ท่องเที่ยว7 เมืองศักดิ์สิทธิ์ใน "อินเดีย"ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู คือที่ใดบ้าง

7 เมืองศักดิ์สิทธิ์ใน “อินเดีย”ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู คือที่ใดบ้าง

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนาที่มีผู้นับถือมากกว่าหนึ่งพันล้านคน และเกือบทั้งหมดอยู่ในประเทศอินเดีย

เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูก็มีเมืองศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน เมืองศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เรียกรวมๆ กันว่า สัปตะปุริ (Sapta Puri)

เรามาดูกันครับว่ามีที่ไหนบ้าง

1. พาราณสี

อันดับหนึ่งคงเป็นที่ใดไม่ได้ นอกจากพาราณสี (Varanasi) เมืองที่เก่าแก่ที่สุดและศักดิ์สิทธิ์เป็นอันดับหนึ่งในหมู่เมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ตัวเมืองอยู่ในรัฐอุตตรประเทศ และอยู่ริมแม่น้ำคงคา

พาราณสี By Santosh Kumar Velamala, CC BY-SA 4.0,

พาราณสีมีอายุอย่างน้อย 3,000 ปี และเป็นสถานที่แสวงบุญและเมืองสอนศาสนามาตั้งแต่โบราณ ชาวฮินดูเชื่อว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่สร้างโดยพระศิวะ (พระอิศวร) เทพเจ้าองค์สำคัญของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ดังนั้นการได้อาบน้ำชำระกายที่แม่น้ำคงคาริมฝั่งเมืองพาราณสีจึงเป็นสิ่งที่เป็นมงคลอย่างที่จะหาอะไรมาเปรียบมิได้ เพราะจะได้บรรลุโมกษะ และได้ขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ของพระเจ้า

ริมฝั่งแม่น้ำคงคาที่เมืองพาราณสีจึงคลาคล่ำไปด้วยศาสนิกทั้งหลายที่เดินทางมาอาบน้ำที่นี่

ภายในเมืองยังมีวัดมากมายไม่ว่าจะเป็นวัดฮินดู หรือวัดเชน แต่วัดที่สำคัญที่สุดคือวัดกาสีวิศวนาถ ที่อุทิศให้กับพระศิวะ มีความเชื่อในศาสนาฮินดูว่าศาสนิกควรจะมาเยี่ยมเยือนวัดในพาราณสีสักครั้งหนึ่ง เพื่อสิริมงคลแก่ตนเอง

ภายในพาราณสียังมีการประกอบพิธีกรรมสำคัญทุกปี อาทิเช่นพิธีมหาศิวะราตรี (Mahashivaratri) ซึ่งจะจัดขึ้นเพื่อบูชาพระศิวะทั้งเมือง ผู้ที่มาร่วมงานแน่นอนว่ามากมายเหลือคณานับ

2. อโยธยา

อโยธยา (Ayodhya) ในที่นี้ไม่ใช่พระนครศรีอยุธยาในประเทศไทย แต่เป็นเมืองขนาดเล็กในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย

อโยธยา By रूही – Own work, CC BY-SA 4.0,

ชาวฮินดูเชื่อว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่ประสูติของ “ราม” (Rama) ปางที่หกของพระวิษณุที่ลงมาปราบยักษ์ในเรื่องรามายณะ คนไทยน่าจะรู้จัก “ราม” ในนาม “พระราม” ในเรื่องรามเกียรติ์

ทั้งนี้มีตำนานเล่าว่าจุดที่รามประสูติตั้งอยู่ในวัดแห่งหนึ่ง แต่วัดแห่งนั้นกลับถูกทำลายเมื่อบาเบอร์ จักรพรรดิพระองค์แรกแห่งราชวงศ์โมกุลพิชิตดินแดนแถบนี้ได้สำเร็จ

