จิ่วจ้ายโกว (九寨沟, Jiuzhaigou) หรือ จิ่วไจ้โกวเป็นอุทยานแห่งชาติในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ของประเทศจีน จิ่วจ้ายโกวห่างจากเฉิงตูไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 350 กิโลเมตร
เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าจิ่วจ้ายโกวเป็นหนึ่งในอุทยานที่สวยที่สุดของประเทศจีน เพราะภายในสถานที่แห่งนี้มีทั้งภูเขาหิมะ ทะเลสาบสีสวย น้ำตกอันยิ่งใหญ่ และป่าสนด้วย เคยมีคำกล่าวว่า “ดูน้ำ (ในทะเลสาบ) ที่จิ่วจ้ายโกวแล้ว ไม่จำเป็นต้องดูน้ำที่อื่นอีกแล้ว” หลายท่านอาจจะถึงกับคิดว่าจิ่วจ้ายโกวเป็นสวิสเซอร์แลนด์หรือนิวซีแลนด์เลยทีเดียว
ในฐานะที่เคยไปเหยียบจิ่วจ้ายโกวมาแล้ว ผมจึงขอแนะนำ 8 ไฮไลท์ที่ต้องไปให้ได้ในอุทยานแห่งนี้ครับ
แนะนำจิ่วจ้ายโกว
“จิ่วจ้ายโกว” แปลว่าหมู่บ้านทั้งเก้า ซึ่งหมายถึงหมู่บ้านทิเบตทั้งเก้าที่อยู่ในหุบเขาแห่งนี้ ในอดีตดินแดนแถบนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของทิเบต ทำให้มีชาวทิเบตอาศัยอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว ปัจจุบันชาวท้องถิ่นก็ยังคงอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง
จิ่วจ้ายโกวได้รับการยกเป็นอุทยานแห่งชาติในรัฐบาลจีนในปี ค.ศ.1982 และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ในปี ค.ศ.1984 หลังจากนั้นการท่องเที่ยวจิ่วจ้ายโกวเรียกได้ว่าก้าวกระโดดขึ้นหลายสิบเท่า นักท่องเที่ยวเพิ่มจาก 5,000 คนในปี ค.ศ.1984 เพิ่มเป็น 1,190,000 คนในปี ค.ศ.2002
เศรษฐกิจท้องถิ่นแถวนั้นจึงดีขึ้นมาก โรงแรม 3-5 ดาวผุดขึ้นในบริเวณเมืองจิ่วจ้ายโกว (ชื่อเดียวกับอุทยาน) เป็นดอกเห็ด เพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติ รัฐบาลจีนจึงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้ไม่เกิน 12,000 คนในช่วง high-season
ทั้งนี้จิ่วจ้ายโกวสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดู เพราะแต่ฤดูมีความสวยงามที่แตกต่างกัน แต่ช่วงที่เป็น high season คือช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนนั่นเองที่ต้นไม้ในอุทยานจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้มแดง ทำให้ดินแดนแห่งนี้เหมือนกับสวรรค์บนดิน
สำหรับการท่องเที่ยวอุทยานแห่งนี้ ผมแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ทุกท่านใช้เวลาเที่ยวในอุทยานอย่างน้อย 2 วันขึ้นไป เพราะอุทยานมีลักษณะเป็นรูปตัว Y ทำให้วิวทั้งสองฝั่งมีความแตกต่างที่ไม่ซ้ำกันโดยสิ้นเชิง
ดังนั้นสำหรับท่านที่ไปกับทัวร์ ถ้ามีทัวร์จิ่วจ้ายโกวไหนให้เข้าอุทยานเพียงวันเดียว เราย่อมไม่ควรจะไปกับทัวร์นั้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวคนใดนอนพักค้างแรมในอุทยาน แม้จะนอนในบ้านพักของชาวทิเบตก็ตาม ดังนั้นเราต้องออกมานอนนอกอุทยานและกลับเข้าไปใหม่ในวันรุ่งขึ้นครับ
จิ่วจ้ายโกวฝั่งตะวันตก
ฝั่งตะวันตกหรือฝั่งหุบเขายื่อเจ๋อ เป็นส่วนที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุด นักท่องเที่ยวมักจะเข้ามาชมส่วนนี้ก่อนครับ
1. ทะเลสาบกระจก
ทะเลสาบกระจก (จิ้งไห่) เป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะในยามที่สายน้ำเงียบสงบ และลมไม่แรง ทัศนียภาพจากบนบกจะถูกสะท้อนไปยังผืนน้ำ ทำให้ราวกับว่าทะเลสาบเป็นกระจกบานยักษ์บานหนึ่ง
2. ทะเลสาบดอกไม้ห้าสี
