ท่องเที่ยว7 สถานที่ท่องเที่ยวสุดสวยใน "รัสเซียใต้" ที่คุณน่าไปเยือนสักครั้ง

7 สถานที่ท่องเที่ยวสุดสวยใน “รัสเซียใต้” ที่คุณน่าไปเยือนสักครั้ง

ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจจึงไม่ได้มีแค่มอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเปิร์กเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่อื่นที่มีความสวยงามและแปลกตาอีกหลายแห่ง

สำหรับโพสนี้ เราจะมาดูว่ารัสเซียใต้มีอะไรน่าเที่ยวบ้างครับ

แนะนำรัสเซียใต้

รัสเซียใต้ (Southern Russia) คือ ดินแดนที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลดำ (Black Sea) ทะเลแคสเปียน (Caspian Sea) เทือกเขาคอเคซัส และประเทศจอร์เจีย ซึ่งเมืองสำคัญที่สุดในย่านนี้คือ เมือง Sochi เมืองรีสอร์ทสำคัญของรัสเซียที่เคยจัดโอลิมปิกฤดูหนาวและฟุตบอลโลกมาแล้ว และเมือง Rostov-on-don หรือ รอสตอฟที่แม่น้ำดอน เมือง Rostov-on-don นี้คือคนละเมืองกับรอสตอฟที่เป็นเมืองโกลเด้นริงนะครับ

ความหลากหลายทางวัฒนธรรมในดินแดนแถบนี้มีสูงมาก เพราะชนเผ่าต่างๆ อาศัยอยู่ปะปนอยู่รวมกันมากมาย แต่ละเผ่าก็นับถือศาสนาที่แตกต่างกันไป คุณสามารถพบเห็นศาสนสถานของศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และศาสนาพุทธในดินแดนแถบนี้

1. Dombai

Dombai หรือ Dombay (Домбай) เป็นรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Teberdinsky และอยู่ท่ามกลางเทือกเขาคอเคซัสฝั่งรัสเซีย และอยู่ห่างจากเมือง Sochi ประมาณ 560 กิโลเมตร

Dombai by Skhakirov, Flickr, CC By SA 2.0

ภูเขาหิมะที่ Dombai สวยงดงามไม่แพ้ที่ใดในโลก ชาวรัสเซียมักจะให้ Dombai เป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยและยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็พร้อมเพรียง ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นสกี ปีนเขา และแช่น้ำร้อนได้อย่างสบายใจ แถมที่นี่ยังมีธารน้ำแข็งสวยๆ ให้เดินชมด้วยนะครับ ธารน้ำแข็งแห่งนี้มีนามว่า Alibek Glacier

ด้วยความที่ Dombai ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวนอกรัสเซีย ธรรมชาติของที่นี่จึงบริสุทธิ์และสวยมากครับ

อย่างไรก็ดีการเข้าถึง Dombai ไม่ใช่เรื่องหมูๆ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ คุณบินไปลงมอสโกก่อน และบินจากมอสโกมายังเมือง Mineralnye Vody และนั่งรถต่อมายัง Dombai ครับ

2. Elista

Elista เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐ Kalmykia สาธารณรัฐแห่งเดียวในรัสเซียและยุโรปที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ (เพราะเป็นชนเชื้อสายมองโกเลียที่เคยรุกรานรัสเซียเมื่อหลายร้อยปีก่อน)

ภายในเมือง Elista ประกอบด้วยศาสนสถานพุทธหลายต่อหลายแห่ง อาทิเช่น

  • Buddha Shakyamuni Golden Abode
  • Pagoda Seven Days
  • Alistinskaya Stupa of Enlightenment
  • Fountain Three Lotuses
  • Old Hurul
Buddha Shakyamuni Golden Abode By Alexxx Malev, Flickr, CC By SA-2.0

