“Marseille” หรือ “มาร์แซย์” เป็นเมืองท่าริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ตัวเมืองรุ่งเรืองไปด้วยวัฒนธรรมอันเก่าแก่นับตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ และยังมีธรรมชาติที่สวยงามอีกด้วย ทำให้ Marseille เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงของประเทศฝรั่งเศสไปโดยปริยาย
ในโพสนี้ ผมจะเล่าว่าเมืองแห่งนี้มีความเป็นมาอย่างไร แล้วจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมกับรูปภาพต่างๆ ทีหลังครับ
ปูมหลังของ Marseille
Marseille เป็นเมืองเก่าแก่ที่สามารถย้อนไปได้ถึงช่วงปี 600 BC (ก่อนคริสตกาล 600 ปี) ชาวกรีกได้ตั้งอาณานิคมขึ้นที่นี่ชื่อว่า “Massalia” ซึ่งได้กลายเป็นเมืองสำคัญในย่านนี้อย่างรวดเร็ว ตัวเมืองเป็นนครรัฐที่ไม่ขึ้นกับใครจนกระทั่งในปี 49 BC เมืองได้ตกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมันที่กำลังเรืองอำนาจในช่วงเวลานั้น
หลังจากจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลาย Marseille ยังคงรุ่งเรืองต่อมาเป็นเวลานานถึงพันกว่าปีในฐานะศูนย์กลางการค้าขายของอาณาจักรฝรั่งเศส และได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังจากการเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ในปัจจุบัน Marseille เป็นเมืองที่มีประชากรประมาณ 900,000 คน และเป็นศูนย์กลางของการค้าในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของประเทศฝรั่งเศสด้วย
1. Basilique Notre-Dame de la Garde
Basilique Notre-Dame de la Garde เป็นมหาวิหารขนาดใหญ่ในคริสตจักรคาทอลิก และเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดของเมือง Marseille ตัววิหารไม่เก่าแก่เท่าไรนักเพราะสร้างเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1864

มหาวิหารตั้งอยู่บนภูเขา ทำให้คุณสามารถมองเห็นมันได้จากระยะไกล โดยเฉพาะรูปปั้นพระแม่มารีทองคำที่ตั้งอยู่ยอดของมหาวิหารครับ
สำหรับเรื่องสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแล้วนั้น Basilique Notre-Dame de la Garde สวยงามและอลังการทั้งจากภายนอกและภายใน เพราะถูกสร้างด้วยศิลปะแบบ Neo-Byzantine ที่ใช้ทั้งหินอ่อนสีขาวและดำทำให้เกิดการ contrast กันครับ
ถ้าคุณมาเที่ยวมหาวิหารแล้ว อย่าได้พลาดชมวิวของตัวเมืองจากมุมสูงด้วยละครับ วิวบริเวณนี้สวยไม่น้อยเลยทีเดียว
2. Old Port
Old Port หรือ Vieux Port เป็นท่าเรือที่รับเรือจำนวนมากมายมานานกว่าสองพันปีแล้ว และเปรียบได้กับเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเมือง Marseille เลยก็ว่าได้
ในปัจจุบันนี้ตัวเมืองท่าอาจจะไม่ได้สำคัญกับการขนส่งสินค้าเท่าในสมัยโบราณแล้ว เพราะท่าเรือเก่ามีแต่เรือนักท่องเที่ยว และเรือหาปลามากมายเต็มไปหมด

อย่างไรก็ดีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมักชอบมาเดินเที่ยวที่นี่เพื่อสัมผัสกับบรรยากาศเมดิเตอร์เรเนียนแบบแท้ๆ และชิมซีฟู้ดสดๆ ที่ชาวประมงท้องถิ่นเพิ่งจับขึ้นมาจากทะเล
ถ้าคุณอยากจะชิมสตูซีฟู้ด (Bouillabaisse) อันเลี่องชื่อของเมือง Marseille แล้ว คุณต้องมาชิมที่ท่าเรือเก่าครับ เพราะว่าปรุงได้แบบดั้งเดิมมากที่สุดแล้ว

