พระราชวังต้องห้าม หรือ กู้กง (故宫) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับไฮไลท์ของกรุงปักกิ่ง วังแห่งนี้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงและชิงมานานหลายร้อยปี ด้วยความใหญ่โตมโหฬาร พระราชวังต้องห้ามจึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรจีนได้อย่างดี
อย่างไรก็ดีด้วยความใหญ่โตนี้เอง ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ไม่สามารถเดินเที่ยวไปหมดทุกห้องได้ เนื่องจากเวลามีจำกัด ในโพสนี้ผมจึงจะแนะนำให้ทุกคนทราบว่า ไฮไลท์สำคัญที่คุณต้องชมในพระราชวังแห่งนี้มีที่ไหนบ้าง รวมไปถึงประวัติคร่าวๆ ของพระราชวังแห่งนี้ด้วยครับ
เราไปดูประวัติกันก่อนดีกว่าครับ (สามารถข้ามได้)
รู้จักพระราชวังต้องห้าม (กู้กง)
พระราชวังต้องห้าม (กู้กง) เป็นพระราชวังขนาดยักษ์ที่สร้างขึ้นในรัชกาลหย่งเล่อ จักรพรรดิพระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์หมิงหลังจากที่ย้ายเมืองหลวงมายังปักกิ่ง ตัวพระราชวังใช้แรงงานทั้งหมดอย่างน้อย 1,000,000 คนในการสร้าง และใช้เวลานานถึง 14 ปี การก่อสร้างถึงจะเสร็จสมบูรณ์
ราชสำนักหมิงใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นพระราชวังหลวงจนกระทั่งถึงสมัยฉงเจินฮ่องเต้ที่ราชวงศ์สิ้นสุดลง จักรพรรดิราชวงศ์ชิงที่สืบต่อราชวงศ์หมิงได้ใช้พระราชวังต้องห้ามเป็นพระราชวังหลวงสืบต่อมา จักรพรรดิคนสำคัญอย่าง คังซี หย่งเจิ้ง และเฉียนหลงล้วนแต่ประทับและว่าราชการอยู่ที่นี่ทั้งสิ้น
หลังจากที่ราชวงศ์ชิงล่มสลาย และผู่อี๋ จักรพรรดิองค์สุดท้ายถูกขับออกจากวังในช่วงยุคขุนศึก พระราชวังต้องห้ามถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ และได้รับการดูแลรักษาอย่างดี ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม พวกเรดการ์ดเคยจะบุกเข้าไปทำลายข้าวของในวังแห่งนี้ แต่โจวเอินไหลได้สั่งให้กองทหารกองหนึ่งมารักษาการณ์ไว้ ทำให้พระราชวังต้องห้ามรอดมาได้
ตัวพระราชวังได้รับสถานะเป็นมรดกโลกขององค์กร UNESCO ในปี ค.ศ.1987 หลังจากนั้นพระราชวังต้องห้ามได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของกรุงปักกิ่ง ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวนับสิบล้านคนเดินทางมาเยี่ยมเยือนพระราชวังแห่งนี้
บ่อยครั้งที่มีตำนานเล่าว่าพระราชวังตำนานมีห้องหับรวมทั้งหมดแล้ว 9,999 ห้อง แต่นี่ไม่ใช่เรื่องจริงครับ จริงๆแล้วพระราชวังต้องห้ามมีห้องทั้งสิ้น 8,700 ห้อง สาเหตุที่พระราชวังแห่งนี้มีชื่อว่าพระราชวังต้องห้าม เพราะคนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้ครับ
ถัดไปเรามาดูกันดีกว่า ไฮไลท์ที่พระราชวังต้องห้ามมีอะไรบ้าง
1. เทียนอันเหมิน
จริงๆแล้วเทียนอันเหมินไม่ได้อยู่ในพระราชวังต้องห้าม แต่เทียนอันเหมินเป็นประตูทางเข้าสู่ “หวงเฉิง” หรือเมืองปักกิ่งเก่าในสมัยราชวงศ์ครับ ซึ่งพระราชวังต้องห้าม หรือ กู้กงจะตั้งอยู่ในหวงเฉิงนี้อีกทีหนึ่ง ดังนั้นเทียนอันเหมินจึงเหมือนเป็นประตูหน้าสุดของพระราชวังต้องห้ามไปโดยปริยาย
