เทคโนโลยีซอฟต์แวร์5 โปรแกรมออนไลน์ช่วยออกแบบโบรชัวร์ ให้สวยอย่างง่ายๆ (2023)

5 โปรแกรมออนไลน์ช่วยออกแบบโบรชัวร์ ให้สวยอย่างง่ายๆ (2023)

โบรชัวร์ (Brochure) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการทำการตลาดเพื่อสร้างยอดขาย เพราะเป็นสิ่งที่ให้ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ให้แก่ลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม และถ้าคุณออกแบบโบรชัวร์ได้ดี โบรชัวร์ยังช่วยให้ลูกค้ามี first impression ที่ดีต่อแบรนด์ได้อีกด้วย

จริงอยู่ว่าหนึ่งในทางเลือกที่ดีคือการจ้าง freelance หรือร้านออกแบบมาจัดการในส่วนตรงนี้ให้ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะสวยถูกใจตรงกับความต้องการ

ดังนั้นการใช้โปรแกรมออนไลน์ที่ใช้ง่ายมาออกแบบโบรชัวร์ให้สวยด้วยตัวคุณเองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ในการใช้งานคุณไม่ต้องดาวน์โหลดและ install แต่อย่างใด ทุกอย่างสามารถทำได้ผ่าน Web Browser นั่นเองครับ

Brochure By Antonio Bonanno, Flickr, CC By SA 2.0

เราไปดูกันดีกว่าครับ ถ้าจะออกแบบโบรชัวร์จะใช้โปรแกรมไหนดี

โปรแกรมออนไลน์ช่วยออกแบบ "โบรชัวร์" ที่น่าสนใจ hide

1. Canva

Canva คือโปรแกรม graphic design ที่ผมชอบที่สุด เพราะนอกจาก user interface จะเรียบง่ายสบายตาแล้ว การออกแบบทุกอย่างยังทำได้อย่างง่ายดายและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Logo, infographic, นามบัตร, โปสเตอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย

วิธีการออกแบบโบรชัวร์ด้วยตนเองโดยใช้ Canva ถือว่าง่ายดายมาก นั่นคือประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้ครับ

เริ่มแรก เข้าเว็บไซต์ Canva แล้วสมัครหรือ login ทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ครับเข้าไปออกแบบโบรชัวร์ได้เลย

เมื่อเข้าไปหน้า Dashboard ได้แล้ว คุณก็พิมพ์คำว่า Brochure ลงไปในช่อง search (จริงๆ มีโบรชัวร์แบบอื่นให้เลือกด้วย เช่นโบรชัวร์อาหาร โบรชัวร์ท่องเที่ยว โบรชัวร์สินค้า ฯลฯ คุณจะเลือกแบบไหนก็ได้ครับ เพราะในขั้นตอน edit แก้ทุกอย่างได้หมด)

ออกแบบโบรชัวร์โดยใช้ Canva

ยกตัวอย่างเช่นด้านล่างผมเลือก template เป็นโบรชัวร์ท่องเที่ยวเกาะโบราไกย์ (Boracay) ในฟิลิปปินส์ เพราะว่าถ้าอยากจะต้องโบรชัวร์ท่องเที่ยวภูเก็ตนั่นเอง

ในตัว editor ของ Canva จะแสดงทั้งสองหน้าอย่างอัตโนมัติตามธรรมชาติของโบชัวร์ครับ

ต่อมาก็คือขั้นตอนการ edit ครับ คุณขยายตัวโบชัวร์และเริ่ม edit ทีละหน้า ถ้าไม่พอใจ template ก็ใช้ช่อง search template ทางด้านซ้ายในการเลือก template ใหม่ที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย

อย่างด้านล่างผมเปลี่ยนเกาะโบราไกย์เป็นภูเก็ตไปแล้ว ด้วยการลบ text เดิมออกแล้วพิมพ์ของใหม่เข้าไป

