จอร์เจีย (Georgia) เป็นประเทศที่อยู่ในบริเวณเทือกเขาคอเคซัส และอยู่ทางตอนใต้ของรัสเซีย จอร์เจียถือว่าเป็นประเทศเกิดใหม่เพราะในอดีตเคยอยู่ภายใต้จักรวรรดิรัสเซียและสหภาพโซเวียตมาก่อน จอร์เจียเพิ่งจะได้รับอิสรภาพเมื่อปี ค.ศ.1991 นี้เอง
แม้ว่าจะเป็นประเทศเกิดใหม่ แต่ชาวจอร์เจียมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และศิลปกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงมีธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดในยุโรปด้วย
หลายคนคงรู้สึกอยากจะไปจอร์เจียมาแล้วไม่มากก็น้อย เรามาดูกันดีกว่าครับว่าจอร์เจียมีอะไรน่าเที่ยวบ้าง
1. Tbilisi
Tbilisi (ทบิลิซิ) หรือ Tiflis (ชื่อในอดีต) เป็นเมืองหลวงของจอร์เจีย และเป็นศูนย์กลางการปกครองดินแดนแห่งนี้มาอย่างน้อย 15 ศตวรรษ ถ้าคุณมาเที่ยวที่นี่ เมืองแห่งนี้จะเป็นเมืองที่คุณจะเหยียบย่างเป็นเมืองแรกครับ
ภายในเมืองมีแม่น้ำ Kuva ไหลผ่าน และล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูง ทำให้ Tbilisi เหมือนกับเป็นเมืองในเทพนิยาย แกรนด์ดยุคอเล็กซานเดอร์ (ซานโดร) แห่งราชวงศ์โรมานอฟและครอบครัวเคยโปรดปรานที่นี่มากถึงกับเคยเอ่ยปากว่าไม่อยากจะกลับไปเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กอีกแล้วด้วยซ้ำไป
สถานที่ท่องเที่ยวใน Tbilisi มีหลายแห่ง แต่ละแห่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีแสดงให้เห็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรมยุโรปและเอเชีย ทำให้อาคารเหล่านี้งดงามและแปลกตายิ่ง นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมสไตล์โซเวียตด้วย
สถานที่อันน่าไปเยือนในเมือง Tbilisi ประกอบด้วย
- Tsminda Sameba Cathedral
- Kartils Deda
- Narikala Fortress
- Metekhi Church
- Abanotubani
- Rike Park
- Peace Bridge
จะว่าไปคุณไม่ต้องไปไหนไกลในเมืองเลยก็ได้ แค่ไปเดินเล่นที่ย่านเมืองเก่าก็สัมผัสได้ถึงความงดงามของเมืองแห่งนี้แล้วครับ
2. Gori
Gori (โกริ) เป็นเมืองที่ห่างจาก Tbilisi ประมาณ 100 กิโลเมตร เมืองนี้มีชื่อเสียงเพราะเป็นบ้านเกิดของโจเซฟ สตาลิน ผู้นำจอมเผด็จการแห่งสหภาพโซเวียต
หลายอย่างๆ ในเมืองนี้ได้ใช้ชื่อที่เกี่ยวข้องกับสตาลิน เช่นสวนสาธารณะ ถนน หรือ อาคารบางแห่งยังใช้เป็นชื่อของเขา ที่เมือง Gori ยังรักษาบ้านที่สตาลินลืมตาดูโลกเอาไว้ด้วย ปัจจุบันมันได้แปลงสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์นามว่า “Joseph Stalin Museum”
นอกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แล้ว ด้านนอกของเมืองยังมีเมืองถ้ำขนาดใหญ่ชื่อ Uplistsikhe ด้วย เมืองถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์จอร์เจียเมื่อพันกว่าปีก่อน รวมไปถึงเป็นเมืองค้าขายที่สำคัญในย่านนี้เช่นกัน อย่างไรก็ดีขนาดของถ้ำไม่อาจจะเทียบกับเมืองถ้ำ Chufut-Kale ที่อยู่ในไครเมียได้
ถ้าเดินไปข้างในถ้ำ คุณจะเห็นสถาปัตยกรรมหลายๆ รูปแบบปะปนกันอยู่ไม่ว่าจะเป็นแบบศาสนาโบราณหรือศาสนาคริสต์ สาเหตุก็คือเมืองนี้มีประวัติยาวนานมากตั้งแต่สมัยก่อนศาสนาคริสต์จะถือกำเนิดเสียอีก
Gori อยู่ไม่ไกลจาก Tbilisi มากนัก คุณสามารถนั่ง marshrutka จาก Tbilisi มาถึงที่นี่ได้ในเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นครับ
3. Vardzia
Vardzia เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่แทรกตัวอยู่ในถ้ำ ตัววิหารทำหน้าที่เป็นทั้งสถานที่ทางศาสนาและที่หลบภัยให้กับชาวจอร์เจียที่ประสบกับการรุกรานจากชาติต่างๆ โดยรอบอยู่บ่อยครั้ง
ตัววิหารมีถึง 13 ชั้นและมีความยาวถึง 500 เมตร รวมๆ แล้วมีที่อยู่อาศัยให้กับผู้คนอย่างน้อย 6,000 คน ทำให้จริงๆ แล้ว Vardzia เหมือนกับเมืองๆ หนึ่งด้วยซ้ำไป
