การศึกษา"เรียนออนไลน์" ดีอย่างไร? ทำไมถึงเป็นการศึกษาแห่งอนาคต

“เรียนออนไลน์” ดีอย่างไร? ทำไมถึงเป็นการศึกษาแห่งอนาคต

ในวงการการศึกษาทุกวันนี้ เราไม่อาจปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่มาแรงที่สุดคือ “การเรียนออนไลน์” หรือ E-Learning

การเรียนออนไลน์ คือการที่คุณเรียนอะไรก็ได้ผ่านคอมพิวเตอร์หรือ smartphone ของคุณ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในยุค 4G/5G จะนำคอร์สเรียนระดับโลกมาให้คุณเรียนที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งที่ชายหาด

E-Learning

สถิติของการเรียนออนไลน์

ในประเทศตะวันตกและจีน ตลาดการเรียนออนไลน์ใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว Forbes ได้คาดการณ์ไว้ว่าตลาด e-learning จะมีมูลค่าตลาดถึง 325 พันล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ.2025 ซึ่งจะเป็นการก้าวกระโดด 100% ภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี

จากการศึกษาของ Statista พบว่านักศึกษาอเมริกันมากถึง 81% เห็นว่าการเรียนออนไลน์ช่วยให้พวกเขาเพิ่มเกรดให้ดีขึ้น นอกจากนี้ปัจจุบันนักเรียนทั่วโลกมากถึง 49% เคยเรียนออนไลน์ใน 12 เดือนที่ผ่านมา

บริษัทอเมริกันทั้งหลายก็เริ่มพัฒนาทักษะของบุคลากรโดยการเรียนออนไลน์มากขึ้น เม็ดเงินที่ลงทุนในการเรียนออนไลน์ เพิ่มขึ้นถึง 900% ระหว่างปี ค.ศ.2001-2017

นอกจากนี้ผลสัมฤทธิ์ยังยอดเยี่ยมด้วย เพราะจากการสำรวจของ American Society for Training and Development พบว่าการเรียนออนไลน์ช่วยทำให้พนักงานแต่ละคนสร้างยอดขายให้บริษัทได้มากขึ้น 218% เช่นเดียวกับอัตรากำไร (profit margin) ที่ดีขึ้น 24%

ทำไมการเรียนออนไลน์ถึงดี มีประโยชน์ และเป็นการศึกษาแห่งอนาคต? เรามาดูกันดีกว่าครับ

1. มีวิชาให้เรียนจำนวนมาก

จุดแข็งสำคัญอย่างหนึ่งของการเรียนออนไลน์คือ ภายใน platform มีวิชาให้คุณเรียนมากมายมหาศาล

คุณสามารถเลือกได้ว่าคุณจะเรียนอะไรไม่ว่าจะเป็น เรียนภาษาที่สาม เรียนเขียนโปรแกรม เรียนสร้างความมั่นใจ เรียนถ่ายรูป เรียนทำอาหาร เรียนการลงทุนในหุ้น และอีกมากมายแล้วแต่ความพอใจของคุณ

อย่างตัวผมเอง ผมเคยเรียนเขียนโปรแกรม เรียน SEO เรียนภาษารัสเซีย เรียนวิชาการเงิน (Global Financial Crisis) และนี่กำลังวางแผนว่าจะเรียน cybersecurity เพิ่มเติม

คอร์ส Machine Learning ที่ผมลงเรียนใน Udemy

ในอดีตถ้าคุณไม่ได้ลงเรียนวิชาเหล่านี้ในมหาวิทยาลัย มันยากมากที่คุณจะหาใครมาสอนเรื่องพวกนี้ได้ แต่เมื่อมีการเรียนออนไลน์ ผมไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องไปมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะได้เรียนวิชาเหล่านี้อีกต่อไปแล้ว

นอกจากนี้ผมยังต้องเจอกับปัญหา มหาวิทยาลัยนี้ไม่มีสอนวิชานี้ ต้องไปเรียนอีกที่อะไรแบบนี้ด้วยครับ เพราะทุกอย่างอยู่ในเว็บไซต์หมดแล้ว

2. คอร์สเรียนระดับโลก

ในการเรียนออนไลน์ คุณสามารถเข้าถึงคอร์สเรียนระดับโลกที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างเช่น Harvard, Stanford, MIT หรือบริษัทระดับโลกอย่าง Google, Microsoft, Amazon ได้อย่างง่ายดาย

อย่างคอร์ส Global Financial Crisis ของ Yale ที่ผมเคยลงที่ Coursera ผู้สอนคือ Timothy Geithner อดีต Secretary of The Treasury ในยุคประธานาธิบดีโอบามา!