หลังจากนั้นคุณก็ออกแบบโบชัวร์ได้ตามชอบเลยครับ ตำแหน่งไหนคิดว่าไม่ต้องการก็ลบทิ้งได้เลย หรือว่าอยากใส่อะไรเพิ่มก็เลือกจากช่อง elements ทางด้านซ้ายมือครับ ส่วนในเรื่องรูปนั้น ถ้าคุณมีไฟล์ภาพของคุณเองก็สามารถดาวน์โหลดได้เช่นกัน ทุกอย่างทำได้โดยใช้วิธี Drag & Drop หรือว่าลากมาวางครับ

อย่างไรก็ดีอย่าลืมด้วยว่าคุณจะต้องออกแบบและเปลี่ยนข้อมูลโบรชัวร์ในหน้าที่สองด้วย เพราะโบชัวร์มีสองหน้าครับ (ถ้าคุณไม่ต้องการหน้าที่สอง คุณจะต้องลบหน้านี้ทิ้งไปครับ)

หลังจากแก้ไขและออกแบบโบรชัวร์ทุกอย่างเสร็จหมดแล้วก็ถึงขั้นตอนของการนำโบชัวร์ออกไปใช้งานครับ และขั้นตอนนี้เองจะเป็นขั้นตอนที่คุณจะต้องเสียเงิน

ตัวเลือกที่คุณจะนำออกไปมีสองแบบใหญ่ๆ ได้แก่

Print Trifolds – ให้ Canva จัดการพิมพ์โบรชัวร์ของคุณออกมาอย่างเสร็จสรรพ คุณสามารถเลือกรูปแบบกระดาษได้ก่อนที่จะพิมพ์ โดยราคาเริ่มต้นสำหรับโบรชัวร์ 50 แผ่นจะอยู่ที่แผ่นละ 20 บาท แต่ราคาต่อแผ่นจะลดลงอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณสร้างในจำนวนที่มากขึ้น อย่างถ้าคุณสั่ง 500 แผ่นราคาจะอยู่ที่แผ่นละ 10.5 บาทเท่านั้นเองครับ

นอกจากนี้ Canva ยังมีบริการส่งโบรชัวร์ฟรีถึงบ้านด้วยจะใช้เวลา 3-5 วันทำการไม่นับเสาร์-อาทิตย์ (Canva แจ้งว่าประเทศไทยก็สามารถได้ของในเวลาเท่านี้เช่นกัน แต่โดยส่วนตัวแล้วผมยังไม่เคยลองครับ)

Download – สำหรับใครที่อยากนำโบชัวร์ไปพิมพ์เองตามโรงพิมพ์ คุณสามารถดาวน์โหลดโบชัวร์ที่ออกแบบเสร็จแล้วเป็นไฟล์ JPG, PNG หรือ PDF Print ได้ฟรีในกรณีที่คุณไม่ต้องใช้รูปภาพแบบพรีเมียม แต่ถ้าคุณใช้รูปภาพแบบแบบพรีเมียมของ Canva ด้วย คุณจะโดนคิดราคา $1 หรือประมาณ 30 บาทต่อรูป นอกจากนี้คุณยังไม่สามารถแก้ไขขนาดหรือคุณภาพของไฟล์ได้ครับ

อย่างไรก็ดีทั้งค่ารูปภาพและข้อจำกัดต่างๆ จะหายไป ถ้าคุณสมัครสมาชิกแบบ Canva Pro เราไปดูกันกว่าครับว่า Canva Pro คืออะไร?

Canva Pro

ถ้าคุณสมัคร Canva Pro คุณจะได้ในสิ่งต่อไปนี้

  • Template กว่า 610,000 แบบให้คุณนำไปใช้ทำงานกราฟิกต่างๆ ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นออกแบบโบรชัวร์, โลโก้, ใบปลิว, โปสเตอร์ หรือแม้กระทั่ง Instagram Story
  • Customize ทุกอย่างได้ตามความชอบใจ โดยที่ไม่มีข้อจำกัดเหมือนกับแบบฟรีอีกต่อไป
  • คลังทรัพยากรกราฟิกมากกว่า 60,000,000 ชิ้นไม่ว่าจะเป็นรูปภาพแบบพรีเมียม, วีดิโอ หรือกราฟิกต่างๆ ดังนั้นคุณไม่ต้องจ่ายค่ารูปภาพอีกต่อไป
  • อัพโหลด font และ logo ของคุณขึ้นมาออกแบบสิ่งต่างๆ ได้
  • Cloud Storage ไว้เก็บชิ้นงานของคุณมากถึง 100 GB
  • resize งานกราฟิกของคุณได้ในคลิกเดียว
  • และอื่นๆ อีกมากมาย

