ประวัติศาสตร์บาเบอร์ ปฐมกษัตริย์โมกุลผู้ไม่เคยยอมแพ้ (2): แพ้ แพ้ แพ้ แพ้ติดๆกัน

บาเบอร์ ปฐมกษัตริย์โมกุลผู้ไม่เคยยอมแพ้ (2): แพ้ แพ้ แพ้ แพ้ติดๆกัน

ในตอนที่แล้ว ระหว่างที่บาเบอร์ป่วยหนัก พวกกบฏที่สนับสนุนจาฮานกีร์ (Jahangir) น้องชายของเขาได้ทำการยึดอำนาจในเฟอร์กานา หลังจากที่บาเบอร์หายป่วย เขาจึงยกกองทัพไปปราบ แต่ระหว่างที่ยกไปปราบนี้เอง สุลต่านแห่งบูคาราได้ฉวยโอกาสตีซามาร์คันด์ทางด้านหลัง ทำให้บาเบอร์ตัวเปล่า และปราศจากที่มั่นใดๆ ที่เป็นของเขาอย่างแท้จริง

สถานการณ์ของบาเบอร์จึงเลวร้ายอย่างหาที่เปรียบมิได้ บาเบอร์อธิบายสถานการณ์ของตอนนั้นในบันทึกของเขา

มันช่างยากและซับซ้อนเสียเหลือเกิน ทำไมกัน? ตั้งแต่ฉันครองตำแหน่งมา ฉันไม่เคยถูกตัดขาดจากข้าราชบริพารและประเทศของฉัน ตั้งแต่ฉันรู้จักตนเอง ฉันไม่เคยประสบกับความน่ารำคาญและความยากลำบากเช่นนี้เลย

บาเบอร์, Baburnama Page 53

ความพยายามที่ล้มเหลว

บาเบอร์

บาเบอร์ยังไม่ยอมแพ้ เขาเดินทัพต่อไปยังคูแจนต์ (Khujand) และใช้ที่นี่เป็นฐานที่มั่นของเขาไปชั่วคราวก่อน ช่วงเวลานี้เขาขอความช่วยเหลือไปยังข่านแห่งทัชเคนท์อันเป็นญาติของเขา ซึ่งข่านแห่งทัชเคนท์ก็นำกำลังทหารส่วนหนึ่งมาด้วยตนเองเพื่อฟื้นฟูอาณาจักรของบาเบอร์

กองทัพทัชเคนท์บุกเข้าใกล้เฟอร์กานา เมืองหลวงของบาเบอร์อย่างรวดเร็ว แต่เพราะการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้พวกกบฏโจมตีกองทัพทัชเคนท์แตก และยึดเมืองกลับคืนไปได้เมืองหนึ่ง ความพ่ายแพ้ทำให้ข่านแห่งทัชเคนท์เกิดปอดลอยขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างมากได้สงคราม บาเบอร์เล่าว่าอีกนิดเดียว พวกกบฏก็จะแตกพ่ายไปอยู่แล้ว

ข่านแห่งทัชเคนท์ยอมทำสัญญาสงบศึกกับพวกกบฏ และยกทัพกลับไป ปล่อยให้บาเบอร์อยู่ตามลำพังพร้อมกับทหารที่เหลืออยู่ประมาณสองสามร้อยนายเท่านั้น บาเบอร์รู้สึกหัวเสียมาก แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ เขาต้องกลับไปยังคูแจนต์และรอโอกาสอีกครั้งหนึ่ง

เมืองคูแจนต์ (Khujand) ปัจจุบันอยู่ในประเทศทาจิกิสถาน Cr: Neu holland 

ผ่านไปอีกหลายเดือน บาเบอร์ตัดสินใจขอยืมกำลังทหารจากข่านแห่งทัชเคนท์อีกครั้งหนึ่งเพื่อไปโจมตีซามาร์คันด์ ซึ่งเขาก็มอบทหารมาให้บาเบอร์ 5,000 นายเท่านั้น เมื่อเขายกทัพไปตีซามาร์คันด์ ปรากฏว่าเขาได้ปะทะกับกองทัพของมูฮัมหมัด ไชบานี (Muhammad Shaybani) ข่านแห่งอุซเบคผู้แข็งแกร่ง ทำให้บาเบอร์พ่ายแพ้อีกครั้ง เขาต้องหวนกลับไปสงบสติอารมณ์ที่คูแจนต์ตามเดิม