นอกจากนี้ภายในเมืองยังมีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง พิพิธภัณฑ์เหล่านี้ระลึกถึงประวัติศาสตร์ของชนเผ่า Kalmyk ที่นับถือศาสนาพุทธ และต้องเผชิญกับการกดขี่ในสมัยสตาลินด้วย

  • Museum of Kalmyk Buddhist Art
  • Museum of Buddhist History
  • Monument End And Return

Elista ห่างจาก Sochi ประมาณ 770 กิโลเมตร วิธีเดินทางมาที่นี่ที่ง่ายที่สุดคือ บินมาโดยตรงจากมอสโก หรือลงที่ Rostov-on-don ก็ได้ครับ

3. Sochi

Sochi เป็นเมืองรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมากในรัสเซีย เพราะตัวเมืองติดกับชายฝั่งทะเลดำ และอากาศก็อบอุ่นตลอดปี ทำให้ชาวรัสเซียมักจะหนีหนาวมาพักผ่อนที่นี่บ่อยๆ

Sochi

สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ คือ Sochi คือชายทะเล แต่ Sochi ไม่ได้มีดีแค่ชายทะเลเท่านั้น ภายในเมืองมีสวนที่สวยมากอย่างสวน Sochi Arboretum และทะเลสาบที่ใหญ่และงดงามอย่างเช่น Lake Ritsa ให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ต่างออกไปจากชายทะเลด้วย

อีกสถานที่ที่น่าสนใจคือ Stalin’s Dacha (Dacha Stalina) คือสถานที่พักตากอากาศที่สตาลินเคยใช้เมื่อมาเยี่ยมเยือนที่นี่อยู่หลายครั้ง ปัจจุบันมันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงชีวิตอันเรียบง่ายของเขาครับ

คุณสามารถบินมาลง Sochi จากมอสโกได้เลยครับ

4. Volgograd

ถ้าพูดถึง Volgograd แล้วผมเชื่อว่าส่วนใหญ่น่าจะไม่เคยได้ยินชื่อกัน แต่ถ้าผมบอกว่า “สตาลินกราด” (Stalingrad) หลายคนคงจะร้องอ๋อขึ้นมาไม่มากก็น้อย เพราะสตาลินกราดเป็นเมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนของสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเองครับ เมืองแห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Volgograd ในเวลาถัดมา

Volgograd

สถานที่ท่องเที่ยวภายในเมือง Volgograd ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สองทั้งสิ้น อาทิเช่น

  • The Motherland Calls รูปปั้นหญิงสาวขนาดใหญ่ที่ชูดาบขึ้นราวกับว่าจะนำหน้าเหล่าทหารเข้าต่อสู้กับข้าศึก ตัวอนุสาวรีย์สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงยุทธการแห่งสตาลินกราดที่ทหารและพลเมืองโซเวียตต่อต้านกองทัพเยอรมันอย่างดุเดือดจนได้รับชัยชนะในที่สุด The Motherland Calls เป็นอนุสาวรีย์ที่สูงที่สุดในยุโรป และเป็นอนุสาวรีย์ผู้หญิงที่สูงที่สุดในโลกครับ
  • Stalingrad Battle Panoramic Museum พิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ที่อุทิศให้ยุทธการแห่งสตาลินกราดอย่างเต็มๆ คุณสามารถชมอาวุธ เครื่องแต่งกาย แผนที่ เอกสาร และรูปถ่ายของจริงของสงครามในช่วงนั้น รวมไปถึงรถถังและเครื่องบินด้วยครับ (แต่ห้ามปีนป่ายนะ)
  • Pavlov’s House ในช่วงสงครามทหารโซเวียตกองหนึ่งสามารถป้องกันที่นี่ไว้ได้ถึงสองเดือนก่อนที่กองทัพแดงจะสามารถขับไล่กองทัพเยอรมันออกไปได้สำเร็จ แต่ในปัจจุบันเหลือแต่เพียงกำแพงอิฐที่หลงเหลือจากบ้านดังกล่าวเท่านั้น

