บไซต์โดยใช้ Django ร่วมกับ HTML & CSS, JavaScript ฯลฯ

รายละเอียดของคอร์สย่อยในหลักสูตรมีดังต่อไปนี้ครับ

  1. Web Application Technologies and Django – คอร์สนี้จะสอนพื้นฐานของ Web Application ตั้งแต่ความรู้ว่า browser เชื่อมโยงอย่างไรกับ server คุณจะได้เรียน HTTP Requests, HTML, รวมไปถึงพื้นฐานของ Django โดยเฉพาะ MVC (Model-View-Controller) สำหรับ Web Application ครับ
  2. Building Web Applications in Django – คอร์สนี้จะสอนว่า Django เชื่อมต่ออย่างไรกับ database และทำความเข้าใจในส่วนของ Object-Relational Mapping (ORM) รวมไปถึงพื้นฐานของ SQL และการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับ Django
  3. Django Features และ Libraries – เจาะลึกในส่วนของการสร้าง Web Application ใน Django, สอนเนื้อหาเชิงลึกเกี่ยวกับ cookies, sessions และ authentication processes โดยในคอร์สคุณจะได้พัฒนา application อย่างง่ายที่จะทำหน้าที่ support ตัว classified ads website ครับ
  4. Using JavaScript, JQuery and JSON in Django – สำหรับคอร์สนี้จะสอน Object Oriented Pattern ใน JavaScript รวมไปถึง jQuery และ JSON และการใช้งานทั้งสามที่เกี่ยวข้องกับ Django ภายในคอร์ส คุณจะได้พัฒนา application เดิมที่คุณสร้างขึ้นในคอร์สที่ 3 โดยจะใส่ฟีเจอร์ต่างๆ เพิ่มเข้าไปครับ

โดยรวมแล้วหลักสูตรนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับการเรียน Django ทางออนไลน์ เพราะคุณจะได้สร้างเว็บไซต์ที่สมบูรณ์และใช้งานได้จริงจาก Django

ทั้งนี้ครูผู้สอนแจ้งว่าคุณไม่ต้องมีความรู้อะไรมาก่อนนอกจาก Python แต่ผมมองว่าถ้ามีความรู้พื้นฐานการพัฒนาเว็บ (HTML&CSS และ JavaScript) น่าจะทำให้การเรียนเข้าใจได้ง่ายขึ้นมากเลยครับ

สำหรับทั้งหลักสูตรจะใช้เวลาเรียนให้จบประมาณ 5 เดือน ถ้าคุณเรียน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ดีคุณจะเรียนให้เร็วกว่านั้นได้แน่นอนครับ ในส่วนของค่าเรียนก็จะอยู่ที่ $39 หรือประมาณ 1,170 บาทครับ

Udemy

คอร์สที่ 2-4 อยู่ในแพลตฟอร์มของ Udemy

Udemy เป็นแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน ด้วยจำนวนคอร์สออนไลน์ที่มีมหาศาลถึง 130,000 คอร์สเลยทีเดียว และกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นทุกวันด้วยครับ

สาเหตุอันดับหนึ่งที่ผมชอบ Udemy คือการลดราคาแทบทุกสัปดาห์ ทำให้แต่ละคอร์สเหลือไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น ผมจึงเข้าถึงคอร์สชั้นยอดที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญมากมาย โดยที่ผมไม่ต้องเสียเงินหลายพันหรือหลายหมื่นบาทครับ

ดังนั้นคุณจึงควรซื้อคอร์สใน Udemy ช่วงที่มีลดราคาเท่านั้น ผมแนะนำให้คุณสมัครแจ้งเตือนกับ Victory Tale ไว้เพื่อที่ผมจะได้แจ้งคุณทันทีถ้ามีลดราคา หรือในกรณีที่คุณเปิดลิงค์เข้าไปแล้วคอร์สอยู่ที่ราคาเต็ม ผมแนะนำให้เก็บคอร์สใน Wish List แล้วรอ 2-5 วันครับ

ไม่เพียงเท่านั้นใครที่ชอบความยืดหยุ่นในการเรียนจะชอบ Udemy มาก เพราะสาเหตุต่อไปนี้

  • ไม่มีจำกัดเวลาเรียน เพราะคอร์สไม่มีหมดอายุ ดังนั้นซื้อคอร์สไว้แล้วดองเอาไว้ได้
  • ถ้าครูผู้สอนอัพเดตเนื้อหาใหม่ คุณจะได้ฟรีทันที โดยไม่ต้องซื้อ DLC เหมือนกับเกมใน Steam (คิดซะว่าเหมือนกับ Free Update ครับ)
  • เรียนได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น PC, Smartphone, Tablet หรือแม้กระทั่ง Smart TV การดาวน์โหลดคอร์สมาเรียนแบบ offline ก็ทำได้อย่างง่ายๆ
  • มีตัวเลือกให้เลือกเยอะมาก คอร์สเฉพาะทางมากมาย

