เส้นทางสายไหม คือเส้นทางทางการค้าเก่าแก่ที่มีอายุนานถึงสองพันปี ในอดีตพ่อค้าจะเดินทางด้วยกองคาราวานจากยุโรปไปยังจีนผ่านเส้นทางนี้เพื่อค้าขายและแลกเปลี่ยนสินค้า
ภายในเส้นทางสายไหมส่วนของจีน คือ ดินแดนในมณฑลซินเจียง (Xinjiang) หรือ ซินเกียง และมณฑลกานซู ปัจจุบันนี้เส้นทางนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม ทัวร์ไทยที่ไปเส้นทางสายไหมก็มีอยู่ทุกปี โดยเฉพาะในช่วงสิงหาคมถึงตุลาคม เพราะเป็นช่วงที่อากาศดี ไม่หนาวและไม่ร้อนจนเกินไป
เรามาดูกันดีกว่าครับ สถานที่ท่องเที่ยวในเส้นทางสายไหมส่วนของจีนที่เป็นที่นิยมมีอะไรบ้าง
1. ทะเลสาบเทียนฉือ
ทะเลสาบเทียนฉือ (天池) หรือ ทะเลสาบสวรรค์แห่งเทียนซานเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในมณฑลซินเจียงและเส้นทางสายไหมฝั่งจีนก็ว่าได้ ตัวทะเลสาบตั้งอยู่ห่างจากอูหลู่มู่ฉี (Urumqi) เมืองหลวงของมณฑลซินเจียง 110 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางไปค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะสามารถนั่งรถบัสไปได้ง่ายๆ
เทียนฉือเป็นทะเลสาบแบบอัลไพน์ และมีสีเขียวอมน้ำเงิน ด้านหลังทะเลสาบเป็นเทือกเขาอันเทียนซานอันยิ่งใหญ่ ถ้ามาในช่วงฤดูหนาว บริเวณเทือกเขาจะมีหิมะขาวโพลนให้เห็นด้วย
2. ทะเลสาบคานาส
ทะเลสาบคานาส หรือคาน่าซือ เป็นทะเลสาบที่เป็นส่วนหนึ่งของหุบเขาในบริเวณเทือกเขาอัลไต (ใกล้กับส่วนของรัสเซียที่เป็นอุทยานเช่นเดียวกัน)
ตัวทะเลสาบตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติคานาส จุดเด่นของทะเลสาบแห่งนี้คือมันจะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล บางฤดูกาลอาจจะเป็นสีเขียว อีกฤดูกาลอาจจะเป็นสีน้ำเงินก็ได้ ใช้กับบริเวณทะเลสาบยังมีทะเลสาบอื่นๆ อาทิเช่น ทะเลสาบ Yaze หรือ ทะเลสาบขาว รวมไปถึงทุ่งหญ้าอันเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชาวมองโกลเผ่า Tuva ที่เชื่อกันว่าเป็นชนรุ่นหลังของนักรบมองโกลที่ติดตามมาตีเอเชียกลางด้วย
ด้วยระยะทางที่ห่างจากอูหลู่มู่ฉีถึงหลายร้อยกิโลเมตร ทำให้ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยังทะเลสาบและอุทยานคานาสคือการใช้เครื่องบินที่จะนำนักท่องเที่ยวไปสู่สนามบินคานาสโดยตรง อย่างไรก็ตามสำหรับท่านที่ต้องการประหยัด มีรถโค้ชบริการจากอูหลู่มู่ฉีด้วยเช่นกัน ซึ่งจะใช้เวลา 12 ชั่วโมง และต้องเปลี่ยนรถ 1 ครั้งด้วย
3. เมืองเก่าแคชการ์
แคชการ์ (Kashgar) หรือ คาฉือ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของมณฑลซินเจียงและประเทศจีน ตัวเมืองมีอายุมากกว่า 2,000 ปี และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าสำคัญในเส้นทางสายไหมมาตั้งแต่ยุคโบราณ
ด้วยเหตุนี้แคชการ์จึงมีย่านเมืองเก่าที่น่าสนใจมาก เพราะมันสร้างขึ้นด้วยศิลปะอุยกูร์โบราณ และแสดงถึงวิถีชีวิตของชาวอุยกูร์อยู่ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่บริเวณนี้ไม่ค่อยได้รับการดูแลรักษาเท่าใดนัก ทำให้สภาพเริ่มทรุดโทรมตามลำดับ
นอกจากบริเวณเมืองเก่าแล้ว จุดที่สนใจในเมืองแคชการ์ยังมีตลาดบาซาร์ที่จะขายสิ่งของต่างๆ แบบที่เราสามารถหาได้ในเมืองในเอเชียกลาง อาทิเช่น พรม ของที่ระลึก เสื้อผ้าทั่วไป นอกจากนี้ในตลาดยังมีการขายสัตว์เลี้ยงต่างๆ เช่นเดียวกับที่ได้ทำมานับพันปีด้วย
วิธีการเดินทางไปยังแคชการ์ที่ง่ายที่สุดน่าจะเป็นทางเครื่องบินจากอูหลู่มู่ฉี เพราะระยะทางเมืองทั้งสองห่างกันมากกว่าหนึ่งพันสามร้อยกิโลเมตร
นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นเส้นทางคาราคอรัมไฮเวย์ของประเทศปากีสถานที่สวยงามได้จากแคชการ์ โดยผ่านทางช่องเขา Khunjerab
4. ตุนหวง
ตุนหวง (敦煌) เป็นเมืองโอเอซิสที่อยู่ทางภาคตะวันตกสุดของมณฑลกานซู เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่มาก เพราะหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้บ่งบอกว่ามีผู้อยู่อาศัยมานานกว่า 4,000 ปี ในอดีตเมืองแห่งนี้เคยอยู่ในการครอบงำของพวกซงหนู แต่หลังจากที่ราชวงศ์ฮั่นมีชัยเหนือพวกซงหนูได้อย่างเด็ดขาด เมืองนี้จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรฮั่น
ภายในเมืองตุนหวงมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิเช่นป้อมปราการเก่ากลางทะเลทรายที่มีอายุ 2,000 กว่าปี โดยสามารถย้อนไปถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น และเจดีย์ไป๋หม่าที่ระลึกถึงการเข้ามาของศาสนาพุทธในจีนด้วย
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไฮไลท์ของตุนหวงคือ ถ้ำโม่เกา วัดถ้ำขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 4 ปัจจุบันมันยังคงความยิ่งใหญ่อยู่ ถ้ำแห่งนี้แสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของพระพุทธศาสนา และการผสมผสานของศิลปะเอเชียกลางและศิลปะจีนอันเยี่ยมยอดด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากตุนหวงเป็นเมืองโอเอซิสกลางทะเลทราย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งอูฐชมความงดงามของสันทรายเช่นเดียวกับในตะวันออกกลางด้วยเช่นกัน
เมืองตุนหวงมีชื่อเสียงในเรื่องผลไม้สด อาทิเช่นองุ่นและแตงโม ทั้งสองเป็นสินค้าส่งออกเก่าแก่ในเส้นทางสายไหมของเมืองตุนหวงมาตั้งแต่โบราณแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าได้ไปเยี่ยมเยือนเมืองนี้แล้ว อย่าพลาดที่จะลิ้มลองครับ
5. เมืองโบราณแถบถูหลู่ฟาน
ถูหลู่ฟาน (吐鲁番) เป็นเมืองโอเอซิสในมณฑลซินเจียง และเป็นเมืองการค้าเก่าแก่ที่สำคัญในเส้นทางสายไหมมานับพันปีแล้ว
ใกล้กับถูหลู่ฟานมีเมืองโบราณเก่าแก่ที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิเช่น เมืองโบราณเจียวเหอ และเมืองโบราณเกาชาง ทั้งสองเมืองมีความเก่าแก่มากกว่า 2,000 ปี และเคยเป็นเมืองโอเอซิสที่เจริญรุ่งเรืองมากทั้งคู่ ปัจจุบันภายในทั้งสองเมืองยังหลงเหลือสถูปพุทธแบบเอเชียกลางหลงเหลือให้ชมอยู่ด้วย
นอกจากนี้เมืองถูหลู่ฟานยังมีถ้ำพุทธชื่อ Bezeklik ที่มีความเก่าแก่ไม่แพ้ถ้ำที่โม่เกา ด้านในมีภาพเขียนสีมากมายที่มีความงดงามและแสดงถึงความรุ่งเรืองของพุทธศาสนาในเอเชียกลางที่ดับสูญไปแล้วตลอดกาล
6. ทะเลสาบคารากุล
ทะเลสาบคารากุล (Karakul) หรือ ทะเลสาบคาราคู้เลย เป็นทะเลสาบที่อยู่ในที่ราบสูงปามีร์ และอยู่ภายใต้อ้อมกอดของภูเขาที่หิมะปกคลุมตลอดทั้งปี เพราะตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาคุนลุ้นและเทือกเขาเทียนซานอันยิ่งใหญ่
ตัวทะเลสาบมีสีเขียวอมน้ำเงิน แต่สิ่งที่ดีงามของทะเลสาบนี้คือ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสยอดเขาอันยิ่งใหญ่อย่าง Muztagh Ata ,Kongur Tagh และ Kongur Tiube ซึ่งทั้งหมดล้วนสูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 7,000 เมตรได้อย่างใกล้ชิด
ทะเลสาบแห่งนี้ห่างจากแคชการ์เกือบ 200 กิโลเมตร และอยู่ในเส้นทางสู่คาราคอรัมไฮเวย์ ดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่นิยมมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแคชการ์ อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปท่องเที่ยวทะเลสาบดังกล่าวต้องระวังในเรื่องการแพ้ที่สูงไม่ต่างกับการไปเที่ยวทิเบตด้วย เพราะทะเลสาบแห่งนี้สูงเกือบ 4,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล
สิ่งที่ควรทราบ
เนื่องจากของสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นไฮไลท์ในเส้นทางสายไหมของจีนห่างกันค่อนข้างมาก ทำให้โดยทั่วไปแล้วทัวร์เส้นทางสายไหมของไทยที่กินเวลา 8-10 วันไม่สามารถครอบคลุมสถานที่ทั้งหมดในทริปเดียวได้ ทัวร์ที่พอจะครอบคลุมได้จึงเป็นทัวร์ของต่างชาติเท่านั้น
ส่วนมากแล้วทัวร์เส้นทางสายไหมไทยมักจะเริ่มต้นการเดินทางจากเมืองตุนหวง และมุ่งหน้าตะวันตกไปยังอูหลู่มู่ฉีเพื่อเที่ยวทะเลสาบเทียนฉือ แล้วจะบินกลับไทยจากอูหลู่มู่ฉี ท่านที่สนใจจะไปคานาส หรือ แคชการ์จึงต้องหาทัวร์พิเศษที่จัดไม่บ่อยครั้ง หรือเดินทางไปด้วยตนเอง
[sc name=”travelthai” ][/sc]