ทะเลสาบดอกไม้ห้าสี หรือ หวู่ฮวาไห่ (五花海) เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของจิ่วจ้ายโกว และเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยงามที่สุดในอุทยานแห่งนี้ ทะเลสาบแห่งนี้มีสีถึงห้าสี และสวยงามมากโดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง ที่ก้นทะเลสาบมีซากต้นไม้ที่มีอายุหลายหมื่นปีทับถมกันอยู่
3. ทะเลสาบแพนด้า
ทะเลสาบแพนด้า หรือ ซวงเมาไห่ (熊猫海) เป็นทะเลสาบสีเขียวอมน้ำเงิน ทะเลสาบแห่งนี้ได้ชื่อนี้เพราะว่ากันว่าหมีแพนด้าป่าเคยลงมาดื่มน้ำในที่แห่งนี้
4. น้ำตกธารไข่มุก
น้ำตกธารไข่มุก หรือ เจินจูผานผู้ปู้ (珍珠滩瀑布) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ในจิ่วจ้ายโกว น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามมาก ส่วนหนึ่งเพราะมีภูเขาหิมะของจิ่วจ้ายโกวเป็น background ให้อีกด้วย ในช่วงฤดูหนาวหยาดน้ำจากน้ำตกแห่งนี้จะกลายเป็นน้ำแข็งทำให้เกิดความงดงามอีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมา
จิ่วจ้ายโกวฝั่งตะวันออก
จิ่วจ้ายโกวฝั่งตะวันออกหรือฝั่งหุบเขาเจ๋อฉาวา เป็นอีกฝั่งหนึ่งที่ห้ามพลาดในจิ่วจ้ายโกว อย่างไรก็ตามความสูงจากระดับน้ำทะเลของฝั่งนี้สูงกว่างฝั่งตะวันตก ทำให้นักท่องเที่ยวอาจจะมีปัญหาแพ้ความสูงได้
5. ทะเลสาบยาว
ทะเลสาบยาว หรือฉางไห่ (长海) เป็นทะเลสาบที่ยาวที่สุด ตั้งอยู่สูงที่สุด และลึกที่สุดในจิ่วจ้ายโกว รวมไปถึงเป็นทะเลสาบที่อยู่ด้านในที่สุดของหุบเขาฝั่งนี้ด้วย ในตำนานของชาวทิเบตท้องถิ่นเชื่อว่า ทะเลสาบแห่งนี้มีปีศาจอาศัยอยู่
6. บึงห้าสี
แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่บึงห้าสี หรือ อู๋ฉ่ายฉือ (五彩池) เป็นคนละสถานที่กับทะเลสาบดอกไม้ห้าสี แต่มีความงามที่ไม่แพ้กัน แม้บึงแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำที่มีขนาดเล็กที่สุดแห่งหนึ่งในอุทยานก็ตาม ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของอุทยานไปโดยปริยาย
จิ่วจ้ายโกวส่วนตรงกลาง
จิ่วจ้ายโกวส่วนตรงกลาง หรือบริเวณหุบเขาชู่เจิ้งคือ ส่วนฐานตัว Y หรือส่วนที่เราเข้ามาสู่อุทยานก่อนที่จะพบกับทางแยกนั่นเอง บริเวณนี้เองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามให้ชมเช่นกัน
7. น้ำตกนั่วหยื่อหล่าง
น้ำตกนั่วหยื่อหล่าง (诺日朗瀑布) เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่บริเวณทางแยกระหว่างส่วนตะวันตกและตะวันออก น้ำตกแห่งนี้มีความอลังการและงดงามมาก ทำให้มันเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานจิ่วจ้ายโกว ไม่ต้องสงสัยว่าถ้ามาถึงที่นี่แล้ว นักท่องเที่ยวจะต้องเดินลงไปชมอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ใกล้กับน้ำตกนั่วหยื่อหล่างยังมีทะเลสาบที่สนใจให้ชมเช่นกัน เช่นทะเลสาบแรด และทะเลสาบเสือเป็นต้น ทะเลสาบเหล่านี้เกิดจากการละลายของหิมะและธารน้ำแข็งในบริเวณอุทยานจิ่วจ้ายโกว
8. หมู่บ้านชู่เจิ้ง
หมู่บ้านชู่เจิ้งเป็นหมู่บ้านของชาวทิเบตท้องถิ่น และเป็นหนึ่งในเก้าหมู่บ้านอันเป็นที่มาของชื่อ “จิ่วจ้ายโกว” ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เราสามารถสัมผัสชีวิตของชาวท้องถิ่นได้ โดยเราสามารถหาอาหารและเครื่องดื่มพื้นเมือง รวมไปถึงหาซื้อของฝากต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน
[sc name=”travelthai” ][/sc]