ประวัติศาสตร์ยุทธการแห่งอาจินคอร์ท ชัยชนะครั้งใหญ่ของอังกฤษในสงครามร้อยปี

ยุทธการแห่งอาจินคอร์ท ชัยชนะครั้งใหญ่ของอังกฤษในสงครามร้อยปี

ยุทธการแห่งอาจินคอร์ท (Battle of Agincourt) เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของอังกฤษในสงครามร้อยปี หรืออาจจะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของอังกฤษตลอดหน้าประวัติศาสตร์ด้วยซ้ำไป

ในการต่อสู้ครั้งนี้ นักธนูชาวอังกฤษหรือที่เรียกว่า Longbowman และพลเดินเท้าไม่กี่พันคน สามารถเอาชนะกองทัพฝรั่งเศสที่มีจำนวนมากกว่ามากได้อย่างเด็ดขาดในสมรภูมิครั้งนี้

นักรบอังกฤษใช้วิธีใดกันแน่?

เฮนรี่ที่ 5 ในยุทธการแห่งอาจินคอร์ท

ปูมหลัง

อังกฤษทำสงครามกับฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 14 ทั้งสองฝ่ายผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ แต่เมื่อกาฬโรคระบาดครั้งใหญ่ ทำให้ทั้งสองฝ่ายยุติการต่อสู้ลงชั่วคราว จนกระทั่งในต้นศตวรรษที่ 15 อังกฤษกลับมารุกรานฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้การนำของเฮนรี่ที่ 5 (Henry V) กษัตริย์พระองค์ใหม่ของอังกฤษ

เฮนรี่เป็นผู้กล้าหาญคนหนึ่ง เขาจึงมักจะนำทหารของเขาเข้าสู้รบกับกองทัพศัตรูอยู่เสมอ ในครั้งนี้ก็เช่นกันที่เฮนรี่เป็นแม่ทัพควบคุมกองทัพอังกฤษด้วยตนเอง

ก่อนที่สมรภูมิจะเปิดฉากขึ้นนั้น กองทัพฝรั่งเศสได้สกัดกองกำลังของเฮนรี่ไม่ให้ไปถึงคาเล (Calais) ได้ ทำให้กองทัพอังกฤษเริ่มขาดเสบียงอาหาร และเริ่มเหนื่อยอ่อนตามลำดับ แต่กองทัพฝรั่งเศสยังไม่เข้าปะทะเพราะรอกองทัพสนับสนุนจากที่ต่างๆ ให้มาถึงพร้อมกัน แล้วถึงจะเข้าตีกองกำลังของอังกฤษไปในคราวเดียว

กองทัพอังกฤษที่เหนื่อยล้าจึงตั้งทัพอยู่ที่ Azincourt ใกล้กับคาเลเพื่อรอรับการโจมตีของฝรั่งเศส ในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ.1415 ฝ่ายอังกฤษมีกำลังทหารไม่เกิน 9,000 คน กล่าวคือเป็นทหารราบไม่เกินสองพันคน และพลธนูอีก 7,000 คน พลธนูเหล่านี้ล้วนแต่เป็นพลธนูที่ใช้คันธนูยาว (Longbowman) ที่ยิงได้ไกลและแรง พลธนูเหล่านี้มีส่วนสำคัญยิ่งในชัยชนะของอังกฤษที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ที่ Crecy

ขณะเดียวกันกองทัพฝรั่งเศสก็มาถึงสมรภูมิ กองทัพฝรั่งเศสประกอบด้วยทหารราบและอัศวินจำนวนมาก รวมไปถึงพลหน้าไม้หลายพันคนด้วย จำนวนกองทัพฝรั่งเศสเป็นที่ถกเถียงกันว่ามีเท่าไร นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่ามี 12,000 คนไปถึง 50,000 คน ผมจึงขอใช้ค่าเฉลี่ยของช่วงที่มีการคาดเดานั่นคือประมาณ 30,000-35,000 คน ซึ่งเท่ากับ 3-4 เท่าตัวของกองทัพอังกฤษ

ก่อนการปะทะ

เฮนรี่ได้ปลุกใจให้ทหารแต่ละนายเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ และเริ่มการเตรียมพร้อมที่จะปะทะกันในเช้าวันนั้น

การจัดกองทัพของเฮนรี่กระทำอย่างรัดกุม กองทหารอังกฤษทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสามกอง ตัวเฮนรี่และกองทหารเดินเท้าตลอดจนอัศวินตั้งอยู่บริเวณแคบๆ ตรงกลางระหว่างป่าสองแห่งชื่อ Azincourt และ Tramecourt อีกสองกองคือเหล่าพลธนูที่แบ่งออกเป็นของข้างซ้ายขวา ทั้งสองกองตั้งเยี้องลงมาด้านหลังของกองทหารราบ

