ท่องเที่ยว5 มหาบูชาสถานแห่งพม่าที่ชาวพุทธน่าไปสักการะสักครั้งหนึ่ง

5 มหาบูชาสถานแห่งพม่าที่ชาวพุทธน่าไปสักการะสักครั้งหนึ่ง

ประเทศเมียนมาร์หรือพม่าเป็นประเทศที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองมานานหลายร้อยปีแล้ว ชาวพม่าศรัทธาพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก กษัตริย์พม่าหลายพระองค์เป็นพุทธมามกะที่เคร่งครัดจึงให้การสนับสนุนการสร้างพุทธสถานอย่างยิ่งใหญ่และอลังการ ทำให้วัดและเจดีย์ที่และสวยงามและยิ่งใหญ่ภายในพม่ามีมากมาย

หากแต่ว่าในบรรดาวัดและเจดีย์ทั้งปวงนั้น ชาวพม่าให้ความสำคัญกับปูชนียสถานทั้ง 5 แห่งนี้มากที่สุด บางครั้งปูชนียสถานนี้มักถูกเรียกว่า “5 มหาบูชาสถานแห่งพม่า” หรือ “5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งพม่า” ที่ควรเดินทางไปสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต

5 มหาบูชาสถานนี้มีที่ไหนบ้าง เรามาดูกันเลยดีกว่า

1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง

พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) เป็นเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาปูชนียสถานของพม่า เจดีย์แห่งนี้เป็นเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองที่กษัตริย์พม่าและมอญช่วยกันทำนุบำรุงมานานนับพันปี

ตัวเจดีย์ตั้งอยู่ที่เนินสิงกุตตระในเมืองย่างกุ้ง เมืองหลวงเก่าของประเทศพม่า ตามตำนานเชื่อกันว่าเจดีย์ชเวดากองมีอายุกว่า 2,600 ปีแล้ว โดยสร้างร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้าและภายในบรรจุเครื่องอัฐบริขารของพระพุทธเจ้าในอดีตทั้งสาม (พระกกุสันธะ พระโกนาคมน์ พระกัสสปะ) และเส้นพระเกศาของพระพุทธเจ้าศากยมุนี (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)

พระมหาเจดีย์ชเวดากอง By Bjørn Christian Tørrissen , CC BY-SA 4.0,

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เจดีย์ชเวดากองจะเป็นเจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามนักประวัติศาสตร์วิเคราะห์จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้วพบว่าเจดีย์นี้น่าจะสร้างขึ้นโดยชาวมอญในช่วงคริสตศตวรรษที่ 6-10 ทำให้เจดีย์มีอายุอยู่ที่ประมาณ 1,100-1,500 ปี ซึ่งก็ยังน่าทึ่งอยู่ดีที่เจดีย์ยังคงสมบูรณ์ได้มาถึงทุกวันนี้

การที่เจดีย์ยังคงสมบูรณ์เช่นนี้มาจากความอุตสาหะในการดูแลรักษาของชาวพม่านั่นเอง

ชาวไทยมักเคยได้ยินมาว่าเจดีย์ชเวดากองสร้างขึ้นหรือซ่อมแซมโดยทองคำที่กองทัพพม่านำไปจากอยุธยา แต่เรื่องนี้ไม่มีมูลเลยในเชิงประวัติศาสตร์ ไม่มีหลักฐานใดทั้งฝ่ายไทยและพม่าที่กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว เจดีย์ชเวดากองเองก็เป็นเจดีย์ทองคำมานานหลายร้อยปีก่อนที่อยุธยาจะถูกสร้างขึ้นด้วยซ้ำไป

ในปัจจุบันชาวพม่าเองก็ยังเดินทางไปสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากองอยู่เป็นประจำ บรรยากาศใกล้กับพระมหาเจดีย์เงียบสงบมากเหมาะแก่การนั่งสมาธิและสวดมนต์ ช่วงกลางคืนองค์เจดีย์จะเหลืองอร่ามราวกับว่าเปล่งรัศมีออกมาอย่างเต็มเปี่ยม

2. พระธาตุอินทร์แขวน

พระธาตุอินทร์แขวนหรือพระเจดีย์ไจท์ถิโย (Kyaiktiyo Pagoda) เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในรัฐมอญของพม่า ลักษณะของพระเจดีย์แตกต่างออกไปจากพระเจดีย์อื่นๆ ในพม่า เพราะว่ารูปทรงเป็นหินก้อนใหญ่ที่เหมือนจะตกสู่ขุนเขาเบี้องล่าง แต่ตัวพระเจดีย์กลับตั้งอยู่บนแนวเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าตัวเจดีย์ถูกสร้างขึ้นบนหินก้อนนี้เมื่อใด