พ่ายแพ้ไม่รู้จบ

หลังจากปราชัยที่ซามาร์คันด์ บาเบอร์ยังไม่เคยล้มเลิกความพยายามของตนเอง ในบันทึกของเขา บาเบอร์กล่าวว่า

ฉันมีความทะเยอทะยานที่จะปกครองและพิชิต ฉันไม่เคยนั่งจ้องมองอยู่เฉยๆ เวลาที่ฉันลองทำไปครั้งสองครั้งแล้วไม่มีความคืบหน้า

บาเบอร์บากหน้าไปขอความช่วยเหลือจากข่านแห่งทัชเคนต์เพื่อนำกำลังไปตีเฟอร์กานา ข่านผู้นี้ก็ใจดีเหมือนเดิมด้วยการมอบกำลังทหารมาให้ แต่ก็มีแค่แปดพันคนเท่านั้น กองทัพของบาเบอร์ตีได้เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง ซึ่งเมืองนี้ไม่มีเสบียงอาหารใดๆเหลืออยู่เลย รอบๆ มีแต่เมลอนสีเหลืองเท่านั้น กำลังทหารของบาเบอร์ก็ไม่เพียงพอที่จะรักษาเมืองนี้ไว้ได้ด้วย ดังนั้นเขาจึงต้องถอยไปยังคูแจนต์อีกครั้งหนึ่ง

ในช่วงปี ค.ศ.1498 บาเบอร์ในวัย 15 ย่าง 16 ปี คิดว่าคูแจนต์เป็นพื้นที่กันดาร เขาคิดว่าอยู่ต่อไปก็ไม่มีอนาคต เขาจึงไปขออาศัยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ Pashagar เพื่อที่จะได้รวบรวมผู้คนกลับไปตีเมืองซามาร์คันด์อีกครั้งหนึ่ง แต่บาเบอร์กลับต้องเผชิญกับกองทัพของซามาร์คันด์ที่มากกว่ามาก บาเบอร์ยอมสงบศึกและยินยอมออกจากอาณาเขตซามาร์คันด์ไป ด้วยความเจ็บปวด

ระหว่างการเดินทางกลับไปคูแจนต์ บาเบอร์ระบายในบันทึกของเขาว่าพวกชาวเมืองคูแจนต์รับใช้เขาเป็นอย่างดี แต่เพราะความพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เขาไม่มีหน้ากลับไปพบชาวคูแจนต์อีกแล้ว บาเบอร์ตัดสินใจนำข้าราชบริพารที่เหลืออยู่เดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งชื่อ ออราติปา (Aura-tipa)

ดังนั้นตั้งแต่รบมา บาเบอร์ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรจริงๆ เลย เขาวนเวียนอยู่แต่กับความพ่ายแพ้เท่านั้น เวลาก็เริ่มผ่านไปนานขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เขาสูญเสียเฟอร์กานาและซามาร์คันด์ไป

ผู้มายอมจำนน

บาเบอร์เล่าว่าช่วงเวลาที่ออราติปาเป็นช่วงที่หัวของเขาหมุนเคว้ง เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ตัวเขาเองอายุได้เพียง 16-17 ปีเท่านั้น กษัตริย์หนุ่มจึงอยู่ในภาวะที่ยากลำบากมาก แต่บาเบอร์ก็ยังเป็นเหมือนเดิม นั่นก็คือไม่เคยคิดจะยอมแพ้

ความดื้อด้านของเขากลับเป็นผล เมื่อเขาได้รับจดหมายจากม้าเร็วผู้หนึ่ง เขาเป็นคนของเจ้าผู้ครองเมืองมาร์กินัน (Marghinan) ชื่อ Ali-dost Taghai