3. Basilique Saint Victor
Basilique Saint Victor หรือ Abbey of St. Victor เป็นมหาวิหารที่อุทิศให้กับนักบุญมรณสักขี Victor (Saint Victor of Marseilles) มหาวิหารเก่าแก่มากเพราะสามารถย้อนประวัติไปได้ถึงช่วงศตวรรษที่ 5 ทำให้มันเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของเมืองที่ยังเหลือรอดมาได้จนถึงปัจจุบัน

ตัววิหารมีรูปร่างเหมือนกับปราสาทหรือป้อมปราการในยุคกลางทั่วไป แต่ภายในวิหารมีสุสานและสถานที่เก็บร่างของนักบุญคนดังกล่าวตั้งอยู่ด้วย
4. Le Panier
Le Panier เป็นย่านเมืองเก่าของ Marseille และเป็นจุดที่ชาวกรีกตั้งรกรากที่นี่เมื่อกว่า 2,600 ปีมาแล้ว ตัวเมืองเก่าตั้งอยู่ทางเหนือของ Old Port หรือท่าเรือเก่าไปไม่ไกลครับ

ตัวเมืองเก่าค่อนข้างแคบ และมีผู้อพยพจากแอลจีเรียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้บริเวณนี้เป็นย่านที่ยากจนที่สุดในเมือง Marseille ครับ
แม้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วจะเป็นย่านที่ยากจนที่สุด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Le Panier จะอันตราย คุณสามารถหาร้านอาหารแอลจีเรียแบบแท้ๆ ได้ที่นี่ และย่านนี้ยังมีร้านกาแฟ และร้านขายของเล็กๆ อยู่อีกมากมายให้คุณได้นั่งชมบรรยากาศได้ครับ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสิ่งก่อสร้างอายุหลายร้อยปีให้คุณได้ชมด้วย อาทิเช่น Hôtel-Dieu อดีตโรงพยาบาลเก่าแก่อายุ 800 ปีที่กลายเป็นโรงแรม 5 ดาวของ InterContinental ไปแล้ว หรือ Hôtel de Ville อาคารเก่าที่สร้างขึ้นตามศิลปะเจนัวในช่วงศตวรรษที่ 17
ไฮไลท์ของเขตเมืองเก่ามีอยู่สองแห่งได้แก่
Cathédrale de la Major มหาวิหารอันวิจิตรตระการตาที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ตัววิหารสร้างขึ้นจากหินปูน และสร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบ Romanesque และ Byzantine
นอกจากนี้ภายในมหาวิหารยังถูกตบแต่งอย่างสวยงามด้วยหินอ่อนและโมเสกจำนวนมากอีกด้วย ในปัจจุบัน Cathédrale de la Major เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสแห่งหนึ่งครับ

อีกสถานที่หนึ่งที่จัดว่าเป็นไฮไลท์ได้คือ Vieille Charité อาคารเก่าแก่ที่สร้างในปี ค.ศ.1640 เพื่อเป็นสถานที่พักพิงให้กับคนยากจนในเมือง แต่ในเวลาต่อมาได้มีการสร้างโบสถ์ตามศิลปะแบบ Italian Baroque ขึ้นมาประกอบด้วย
ในปัจจุบัน Vieille Charité ก็ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ รัฐบาลฝรั่งเศสได้ใช้มันเป็นสถานที่จัดงานต่างๆ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก็บงานชั้นเยี่ยมไว้อย่างมากมายครับ

5. Château d’If
Château d’If เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ นอกชายฝั่งของ Marseille โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 16 แต่หลังจากนั้นไม่นานมันกลับถูกเปลี่ยนเป็นคุกที่ใช้ขังนักโทษแทน

