ประเทศอุซเบกิสถาน (Uzbekistan) เป็นประเทศที่คุ้นเคยอาจจะไม่รู้จักเท่าไรนัก เพราะเป็นประเทศที่เกิดขึ้นมาใหม่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตในไม่กี่สิบปีนี้เอง
แต่จริงๆ แล้วเมืองต่างๆ ที่เป็นประเทศอุซเบกิสถานในปัจจุบันนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานนับพันปี เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสำคัญในเส้นทางสายไหมที่เป็นเส้นทางค้าขายอันดับหนึ่งของโลกยุคโบราณเมื่อสองพันปีก่อน

ดังนั้นอุซเบกิสถานจึงมีเมืองสวยๆ และเก่าแก่หลายแห่งที่น่าจะไปเยี่ยมเยือน จะมีเมืองใดบ้าง ติดตามได้ในโพสนี้เลยครับ
หมายเหตุ: สำหรับท่านที่เคยอ่านเรื่อง “บาเบอร์ ปฐมจักรพรรดิโมกุล” ของ Victory Tale ท่านน่าจะคุ้นเคยกับชื่อเมืองเหล่านี้เป็นอย่างดี
1. ทัชเคนท์
ทัชเคนท์ (Tashkent) เป็นเมืองหลวงของประเทศอุซเบกิสถาน ในอดีตทัชเคนท์เคยเป็นเมืองหลวงของรัฐข่านของราชวงศ์ติมูริดที่รุ่งเรืองมาก่อน บาเบอร์ ปฐมจักรพรรดิแห่งราชวงศ์โมกุลเองก็เคยหลบหนีภัยมายังเมืองแห่งนี้
ปัจจุบันเมืองทัชเคนท์มีประชากรถึงสี่ล้านคน ทำให้มันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคเอเชียกลาง แต่ทว่าในแง่ของการท่องเที่ยว ทัชเคนท์กลับไม่เป็นที่สนใจเท่าไรนัก นักท่องเที่ยวมักจะเลือกไปเมืองอื่นๆ ในเส้นทางสายไหมโบราณอย่างซามาร์คันด์ (Samarkand) มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ทัชเคนท์เองก็มีสถานที่ที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น มัสยิดใหญ่ Hazart Imam ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองทัชเคนท์แห่งนี้ สถานที่แห่งนี้มีมัสยิดหลายหลังที่มีโดมสีเทอร์คอยซ์อันประณีตและสวยงาม ภายในห้องสมุดของมัสยิดยังมีหนึ่งในพระคัมภีร์อัลกุรอ่านฉบับที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมีสิ่งที่เชื่อกันว่าเป็นเส้นผมของศาสดามูฮัมหมัดด้วย

นอกจากนี้ทัชเคนท์ยังมีตลาดขนาดใหญ่ของเมืองอย่าง Chorsu Bazaar ที่มีอายุหลายร้อยปี ในปัจจุบันมันยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียกลาง นักท่องเที่ยวสามารถจับจ่ายซื้อของอย่างผลไม้ ขนม หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าหรือของเย็บปักถักร้อยเพื่อเป็นของฝากได้ที่ตลาดแห่งนี้
ที่ทัชเคนท์นี้ นักท่องเที่ยวสามารถลิ้มลองอาหารแบบเอเชียกลางแท้ๆ ได้ อาทิเช่นอาหารแบบอุซเบคที่เรียกว่า Plov อาหารชนิดนี้พูดง่ายๆ คือ ข้าวผัดกับเนื้อสัตว์และผักในไขมันแกะ รสชาติเป็นอย่างไรคงต้องไปลองดูเองแล้วละครับ
2. ซามาร์คันด์
ซามาร์คันด์ (Samarkand) เป็นเมืองเก่าแก่มาก ตัวเมืองมีอายุถึงเกือบสี่พันปี ทำให้ประวัติศาสตร์ของเมืองยาวนานมาก
ในอดีตซามาร์คันด์เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของเส้นทางค้าขายอย่างเส้นทางสายไหม ทำให้เมืองแห่งนี้ร่ำรวยมาก และเป็นจุดนัดพบสำคัญของหลากหลายอารยธรรม
ซามาร์คันด์ถูกครอบครองโดยหลายจักรวรรดิตั้งแต่จักรพรรดิเปอร์เซีย มาซิโดเนีย อาหรับ มองโกล ฯลฯ
ติมูร์ หรือทาเมอร์เลนเคยสถาปนาซามาร์คันด์เป็นเมืองหลวงของจักรพรรดิของเขาในช่วงศตวรรษที่ 14 ทำให้ซามาร์คันด์รุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีก
ในช่วงศตวรรษที่ 15 บาเบอร์พยายามเข้าครอบครองเมืองแห่งนี้ถึงสามครั้ง แต่ทุกครั้งเขาล้วนแต่ประสบความสำเร็จเป็นเวลาสั้นๆ และต้องเสียซามาร์คันด์กลับไปให้กับศัตรูโดยตลอด ความล้มเหลวในการครอบครองซามาร์คันด์ทำให้บาเบอร์ไปรุกรานอินเดียและไม่กลับมาเอเชียกลางอีกเลย
ต่อมาซามาร์คันด์ตกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียในศตวรรษที่ 19 และเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตจนกระทั่งโซเวียตล่มสลายในปี ค.ศ.1991