ผมใส่เทียนอันเหมินไว้ในรายชื่อนี้ด้วยทั้งๆ ที่มันไม่ได้อยู่ในพระราชวังต้องห้ามเพราะ เทียนอันเหมินเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีนที่ใครๆ เห็นก็ทราบทันทีว่าตั้งอยู่ที่ไหน นอกจากนี้เทียนอันเหมินยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงามและชื่อเสียงที่โด่งดังในหน้าประวัติศาสตร์ด้วย ดังนั้นคุณไม่ควรพลาดอย่างแน่นอนเลยครับ
ด้านหน้าของประตูมีรูปประธานเหมาเจ๋อตงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ส่วนลานขนาดใหญ่ด้านหน้าประตูแห่งนี้คือสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี ค.ศ.1989 ครับ
2. Meridian Gate
หลังจากที่คุณเดินผ่านเทียนอันเหมินเข้ามาแล้ว คุณเข้ามาพบกับ Meridian Gate หรือในภาษาจีนว่าหวู่เหมิน ประตูแห่งนี้เป็นประตูทางใต้ของพระราชวังต้องห้าม และเป็นประตูหลักและประตูที่ใหญ่ที่สุดของพระราชวังแห่งนี้ ทั้งสองข้างของประตูจะยื่นออกมาเหมือนกับแขนที่โอบล้อมนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินเข้าสู่วังต้องห้ามครับ
เมื่อคุณเดินมาถึงหน้าประตูแล้ว คุณจะเห็นว่ามีช่องโค้งที่เดินเข้าไปข้างในอยู่ 5 ช่องครับ ช่องโค้งตรงกลางซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดจะถูกใช้โดยจักรพรรดิ (ฮ่องเต้) เท่านั้น นอกจากนี้ในสมัยราชวงศ์ โทษโบยต่างๆ จะมาทำกันที่หน้าหวู่เหมินนี่แหละครับ
หลังจากที่คุณผ่านหวู่เหมินมาแล้ว คุณจะเข้ามาถึงพระราชวังต้องห้ามแล้วครับ
3. Gate of Supreme Harmony
ถ้าคุณเดินตรงอย่างเดียว หลังจากที่คุณผ่าน Meridian Gate (หวู่เหมิน) คุณจะพบกับประตูใหญ่อีกแห่งหนึ่ง นั่นคือ Gate of Supreme Harmony หรือไท่เหอเหมิน ซึ่งเป็นประตูที่จะนำคุณเข้าไปสู่เขตพระราชฐานชั้นนอก
ไท่เหอเหมินเป็นประตูที่ใหญ่ที่สุดในวังต้องห้าม และหลักการก็ใช้เหมือนกับหวู่เหมินนั่นคือ ประตูตรงกลาง ผู้มีสิทธิ์เข้าคือฮ่องเต้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ตัวประตูแสดงถึงความรุ่งโรจน์ของฮ่องเต้และราชวงศ์
นอกจากนี้สิ่งที่สะดุดสายตาคนส่วนใหญ่ที่หน้าประตูแห่งนี้คือ รูปปั้นสิงโตคู่ขนาดใหญ่ ตัวซ้ายจะเป็นตัวเมีย ส่วนตัวขวาจะเป็นตัวผู้ ทั้งสองมันสัญลักษณ์แสดงถึงอำนาจของราชสำนักครับ
4. Hall of Supreme Harmony
Hall of Supreme Harmony หรือไท่เหอเตี้ยน เป็นหนึ่งในสามพระที่นั่งหลักของพระราชวังต้องห้าม พระที่นั่งแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวังต้องห้าม และเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทำจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจีนด้วย อย่างไรก็ดีพระที่นั่งแห่งนี้ยังถือว่าเป็นพระราชฐานชั้นนอกอยู่ครับ
ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่ฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงและชิงใช้ประกอบพิธีราชาภิเษกและพิธีอภิเษกสมรส ในสมัยราชวงศ์หมิง ฮ่องเต้จะว่าราชการจากพระที่นั่งแห่งนี้ครับ แต่ในสมัยราชวงศ์ชิง ฮ่องเต้จะเปลี่ยนไปว่าราชการในพระราชฐานชั้นในแทน เพื่อความสะดวกสบาย และใช้ที่นี่เป็นที่ประกอบพิธีต่างๆ เท่านั้น
คุณสามารถเดินเข้าไปชมด้านในพระที่นั่งได้ คุณจะเห็นบัลลังก์มังกรที่ฮ่องเต้เคยว่าราชการครับ
5. Hall of Preserving Harmony
Hall of Preserving Harmony หรือ เป่าเหอเตี้ยน เป็นพระที่นั่งในพระราชฐานชั้นนอกลำดับสุดท้ายก่อนที่คุณจะเข้าไปสู่พระราชฐานชั้นใน ขนาดของพระที่นั่งแห่งนี้เล็กกว่าไท่เหอเตี้ยน แต่ก็มีบัลลังก์มังกรตั้งอยู่เหมือนกัน
ที่นี่เคยเป็นแค่สถานที่ซักซ้อมพิธีกรรมต่างๆ และใช้เป็นการสอบเข้ารับราชการของเหล่านักเรียนนักศึกษาในยุคราชวงศ์ชิงครับ
6. Palace of Heavenly Purity
Palace of Heavenly Purity หรือ เฉียนฉิงกงเป็นพระที่นั่งที่ใหญ่ที่สุดในเขตพระราชฐานชั้นใน ในสมัยราชวงศ์หมิง ที่นี่จะเป็นสถานที่ประทับส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ โดยแบ่งเป็นห้องนอน 9 ห้อง และมีเตียงมากถึง 27 เตียง สาเหตุที่มีเตียงมากขนาดนี้ เพราะเหตุผลเรื่องความปลอดภัยครับ
แต่ในสมัยราชวงศ์ชิง ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่ที่ฮ่องเต้ประชุมกับเหล่าขุนนาง ดังนั้นที่นี่จึงมีบัลลังก์มังกรตั้งอยู่ด้วย เหนือบัลลังก์มังกรคือแผ่นป้ายที่มีอักษรจีนสี่ตัว (正大光明) ซึ่งแปลว่า “ให้ผู้ทรงคุณธรรมโชติช่วงชัชวาล” ผู้เขียนตัวอักษรทั้งสี่คือซุ่นจื้อ ฮ่องเต้องค์แรกของราชวงศ์ชิงที่ได้ครองบัลลังก์เหนือแผ่นดินจีนครับ
เนื่องจากปัญหาการชิงบัลลังก์ในสมัยคังซี หย่งเจิ้ง ฮ่องเต้ที่ได้ครองราชย์สืบต่อมาจึงใช้แผ่นป้ายนี้ให้เป็นประโยชน์ นั่นคือฮ่องเต้จะเก็บเอกสารลับที่ระบุรายชื่อของรัชทายาทคนถัดไปเอาไว้หลังป้ายแผ่นนี้ ส่วนอีกแผ่นหนึ่งจะเก็บไว้กับตัวตลอดเวลา หลังจากที่หย่งเจิ้งสวรรคตแล้ว พวกขุนนางจะนำเอกสารลับทั้งสองมาเทียบกัน ถ้ารายชื่อในเอกสารตรงกัน องค์ชายที่มีชื่อจะได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อครับ
7. Palace of Earthly Tranquility
Palace of Earthly Tranquility หรือ คุนหนิงกง เป็นหนึ่งในพระที่นั่งสำคัญในพระราชวังต้องห้าม ในสมัยราชวงศ์หมิง ที่นี่เคยเป็นสถานที่พำนักของหวงโฮ่ว (ฮองเฮา) หรือจักรพรรดินี แต่ในสมัยราชวงศ์ชิง ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่สักการะบูชาเทพเจ้าตามความเชื่อของชาวแมนจู และใช้เป็นห้องที่ฮ่องเต้และฮองเฮาใช้พำนักในคืนวันแต่งงานครับ
8. Hall of Mental Cultivation
Hall of Mental Cultivation หรือ หย่างซินเตี้ยน เป็นพระที่นั่งขนาดเล็กในพระราชฐานชั้นใน เดิมทีที่นี่เป็นพระที่นั่งที่ไม่มีความสำคัญใดๆ แต่หลังจากสมัยหย่งเจิ้ง ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่พำนักและออฟฟิศของจักรพรรดิราชวงศ์ชิงมาจนสิ้นราชวงศ์ ในสมัยที่ซูสีไทเฮาเรืองอำนาจ พระนางได้ใช้ที่นี่เป็นสถานที่ว่าราชการหลังม่านด้วยครับ