ที่ตั้งของ Vardzia เคยถูกเก็บจนความลับ จนกระทั่งช่วงศตวรรษที่ 13 ตัววิหารถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหวอย่างแรงทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก สถานที่ตั้งของมันจึงไม่เป็นความลับอีกต่อไป อย่างไรก็ดีสิ่งก่อสร้างและโครงสร้างส่วนใหญ่เหลือรอดมาได้ถึงทุกวันนี้
Vardzia ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย วิธีไปที่ง่ายที่สุดคือนั่ง mashrutka ไปจากเมือง Akhaltsikhe หรือว่าจะนั่งแท็กซี่ก็ได้ครับ
4. Kazbegi
Kazbegi หรือ Stepantsminda เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Tbilisi เมืองแห่งนี้เป็นเมืองในอ้อมกอดของขุนเขา ทำให้เป็นเมืองพักผ่อนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของจอร์เจียมานับศตวรรษแล้วครับ
เพียงแค่คุณเดินไปเดินมาในเมืองแห่งนี้ คุณสามารถหาวิวและจุดถ่ายรูประดับเวิลด์คลาสได้อย่างสบายๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าอยากได้จุดที่สวยจริงๆ และเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ คุณต้องเดินทางไปที่หมู่บ้าน Gergati ที่อยู่นอกเมืองไปไม่ไกลนัก และอยู่ที่ตีนเขาของยอดเขา Kazbek
เมื่อถึงแล้วคุณจะเห็นโบสถ์ชื่อ Gergeti Trinity Church ที่ตั้งอยู่ตรงกลางของยอดเขาแห่งเทือกเขาคอเคซัสอันยิ่งใหญ่ จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่ถ่ายรูปสวยที่สุดในย่านนี้ ทำให้มันมีชื่อเสียงมาก
ถ้ามาถึงจอร์เจียแล้ว คุณควรจะมาชมวิวที่นี่สักครั้งหนึ่งครับ
วิธีไป Kazbegi ที่ง่ายที่สุดคือนั่งรถมินิบัสไปจาก Tbilisi ครับ รถบัสจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อนำคุณมาถึงเมืองเล็กๆ แห่งนี้
5. Batumi
Batumi เป็นเมืองริมทะเลดำของประเทศจอร์เจีย เมืองแห่งนี้เป็นเมืองรีสอร์ทและคาสิโนที่สำคัญของจอร์เจียที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตัวเมือง Batumi สวยมากเพราะด้านหน้าเป็นทะเลสีเขียวอมน้ำเงิน ส่วนด้านหลังยังมีแนวภูเขาที่สวยงามอีกด้วย
กิจกรรมหลักๆที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทำคือไปเล่นคาสิโน อย่างไรก็ดีถ้าคุณไม่เล่นการพนัน Batumi ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน อาทิเช่น
- Alphabetic Tower
- Piazza Square
- Europe Square
- Dolphinarium
นอกเหนือจากไปเที่ยวสี่แห่งนี้แล้ว อีกกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่นี่คือ เดินเล่นหรือขี่จักรยานชมเมือง เพราะตัวเมืองสวยจริงๆ ส่วนกิจกรรมสุดท้ายก็คือการหาอะไรกินครับ Batumi มีร้านอาหารท้องถิ่นชั้นเยี่ยมหลายร้าน ดังนั้นถ้าเดินทางมาถึงเมืองนี้ อย่าได้พลาดที่จะลองชิมอาหารจอร์เจียเด็ดๆ ครับ
ในการไปเมืองนี้ คุณสามารถนั่งรถไฟไปได้จากเมือง Tbilisi ครับ โดยจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
6. Svaneti
Svaneti เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจอร์เจีย และถูกโอบล้อมด้วยเทือกเขาคอเคซัสที่ตั้งตระหง่าน ทำให้จังหวัดแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิวที่สวยงามมากหลายแห่งด้วยกัน อาทิเช่น
- Mestia เมืองหลวงของ Svaneti
- Ushguli
- Shkhara Glacier
- Chaladi Glacier
- ยอดเขา Tetnuldi
- ยอดเขา Ushba
อย่างไรก็ดีสถานที่เหล่านี้กันดารมากและเข้าถึงยากสุดๆ ถ้าคุณรักที่จะไปจริงๆ คุณต้องต่อรถหลายเที่ยวด้วยกัน ตั้งแต่จาก Tbilisi มายัง Zugdidi และ Zugdidi ไปยัง Mestia และถ้าคุณจะเข้าไปลึกถึง Ushguli คุณอาจจะต้องจ้างแท็กซี่ในราคาแพงมากเพื่อเข้าไปถึงที่นั่น
ดังนั้นตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวบางคนใช้เดินทางคือ การโบกรถทั่วไปนี่แหละครับ โบกกันริมถนนแบบสดๆ เลย ธรรมเนียมนี้เป็นที่ใช้กันทั่วไปในจอร์เจีย เพราะฉะนั้นถ้าอยากไปจริงๆ และไม่อยากต่อรถ ตัวเลือกนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งครับ
