เวนิส (เวนิส) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศอิตาลี เวนิสโดดเด่นเพราะความเป็นเกาะ และชาวเมืองต่างใช้เรือสัญจรไปมา แต่ไม่ใช่ว่าภายในเมืองจะมีเพียงแค่นั้น เมืองเวนิสยังมีสถาปัตยกรรมหลายแห่งที่เลื่องลือในเรื่องความสวยงามในระดับโลก
เราไปดูกันดีกว่าครับว่าภายในเมืองเวนิสมีสถานที่ไหนที่น่าไปเที่ยวบ้าง

แนะนำ Venice
แม้ว่าในปัจจุบันจะเป็นเกาะเล็กๆในประเทศอิตาลี แต่ในอดีต เวนิสหรือ Venice เคยเป็นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ในนาม (La Serenissima, Most Serene Republic of Venice)
ครั้งหนึ่ง เวนิสเคยปกครองภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลีทั้งหมด ดินแดนบางส่วนในบอลข่านและกรีซ รวมไปถึงเกาะสำคัญในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่าง เกาะโรดส์ เกาะไซปรัส และเกาะครีตด้วย
นอกจากนี้เวนิสยังเป็นคู่ปรับสำคัญของอาณาจักรออตโตมันในการแย่งชิงอำนาจทางทะเลในช่วงศตวรรษที่ 14-16 อีกต่างหาก ในช่วงเวลานั้นอาจเรียกได้ว่าเวนิสเป็นมหาอำนาจของยุโรปเลยก็ว่าได้ ซึ่งทุกวันนี้ความยิ่งใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าวยังปรากฏให้เห็นจากสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่หลายแห่งในตัวเมืองครับ
อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน เมืองเวนิสประสบกับปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในอีกไม่กี่ทศวรรษ เวนิสอาจจะจมลงไปอย่างถาวรก็เป็นได้
เพราะฉะนั้นคุณควรจะรีบไปเที่ยวเวนิสก่อนที่มันจะจมครับ 555
1. St. Mark’s Basilica
St. Mark’s Basilica เป็นมหาวิหารในศาสนาคริสต์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ความสวยงามของมันได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลเข้ามาเมืองแห่งนี้ทุกปี

ในอดีตมหาวิหารแห่งนี้เคยเป็นวิหารส่วนตัวของโดช์ (Doge) ผู้ปกครองในอดีตของเวนิส ต่อมาที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่เก็บสะสมทรัพย์สมบัติมากมายที่พ่อค้าทั้งหลายหามาได้ในอดีต เช่นงานศิลปะไบแซนไทน์ที่พ่อค้าเหล่านี้ขนมาจากคอนสแตนติโนเปิลก่อนที่เมืองจะแตกเป็นต้น

ถ้าคุณสังเกตไปยังเสาของโบสถ์ คุณจะพบว่ามันถูกตบแต่งอย่างอลังการสุดๆ ด้วยโมเสกทองคำจำนวนมากมาย ซึ่งเป็นจุดดึงดูดสายตาคุณได้อย่างดีเลยครับ
อย่างไรก็ดีไฮไลท์ของมหาวิหารแห่งนี้คือ แท่นบูชาที่เรียกว่า Pala d’Oro ที่สร้างขึ้นจากทองคำและเงินสุกปลั่ง รายรอบแท่นบูชายังประดับประดาด้วยอัญมณีอีกนับพัน ความสวยงามของมันเปล่งประกายออกมาจากระยะไกลเลยทีเดียวครับ
2. St. Mark’s Square
St. Mark’s Square หรือ Piazza San Marco เป็นจัตุรัสที่ตั้งอยู่ติดกับ St. Mark’s Basilica ตัวจัตุรัสเป็นลานกว้างๆ ขนาดใหญ่ไม่กี่แห่งที่เมืองนี้มีอยู่ มันจึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองมาทุกยุคทุกสมัยเลยครับ