เมืองมาร์นินันคือ เมืองมาร์จิลาน (Margilan) ที่ตั้งอยู่ในดินแดนเฟอร์กานาของประเทศอุซเบกิสถาน

มัสยิดโคนาคานในเมืองมาร์จิลาน Cr: upyernoz

เนื้อความในจดหมายมีว่า ถ้าบาเบอร์ยินยอมยกโทษในความผิดที่เขาได้กระทำต่อบาเบอร์ เขาจะยกเมือง Marghinan ให้ และจะจงรักภักดีต่อบาเบอร์ตลอดไป

ข้อเสนอของ Taghai ดีมากสำหรับบาเบอร์ผู้ที่ยังไม่มีที่ไป แต่ก็มีความน่ากลัวอยู่ เพราะทำไมจู่ๆ ถึงมีข้อเสนอเช่นนี้มาให้กษัตริย์ตกยากเช่นเขา นี่อาจจะเป็นกลลวงของ Taghai เพื่อจับบาเบอร์ไปฆ่าก็เป็นได้

แต่คนอย่างบาเบอร์หรือจะกลัว เขาเดินทางไปมาร์กินันทันทีหลังจากที่ได้รับจดหมายจบ

เขาเล่าเหตุการณ์ช่วงนั้นว่า

ข่าวอะไรกันนี่! มันมาตอนที่ฉันกำลังโศกเศร้าและหมุนเคว้ง พวกเรารีบเดินทางไปทันทีตอนที่ได้รับสารมา ตอนนั้นดวงอาทิตย์ตกแล้ว พวกเราไปทันทีโดยไม่ได้เสียเวลาที่ไหนทั้งนั้น ไปยังมาร์กินัน

บาเบอร์ให้หยุดพักม้าแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เขาและผู้ติดตามรีบเดินทางไปยังมาร์กินันทันทีราวกับลมพัด พวกเขาเดินทางมาถึงสามวันสองคืนโดยไม่มีการหยุดพักนอนหลับเลย สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เดินทางใกล้ถึงมาร์กินัน

ตลอดทาง เหล่าผู้ติดตามของเขายังไม่สบายใจว่าจะเชื่อใจ Taghai ได้หรือไม่ เมื่อใกล้ถึงมาร์กินัน พวกเขาได้เข้ามาหาบาเบอร์และเรียนให้เจ้านายของเขาไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน คนอย่าง Taghai อาจจะวางแผนร้ายไว้ก็เป็นได้ และบาเบอร์ก็ยังไม่ได้สัญญาอะไรกับ Taghai อย่างเป็นทางการเลยด้วย

พอได้ยินพวกผู้ติดตามพูดเช่นนั้น บาเบอร์ก็ยอมรับว่าสิ่งที่พวกเขาทักท้วงมีเหตุผล บาเบอร์จึงให้หยุดพักการเดินทางไว้ก่อนและปรึกษากันอยู่นานหลายชั่วโมง

บาเบอร์มองไปยังรอบตัวของเขา เขาเห็นว่าพวกทหารและม้าต่างหมดแรงเกินกว่าที่จะถอยกลับไปแล้ว บาเบอร์จึงตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรได้ในที่สุด เขาเขียนในบันทึกว่า

จากที่นี่ที่เราอยู่ตรงนี้ เราจะกลับไปได้อย่างไร ถ้าจะกลับ จะกลับไปที่ใด เรามาไกลถึงเพียงนี้แล้ว ดังนั้นเราต้องไปต่อ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยปราศจากพระประสงค์ของพระเจ้าหรอก

หลังจากนั้นบาเบอร์จึงสั่งให้ผู้ติดตามเดินหน้าต่อไปยังมาร์กินัน บาเบอร์เล่าว่าถึงตอนนี้ เขาต้องเชื่อใจ Taghai แล้ว นั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาเหลืออยู่

บาเบอร์จะโดนปองร้ายโดย Taghai หรือไม่ ติดตามต่อไปได้ในตอนหน้า

Cr: Baburnama, Memoir of Babur

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!