แม้วัดดังกล่าวจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ชาวฮินดูเชื่อว่าความศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ ศาสนิกจำนวนมากโดยเฉพาะนิกายไวษณพที่นับถือพระวิษณุเป็นเทพเจ้าสูงสุดต่างเดินทางมาที่นี่เพื่อสักการะบูชาที่วัดในเมืองแห่งนี้ วัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือวัดคานัคภาวัณ (Kanak Bhavan) ที่อุทิศให้กับรามและสีดา

3. หริทวาร

หริทวาร (Haridwar) แปลว่า “ประตูสู่เทพเจ้า” เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รัฐอุตตรขัณฑ์ ในประเทศอินเดีย และใกล้กับแม่น้ำคงคา

หริทวาร By mckaysavage – , CC BY 2.0,

ความศักดิ์สิทธิ์ของหริทวารมาจากการที่ยาอัมฤตของพระวิษณุที่ทำให้เป็นอมตะตกลงจากสวรรค์สู่พื้นโลกที่นี่ และเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำคงคาที่ไหลมาจากเขาไกรลาสหรือสรวงสรรค์นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่ามีรอยเท้าของพระวิษณุที่หินในเมืองนี้ด้วย

ด้วยความที่หริทวารเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ เหล้าและเนื้อสัตว์จะถูกห้ามให้นำเข้ามาในเมืองแห่งนี้

ตลอดทั้งปีชาวฮินดูเดินทางมาที่เมืองหริทวารเพื่ออาบน้ำที่แม่น้ำคงคา สวดมนต์ไหว้เทพเจ้า และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดในเมืองที่มีมากมาย ผู้คนจะมากเป็นพิเศษในช่วงที่หริทวารเป็นสถานที่จัดพิธีกรรมทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดอย่าง กุมภเมลา (Kumbh Mela) ที่จัดขึ้นที่นี่ทุก 12 ปี

4. อุชเชน

อุชเชน (Ujjain) เป็นอีกเมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ตัวเมืองอยู่ในรัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย ตัวเมืองเก่าแก่มาก เชื่อกันว่ามีอายุมากกว่า 2,500 ปี พระไตรปิฎกของศาสนาพุทธเองก็ได้กล่าวถึงเมืองดังกล่าวด้วยในฐานะเมืองหลวงของแคว้นอวันตี

งานกุมภเมลาที่อุชเชน By Suyash Dwivedi – Own work, CC BY-SA 4.0,

สำหรับชาวฮินดู อุชเชนเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์เพราะพระศิวะทรงได้ชัยเหนือพญายักษ์ชื่อตรีปุระสุระที่นี่ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นอีกที่หนึ่งที่ยาอัมฤตของพระวิษณุตกลงมาสู่พื้นโลกด้วย ทำให้ชาวฮินดูทั้งนิกายไศวะและไวษณพต่างมาที่นี่เพื่อสักการะพระเจ้า

ที่เมืองอุชเชนมีการจัดพิธีกุมภเมลาเช่นเดียวกับหริทวาร โดยจะจัดขึ้นทุกๆ 12 ปีเหมือนกัน

5. มถุรา

มถุรา (Mathura) เป็นเมืองในรัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย มถุราเป็นหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูมาตั้งแต่โบราณ ตัวเมืองอีกอายุอย่างน้อย 3,200 ปีจากโบราณวัตถุที่ค้นพบในเมือง

มถุรา By Umang108 – Own work, CC BY-SA 4.0,

ชาวฮินดูเชื่อว่าพระกฤษณะ อวตารของพระวิษณุในเรื่องมหาภารตะประสูติที่มถุรา วัดอันศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งจึงถูกสร้างขึ้นมาตลอดสามพันปีเพื่อบูชาพระกฤษณะและครอบครัว แต่วัดเหล่านี้ถูกทำลายหลายครั้ง จนกระทั่งมีการสร้างใหม่ในสถานที่เดิมไม่นานนี้เอง

ปัจจุบันเมืองมถุรามีวัดจำนวนมากที่เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ ชาวฮินดู (โดยเฉพาะนิกายไวษณพ) จะเดินเท้าสักการะบูชาวัดเหล่านี้จนครบ ซึ่งถ้าเดินให้ครบจริงๆ จะต้องใช้เวลาถึงสามเดือนเลยทีเดียว