ตัวป้อมปราการยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ใช้ได้ แต่ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวจะมาที่นี่เพราะจะมาชมวิวธรรมชาติอันสวยงามในหมู่เกาะ Frioul มากกว่าครับ หลังจากนั้นก็จะผ่านไปยังเกาะอื่นๆ
ถ้าคุณต้องการไป Château d’If คุณสามารถนั่งเรือออกไปจากตัวเมืองไม่ไกลก็ถึงแล้วครับ
6. Calanques National Park
Calanques National Park เป็นอุทยานแห่งชาติที่ห่างออกไปจากเมือง Marseille ประมาณ 15 กิโลเมตร ที่ตั้งของอุทยานเป็นจุดที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนพบกับแนวเทือกเขา Massif des Calanques พอดีครับ ทำให้ภูมิประเทศแถบนี้มีความเว้าแหว่งคล้ายกับฟยอร์ดก็ไม่ปาน

อย่างดีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดในอุทยานแห่งนี้คือ สี turquoise ของน้ำทะเลที่สวยจริงๆ และสัตว์ที่มีมากมายหลายชนิด หนึ่งในสัตว์ที่น่าสนใจคือ peregrine falcon เหยี่ยวที่บินได้เร็วที่สุดในโลกนั่นเองครับ
คุณสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายมากๆ ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นพายเรือคายัค ว่ายน้ำ ปีนเขา หรือล่องเรือ แต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือการล่องเรือชมอุทยานแห่งนี้นั่นเองครับ

7. Musée d’Histoire de Marseille
Musée d’Histoire de Marseille เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ห่างจาก Old Port ของเมืองไม่ไกลนัก ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่เก็บรักษาโบราณวัตถุจำนวนมากมายที่พบในบริเวณเมือง Marseille ครับ
ตัวพิพิธภัณฑ์มีทั้งแบบ indoor และ outdoor ซึ่งแบบที่น่าสนใจคือ outdoor ครับ เพราะจุดนี้เป็นจุดที่นักโบราณคดีค้นพบซากอารยธรรมเก่าแก่ของชาวกรีกเลย สำหรับใครที่ชอบประวัติศาสตร์และโบราณคดีแล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดครับ
8. MuCEM
MuCEM มีชื่อเต็มๆอันยืดยาวว่า Musée des Civilisations de l’Europe et de la Méditerranée ซึ่งแปลว่าพิพิธภัณฑ์อารยธรรมยุโรปและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจาก Le Panier หรือย่านเมืองเก่านัก คุณสามารถเดินจาก Le Panier มาที่นี่ได้ครับ

ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นการผสมผสานกันของอาคารเก่าและใหม่ ตัวอาคารเก่าคือ Fort Saint-Jean ป้อมปราการเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 400 ปีแล้ว ส่วนอาคารใหม่เป็นอาคารที่สร้างมาจากคอนกรีตเสริมไฟเบอร์ คุณสามารถเดินไปเดินมาระหว่างสองอาคารได้โดยการใช้สะพานตามรูปด้านบน
ในพิพิธภัณฑ์ก็จัดแสดงได้อย่างเยี่ยมยอดตามสไตล์ตะวันตก แต่ถ้าคุณมาถึงที่นี่แล้ว คุณห้ามพลาดชมวิวชายฝั่งทะเลจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เด็ดขาด บริเวณสะพานที่เชื่อมสองพิพิธภัณฑ์นั่นแหละครับที่เป็นจุดชมวิวอันเยี่ยมยอดเลย
9. Stade Vélodrome
Stade Vélodrome หรือ Orange Vélodrome เป็นสนามเหย้าของ Olympique de Marseille ทีมฟุตบอลในลีกเอิงที่คนไทยเรียกสั้นๆว่ามาร์แซย์นั่นแหละครับ สนามฟุตบอลแห่งนี้เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศสด้วยความจุถึง 67,000 คน

วิธีสัมผัสบรรยากาศภายในมีอยู่สองวิธีได้แก่ วิธีแรกคุณซื้อทัวร์เข้าไปชม ซึ่งจะชมได้ทุกซอกทุกมุม แม้กระทั่งในห้องแต่งตัวของนักกีฬา ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือเข้าไปชมฟุตบอลตอนที่มีการแข่งขันนั่นเองครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]