ค่าสมาชิก Canva Pro จะเริ่มต้นที่ 229 บาทต่อเดือนสำหรับจ่ายแบบเดือนชนเดือน แต่ถ้าจ่ายเป็นปีจะอยู่ที่ 1,850 บาทหรือว่าแค่เดือนละ 155 บาทเท่านั้นเองครับ ถูกและคุ้มค่าสุดๆเลยทีเดียว

ด้วยศักยภาพที่สามารถออกแบบได้สารพัดสิ่ง ผมจึงมองว่าถ้าคุณต้องออกแบบบ่อยๆ เช่นต้องทำการตลาดที่ต้องใช้กราฟิกอยู่เรื่อยๆ การลงทุนกับ Canva Pro จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณไม่ต้องพะวงเรื่องกราฟิกอีกต่อไปเลยครับ

ทั้งนี้คุณสามารถลองใช้ Canva Pro ได้ฟรี 30 วัน (ถ้าไม่สมัครต่ออย่าลืม cancel ด้วยนะครับ) และใช้แบบฟรีได้ไม่จำกัด ถ้าสนใจสมัครได้ด้วยการกดปุ่มด้านล่างครับ

การใช้งาน Canva สามารถทำได้ทั้งแบบ Web และ app แต่ว่า Web จะใช้งานได้สมบูรณ์กว่าครับ

2. Visme

Visme เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในการออกแบบโบรชัวร์ โดยการใช้งาน Visme จะไม่ต่างอะไรกับ Canva มากนัก นั่นคือใช้ระบบ Drag & Drop อย่างที่ผมอธิบายไปแล้วกับ Canva ครับ

ในส่วนของ User Interface นั้นก็ใช้ง่ายไม่แพ้กัน และดูไม่อึดอัด คุณสามารถแก้ไข template ของโบรชัวร์ที่คุณเลือกมาแล้วได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการใส่ Header & Text, สถิติ, รูปภาพ และกราฟิกอื่นๆ คุณก็แค่ลากและนำมาวางครับ ในการออกแบบจะทำได้ฟรีทุกประการครับ

ออกแบบโบรชัวร์โดยใช้ Visme

สำหรับ Visme นั้นมีตัวเลือกให้ดาวน์โหลดโบรชัวร์ที่ออกแบบเสร็จแล้วถึง 5 แบบด้วยกัน นั่นคือไฟล์แบบ JPG, PNG, PDF, PPTX และ HTML5 อย่างไรก็ดีถ้าคุณใช้งานแบบฟรี คุณจะดาวน์โหลดได้แค่แบบ JPG เท่านั้น และไม่ใช่แบบ JPG คุณภาพสูงด้วยครับ

ถ้าคุณต้องการจะดาวน์โหลดแบบอื่นได้ด้วย คุณจะต้องสมัครสมาชิก Premium ของ Visme ซึ่งประกอบด้วยแพลนต่อไปนี้

  • Standard – เริ่มต้นที่ $14 หรือประมาณ 420 บาทต่อเดือน
  • Complete – เริ่มต้นที่ $25 หรือประมาณ 750 บาทต่อเดือน

ทั้งสองแพลนจะได้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่ใน Visme แต่แบบ Complete จะเหนือกว่าตรงที่คุณสามารถสร้าง Slide Library ได้, ดาวน์โหลดเป็น HTML5 ได้ (ส่วนนี้ Canva ทำไม่ได้) และมี Storage ที่มากกว่าครับ (10 GB vs 250 MB)

3. Adobe Spark

Adobe Spark เป็นโปรแกรมทำกราฟิกออนไลน์ของ Adobe บริษัทที่ผลิตซอฟต์แวร์กราฟิกดีไซน์คุณภาพสูงอย่าง Photoshop นั่นเอง ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลในเรื่องของคุณภาพของโปรแกรมเลยครับ เพราะว่าจะยอดเยี่ยมกระเทียมดองอย่างแน่นอน