นั่นหมายความว่าอะไร?

ครูที่สอนคุณผ่านทางออนไลน์จะเป็นผู้ที่เก่งกาจในสาขาด้านนั้นอย่างแท้จริง ทำให้คุณได้เรียนกับคนเก่งๆ คุณจะได้มีโอกาสเก่งตามเขาไปด้วย

นอกจากนี้ตัวคอร์สมีการตรวจสอบคุณภาพการสอนอยู่ตลอด คุณจะไม่ต้องประสบปัญหากับการสอนที่ไร้คุณภาพ อย่างเช่นครูพูดไม่รู้เรื่อง ครูเอาแต่บ่น อีกต่อไป

ที่ดีไปกว่านั้นคือ คุณสามารถได้ปริญญาจากการเรียนออนไลน์ได้อีกด้วย!

หลายๆ platform อย่างเช่น Coursera ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกหลายแห่ง ในการมอบปริญญากับนักเรียนออนไลน์ที่สำเร็จการศึกษาและผ่านการทดสอบ (เหมือนกับที่เรียนในมหาวิทยาลัย) ปริญญาแบบนี้จึงเทียบเท่ากับปริญญาปกติทุกประการ

นั่นทำให้การเรียนออนไลน์ยิ่งน่าดึงดูดเข้าไปอีก

3. เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา

จุดแข็งข้อนี้เป็นจุดแข็งที่หลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว นั่นคือคุณสามารถเรียนได้ทุกเวลา

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ร้านกาแฟ บนเตียงนอนที่บ้าน ในห้องน้ำ หรือแม้กระทั่งริมชายหาด คุณก็สามารถเรียนออนไลน์ได้ทั้งสิ้น อย่างตัวผมเอง ชอบฟังคลิปการสอนไปด้วยระหว่างที่วิ่งหรือเดินบน treadmill ครับ

4. จบปัญหาจดไม่ทัน

ในการเรียนทั่วไป คุณต้องนั่งฟัง lecture จากอาจารย์หรือครูผู้สอน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผมเชื่อว่านักเรียนนักศึกษาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับครูเท่าไร เพราะหลายคนใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับ “การจด” เนื้อหาสำคัญๆ ที่ครูพูดลงไป ไม่ว่าจะจดลงไปในสมุด smartphone หรือ tablet ก็ตาม

แต่ในการเรียนออนไลน์นี้ คุณไม่จำเป็นต้องจดอีกต่อไป การจดจะกลายเป็นอดีตไปชั่วกาลนาน

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

  1. ในการเรียนออนไลน์จะมีสไลด์ที่รวมเนื้อหามาให้พร้อมอยู่แล้ว คุณสามารถเอาไปอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
  2. คุณสามารถย้อน หยุด และข้ามได้ตามใจคุณ ถ้าฟังไม่ทัน คุณก็ย้อนกลับไปฟังใหม่ได้อย่างสบายๆ

ข้อ 2 เป็นสิ่งที่การเรียนออนไลน์เหนือกว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยอย่างชัดเจน มันคงเป็นไปไม่ได้ที่นักเรียนทุกคนจะขอให้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยย้อนกลับมาพูดใหม่ในสิ่งที่ตนเองไม่เข้าใจ แต่การเรียนออนไลน์สามารถทำได้อย่างง่ายๆ ครับ

5. มีการบ้านและการสอบวัดผล

เว็บไซต์การเรียนออนไลน์มีหลายรูปแบบ แต่ถ้าเป็นเว็บที่เรียนแบบจริงจังอย่างเช่น Coursera หรือ edX คุณได้รับมอบการบ้าน และถูกสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้วย โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการปริญญาจากการเรียนออนไลน์

หรือพูดง่ายๆ คุณจะถูกทดสอบว่า คุณเรียนไปแล้วเข้าใจเนื้อหาเพียงใด ไม่ต่างอะไรกับในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยทั่วไปเลยครับ

การบ้านและข้อสอบจะถูกตรวจโดยอาจารย์ผู้สอนของคุณ ถ้าคุณทำคะแนนได้ดี คุณจะได้ certificate หรือผ่านไปเรียนวิชาที่สูงขึ้นได้ แต่ถ้าคุณทำไม่ดี หรือ ตก คุณอาจจะต้อง “ซ่อม” วิชานั้นๆ เพื่อที่จะได้เรียนต่อไปครับ