พวกพลธนูชาวอังกฤษต่างช่วยกันนำขวากและไม้ปลายแหลมขนาดใหญ่มาวางเอาไว้เพื่อสร้างสิ่งกีดขวางไม่ให้ทหารเดินเท้าและอัศวินของฝรั่งเศสเข้าประชิดตัวได้ง่ายๆ

สำหรับกองทัพฝรั่งเศสแล้ว ด้วยความที่มีจำนวนมากกว่าหลายเท่า ทำให้แม่ทัพชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอัลเบรด (Charles I of Albret) ค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะ ตั้งแต่ทหารและแม่ทัพต่างกระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะเข้าบดขยี้กองทัพอังกฤษ อนึ่งพวกฝรั่งเศสค่อนข้างดูแคลนพลธนูชาวอังกฤษไม่น้อยว่าไม่ค่อยทรงอานุภาพ แม้หลายสิบปีก่อน พลธนูอังกฤษเคยสร้างบทเรียนอันเจ็บปวดให้กับฝรั่งเศสมาแล้วก็ตาม

การโจมตีเริ่มต้น

ฝ่ายฝรั่งเศสกลับเลือกที่จะไม่รีบร้อนโจมตี พวกเขารอกำลังสนับสนุนอยู่ตลอดช่วงเช้า ทำให้กองทัพอังกฤษที่เสบียงไม่ค่อยพออยู่แล้วเริ่มเหนื่อยอ่อนเข้าไปอีก จนเฮนรี่เกือบจะให้ทหารถอนกำลังอยู่แล้ว

แต่สุดท้ายการโจมตีก็เริ่มต้นขึ้นด้วยการเข้าตีของกองทหารม้า เดิมทีกองทัพฝรั่งเศสจะให้พวกพลธนูและพลหน้าไม้นำหน้าก่อน แต่กลับเปลี่ยนใจโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้กองทหารม้าเป็นฝ่ายเข้าตีแนวของอังกฤษก่อน ส่วนพวกทหารยิงไกลทั้งหลายไปอยู่ด้านหลังทหารเดินเท้า

ช่วงนั้นกองทหารม้าฝรั่งเศสเองยังไม่พร้อมที่จะโจมตี เราไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้สั่ง แต่ทหารม้าฝรั่งเศสไม่ได้เข้าโจมตีเต็มกำลังอย่างที่ควรจะเป็น

ผลที่ออกมาคือ ทหารม้าฝรั่งเศสถูกพลธนูอังกฤษสังหารล้มตายจำนวนมาก ทั้งนี้สิ่งที่ช่วยกองทัพอังกฤษอย่างมากคือพื้นสมรภูมิ

ช่วงเวลานั้นพื้นที่สมรภูมิเพิ่งจะมีการไถไปหมาดๆ แถมยังมีฝนตกหนักด้วย ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นดินโคลน ฝ่ายอังกฤษจึงได้เปรียบมาก เพราะการเคลื่อนตัวของทหารม้าฝรั่งเศสทำได้ช้าลง เพราะโคลนที่เหนอะหนะทำให้แม้แต่ม้าเคลื่อนที่ได้อย่างเชื่องช้า ทหารม้าฝรั่งเศสที่ไม่มีความเร็วจึงเป็นเหยื่ออันโอชะของพลธนูชาวอังกฤษที่หยิบลูกธนูขึ้นสายและยิงออกไปอย่างรวดเร็ว

ขวากและไม้ปลายแหลมยังสร้างปัญหามากให้กับทหารม้าฝรั่งเศสด้วย เพราะมันทำได้ม้าฝรั่งเศสบาดเจ็บและแตกตื่นเวลาที่เข้าชาร์จ พวกฝรั่งเศสจึงไม่อาจเข้าถึงตัวพลธนูอังกฤษด้วย

เมื่อเห็นการโจมตีด้วยกองทหารม้าล้มเหลว กองทัพฝรั่งเศสทั้งหมดจึงยาตราทัพเข้าโจมตี

การตั้งทัพที่ Agincourt

กองกำลังหลักเข้าโจมตี

การเคลื่อนที่เข้าหาที่มั่นของอังกฤษของทหารฝรั่งเศสทำได้ยากลำบากมาก เพราะหลุมโคลนที่เหนียวเหนอะหนะได้ทำให้ทหารฝรั่งเศสที่สวมเกราะหนาเคลื่อนตัวได้อย่างเชื่องช้า บางคนถึงกับตกลงไปในหลุมและไม่สามารถขึ้นมาได้ เพราะความหนักของเสื้อเกราะดึงพวกเขาติดลงไปกับพื้นโคลน