รูปแบบการออกแบบโบรชัวร์ไม่ต่างอะไรกับ Canva และ Visme ครับ นั่นคือแบบ Drag & Drop อย่างด้านล่างผมเลือก template เป็นโบรชัวร์ไปเที่ยวกรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศสเปน หลังจากนั้นก็แก้ไขข้อมูลและใส่รูปตามลำดับ

Adobe Spark

อย่างไรก็ดีสิ่งที่ผมชอบมากๆ ในตัวโปรแกรมของ Adobe Spark คือรูปที่มีให้เลือกใช้งานคุณภาพสูงมาก ไม่ต่างกับที่ซื้อกับเว็บซื้อรูปภาพอย่าง Shutterstock เลยครับ

ในการดาวน์โหลด คุณสามารถดาวน์โหลดออกมาเป็นไฟล์ PDF, PNG และ JPG ได้ฟรีแค่ 3 รูปแบบนี้เท่านั้นครับ ซึ่งว่าตัวเลือกจำกัดพอสมควรถ้าเทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ นอกจากนี้คุณจะมี watermark ติดอยู่ที่มุมขวาของโบรชัวร์ครับ แน่นอนว่าดูไม่เป็นมืออาชีพเท่าไรในการนำไปใช้จริง

ถ้าต้องการลบลายน้ำออก คุณจะต้องสมัครพรีเมียมครับ ซึ่งแบบพรีเมียมคุณจะได้ template เพิ่ม, ใส่ font และโลโก้ของตัวเองได้ โดยราคาจะอยู่ที่ 356 บาทต่อเดือน แต่สองเดือนแรกจะใช้ฟรีครับ

4. Venngage

แม้ว่า Venngage จะเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการสร้าง infographic เป็นหลัก แต่ก็มีศักยภาพในการออกแบบโบรชัวร์ที่เรียบง่ายและสะดวกสบายด้วยเช่นกัน วิธีการใช้งานก็จะเหมือนกับโปรแกรมอื่นๆ นั่นคือเป็นรูปแบบ Drag & Drop ครับ

ทั้งนี้ template ที่มีให้ใช้ฟรีของ Venngage ค่อนข้างจำกัดถ้าเทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ ส่วนมากจะเป็นพรีเมียมเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่แบบทั่วไปที่พอใช้ได้ก็มีอยู่เช่นเดียวกันครับ อย่างด้านล่างผมเลือกเป็นโบรชัวร์สำหรับ Agency โฆษณาครับ

หลังจากนั้นคุณสามารถ edit ทุกอย่างได้ตามต้องการ โดย element ที่ให้ใส่มีมากมายเลยทีเดียว โดยเฉพาะ Charts ที่มีให้คุณใส่ลงไปนับสิบๆ แบบ คุณสามารถใส่ chart ได้อย่างง่ายดายด้วยการใส่ไฟล์ xlsx หรือว่า csv ครับ ส่วนตัวแล้วผมชอบ chart ของ Venngage มาก เพราะคิดว่ามันดูสวยและมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าของเจ้าอื่น

User Interface ของ Venngage ก็ถือว่าโอเคครับ ใช้ง่ายสบายตา ไม่รู้สึกว่ารกหรืออึดอัดแต่อย่างใด เรียกได้ว่าคุณสามารถใช้ออกแบบโบรชัวร์สินค้า หรือโบรชัวร์ธุรกิจที่ดูมืออาชีพได้อย่างดีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดีคุณไม่สามารถดาวน์โหลดโบรชัวร์ที่คุณออกแบบเสร็จแล้วด้วยวิธีการใดๆ ได้เลยถ้าคุณไม่จ่ายเงิน ทั้งนี้ Venngage ให้คุณแชร์บน Social Media ได้ฟรีเท่านั้น เพราะเหตุนี้สายฟรีจึงต้องโบกมืออำลาไปโดยปริยาย