พระธาตุอินทร์แขวน By Wetstew – Own work, CC BY-SA 4.0,

สาเหตุที่พระเจดีย์ได้ชื่อว่า “อินทร์แขวน” เพราะการท้าทายแรงโน้มถ่วงของพระเจดีย์ ทำให้ดูเหมือนว่าพระอินทร์ใช้อิทธิฤทธิ์แขวนองค์พระธาตุไม่ให้หล่นลงไปสู่ด้านล่าง

การเดินทางไปยังพระธาตุอินทร์แขวนจัดว่ายากถ้าเทียบกับพระเจดีย์อื่นๆ เพราะว่าต้องทำถึง 3 ขั้นตอน

ขั้นแรกเดินทางออกไปนอกเมืองไปยังจุดขึ้นเขาไจท์ถิโย

ขั้นที่สองเดินเท้าขึ้นเขา ขึ้นรถกระบะ หรือ ให้คนหามขึ้นไปยังบริเวณที่พัก

ขั้นที่สาม เดินขึ้นจากที่พักขึ้นบันไดไปยังพระธาตุ

บริเวณพระธาตุอินทร์แขวนมีลานใหญ่พอสมควรให้ศาสนิกได้นั่งสมาธิและสวดมนต์ทั้งวันทั้งคืน ตามธรรมเนียมแล้วนักท่องเที่ยวจะมาขึ้นเขามาสักการะพระธาตุแห่งนี้สามครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล ครั้งแรกขึ้นไปสักการะทันทีเมื่อมาถึง ครั้งที่สองในเวลาเย็น ครั้งที่สามหรือครั้งสุดท้ายในตอนเช้า ทั้งนี้ในช่วงเย็นและช่วงเช้ามีลมแรงและมีอากาศหนาวเย็น ผู้มาสักการะควรจะเตรียมเสื้อมาใส่เพื่อกันหนาวไว้ด้วย

ตามกฎระเบียบแล้ว ผู้ชายสามารถเดินเข้าไปสักการะที่องค์พระธาตุได้ แต่ผู้หญิงไม่สามารถทำได้นอกจากยืนสักการะอยู่ที่นอกรั้วเท่านั้น

3. พระธาตุมุเตา

พระธาตุมุเตาหรือพระเจดีย์ชเวมอดอว์ (Shwemawdaw Pagoda) เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในประเทศพม่าอย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งแต่โบราณ กษัตริย์พม่ามักจะเดินทางไปสักการะพระเจดีย์ดังกล่าวก่อนที่จะยกกองทัพออกไปรบ

พระเจดีย์ชเวมอดอว์ By Vera & Jean-Christophe from Europe – Pagoda sunbathing, Bago, CC BY-SA 2.0,

พระเจดีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองพะโค คนไทยมักรู้จักเมืองนี้ในนาม “หงสาวดี” เมืองแห่งนี้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิพม่าในสมัยของพระเจ้าบุเรงนอง

พระเจดีย์ชเวมอดอว์สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 ทำให้ตัวเจดีย์มีอายุมากกว่าพันปี ด้วยความที่ดินแดนพม่ามีแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ทำให้พระเจดีย์ได้รับความเสียหายไม่น้อย แต่การซ่อมแซมด้วยความศรัทธาของชาวพม่า ทำให้พระเจดีย์แห่งนี้กลับมาสวยงามและยิ่งใหญ่เช่นเดิม

เชื่อกันว่าด้านในของพระเจดีย์มีพระเขี้ยวแก้วและพระเกศาของพระพุทธเจ้า และมีสิ่งของที่กษัตริย์มอญและพม่าในอดีตถวายเพื่อสักการะพระเจดีย์แห่งนี้ เช่นมงกุฎที่ถวายโดยพระเจ้าบุเรงนองเป็นต้น

4. พระมหามัยมุนี

พระมหามัยมุนี หรือพระพุทธรูปมหามุนี (Mahamuni Buddha) เป็นหนึ่งใน 5 มหาบูชาสถานของประเทศพม่า ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระมหามัยมุนี ในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองหลวงแห่งสุดท้ายของพม่าก่อนตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ

พระมหามัยมุนี By Wagaung , CC BY-SA 3.0,

ตำนานเกี่ยวกับองค์พระพุทธรูปนี้มีมากมาย ยกตัวอย่างเช่นมีความเชื่อว่าองค์พระพุทธรูปมีชีวิต เพราะพระพุทธเจ้าได้เคยมอบลมหายใจของพระองค์ให้กับองค์พระพุทธรูป บ้างว่าประทานพลังพิเศษให้เป็นตัวแทนของพระองค์