6. ทวารกา

ทวารกา (Dwarka) เป็นเมืองเล็กๆทางทิศตะวันออกของประเทศอินเดีย ในรัฐคุชราด (Gujarat) และอยู่ติดกับทะเลอารเบียน เมืองนี้มีอายุอย่างน้อย 2,400 ปีทำให้เก่าแก่ไม่แพ้เมืองศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ

Dwarkadhish Temple By Scalebelow – Own work, CC BY-SA 3.0,

ท่านที่เคยอ่านมหาภารตะมาก่อนจะคุ้นเคยกับเมืองนี้เป็นอย่างดี เพราะเมืองนี้เป็นเมืองที่พระกฤษณะ อวตารของพระวิษณุได้สร้างขึ้น และย้ายราษฎรของพระองค์จากมถุรามาอยู่ที่นี่ ประชาชนเมืองนี้ยังรับคำสาปของนางกุนตีไปเต็มๆ ทำให้เกิดภัยพิบัติจนเมืองพังพินาศ

ชาวฮินดูมาที่นี่เพื่อสักการะองค์พระกฤษณะและมเหสีที่วัดเก่าแก่มากมายที่ตั้งอยู่ในเมือง วัดที่เก่าแก่ที่สุดอย่างวัด Dwarkadhish (แปลว่ากษัตริย์แห่งทวารกา) เป็นวัดที่อุทิศให้พระกฤษณะที่มีอายุอย่างน้อย 2,200 ปี บางตำนานว่าพระกฤษณะเป็นผู้สร้างวัดนี้ด้วยตนเองด้วย อย่างไรก็ตามในหน้าประวัติศาสตร์ วัดนี้ถูกทำลายหลายครั้ง แต่ก็มีการสร้างใหม่ทุกครั้ง

7. กาญจีปุรัม

กาญจีปุรัม (Kanchipuram) เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเมืองเดียวที่อยู่ทางใต้ของอินเดีย ตัวเมืองอยู่ในรัฐทมิฬนาดู และเป็นเมืองเดียวที่ห่างไกลจากเมืองศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ โดยสิ้นเชิง ตัวเมืองเก่าแก่อย่างน้อยสองพันปี และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโจฬะ (Chola Empire) ด้วย

Kamakshi Amman Temple By SINHA, CC BY-SA 3.0,

เมืองนี้เป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของทั้งนิกายไวษณพและไศวะ จากวัดศักดิ์สิทธิ์ของนิกายไวษณพ 108 แห่งทั่วทั้งประเทศอินเดีย วัดมากถึง 15 แห่งตั้งอยู่ในกาญจีปุรัมแห่งนี้ ส่วนนิกายไศวะแล้วนั้น ศังกราจารย์ กูรูคนสำคัญเคยใช้ชีวิตและเผยแพร่ศาสนาที่นี่ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่แสวงบุญของทั้งสองศาสนาไปโดยปริยาย

วัดที่สำคัญที่สุดในเมืองคือ วัด Kamakshi Amman ซึ่งอุทิศให้กับเทพีปารวตี (Parvati) และศังกราจารย์ วัดนี้เก่าแก่มากถึงเกือบสองพันปีแต่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาจนถึงทุกวันนี้

[sc name=”travelthai” ][/sc]

Pun Anansakunwat
Pun Anansakunwathttps://victorytale.com/about-victorytale/
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Victory Tale ผมชื่นชอบในหลากหลายสาขาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ไปจนถึงการลงทุน หลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University) ผมก็ได้เป็นนักลงทุนในหุ้น, ติวเตอร์, นักเขียน (ตีพิมพ์ไปแล้ว 3 เล่ม) และในปัจจุบันก็เป็นเจ้าของเว็บไซต์ครับ

สถานที่ท่องเที่ยว

โรงแรมที่พัก

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!