สำหรับใครที่อยากจะจ่ายเงิน Venngage มีให้คุณเลือกสองแพลนได้แก่

  • Premium – เริ่มต้นที่ $16 หรือ 480 บาทต่อเดือน
  • Business – เริ่มต้นที่ $39 หรือ 1,170 บาทต่อเดือน

แพลน Premium จะใช้ Premium Template ได้ และ Export ไฟล์ในรูปแบบ PNG และ PDF (Venngage ไม่มี JPG) แต่แพลน Business จะใช้ template ได้มากขึ้นไปอีก และ element ที่มีให้ใช้ก็จะดีกว่าด้วยอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้คุณยัง export ไฟล์ในรูปแบบของ Hi Res PNG และ Interactive PDF ได้

อย่างไรก็ดีผมมองว่าราคาของ Venngage แพงถ้าเพียงกับ Canva หรือ Adobe Spark ครับ แต่ในเรื่อง element ต่างๆ ก็ต้องยอมรับว่ายอดเยี่ยมครับ

5. LucidPress

LucidPress เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการออกแบบโบรชัวร์ และอาจจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ด้วยซ้ำไป ถ้าคุณต้องการออกแบบโบรชัวร์ที่มี detail ต่างๆ อย่างละเอียดอย่างเช่นโบรชัวร์แบบสองหน้า (Bifold) และรูปแบบอื่นๆ

การเลือก template ของ LucidPress จะแตกต่างจากเจ้าอื่นอยู่เล็กน้อย นั่นคือภายใน template เดียวกัน คุณอาจจะทำเป็นโปสเตอร์ก็ได้ หรือว่าใบปลิวก็ได้ นอกเหนือไปจากโบชัวร์ครับ

ด้านล่างคือหน้าตาของ LucidPress และ template ขายอสังหาริมทรัพย์ที่ผมเลือกมาครับ

LucidPress

หลังจากนั้นคุณจะปรับแก้อย่างไรก็ได้ แถมทำได้อย่างละเอียดมาก นอกจากจะลาก element ต่างๆ มาวางแล้ว คุณยังสามารถ customize ตัว Margins, Header & Footers ทุกอย่างด้วยครับ

Format ที่ดาวน์โหลดได้ฟรีคือ PDF, PNG, PNG (with transparent background) และ JPG แต่ถ้าคุณใช้แบบพรีเมียม ทุกแบบคุณสามารถปรับ Resolution, เปิดหรือปิด Crop/Bleed Marks ได้และอื่นๆ อีกมากมายครับ ในส่วนนี้ก็ต้องยอมรับว่าเหนือกว่าเครื่องมือตัวอื่นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดีถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสกับการดีไซน์มากนัก คุณอาจจะงงได้เหมือนกันครับ

ราคาแบบพรีเมียมของ LucidPress ประกอบด้วย 3 แพลนได้แก่

  • Pro ($10 หรือประมาณ 300 บาทต่อเดือน)
  • Team ($36 หรือประมาณ 1,080 บาทต่อเดือน)

แบบ Pro จะใช้ Premium Template ในการสร้างโบรชัวร์และงานกราฟิกอื่นๆ ได้อย่างไม่จำกัด และสามารถดาวน์โหลดฟ้อนต์ของตัวเองได้ และได้ฟีเจอร์พรีเมียมอื่นๆ ทั้งหมด แต่ Team จะใช้งานได้มากกว่า 1 คนครับ

ใช้โปรแกรมออกแบบโบรชัวร์ไหนดี?

ในเรื่องการใช้งานสำหรับมือใหม่ หรือคนที่ไม่ได้มีทักษะทางด้านกราฟิกดีไซน์มากนัก ผมมองว่า Canva เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการออกแบบโบรชัวร์ ส่วนตัวเลือกรองลงมาคือ Visme และ Adobe Spark ครับ

ส่วนใครที่จะออกแบบโบรชัวร์แบบที่มี chart มากๆ ผมมองว่า Venngage ดีที่สุด แต่ถ้าอยาก customize ทุกอย่างแบบละเอียดมากๆ ก็จะต้องเป็น LucidPress ครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!