เราไปดูกันดีกว่าครับ คอร์สสอน Django ใน Udemy มีตัวไหนน่าเรียนบ้าง

2. Django 3 – Full Stack Websites with Python Web Development

คอร์สนี้จะสอนการใช้ Django 3 ในการสร้างเว็บไซต์ ตัวคอร์สจัดทำโดย Nick Walter นักพัฒนาที่มีประสบการณ์ในการสร้าง Web และ Mobile Apps อันหลากหลาย ซึ่งเขาพร้อมแล้วที่จะถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ให้กับคุณครับ

รูปแบบการเรียนจะเป็นแบบ project-based นั่นคือคุณจะได้สร้างเว็บไซต์ทั้งหมด 3 เว็บด้วยกัน และเรียนความรู้ต่างๆ ผ่านการลองทำจริง โดยสิ่งที่เขาจะสอนในคอร์สประกอบด้วย

  • Python Refresher – ทบทวนเนื้อหา Python (ความยาวเพียง 52 นาทีเท่านั้น ผมจึงแนะนำให้เรียนคอร์สสอน Python มาก่อนครับ)
  • สร้างเว็บไซต์ที่ 1 จาก Scratch โดยเว็บไซต์นี้จะสุ่ม password ต่างๆ ให้กับผู้ใช้ ภายในโปรเจคนี้คุณจะได้เรียนวิธีการ install Django, การสร้าง template, การใช้งาน URL Routing, จัดการ HTML form Data
  • แนะนำการใช้งาน Git
  • สร้างเว็บไซต์ที่ 2 ซึ่งจะเป็นเว็บไซต์ portfolio เพื่อแนะนำตัวตนของคุณบนโลกออนไลน์ คุณจะได้เรียนการใช้งาน models และ databases, การเข้าถึง admin panel, การจัดการ user level, การสร้างเว็บไซต์แบบ responsive ที่สวยงามโดยใช้ Bootstrap 4, การจัดการ static และ media files บนเว็บไซต์ ฯลฯ
  • การ deploy เว็บไซต์ของคุณ
  • สร้างเว็บไซต์ที่ 3 ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้าง แก้ไข และลบทิ้งเนื้อหาในเว็บได้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีการสร้างระบบ User Authentication, การสร้าง virtual environment, การสร้าง model relationships, การใช้งาน CRUD Application, การจัดการ Errors ฯลฯ

รวมแล้วคอร์สนี้มีเนื้อหาแบบวีดิโอมากถึง 8.5 ชั่วโมง ซึ่งจัดว่ากระชับ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเรียนอะไรยาวๆ มากนัก และจะช่วยให้คุณได้เรียนพื้นฐานในการสร้างเว็บไซต์โดยใช้ Django ได้อย่างดี และพร้อมทุกอย่างสำหรับการต่อยอดความรู้ในระดับที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ดีเนื้อหาระดับสูงของ Django จะไม่มีในคอร์สนี้ อย่างเช่นการใช้ Django Rest Framework นั่นเองครับ ดังนั้นถ้าคุณอาจจะต้องซื้อคอร์สที่ 4 เพิ่มเติมไปอีกคอร์สหนึ่งครับ

ในส่วนของคะแนนรีวิว คอร์สนี้ได้ไป 4.6/5.0 จากนักเรียนมากกว่า 8,000 คนครับ

3. Django Masterclass : Build Web Apps With Python & Django

คอร์สนี้เป็นคอร์สสอน Django ที่น่าจะละเอียดและครบถ้วนที่สุดใน Udemy แล้วครับ ตัวคอร์สจัดทำโดย Ashutosh Pawar นักพัฒนาที่ชำนาญการใช้ Java และ Python เป็นพิเศษ ในปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพที่ให้บริการด้าน software solutions กว่าลูกค้ามากกว่า 200 แห่งด้วยกันครับ

ภายในคอร์สจะเป็นการเจาะลึก Django แบบล้วนๆ โดยที่ไม่มีการทบทวน Python ให้คุณเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นคุณจะต้องเรียน Python ก่อนที่จะเรียนคอร์สนี้ครับ