วิธีไปที่ง่ายที่สุดคือบินจากมอสโกมายัง Volgograd โดยตรงครับ

5. Krasnaya Polyana

Krasnaya Polyana เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ห่างจาก Sochi ประมาณ 40 กิโลเมตรเท่านั้น หมู่บ้านแห่งนี้เป็นสกีรีสอร์ทที่แพงที่สุด และได้รับความนิยมสูงสุดในรัสเซีย

Krasnaya Polyana By Sergei Kazantsev – Own work, CC BY-SA 3.0,

สาเหตุที่ที่นี่ได้รับความนิยมมาก เพราะทิวทัศน์ที่นี่สวยมาก ตัวหมู่บ้านมีแม่น้ำไหลผ่านตรงกลาง และอยู่ในอ้อมกอดของภูเขารอบทิศ แถมยังเดินทางมาง่าย ไม่ไกลเหมือนกับ Dombai อีกด้วย คุณสามารถหาบ้านสไตล์ Chalets ที่วิวแจ่มๆ มาพักผ่อนหย่อนใจในราคาที่ถูกกว่าในยุโรปตะวันตกมากครับ

วิธีไปที่ง่ายที่สุดคือ บินไป Sochi และนั่งรถไฟ แท็กซี่ หรือไม่ก็เช่ารถจาก Sochi แล้วขับไปครับ

6. Mount Elbrus

Mount Elbrus เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในรัสเซียและยุโรป ดังนั้นในแต่ละปีนักปีนเขามากมายจึงปรารถนาจะมาพิชิตยอดเขาแห่งนี้เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเอง สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปแล้วนั้น วิวบริเวณยอดเขาลูกนี้ยังสวยงามไม่เบา หลายคนจึงมักมาเที่ยวชมจุดสวยๆ ต่างๆ ด้วยการเล่นสกีครับ

Mount Elbrus, Konstantin Malenchev, Flickr. CC By 2.0

อย่างไรก็ดี Mount Elbrus ตั้งอยู่ที่พรมแดนของประเทศจอร์เจีย-รัสเซีย ทำให้มีความอ่อนไหวทางการเมืองสูงมาก นอกจากนี้แถวนี้ยังกันดารมากด้วย ทำให้การเดินทางทั่วไปยากลำบาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงใช้บริการทัวร์รัสเซียเพื่อความปลอดภัยและกำจัดความยุ่งยากให้หมดไปครับ

วิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดคือ บินไปเมือง Mineralnye Vody หรือ Nalchik หลังจากนั้นจึงเรียกแท็กซี่เพื่อไปยังเมือง Terskol เมืองที่ใกล้ยอดเขามากที่สุดครับ แต่ถ้าไปกับทัวร์ ทัวร์จะมารับตั้งแต่เมือง Mineralnye Vody เลยครับ

7. Crimea

Crimea (ไครเมีย) เป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้กรณีพิพาทระหว่างยูเครนและรัสเซีย แม้ดินแดนแห่งนี้จะถูกคว่ำบาตรโดยชาติตะวันตก แต่ไครเมียกลับมีสถานที่มากมายที่ครบเครื่องทั้งธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ อาทิเช่น

  • Livadia Palace พระราชวังสุดรักของครอบครัวซาร์
  • Chufut Kale เมืองถ้ำขนาดยักษ์
  • Marble Caves ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีหินทรงสวยๆ มากมาย

เนื่องจากผมเคยเขียนรวม 10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในไครเมียไว้แล้ว ใครสนใจสามารถไปอ่านต่อได้ครับ

การเดินทางไปไครเมียจริงๆ แล้วไม่ยากอะไร คุณสามารถบินไปลงสนามบินใหญ่ๆ ในไครเมียได้เลยจากมอสโกครับ

[sc name=”travelthai” ][/sc]

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!