ปัจจุบันซามาร์คันด์เป็นเมืองอันดับต้นๆ ของอุซเบกิสถานที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน สถานที่ทางประวัติศาสตร์ในเมืองนี้มีอยู่มากมาย อาทิเช่นจัตุรัส Registan หนึ่งในจัตุรัสที่ได้รับการยกย่องว่างดงามที่สุดในโลก และเป็นเพชรเม็ดงามของสถาปัตยกรรมยุคกลาง
ด้วยความที่ซามาร์คันด์เป็นเมืองหลวงเก่าของจักรวรรดิติมูริด ทำให้ร่างของติมูร์ นักรบและอามีร์ผู้ยิ่งใหญ่ผู้ฝังอยู่ที่สุสาน Guri Amir Mausoleum ที่เมืองซามาร์คันด์แห่งนี้เอง สุสานแห่งนี้มีอายุหลายร้อยปี และได้รับการตกแต่งด้วยหยกเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก ตัวสุสานถูกตบแต่งอย่างวิจิตรทั้งด้านนอกและด้านใน ทำให้ควรค่าแก่การมาชมเป็นอย่างยิ่ง

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกตาและน่าไปชมคือ หอดูดาวของ Ulugh Beg (Ulugh Beg Observatory) Ulugh Beg เป็นกษัตริย์พระองค์หนึ่งของราชวงศ์ติมูริดที่สนใจในวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์อย่างมาก

หอดูดาวแห่งนี้เป็นหอดูดาวที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นสิ่งที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของโลกมุสลิมได้เป็นอย่างดี
อีกแห่งที่ควรค่าแก่การไปเยือนอย่างมากคือ มัสยิด Bibi-Khanym หลายร้อยปีก่อนมัสยิดแห่งนี้เคยเป็นมัสยิดที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดในโลกมุสลิมแห่งหนึ่ง เพราะมันว่าถูกสร้างโดยตัวของติมูร์ที่เอาชนะดินแดนต่างๆ ด้วยความเก่งกาจ
แต่ด้วยเวลาที่ผ่านไปและปราศจากการดูแลรักษาที่ดีพอ ทำให้มันเสื่อมโทรมอย่างมาก จนกระทั่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวในช่วงปลายศตวรรษที่ 19

อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณยังปรากฏให้เห็นอยู่มาก ปัจจุบันรัฐบาลอุซเบกิสถานกำลังบูรณะมัสยิดดังกล่าวให้กลับมาสวยงามดังเดิม
นอกจากสถานที่ 4 แห่งนี้แล้ว ซามาร์คันด์ยังมีมัสยิดและสุสานสวยๆ ให้เยี่ยมชมอีกมากมาย เช่น Shah-i-Zinda สุสานเก่าแก่ที่มีอายุนับพันปี หรือถ้าเบื่อศิลปะมุสลิมแล้ว ซามาร์คันด์ยังมีซากเมืองโบราณ Afrasiyab เมืองเก่าของซามาร์คันด์อายุสองพันปีที่ถูกทำลายโดยกองทัพมองโกลในช่วงศตวรรษที่ 13 และตลาด Siyob Bazaar ที่ขายสินค้าหลากหลายนานาชนิดจากภูมิภาคแห่งนี้ให้เที่ยวชมได้อีก
3. บูคารา
บูคารา (Bukhara) เป็นเมืองสำคัญอีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคแห่งนี้ เมืองนี้มีอายุนานถึงสามพันปี และเป็นเมืองในเส้นทางสายไหมเช่นเดียวกับซามาร์คันด์ บูคารามีโบราณสถานมากมาย บ้างว่ามากถึง 140 แห่งที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม
ปัจจุบันบูคาราเองยังมีย่านเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้มาจนถึงทุกวันนี้

สถานที่แห่งแรกที่น่าสนใจคือ สุสาน Samanid (Samanid Mausoleum) สุสานแห่งนี้เป็นสุสานเก่าแก่ที่มีอายุพันกว่าปี จุดเด่นของสุสานแห่งนี้คือ มันมีรูปลักษณ์ที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงกับสุสานทั่วไปของชาวมุสลิม เพราะมีส่วนประกอบหลายอย่างที่คล้ายกับวัดบูชาไฟเดิมของศาสนาโซโรแอสเตอร์