สิ่งที่คุณจะได้เรียนในคอร์สนี้ได้แก่

  • Install + Set Up a project
  • Views และ URL Patterns ใน Django และโครงสร้างการใช้งาน
  • Database & Models ใน Django + วิธีการทำงานของฐานข้อมูลเหล่านี้ และการใช้งาน Interactive Shell
  • Templates, Static Files & Site Design
  • Forms
  • การทำ User Authentication ใน Django
  • Django Signals และ Class Based views
  • การสร้าง REST APIs โดยใช้ Python และ Django (ใช้งาน Django Rest Framework)
  • การสร้าง Virtual Environment, การใส่ Pagination และ Search Functionality ลงไปใน Web apps
  • Project: คุณจะได้ลองสร้างเว็บไซต์ e-commerce โดยใช้ Python และ Django
  • การสร้าง Web App อย่าง CV Generator และ Site Scraper
  • ลองสร้าง Web App ที่ track แคลอรีของการกินอาหาร โดยใช้ Django และ Chart.js
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับใครที่อยากทำ web apps ที่ซับซ้อนด้วย Django หรือว่าชอบเนื้อหาแบบละเอียดๆ คอร์สนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณเลยครับ เพราะให้เนื้อหามากถึง 17.5 ชั่วโมง และครอบคลุมทุกส่วนสำคัญของ Django รวมไปถึงการสร้าง REST APIs โดยใช้ Django Rest Framework ด้วย (ซึ่งคอร์สที่ 2 ไม่มีครับ)

ในส่วนของคะแนนรีวิว คอร์สนี้ได้ไป 4.4/5.0 จากนักเรียนเกือบ 2,400 คนครับ

4. Build a Backend REST API with Python & Django

คอร์สนี้จะสอนการสร้าง REST API โดยใช้ Python และ Django สำหรับคอร์สนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกัน (คุณจะต้องซื้อทั้งสองคอร์สแยกกัน) ตัวคอร์สจัดทำโดย Mark Winterbottom ผู้มีประสบการณ์เป็น Full Stack Software Engineer มานานนับสิบปีครับ

4.1) Beginner Course

เนื้อหาหลักในคอร์สแรกจะประกอบด้วยรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • Set up โปรแกรมที่ต้องใช้งาน และ Git
  • แนะนำพื้นฐานของ API View, การใส่ POST, PUT, PATCH,DELETE Method ลงใน API View
  • แนะนำพื้นฐานของ Viewsets
  • การสร้าง Profiles API, Login API และ Profile feed API
  • Deploy ไปยัง AWS
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากเรียนเนื้อหาทั้งหมด (ยาว 5 ชั่วโมง) คุณจะสร้าง REST API อย่างสมบูรณ์ขึ้นมาซึ่งสามารถจัดการและสร้าง User Profiles, Login, User Authentication ฯลฯ ได้ครับ

สำหรับคอร์สนี้คุณจะได้ใช้ Django 2.2 (รอผู้สอนอัพเดตสู่ Django 3) และ Django Rest Framework รวมไปถึง Vagrant, VirtualBox และ Atom ในการสร้าง REST API ของคุณครับ

มีผู้เรียนคอร์สนี้ไปแล้วถึงเกือบ 15,000 คน และได้คะแนนรีวิวถึง 4.6/5.0 เลยทีเดียว

4.2) Advanced Course

เนื้อหาคอร์สนี้จะซับซ้อนขึ้นกว่า Beginner Course โดยจะประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้

  • แนะนำ Test Driven Development (TDD)
  • จัดการ Django Custom User Model
  • สร้าง User Management Endpoints (User API, Token API)
  • สร้าง tags, ingredients, recipe endpoint
  • Upload Image Endpoint และ Filtering ใน Django
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับการเรียนเนื้อหาเหล่านี้จะเรียนผ่านการสร้าง Recipe API ซึ่งจะช่วยให้คุณอัพโหลดและเก็บ recipes จากรูปภาพและเว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึงการใช้ Docker และ Docker-Compose ในการ set up โปรเจคของคุณ และการใช้ Travis-CI ในการ run unit tests และอื่นๆ อีกมากมายครับ โดยรวมแล้วเนื้อหาที่คุณจะได้เรียนมีกว่า 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดีคุณไม่สามารถ Run Docker ได้ใน Windows 10 Home Edition ดังนั้นคุณอาจจะต้องใช้ Linux ในการเรียนแทนครับ (Run ผ่าน Virtualbox) หรือไม่ก็อัพเกรดเป็น Pro Edition

ตัวคอร์สได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยได้คะแนนไปถึง 4.6/5.0 จากนักเรียนทั้งหมด 14,700 คนครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!