7. Okatse Canyon / Martvili Canyon
Okatse Canyon และ Martvili Canyon เป็นแคนยอนหรือโตรกผาลึกที่อยู่ในทางตะวันตกของจังหวัด Imereti ที่อยู่ตอนกลางของจอร์เจีย โตรกผาทั้งสองอยู่ใกล้กันทำให้คุณสามารถไปเที่ยวได้ในคราวเดียว
Okatse เป็นโตรกผาขนาดใหญ่ที่คุณสามารถเดินสำรวจได้โดยสะพานไม้ยาว 1 กิโลเมตรที่พาดไปตามแนวโตรกผา ตัวสะพานอยู่สูงกว่าพื้นเบี้องล่างถึง 140 เมตร ทำให้การเดินไปตามสะพานไม้เป็นประสบการณ์ที่สามารถสูบฉีดอะดรีนาลินของคุณได้อย่างแน่นอน
อีกหนึ่งโตรกผาที่อยู่ใกล้กันคือ Martvili ที่นี่มีความสวยงามไม่แพ้ที่ Okatse คุณสามารถเดินสำรวจได้ตามทางเดินเช่นเดียวกับ Okatse แต่ที่เด็ดกว่าคือ คุณสามารถเช่าเรือแคนูและพายมันในลำธารที่ใสสะอาดที่ด้านล่างของโตรกได้ด้วย
ในการเดินทางไปยัง canyon ทั้งสองไม่ยากอะไรนัก เพราะมีรถมินิบัสให้บริการจาก Tbilisi หรือคุณจะโบกรถก็ได้ครับ
8. Prometheus Cave
Prometheus Cave หรือ ถ้ำ Prometheus เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ที่อยู่ในจังหวัด Imerati ของจอร์เจีย ถ้ำแห่งนี้มีความยาวมากถึง 11 กิโลเมตร และประกอบด้วย 22 ห้องด้วยกัน อย่างไรก็ดีบริเวณที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น
สาเหตุที่ถ้ำนี้ได้ชื่อว่า Prometheus หรือผู้ให้กำเนิดมนุษย์ในตำนานกรีกก็เพราะว่า ตำนานเก่าแก่ให้ข้อมูลว่า Prometheus เคยถูกทรมานอยู่บริเวณนี้ รัฐบาลจอร์เจียจึงให้ชื่อถ้ำนี้ว่าถ้ำ Prometheus ในปี ค.ศ.2007
ปัจจุบันถ้ำแห่งนี้มีการปูทางอย่างดีให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้อย่างสบายๆ พร้อมกับติดแสงไฟนีออนที่บริเวณหินงอกหินย้อยด้วย อย่างไรก็ดีมีรายงานว่าเคยมีผู้พบหมีและสุนัขจิ้งจอกมาหลบความหนาวในถ้ำแห่งนี้ เพราะฉะนั้นเวลาเดินชมถ้ำก็ระวังด้วยละกันครับ!
ถ้ำ Prometheus ห่างจาก Okatse canyon และ Martvili canyon ไม่ไกลนัก ทั้งสามแห่งล้วนแต่อยู่ใกล้กับเมือง Kutaisi เพราะฉะนั้นควรจะเที่ยวทั้งสามแห่งไปพร้อมๆ กันเลยครับ
9. Kakheti
Kakheti เป็นจังหวัดทางตะวันออกสุดของจอร์เจีย และติดกับพรมแดนรัสเซีย จังหวัดแห่งนี้มีทรัพยากรในการท่องเที่ยวมากมาย ทำให้ที่นี่เป็นที่นิยมอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจอร์เจียครับ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใน Kakheti ได้แก่
- Sighnagi
- Lagodekhi National Park
- Alaverdi Monastery
- Tusheti National Park
- Gremi
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเดินทางมาพักที่ Sighnagi หมู่บ้านเล็กๆ ใน Kakheti เพราะเป็นหมู่บ้านแห่งนี้สวยและโรแมนติกมากๆ คุณสามารถมองเห็นทั้งหุบเขา Alazani และเทือกเขาคอเคซัสจากหมู่บ้านแห่งนี้
ตัวบ้านในหมู่บ้านยังเป็นหลังเล็กๆ ที่สร้างจากไม้ตามสไตล์จอร์เจียเดิม ชาวบ้านแต่ละคนมักจะอบเบเกอรี่จนหอมกรุ่นไปทั้งหมู่บ้าน ทำให้บรรยากาศดีสุดๆ ไปเลยครับ
สำหรับวิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดคือมินิบัสจาก Tbilisi ครับ การเดินทางจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าคุณจะโบกรถก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
การเดินทางมายังจอร์เจีย
การเดินทางจากประเทศไทยมายังจอร์เจียนั้นง่ายดายและไม่มีอะไรซับซ้อน สายการบินตะวันออกกลางอย่างเช่น Qatar Airways เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะแวะพักครั้งเดียว และไม่มีการบินอ้อมแต่อย่างใด ทำให้ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 14 ชั่วโมงครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]