พลธนูของอังกฤษเร่งระดมยิงทหารฝรั่งเศสอย่างบ้าคลั่ง ทหารฝรั่งเศสจำนวนมากล้มลง บางคนโดนลูกธนูยิงจนเสียชีวิตเพราะสวมใส่เกราะบาง แต่ทหารที่ใส่เกราะหนาแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น สุดท้ายทหารเดินเท้าฝรั่งเศสจำนวนหนึ่ง เดินเข้ามาถึงแนวทหารราบของเฮนรี่ที่ตั้งรับอยู่ที่บริเวณช่องแคบๆ ระหว่างป่าสองแห่ง

กองทหารเดินเท้าของทั้งสองฝ่ายจึงปะทะกัน พลธนูอังกฤษยังคงระดมยิงไม่หยุดหย่อน พวกเขายิงเข้าใส่ทหารฝรั่งเศสในระยะประชิด ทำให้ทหารเหล่านี้ล้มลงสิ้นชีวิต ศพทหารที่ตายกลับเป็นสิ่งกีดขวางอย่างดี ทำให้ทหารฝรั่งเศสกองถัดๆ มายากที่เข้ามาใกล้เหล่าพลธนูได้

การโจมตีของกองทัพฝรั่งเศสยังไม่หยุด การทะลักของทหารนับหมื่นเข้าในบริเวณแคบๆ ที่เต็มไปด้วยโคลนเช่นนั้น เชื่อได้ว่าทำให้ทหารฝรั่งเศสจำนวนหนึ่งโดนพวกเดียวกันเองเหยียบจนตาย ความวุ่นวายจึงเกิดไปทั่วกองทัพฝรั่งเศส ทหารฝรั่งเศสเองอยู่ในสภาพสับสน การจะยกดาบขึ้นฟาดฟันก็เกรงว่าจะฟันพลาดไปโดนพวกเดียวกันเพราะความแออัด

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ตัวเฮนรี่เองก็อยู่ในสมรภูมิและจับดาบต่อสู้กับทหารฝรั่งเศสด้วย เฮนรี่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโดนขวานฟาดเข้าใส่ที่ศีรษะ แต่มันเฉียดศีรษะเขาไป และทำให้ส่วนมงกุฎบนหมวกเหล็กของเขาหักไปเล็กน้อย

การปะทะของอังกฤษและฝรั่งเศสที่ Agincourt

พลธนูอังกฤษระดมยิงธนูจนหมดลง พวกเขาจึงโยนคันธนูทิ้งและฉวยดาบออกมาฟาดฟันทหารฝรั่งเศส การต่อสู้ดำเนินไปสามชั่วโมง สถานการณ์ของฝรั่งเศสเลวร้ายลงไปอีกเมื่อชาร์ลส์ที่ 1 แห่งอัลเบรด แม่ทัพฝรั่งเศสถูกสังหารสิ้นชีวิตกลางสมรภูมิพร้อมกับแม่ทัพระดับสูงอีกหลายคน

ท้ายที่สุดแล้วกองทัพฝรั่งเศสจึงแตกกระเจิง ทหารฝรั่งเศสเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก บางส่วนก็หลบหนีออกไปและถูกจับเป็นเชลย โดยรวมแล้วทหารฝรั่งเศสเสียชีวิตไป 5,000-10,000 คน ส่วนฝ่ายอังกฤษเสียไปไม่เกิน 1,000 คน ฝ่ายอังกฤษจึงได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่อาจินคอร์ทแห่งนี้

ผลที่ตามมา

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ภายใต้การนำของเฮนรี่ที่ 5 ทำให้เฮนรี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ และมีส่วนช่วยทำให้อังกฤษเป็นฝ่ายได้เปรียบในสงคราม

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมากองทัพฝรั่งเศสตีโต้อย่างหนักภายใต้การนำของโจนออฟอาร์ก สุดท้ายแล้วอังกฤษจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามในที่สุด

ยุทธการแห่ง Agincourt สร้างแรงบันดาลใจอย่างมากต่อวงการวรรณกรรมอังกฤษ มีการแต่งตำนาน นิยาย และบทละคร รวมไปถึงภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมาก

Sources:

  • Seward, The Hundred Years War: The English in France 1337-1453
  • Barker, Agincourt: Henry V and the Battle That Made England

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!