ส่วนประกอบสำคัญของจัตุรัสแห่งนี้แน่นอนว่าคือหอคอย Campanile หอระฆังที่สร้างขึ้นจากอิฐแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองเวนิส คุณสามารถขึ้นไปข้างบนเพื่อชมวิวทิวทัศน์ของเมืองเวนิสทั้งเมืองจากข้างบนได้ครับ
3. Grand Canal
ถ้ามาเวนิสแล้วไม่มาเที่ยวคลองคงเหมือนว่าคุณมาไม่ถึงเวนิส ดังนั้น Grand Canal หรือ Canale Grande เป็นสถานที่ที่คุณต้องมาเยือนอย่างแน่นอน

Grand Canal เป็นคลองสายใหญ่ที่ตัดผ่านกลางเมืองเวนิส รายรอบคลองมีบ้านและสิ่งก่อสร้างมากมายที่สวยงามมากตามสไตล์ Venetian Gothic ซึ่งถ้าคุณสังเกตดีๆ แล้วคุณจะเห็นว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ล้วนแต่สร้างขึ้นเหนือคลอง หรือยื่นเข้าไปในคลองทั้งสิ้น นี่เป็นจุดเด่นของสถาปัตยกรรมแบบเฉพาะของเมืองมาตั้งแต่โบราณแล้วครับ
ถ้าคุณมาถึงที่นี่แล้ว คุณไม่ควรพลาดนั่งเรือกอนโดลา และชมสะพานต่างๆ อาทิเช่น Rialto Bridge สะพานแห่งเดียวที่พาดผ่าน Grand Canal ในปัจจุบันสะพานแห่งนี้มีอายุมากกว่า 400 ปีแล้วครับ แต่ก็ยังคงใช้งานอยู่จนถึงทุกวันนี้
4. Doge’s Palace
Doge’s Palace หรือ Palazzo Ducale เป็นพระราชวังเก่าแก่ที่เคยเป็นที่พำนักของโดช์ ผู้ปกครองของเวนิส ผมบอกเลยว่าพระราชวังแห่งนี้สวยงามทั้งข้างนอกและข้างใน

ด้านนอกของพระราชวังสร้างขึ้นด้วยศิลปะสไตล์ Venetian Gothic และได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดของงานศิลปะแขนงนี้ ส่วนด้านในพระราชวังก็ประณีต งดงาม และอลังการไม่แพ้กัน คุณจะได้เห็นผลงานของจิตรกรอันดับต้นๆ ของเวนิสในยุค Renaissance แทบทุกคนเลยครับ
ห้อง Sala Del Collegio มักจะได้รับการกล่าวถึงว่างดงามที่สุดในพระราชวัง เพราะห้องนี้ตบแต่งด้วยทองคำและอัญมณีจำนวนมากมายที่รายล้อมผลงานศิลปะของจิตรกรชื่อดัง นี่เป็นสิ่งแสดงถึงความรุ่งโรจน์ในอดีตของเวนิสได้เป็นอย่างดีครับ
5. Scuola Grande di San Rocco
Scuola Grande di San Rocco เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่รับบริจาคในช่วงศตวรรษที่ 16 ตัวอาคารสร้างขึ้นอย่างประณีตมาก เพราะสร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวทั้งหลัง แถมด้านในยังมีผลงานของศิลปินชาวเวนิสอย่าง Tintoretto อีกด้วย เขาได้รับการว่าจ้างให้มาตบแต่งกำแพงและฝาผนังของตัวอาคาร ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่จัดแสดงผลงานอันสุดยอดของ Tintoretto ไปโดยปริยาย

ถ้าคุณชอบงานศิลปะยุค Renaissance คุณไม่ควรพลาดที่จะมาชมที่นี่สักครั้งครับ
6. Murano
Murano เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของช่างทำแก้วที่มีชื่อของเวนิส งานฝีมือชนิดนี้ได้รับการสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโรมันเลยก็ว่าได้
ต่อมาพวกเขาจะถูกรัฐบาลสั่งให้ย้ายมาอยู่ที่นี่ในช่วงศตวรรษที่ 13 เพราะต้องการเก็บเทคนิคการทำแก้วของให้เป็นความลับ และป้องกันอัคคีภัยด้วยครับ