6. สามารถติดต่อกับผู้สอนได้

หลายคนที่ผ่านการเรียนมหาวิทยาลัยมาน่าจะเคยชินกับการติดต่อกับครูผู้สอนเพื่อสอบถามคำถามที่ตนเองไม่เข้าใจ แต่คุณทราบหรือไม่ ในการเรียนออนไลน์ คุณสามารถทำได้เช่นกัน

แต่ละเว็บจะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป อย่างที่ udemy วิธีจะใช้เป็นแบบนี้ครับ

คุณจะตั้งคำถามใน Q&A ได้หลังจากที่คุณซื้อคอร์สแล้ว ภายในไม่นาน ครูผู้สอนจะมาไล่ตอบตามลำดับ นอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาได้ด้วยว่าคนที่เรียนก่อนหน้าคุณเคยถามไปแล้วหรือยัง อย่างผมเองก็เคยแก้ความสงสัยของตัวเองจากคำถามเก่าๆ ที่มีผู้ถามไปแล้วเหมือนกันครับ

7. เลือกครูผู้สอนได้

ถ้าเรียนในมหาวิทยาลัย คุณน่าจะเคยประสบปัญหาไม่ชอบอาจารย์ ไม่ชอบวิธีสอนของอาจารย์ และอื่นๆ มากมายที่เกี่ยวกับตัวครูผู้สอน ส่วนมากคุณไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าครูที่สอนมีอยู่คนเดียว ทำให้คุณจำต้องเรียนไปจนจบอย่างไม่มีทางเลือก และอาจจะได้เกรดและความรู้สึกที่ไม่ดีกับวิชานั้นๆ ไปเป็นของแถม

แต่ในการเรียนออนไลน์แล้วตรงกันข้ามเลยครับ เพราะว่าคุณสามารถเลือกได้ว่าจะเรียนกับใคร!

ทั้งนี้ในแต่ละวิชาจะมีคนสอนเยอะมากครับ อย่างเช่น Udemy หรือ Coursera มีมากมายเลยทีเดียว อย่างเช่นของ Harvard ก็มี ของ MIT ก็มีเป็นต้น ทำให้คุณสามารถเลือกได้ตามใจชอบว่าจะเรียนกับใคร

วิธีเลือกก็ไม่ยากเลย เนื่องจากคุณสามารถทดลองเรียนได้ฟรีได้นานนับชั่วโมงก่อนที่จะจ่ายเงินลงเรียน ดังนั้นคุณก็ลองเรียนไปเลยครับ คุณชอบการสอนของใครก็แค่จ่ายเงินเรียนเท่านั้นแหละ

นอกจากนี้อีกอย่างที่จะบอกคุณเรื่องคุณภาพของครูผู้สอนและคอร์สได้คือ “รีวิว” ครับ แต่ละคอร์สออนไลน์จะมีรีวิวที่นักเรียนที่ลงเรียนแล้วให้ไว้ คุณสามารถอ่านรีวิวได้ว่าคอร์สนี้เป็นอย่างไร ตามรูปด้านล่าง

รีวิวพวกนี้มีส่วนช่วยผมเยอะมาก ในการเลือกคอร์สเรียนออนไลน์ที่ดีที่สุดครับ

8. บางคอร์สสนุกมากเหมือนการเล่นเกม

การเรียนออนไลน์มีหลายแบบมาก อย่างที่ผมนำเสนอไปส่วนใหญ่ด้านบนจะเป็นแบบ lecture ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเท่าไรนัก เพราะเหมือนกับการเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมากเกินไป

แต่บางคอร์สนั้นจะต่างออกไปเลยครับ อย่างเช่น Datacamp หรือ Codecademy ที่สอนความรู้เรื่อง Data Science หรือ Programming ผมรู้สึกว่ามันเหมือนกับการเล่นเกมมากกว่า เวลาเรียนแล้วจะรู้สึกว่าเราได้ทำเควสและเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยเหมือนกับว่าเราเล่นเกมไปอย่างนั้นเลยครับ

เพราะฉะนั้นผมจะรู้สึกว่าเพลินกว่าและเรียนได้นานขึ้นด้วยครับ

9. ค่าใช้จ่ายถูกกว่า

อีกจุดแข็งของการเรียนออนไลน์คือ ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการเรียนแบบปกติมาก

ผมขออธิบายง่ายๆ ก่อนว่า ในการเรียนออนไลน์นั้น มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ถ้าเป็นแบบฟรี คุณจะเข้าถึงคอร์สได้แค่บางส่วนเท่านั้น แต่บางเว็บใจดีให้คุณเข้าถึงได้ทั้งหมดเลยก็มีเหมือนกัน แต่คุณจะไม่สามารถเข้าถึงการบ้าน การสอบ และได้รับใบประกาศนียบัตรได้

สำหรับการเรียนแบบจริงจัง วิธีการจ่ายเงินคอร์สเรียนออนไลน์จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ ได้แก่

  • แบบซื้อขาด เช่น Udemy เป็นต้น คุณจะซื้อคอร์สแบบขาดไปเลย เช่นคุณจ่าย $50 เพื่อซื้อคอร์สภาษาจีน คุณจะได้คอร์สนั้นไปเลยตลอดชีวิตของคุณ คุณจะเรียนเมื่อไรก็ได้ ซื้อตอนนี้เรียนห้าปีข้างหน้าก็ได้ครับ วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่ต้องทำงานประจำและมีเวลาชีวิตที่ไม่แน่นอน
  • แบบสมัครสมาชิก เช่น Coursera เป็นต้น คุณจะจ่ายเงินเป็นรายเดือนเพื่อเข้าถึงคอร์สเรียนออนไลน์แบบเต็มๆ ถ้าคุณยกเลิกสมาชิก คุณจะไม่สามารถเข้าถึงการบ้าน การสอบวัดผล และการติดต่อกับครูผู้สอนได้อีก แต่เนื้อหาและวิดิโอการสอนทั้งหมดยังเข้าถึงได้เหมือนเดิมครับ (เพราะส่วนใหญ่เนื้อหาและวีดิโอการสอนทั้งหมดจะฟรีอยู่แล้ว) แบบสมัครสมาชิกจะเหมาะสำหรับคนที่เรียนเร็ว และจริงจัง เพราะถ้าคุณเรียนจบได้เร็วแล้ว ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าแบบซื้อขาดครับ

จากที่ผมพบมา ค่าใช้จ่ายในการเรียนออนไลน์จะถูกกว่าเรียนตามมหาวิทยาลัยมาก บางคอร์สที่คุณภาพดีๆ ราคาไม่ถึงพันบาทเลยครับ โดยเฉพาะถ้าคุณซื้อตอนที่มีลดราคา

ใช่ครับ บางเว็บมีลดราคาจริงๆในบางช่วง ลดนี่ไม่ใช่ลดน้อยๆ นะครับ ลดถล่มทลาย 75% ผมก็เคยเห็นมาแล้ว เหมือนกับซื้อเกม Steam ช่วง Winter Sale แบบนั้นเลยครับ

ค่าใช้จ่ายในการเรียนเลยถูกมาก นอกจากนี้ถ้าคุณเรียนออนไลน์ คุณยังไม่ต้องเสียค่าเดินทางเข้ามาเรียนตามสถานศึกษาต่างๆ อีกด้วย ทำให้ประหยัดไปอีกเด้งหนึ่งเลยครับ

จากผลการสำรวจพบว่า บริษัท IBM ประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนให้กับพนักงานไปถึง 200 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพราะการเรียนออนไลน์ทำให้บริษัทไม่จำเป็นต้องจ่ายครูสอนแพงๆ และเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากที่เกี่ยวกับที่พักและการเดินทางให้พนักงานไปเรียนอีกต่อไป

ข้อเสียของการเรียนออนไลน์

สำหรับผมแล้ว ผมมองว่าข้อเสียของการเรียนออนไลน์ในปัจจุบันมีอยู่ข้อเดียว คือ คุณได้สังคมและเพื่อนใหม่ๆ ได้ยาก

เนื่องจากการเรียนออนไลน์จะเป็นการเรียนด้วยตนเอง ทำให้โอกาสที่คุณจะได้เพื่อนใหม่แทบจะเป็นศูนย์ ซึ่งต่างกับการเรียนในมหาวิทยาลัยที่คุณจะได้ connection และเพื่อนใหม่ๆ เข้ามา

อย่างไรก็ดี จากที่ผมเห็นมา ผมพบว่าหลายๆ platform กำลังพัฒนาเรื่องนี้อยู่ อย่างเช่น Skillshare ที่คุณสามารถพูดคุยหรือติดต่อกับนักเรียนที่กำลังเรียนคอร์สเดียวกันกับคุณได้ครับ ผมเชื่อว่าเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปมากขึ้น ปัญหานี้น่าจะหมดไปในท้ายที่สุดครับ

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!