เทคโนโลยี3 แอพพลิเคชั่นที่ช่วยคุณ "พบแพทย์" ได้โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล

3 แอพพลิเคชั่นที่ช่วยคุณ “พบแพทย์” ได้โดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล

ทุกวันนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาหนึ่งที่คนทั่วไปมักเผชิญเป็นประจำคือ รู้สึกป่วยเล็กๆ น้อยๆ หรือมีความกังวลใจว่าจะป่วยเป็นโน่นนี่ ในใจเราก็อยากจะพบแพทย์เพื่อสอบถามดูว่าเราป่วยเป็นอะไรหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เพราะไม่อยากไปโรงพยาบาล

การเดินทางไปโรงพยาบาลเป็นเรื่องที่ปวดเศียรเวียนเกล้าของคนหลายๆ คน เพราะหลายๆ สาเหตุด้วยกัน อาทิเช่น

  1. ขี้เกียจเดินทาง
  2. กำลังยุ่งไม่อยากเสียเวลาทำงาน
  3. เบื่อรอคิวที่โรงพยาบาล (โดยเฉพาะโรงพยาบาลรัฐ)ที่ยาวมาก และเต็มไปด้วยผู้ป่วย
  4. กลัวโรงพยาบาล

หรือบางคนอาจจะอยากเลือกที่แพทย์ผู้ให้คำปรึกษา เช่นอยากปรึกษาอาจารย์แพทย์ ไม่อยากตรวจกับหมอจบใหม่เป็นต้น

ในปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้าน Telemedicine ได้พัฒนาขึ้นมาก ทำให้คุณสามารถจองนัดกับแพทย์เฉพาะทางระดับผู้เชี่ยวชาญได้กับแอพพลิเคชั่น (หรือ “app”) หรือบางครั้งสามารถขอคำปรึกษาได้ในทันทีด้วย ค่าใช้จ่ายโดยรวมก็ถือว่าต่ำกว่าโรงพยาบาลเอกชนทั่วไปมาก

นอกจากนี้คุณยังสามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์ได้ ถ้าคุณอยู่ในชนบทที่ไม่มีโรงพยาบาลอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ถึงแม้คุณจะใช้ app เหล่านี้ แต่ถ้าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องการให้คุณรับการตรวจ คุณก็ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลอยู่ดีครับ

1. Raksa

Raksa เป็นแอพพลิเคชั่นแรกๆที่ให้บริการการปรึกษาแบบออนไลน์ ปัจจุบันมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมงานกับ Raksa มากถึง 500 คน และมีผู้ป่วยที่ใช้บริการ app นี้มากถึง 250,000 คนเข้าไปแล้ว โดยเฉลี่ยแล้วแพทย์ของ Raksa ล้วนแต่มีประสบการณ์ในโรงพยาบาลมาแล้วถึง 7 ปีด้วยกัน

คุณสามารถขอรับคำปรึกษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง (แต่ดึกๆ แพทย์ย่อมออนไลน์น้อยหน่อยเป็นปกติ)

วิธีการใช้งานง่ายมากๆ นั่นคือเพียงแค่ลงแอพพลิเคชั่น และกรอกประวัติเล็กน้อย คุณก็เริ่มใช้งานได้แล้ว

ขั้นตอนการปรึกษาแพทย์มีดังต่อไปนี้

  1. คุณจะต้องเลือกแพทย์ที่คุณต้องการจะปรึกษา แพทย์บางคนจะออนไลน์อยู่ทำให้คุณสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ในทันที แต่ถ้าคุณมีแพทย์ที่ต้องการอยู่แล้ว แต่ไม่ออนไลน์ คุณสามารถตั้งให้ตัว app ให้แจ้งเตือนได้ถ้าแพทย์ท่านนั้นออนไลน์ ตัว app จะแสดงเรตติ้ง รีวิว ประวัติของแพทย์ และความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ให้เราเลือกด้วย
  2. ถัดมาคุณต้องเลือกวิธีการปรึกษาว่าจะเลือกเป็นแบบแชท โทรผ่าน app หรือ วิดีโอคอล
  3. พิมพ์อธิบายอาการ หรือแนบรูป
  4. เลือกระยะเวลาที่จะปรึกษา และชำระเงิน
  5. รอแพทย์ตอบรับ และเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์

จากรูปด้านล่าง เราจะเห็นว่า เราสามารถเลือกแพทย์เฉพาะทางที่เราต้องการได้ ถ้าไม่เข้าใจคำศัพท์ทางการแพทย์ อย่างเช่น “GP” หรือ “Urology” ภายใน app จะอธิบายไว้แล้วอย่างเรียบร้อยครับ

Raksa

นอกจากนี้ถ้าแพทย์แนะนำยาให้คุณเอาไปรับประทาน ตัว app ยังสามารถสั่งให้คุณได้โดยทันทีด้วย ผ่านทางฟังก์ชัน e-pharmacy