ถ้าคุณมาถึงที่นี่แล้วอย่าพลาดไปชม Glass Museum หรือพิพิธภัณฑ์แก้วที่รวบรวมแก้วต่างๆ ที่เคยสร้างขึ้นโดยช่างฝีมือของเมืองมาทุกยุคทุกสมัย แก้วบางชนิดมีอายุเก่าแก่ถึง 2,000 ปีหรือว่าในสมัยโรมันโน่นเลยครับ
นอกเหนือจากพิพิธภัณฑ์แล้ว อาคารต่างๆ ในบริเวณนี้ยังเรียงรายกันไปตามคลองอย่างสวยงามมากด้วย บ้านแต่ละแห่งมีสีสันที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นสีส้ม แดง ชมพู เหลือง น้ำตาล ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่ามาถ่ายรูปอย่างยิ่งครับ
7. Ca’ d’Oro
Ca’ d’Oro หรือ Palazzo Santa Sofia เป็นอาคารที่ตั้งอยู่ริม Grand Canal ตัวอาคารเป็นผลงานของ Bartolomeo Bon สถาปนิกและช่างปั้นชาวอิตาเลียน ตัวอาคารแห่งนี้เป็นสไตล์ Venetian Gothic ที่งดงามไม่แพ้ที่ใดในเมือง

ในอดีต Ca’ d’Oro เคยเป็นสถานที่พำนักของชนชั้นสูงในช่วงศตวรรษที่ 15-16 ทำให้การตบแต่งภายในไม่ต่างอะไรกับวัง ซึ่งคุณสามารถเข้าไปชมความงามด้านในได้ครับ
นอกจากนี้ภายในอาคารยังเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่รวบรวมงานเขียนของจิตรกรอิตาเลียนคนสำคัญๆ อย่างเช่น Titian, Bernini และคนอื่นๆ อีกหลายคนครับ
8. Art Museums of Venice
เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในอิตาลี เวนิสมีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมงานศิลปะที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่ง อาทิเช่น
- Gallerie dell’Accademia – เก็บรักษาภาพวาดของศิลปินชาวเวนิสในช่วงยุคศตวรรษ 15-18 และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดในเมือง
- Peggy Guggenheim Collection – เก็บรักษางานศิลปะช่วงยุคต้นศตวรรษที่ 20
- Correr Museum
- Palazzo Fortuny
9. The Venetian Arsenal and Museum of Naval History
Venetian Arsenal (Arsenale di Venezia) เคยเป็นอู่ต่อเรือและท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นมหาอำนาจของเวนิสในท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่เคยมีช่างต่อเรือมากถึง 16,000 คน ทำให้สามารถต่อเรือตามคำสั่งของลูกค้าบางคนได้เสร็จภายในวันเดียว!

ในปัจจุบันคุณสามารถเข้าชมตัวท่าเรือได้ครับ
Museum of Naval History (Museo Storico Navale) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ทางน้ำที่เกี่ยวข้องกับชาวเวนิส คุณสามารถชมเรือโบราณและอาวุธเก่าแก่ได้ที่นี่ครับ ตัวพิพิธภัณฑ์จะอยู่ติดกับ Venetian Arsenal เลยครับ
10. San Giacomo di Rialto
San Giacomo di Rialto เป็นโบสถ์ที่เชื่อกันว่าเก่าแก่ที่สุดในเมืองเวนิส ตัวโบสถ์สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.421 หรือก่อนอาณาจักรโรมันตะวันตกจะล่มสลายเสียอีก อย่างไรก็ดีโบสถ์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันน่าจะเป็นโบสถ์ใหม่ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 11

หน้าตัวโบสถ์มีนาฬิกาขนาดใหญ่ที่มีอายุ 500 ปีตั้งอยู่ แต่มันกลับไม่ตรงเวลาสักเท่าไรนัก ถึงกระนั้นมันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของย่านธุรกิจบริเวณนี้ไปแล้วครับ
รายรอบโบสถ์ยังเป็นถนนคนเดินที่ผู้คนพลุกพล่าน ถ้าคุณสนใจสามารถมาหาซื้อของที่นี่ได้ครับ
[sc name=”travelthai” ][/sc]