สุสาน Samanid เป็นโบราณสถานแห่งเดียวที่เหลือรอดมาได้จากยุคศตวรรษที่ 9-10 เพราะที่เหลือถูกพวกมองโกลทำลายไปหมดแล้ว สาเหตุที่มันรอดมาได้เพราะว่ามันถูกฝังกลบอย่างสมบูรณ์ในทะเลโคลน ทำให้พวกมองโกลมองไม่เห็นมัน
สถานที่ท่องเที่ยวต่อไปที่ต้องไปชมคือ The Ark of Bukhara หรือป้อมปราการใหญ่ของ Bukhara รูปทรงของมันในปัจจุบันทำให้ป้อมปราการแห่งนี้ดูเหมือนตั้งอยู่บนภูเขา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ ตัวป้อมผ่านการสร้างทับหลายต่อหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้ ข่านหรือสุลต่านในยุคหลังจะสร้างป้อมปราการทับของเดิม เกิดเป็นป้อมปราการใหม่ เมื่อทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้ตัวกำแพงสูงขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนว่าอยู่บนภูเขา
ใกล้กับป้อมปราการแห่งนี้มีมัสยิดแห่งหนึ่งชื่อว่า Bolo Khauz Mosque ซึ่งเป็นมัสยิดที่เก่าแก่และมีเสาที่สวยงาม ในบริเวณมัสยิดมีสระน้ำอยู่ด้วย

ถ้าถามว่ามัสยิดกับสระน้ำที่ไหนเก่าแก่กว่ากัน คำตอบคือสระน้ำเก่าแก่กว่าอย่างแน่นอน เพราะว่ามันอยู่มาเป็นพันปีแล้ว ส่วนมัสยิดนี้เพิ่งสร้างในปี ค.ศ.1712
สถานที่ต่อมาเป็นระดับแลนด์มาร์กของเมืองเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ ศาสนสถาน Po-i-Kalan ซึ่งมีจุดสำคัญอยู่ที่หอคอย Kalyan (Kalyan Minaret) อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบูคารา

ตัวหอคอยนี้โดดเด่นอย่างชัดเจนภายในย่านเมืองเก่า ปัจจุบันมันมีอายุมากถึง 900 ปี หอคอยแห่งนี้มีหน้าที่หลายอย่างตั้งแต่ใช้ดูลาดเลา ส่งสัญญาณให้กับคาราวาน หรือแม้กระทั่งใช้ประหารชีวิตนักโทษด้วยการโยนพวกเขาลงมาสู่พื้นเบี้องล่าง
ภายในศาสนสถานแห่งนี้มีมัสยิดขนาดใหญ่ไม่แพ้ที่ Bibi-Kharym Mosque นั่นคือมัสยิด Kalyan ตัวมัสยิดจุศาสนิกได้มากถึง 12,000 คน และเป็นอีกหนึ่งมัสยิดล้ำค่าของโลกมุสลิม

อีกสถานที่ที่น่าสนใจอีกแห่งนึงคือ Lyab-i Hauz หรือสระน้ำเก่าแก่ของเมืองบูคารา

เดิมทีบูคาราเป็นเมืองที่มีสระน้ำจำนวนมากมาตั้งแต่โบราณ แต่ในยุคโซเวียตได้ถมบ่อไปจนเกือบหมด เพราะว่ามันทำให้เกิดโรคระบาด เหลือแต่เพียงสระน้ำแห่งนี้และอีกไม่กี่แห่งเท่านั้น รายรอบสระน้ำยังมีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ที่สวยงามอยู่รายรอบด้วย
นอกเหนือจากที่ผมนำเสนอไปแล้ว บูคารายังมีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิเช่น Sitorai Mokhi-Khosa Palace หรือพระราชวังของเอมีร์คนสุดท้ายของบูคารา ผู้เป็นสหายสนิทคนหนึ่งของซาร์นิโคลัสที่ 2 และเคยมอบช้างให้กับซาร์แห่งรัสเซียด้วย
เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆในอุซเบกิสถาน บูคารายังมีมัสยิด สุสาน และตลาดที่น่าสนใจ ตัวตลาดนั้นมีชื่อเสียงนานกว่าสองพันปี เพราะเป็นจุดแวะพักของกองคาราวานจากอินเดียหรือจีนไปยังยุโรป
ส่งท้าย
ประเทศอุซเบกิสถานเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่มากมาย ดังนั้นนอกจากเมืองทั้งสามด้านบนแล้ว อุซเบกิสถานยังมีเมืองที่น่าสนใจอื่นๆ มากมายอย่างเช่นเมือง Khiva เมืองเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี เมือง Shahrisabz เมืองที่ติมูร์ ผู้พิชิตแห่งเอเชียกลางเกิด หรือเมือง Andijan เมืองในหุบเขาเฟอร์กานาที่เป็นบ้านเกิดของบาเบอร์

เมืองเหล่านี้ไม่อาจจะเทียบความยิ่งใหญ่กับบูคาราและซามาร์คันด์ได้ แต่มีความน่าสนใจอยู่มากถ้านักท่องเที่ยวเหลือเวลาในอุซเบกิสถาน