สำหรับค่าบริการของ app อยู่ที่ 200 บาทต่อ 15 นาที ค่ายาเองก็ราคาเป็นมิตรกว่าโรงพยาบาลเอกชนทั่วไปมาก นอกจากนี้ข้อมูลการตรวจรักษาของคุณจะถูกเก็บไว้ใน Cloud ทำให้คุณสามารถเปิดดูย้อนหลังได้ตลอดเวลา

ไม่เพียงเท่านี้คุณยังสามารถส่งผลเลือด ผลการตรวจต่างๆ ให้กับแพทย์ของ Raksa ให้ดูได้ด้วย สิ่งนี้เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่ต้องการ second opinion หรือ third opinion ก่อนที่จะเลือกลงมือรักษา

ส่วนผู้ที่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคที่คุณเป็นอยู่ คุณสามารถอ่านบทความที่เขียนโดยแพทย์เชี่ยวชาญได้ใน app เช่นเดียวกัน

ด้วยประโยชน์เหล่านี้ Raksa เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากเลยสำหรับการพบแพทย์ครับ

หลด app Raksa ได้ที่

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Doctor Raksa

2. Ooca

ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคเครียด โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวลมากยิ่งขึ้น โรคเหล่านี้ต้องรักษาโดยจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่หลายคนกลับกังวล เพราะกลัวว่าจะถูกปรามาสว่าเป็น “บ้า” ทำให้ปฏิเสธที่จะเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง

Ooca เป็น app ที่เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ เพราะคุณสามารถพูดคุยกับจิตแพทย์ได้ผ่านทาง app คุณจึงไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลจิตเวชให้รู้สึกกังวล

วิธีการใช้งานของ Ooca คล้ายกับ Raksa นั่นคือคุณจะต้องเลือกแพทย์หรือนักจิตวิทยาคนใดคนหนึ่ง ซึ่งแพทย์และนักจิตวิทยาจะมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันออกไป บางคนจะเชี่ยวชาญทางด้านปัญหาความเครียด โรคซึมเศร้า ส่วนบางคนอาจจะเชี่ยวชาญทางด้านการเลี้ยงดูบุตร

ในการเลือกคุณย่อมต้องเลือกแพทย์หรือนักจิตวิทยาที่ชำนาญในด้านที่คุณกำลังมีปัญหาอยู่

เกือบลืมไปถ้าคุณมีปัญหาความรัก หรือปัญหาการทำงานสามารถปรึกษากับ Ooca ได้ด้วยนะครับ!

แพทย์เหล่านี้อาจจะออนไลน์อยู่หรือไม่ก็ได้ แต่ส่วนมากแล้วคุณจะต้องจองเวลาไว้ครับ

เวลาการให้คำปรึกษาที่ Ooca จะอยู่ที่ 30-60 นาทีต่อครั้งแล้วแต่คุณจะเลือก ค่าใช้จ่ายใน app จะอยู่ที่ 1,000-1,500 บาทต่อ 30 นาทีครับ

ไม่เพียงเท่านี้ Ooca ยังมีแบบทดสอบความเครียดให้คุณลองทำดูด้วยนะครับ

ดาวน์โหลด app ได้ที่

หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ooca

3. See Doctor Now

See Doctor Now เป็นอีก app หนึ่งที่กำลังมาแรงมากๆ ลักษณะของ app คล้ายคลึงกับ Raksa นั่นคือสามารถขอคำปรึกษาได้ทุกโรคผ่านทางแอพได้ตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ดีกระบวนการของ See Doctor Now จะต่างกับ Raksa เล็กน้อย นั่นคือหลังจากที่คุณบอกเล่าอาการเบี้องต้นแล้ว คุณจะได้พูดคุยกับพยาบาลวิชาชีพก่อนเพื่อสอบถามอาการเพิ่มเติม และชี้แนะว่าคุณควรปรึกษาแพทย์ท่านใด หลังจากนั้นพยาบาลจะแนะนำแพทย์ที่เหมาะสมให้กับคุณ

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คลิปด้านล่าง

สำหรับค่าใช้จ่าย ถ้าคุณต้องการปรึกษาเฉพาะกับพยาบาลวิชาชีพเท่านั้น คุณสามารถทำได้ฟรี แต่ถ้าต้องการพบแพทย์ คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่าย 490 บาทต่อ 10 นาที

อย่างไรก็ดี See Doctor Now มีแบบสมาชิกแบบ Premium Member ให้คุณได้เลือกสมัครในราคา 2,990 บาทต่อปี ในราคานี้คุณสามารถปรึกษาแพทย์ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งครับ

ดาวน์โหลด app ได้ที่

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ See Doctor Now

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!