9. Palace of Tranquil Longevity
Palace of Tranquil Longevity หรือหนิงโซ่วกง เป็นพระที่นั่งที่เฉียนหลงฮ่องเต้สั่งให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประทับหลังจากที่สละราชสมบัติไปแล้ว แม้ว่าสุดท้ายเฉียนหลงจะไม่มีโอกาสได้เข้าพักเลยสักคืนเดียว แต่พระราชวังแห่งนี้สวยงามมาก บ่อยครั้งที่ด้านในพระที่นั่งได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดของการตบแต่งห้องแบบจีนเลยครับ
ไฮไลท์ของพระที่นั่งแห่งนี้คือ รูปสลักลายมังกรเก้าตัวที่ตั้งอยู่ที่กำแพงที่อลังการและงดงามมาก ยากที่จะหารูปสลักใดในจีนที่จะมาเทียบกับที่นี่ได้อีกครับ
10. Palace Museum
นอกจากพระราชวังต้องห้ามจะเป็นวังแล้ว ที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วย คุณสามารถดูโบราณวัตถุทุกยุคทุกสมัยของประวัติศาสตร์จีนได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จุดจัดแสดงหลักของโบราณวัตถุเหล่านี้ตั้งอยู่ที่
- Hall of Literary Brilliance (เหวินฮว่าเตี้ยน)
- Hall of Martial Valor (หวู่อิงเตี้ยน)
- Hall of Spiritual Cultivation (หยางซิงเตี้ยน)
- Hall of Joyful Longevity (เล่อโช่วถัง)
- Belvedere of Well-Nourished Harmony (อี้เหอซวน)
สถานที่อื่นๆ
สำหรับสถานที่อื่นๆ นั้นมีอีกมากมายด้วยกัน อย่างในเขตพระราชฐานชั้นใน ด้านซ้ายและขวาของเฉียนฉิงกงและคุนหนิงกงมีพระที่นั่งอยู่อีกหลายหลัง พระที่นั่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นที่ประทับของเหล่าพระสนมของฮ่องเต้ครับ
อีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจคือสวนในเขตพระราชฐานชั้นในครับ ที่นี่ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงและชิงในสมัยโบราณครับ
เคล็ดลับการเที่ยววังต้องห้าม
- วิธีที่จะเดินทางมาง่ายที่สุดคือ นั่ง Subway สาย 1 มาลงสถานี Tian’anmen East Station และเดินเข้าพระราชวังจากจัตุรัสเทียนอันเหมินครับ
- ดาวน์โหลดแผนที่ของพระราชวังเข้าไปด้วย สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
- คู่มือต่างๆ มักแนะนำว่าควรใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงที่นี่ แต่จากประสบการณ์แล้ว ผมบอกเลยว่า 5 ชั่วโมงครับ เพราะพระราชวังต้องห้ามใหญ่มาก มีอะไรให้ดูเยอะมาก แถมคุณต้องหาที่นั่งพักบ้างอยู่แล้ว และถ้าคุณชอบประวัติศาสตร์จีนเหมือนผม คุณสามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งวันครับ
- เพื่อความครบถ้วนและสวยงาม คุณควรจะเดินเข้าจากเทียนอันเหมินและออกจากประตูทางด้านเหนือ
- ถ้าอยากได้วิวมุมสูงของพระราชวังทั้งหมด ผมแนะนำให้เดินขึ้นเขาจิ่งซานที่ตั้งอยู่ด้านเหนือของพระราชวังครับ
- ตัวพระราชวัง เปิด 8.30am-5.30pm ทุกวันยกเว้นวันจันทร์ที่ปิด
- ค่าเข้า 60 หยวนในช่วงเมษายน-ตุลาคม และ 40 หยวนในช่วงพฤศจิกายน-มีนาคม