ในแง่ของประวัติศาสตร์แล้ว พระพุทธรูปองค์นี้ถูกสร้างโดยชาวยะไข่ (Arakan) ไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีการสร้างพระพุทธรูปเมื่อใด แต่ตัวพระพุทธรูปน่าจะมีอายุมากกว่า 1,000 ปี และถูกสร้างตามศิลปะยะไข่โบราณที่งดงามมาก

เดิมทีองค์พระพุทธรูปอยู่ที่ยะไข่ แต่หลังจากพระเจ้าโบดอพญา (พระเจ้าปดุง) พิชิตยะไข่ได้จึงมีรับสั่งให้นำพระมหามัยมุนีจากยะไข่มายังอมรปุระ เมืองหลวงของพม่าในเวลานั้น องค์พระพุทธรูปจึงถูกตัดเป็นชิ้นๆ และนำมาประกอบใหม่ในดินแดนพม่า

ต่อมาในสมัยพระเจ้ามินดง พม่าได้ย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่มัณฑะเลย์ (ไม่ไกลจากอมรปุระเดิม) องค์พระพุทธรูปจึงอยู่ที่มัณฑะเลย์มาจนถึงทุกวันนี้

เนื่องจากความเชื่อที่ว่าพระพุทธรูปองค์นี้มีชีวิต ทุกเช้าในเวลาประมาณตี 4 จะมีพิธีเช็ดใบหน้าของพระมหามัยมุนี ปวงชนชาวพม่าจะเดินทางมาสักการะพระพุทธรูปองค์นี้ด้วยความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างสูงสุด

5. พระเจดีย์ชเวซิกอง

พระเจดีย์ชเวซิกอง (Shwezigon Pagoda) เป็นมหาบูชาสถานของพม่าที่ตั้งอยู่ในเมืองพุกาม เมืองหลวงเก่าของอาณาจักรพุกามโบราณและเมืองที่มีมีเจดีย์นับพันจนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทะเลเจดีย์”

พระเจดีย์ขเวซิกอง By ReflectedSerendipity – Bagan, Myanmar, CC BY-SA 2.0,

ตัวพระเจดีย์ชเวซิกองเก่าแก่มากเพราะเริ่มสร้างในสมัยพระเจ้าอโนรธา (Anawratha) แต่เสร็จในปี ค.ศ.1102 หรือในรัชกาลถัดมา ทำให้องค์พระเจดีย์อายุมากกว่า 900 ปี

เจดีย์ชเวซิกองเป็นเจดีย์ที่สร้างเป็นทรงระฆังคว่ำที่มีความงดงามมาก และแสดงถึงศิลปะดั้งเดิมและเก่าแก่ของพม่า ซึ่งแตกต่างกับเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุมุเตา และพระธาตุอินทร์แขวนที่เป็นศิลปะมอญ

อย่างไรก็ตาม พระเจดีย์ได้รับความเสียหายหลายครั้งจากแผ่นดินไหว ทำให้ต้องมีการบูรณะครั้งใหญ่หลายครั้ง อย่างครั้งล่าสุดในปี ค.ศ.1975 ทำให้ต้องมีการบริจาคทรัพย์สินมากมายจากทั้งในและนอกพม่าเพื่อซ่อมแซมองค์พระเจดีย์ให้กับมาสวยงามเหมือนเดิม

เชื่อกันว่าภายในพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุและพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธเจ้า ดังนั้นองค์พระเจดีย์จึงศักดิ์สิทธิ์ และมีตำนานความมหัศจรรย์อยู่หลายอย่างด้วยกัน ชาวพม่าศรัทธาในองค์พระเจดีย์มาก ทำให้มีผู้มาแสวงบุญเดินทางมาที่พระเจดีย์ทุกวัน

บทส่งท้าย

ท่านที่สนใจเดินทางไปพม่าควรจะมีปูชนียสถานทั้งห้าอย่างน้อย 1 แห่งโดยเฉพาะพระมหาเจดีย์ชเวดากองเป็นส่วนหนึ่งของทริป มิฉะนั้นท่านจะพลาดสิ่งดีๆ ในดินแดนพม่าไปเยอะเลยครับ

สำหรับท่านที่ต้องการชมทั้งห้าศาสนสถานในทริปเดียว สามารถทำได้เช่นเดียวกัน แต่จะต้องบินในประเทศอย่างน้อย 1 ครั้ง เพราะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระธาตุอินทร์แขวน และพระธาตุมุเตาอยู่ทางตอนใต้ของพม่า ส่วนพระมหามัยมุนีและพระเจดีย์ชเวซิกองอยู่ทางตอนเหนือของพม่า

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!